เหลิ่งซวงกับหลิวเย่าซือประสานตากันแล้วผงกศีรษะเบา ๆนักเรียนทั้งสิบแปดคนแบ่งออกเป็สองกลุ่ม เก้าคนแรกเข้าไปก่อนส่วนเก้าคนที่เหลืออยู่ที่คลินิกไม่เผื่อมีใครมา่นี้จะได้คอยต้อนรับกัวไฮว่ยิ้มพลางพยักหน้า เงินที่คลินิกไม่ทำได้ในเดือนนี้ถือเป็เื่รองผลบุญต่างหากที่เป็สิ่งที่กัวไฮว่อยากได้
“เสี่ยวไฮว่ ฉันรู้สึกว่า่นี้ฉันไม่ค่อยสบาย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเธอช่วยฉันดูหน่อยสิ วันนี้ให้เสี่ยวเฉียนจับชีพจรแล้วเขาบอกว่า่นี้ฉันกินข้าวดีไปหน่อยมันเกิดจากการที่พลังงานในร่างกายไม่ถูกปลดปล่อยออกมาละ...แล้วก็บอกให้ฉันไปหาผู้หญิงมาก็พอแล้ว ฉันควรจะสั่งสอนเด็กนี่สักหน่อยแล้ว” โจวเทียนหยางพูดด้วยสีหน้าแดงก่ำ
“ฮ่า ๆ เสี่ยวเฉียนเ้าหมอนี่ ล้ออาโจวเล่นจนได้” กัวไฮว่ยิ้มพลางทาบนิ้วไปบนข้อมือของโจวเทียนหยาง หลังจากนั้นไม่นานกัวไฮว่ก็หัวเราะลั่นขึ้นอีกครั้ง
“เสี่ยวไฮว่ เป็อะไรไป มีอะไรหรือเปล่า” โจวเทียนหยางมองกัวไฮว่ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยจากนั้นก็ถามขึ้น
“อาโจว เสี่ยวเฉียนพูดถูก ่นี้ลุงกินอยู่ดีเกินไปถ้าหาผู้หญิงมาสักคนก็เป็ทางเลือกที่ไม่เลวเลยจริง ๆ” กัวไฮว่พูดต่อโดยไม่ได้สนท่าทีตื่นตะลึงของโจวเทียนหยาง “ผมว่าหลิวเหวินก็ดูไม่เลวเลยนะครับ จะมีธุระหรือไม่มีก็มาหาอาที่นี่ตลอดเขาไม่รังเกียจที่อาแก่ อาก็เข้าด้ายเข้าเข็มเลยสิ”
สีหน้าของโจวเทียนหยางแดงก่ำขึ้นมา หลิวเหวินมาได้ไม่ถึงหนึ่งเดือนเด็กคนนี้สนใจในการทำอาหารเป็อย่างมากเลยมาหาโจวเทียนหยางอยู่บ่อย ๆหลิวเหวินมีนิสัยร่าเริง โจวเทียนหยางเองก็ชอบพอ
“ให้ตายสิ กิ๊กกัน กิ๊กกันจริง ๆ ด้วย” เมื่อกัวไฮว่เห็นใบหน้าแดงก่ำของโจวเทียนหยางก็พูดขึ้นมาเสียงดัง “อาโจว ดูไม่ออกเหรอครับว่ามีวัวแก่กินหญ้าอ่อนน่ะ ฮ่า ๆ ดีก่อนไปเมืองหลวงผมจะช่วยลุงจัดการเื่นี้เอง”
“เสี่ยวไฮว่ เบาเสียงหน่อยสิ” โจวเทียนหยางก้าวขึ้นไปข้างหน้าแล้วเอามือปิดปากกัวไฮว่เอาไว้จากนั้นก็มองไปรอบด้านแล้วหายใจออกเฮือกใหญ่...ดีนะที่ไม่มีคน
“บอกมาก่อนเถอะว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉันกันแน่ทำไมฉันถึงได้รู้สึกว่าในร่างกายเต็มไปด้วยพลังงาน แต่มันไม่ออกมาล่ะตอนนอนก็ไม่ปกติ ในใจกระสับกระส่าย ถ้าเป็แบบนี้ต่อไปละก็ฉันกลัวว่าจะเป็บ้าไปซะก่อน” โจวเทียนหยางพูดเบา ๆ
“เล่าเื่อากับหลิวเหวินมาก่อนเถอะ ไม่งั้นผมไม่สนเื่อาด้วยแล้วจริง ๆนะ” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ อย่างสนุกสนาน
“จะไปมีเื่อะไรได้ล่ะ ฉันชอบเด็กนั่นพอสมควรเลยเธอเองก็ไม่ได้รังเกียจรูปลักษณ์ฉัน ทำไม ตอนนี้พวกเราดูใจกันอยู่ ผอ. กัวเธออยากรู้อะไรอีกไหม” โจวเทียนหยางพูดเสียงดัง
“อาโจว ที่แท้ผู้ชายที่โอบพี่เหวินเหวินอยู่ข้างโรงหนังก็คืออาเองหรอกเหรอพวกเรายังคิดว่ามองผิดกันซะอีก พวกเราะโเรียนพี่เหวินเหวินแล้วอาจะวิ่งหนีทำไม” หลิวเย่าซือกับเหอโม่จับตามองกัวไฮว่กับโจวเทียนหยางทว่าไม่คิดว่าจะได้ยินข่าวที่น่าใเช่นนี้
“เสี่ยวซือ เสี่ยวโม่ พวกเธออย่าไปพูดมั่วซั่วนะ เหวินเหวินหน้าบางจะพูดมั่วซั่วไม่ได้” โจวเทียนหยางพูดด้วยสีหน้าแดงระเรื่อคราวนี้เกรงว่าจะเก็บเื่ของเขากับหลิวเหวินเอาไว้ไม่อยู่เสียแล้ว
“ชายหญิงรักชอบกันทำไมจะพูดไม่ได้ เดี๋ยวเราไปหาพี่เหวินเหวินกันไปช่วยถามแทนอาโจวหน่อยดูว่าพี่เหวินเหวินหมายความว่ายังไงกันแน่” หลิวเย่าซือพูดพลางลากเหอโม่วิ่งออกไปโดยไม่ได้สนใจโจวเทียนหยางที่ะโเรียกพวกเธออยู่ด้านหลัง
“เสี่ยวไฮว่ ตอนนี้รู้กันหมดแล้วล่ะเธอควรจะบอกได้แล้วนะว่าฉันเป็อะไรกันแน่” โจวเทียนหยางพูดพลางมองไปยังกัวไฮว่
“เมื่อกี้ก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอ กินของดี ๆ เยอะไปดีจนจะทะลุเขตแดนเซียนเทียนได้แล้วเนี่ย อีกแค่ก้าวเดียวเท่านั้นถ้าอาทำได้ดีก็บรรลุ ถ้าทำได้ไม่ดี เหอะ ๆ หลิวเหวินได้อยู่เป็หม้ายแน่ต่อไปอยากจะมีลูกสืบสกุลผมก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้วล่ะ” กัวไฮว่พูดด้วยสีหน้ายิ้มร้าย
“ผอ. ฉันไม่สน ฉันไม่ใช่พนักงานคลินิกไม่ ฉันมีสิทธิจะได้รับการรักษาจากผอ.เธอช่วยคิดวิธีทีสิ จะบรรลุไหมนั้นก็ช่างมันเถอะ ยังไงเธอก็ต้องช่วยฉันทำให้ฉันยังเป็แบบตอนนี้” โจวเทียนหยางพูดขึ้นอย่างไม่หวาดกลัวอะไรทั้งนั้น
“อาโจวนี่ไร้อนาคตอย่างนี้นี่เอง ไม่รู้ว่าพี่เหวินเหวินไปหลงอาได้ยังไงตอนแรกตั้งใจจะเตรียมยาให้อาทะลุเขตแดนเซียนเทียน ในเมื่ออาอยากจะเป็เหมือนเดิมงั้นก็ง่ายหน่อย เดี๋ยวผมจะฝังเข็มให้อาแล้วปล่อยพลังงานที่สะสมมาจากที่อาแอบกินยาบำรุงออกมาซะก็สิ้นเื่” ในขณะที่กัวไฮว่พูดก็มีเข็มปรากฏอยู่ในมือของเขาเรียบร้อยแล้ว
“เสี่ยวไฮว่ ฉันขายชีวิตให้เธอแล้วนะ เธอมาทำแบบนี้ได้ไงเดี๋ยวเมียฉันก็เป็คนของคลินิกไม่ ลูกเกิดมาก็เป็ของคลินิกไม่เธอยังจะคิดทำตามใจตัวเองอีก” โจวเทียนหยางพูดด้วยสีหน้าแดงเถือก
“ฮ่า ๆ ถือโอกาสก่อนผมไปเมืองหลวงผมช่วยจัดการให้อาดีกว่า คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าคนแรกที่จะทะลุเขตแดนเซียนเทียนก็คืออาโจวดูทรงแล้วการทำครัวเป็อาชีพที่ดีที่สุด แอบกินจนได้เป็ยอดฝีมือระยะไคกวง[1] ฮ่า ๆ แต่ก็ดีเหมือนกัน มีอาโจวคอยรักษาการคลินิกไม่ต่อไปผมก็มอบหน้าที่รักษาความปลอดภัยคลินิกไม่ให้อาแล้วล่ะ” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ
มีสิ่งหนึ่งที่กัวไฮว่พูดไม่ถูกก็คือเื่แอบกินโจวเทียนหยางทำอาหารจากวัตถุดิบที่กัวไฮว่เอามาให้ทุกวัน เลยได้กินของดี ๆมากกว่าคนอื่นเยอะ บวกกับที่เดิมทีตนเองเป็เซียนเทียนระยะหลังกัวไฮว่ก็รักษาอาการป่วยแฝงให้แล้ว บรรลุระยะไคกวงก็ถือว่าสมควรแล้ว
“อาโจว อาเตรียมอ่างไม้ใบใหญ่มาจะรักษาใครเหรอครับ” เฉินเจี่ยตี้เห็นว่าโจวเทียนหยางแบกอ่างไม้ที่ใช้รักษาเซียวเฟยหยางเมื่อคราวก่อนมาคนเดียว
“ต้มฉัน วันนี้จะต้มฉันกัน เธอไปเรียกซูถูเสี่ยวเฉียนแล้วก็หลี่อวี้ให้มากันให้หมดเลย แล้วก็เติมน้ำให้ฉันถ้าวันนี้ฉันตายที่นี่ ต่อไปพวกเธอก็อดตายไปแล้วกัน” โจวเทียนหยางพูดด้วยเสียงดังบรรลุเซียนเทียน ในความทรงจำของโจวเทียนหยางทั่วทั้งหัวซย่ามียอดฝีมือที่บรรลุเขตแดนเซียนเทียนแค่หนึ่งหยิบมือกัวไฮว่บอกว่าไม่อันตราย จะไม่อันตรายได้ยังไงล่ะ ถ้าไม่อันตรายงั้นตอนนี้ยอดฝีมือไคกวงก็คงมีไปทั่วทุกที่เหมือนกับผักกาดแล้ว
วุ่นวายกันอยู่ประมาณหนึ่งชั่วโมง ของก็เตรียมเสร็จเรียบร้อยหมดแล้วทว่ากัวไฮว่บอกกับทุกคนว่ายังไม่ถึงฤกษ์ ให้ทานอาหารกันก่อน เพราะหลิ่วเยียนมาโจวเทียนหยางคิดจะพูดอะไรบางอย่างทว่าเมื่อเห็นใบหน้ายิ้มร้ายของกัวไฮว่ก็อย่าพูดเลยจะดีกว่าให้ดึกกว่านี้สักนิดก็ได้
นอกจากโจวเทียนหยางกับหลิวเหวิน ทุกคนต่างรับประทานอาหารกันอย่างสบายอกสบายใจกัวไฮว่ได้สั่งงานเื่ที่พรุ่งนี้จะไปเมืองหลวงจากนั้นเขาก็โทรไปหาพวกตาแก่จากสมาคมแพทย์แผนโบราณให้พวกเขาสลับกันมารักษาที่คลินิกไม่ ในเวลานี้เมื่อเขามองโจวเทียนหยางที่ทานอาหารค่ำไปไม่เท่าไหร่ก็ยิ้มเล็กๆ ตรงมุมปาก
“พี่หลิ่วเยียน วันนี้ไม่ไปส่งพี่แล้วนะ พี่เก็บยาลูกกลอนให้ดีนะไว้เงินค่อยโอนบัตรเอา พี่จะเอาไปเท่าไหร่ก็เท่านั้น โทรไปบอกหลิวเหวินละกัน” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆ
“เมื่อกี้ฉันได้ยินเสี่ยวเหวินพูดว่าเดี๋ยวจะรักษาให้อาโจวให้ฉันดูแล้วค่อยไปได้ไหม” หลิ่วเยียนพูดยิ้ม ๆ เธอสนใจใจฝีมือการแพทย์ของกัวไฮว่เป็อย่างมาก
“พี่อยากอยู่ดูต่อก็ดูเถอะ แต่ฉันขอบอกเธอหน่อยนะว่านี่ไม่ใช่เสี่ยวเหวินต่อไปพี่ต้องเรียกว่าน้าเหวินแล้วล่ะ ไม่งั้นเดี๋ยวจะแบ่งาุโกันไม่ถูก ฮ่า ๆ” คำพูดของกัวไฮว่ทำเอาโจวเทียนหยางกับหลิวเหวินหน้าแดงเถือกขึ้นมา “อย่ามัวชักช้าอยู่เลย วันนี้อากาศดีอาโจวจะเข้าไปเองหรือจะให้พวกเราโยนอาเข้าไป”
[1] เป็อีกระดับของการบำเพ็ญเพียรที่อยู่เหนือกว่าเขตแดนเซียนเทียน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้