สิบปีต่อมาิเทียนเยว่ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง
พร้อมเรียกหน้าต่างสถานะออกมาดูชม
ชื่อ : ิเทียนเยว่
เผ่า : กึ่งมนุษย์เซียน
ระดับ : จิติญญาขั้น 4
อายุ : 85/74,980 ปี
ทักษะบ่มเพาะ : เก้านภาสิบสองตะวันจันทรา [ระดับา]
พร์ : นักตัดไม้,มือกระบี่ชั้นสูง,จิตกระบี่า,กายาทองแดง,ิญญาเซียนสถิต
รากิญญา : อัคคีนิลุบล,วารีบุษราคัม,วายุทมิฬ,หมื่นปฐี,เทพอัศนี,เสี้ยวรากิญญาหยิน,เสี้ยวรากิญญาหยาง,รากิญญาไร้ลักษณ์
ของวิเศษ : กระบี่พฤกษา,เบาะเซียนล่องนภา,กำยานสามภพ,ต่างหูปิดฟ้า
ความสามารถระบบ : หน้าต่างสถานะ
เมื่อมองดูที่เผ่าพันธุ์ที่เปลี่ยนไปเขาอดไม่ได้ที่จะพยักหน้าเล็กน้อย ระดับจิติญญาที่จริงแล้วคนทั่วไปจะเป็การขัดเกลาิญญาให้แข็งแกร่งเฉยๆ แต่ด้วยความแปลกประหลาดของเขาที่มีถึง 8 รากิญญาทั้งยังเป็รากิญญาที่เหนือสามัญทั้งสิ้น
อันที่จริงระดับจิติญญาไม่ควรดึงดูดทัณฑ์์ได้เพียงแต่พร์ที่ได้รับจากระบบนั้นเข้าขั้นผิดแปลกจึงทำให้ต้องเผชิญเคราห์ก่อนกำหนดและด้วยการผ่าของทันฑ์์ในครานั้นดวงิญญาของเขาก็ถูกขัดเกลาเป็ิญญาเซียนตอนนี้เขาจึงนับเป็กึ่งเซียนเพราะมีร่างกายเป็มนุษย์
กระบวนการเช่นนี้สมควรเกิดขึ้นเมื่อเขาฝ่าทวงไปยังระดับมหายานแล้วเท่านั้น ทำให้ิเทียนเยว่อยากจะชูดนิ้วกลางก่อนด่า์ยิ่งนักหากไม่ใช่เพราะเขามีจิตกระบี่าช่วยลดแรงปะทะให้เขาคงตายไปแล้ว...
เขาหันมองไปที่กระท่อมที่เด็กๆเคยอาศัยอยู่ในใจหวั่นไหวไม่น้อย เนื่องจากเขามีกำยานสามภพแล้วผลกรรมผลกุศลที่ได้จากศิษย์นั้นเทียบไม่ได้เลยแม้แต่น้อยนับว่าไร้อุปสรรคในการบำเพ็ญ
ตอนนี้เขาสามารถแผ่จิตััออกไปไกลได้ ห้าแสนลี้เพียงแต่จำกัดให้อยู่ในขอบเขต สองหมื่นลี้มาโดยตลอดเนื่องจากกลัวจะไปล่วงเกินตาเฒ่าที่บำเพ็ญมานานกว่าเขา เขาจะสบายใจได้ก็ต่อเมื่อแผ่จิตััออกไปแล้วไม่เจอตัวตนที่แข็งแกร่งกว่า
ทำให้ิเทียนเยว่ตอนนี้มีความคิดที่จะขยายขอบเขตการแผ่จิตััทุกๆการทะลวงขั้นเล็กหนึ่งขั้น
คิดได้ดังนั้นเขาก็ขยายขอบเขตจิตััเป็ สามหมื่นลี้ทันทีเมื่อตรวจพบไม่เจอคนที่แข็งแกร่งกว่าตน เขาจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
"ฟูววว...โชคดีนัก" ิเทียนเยว่ยิ้มเล็กน้อย หากวันใดที่เขาเบื่อในรัศมีสามหมื่นลี้เขาสามารถไปเดินเล่นได้!
หลังจากจัดการความรู้สึกและสิ่งต่างๆเรียบร้อยแล้วเขาก็เริ่มสุ่มทันที
[เริ่มการสุ่ม]
[ติ๊ง!! ยินดีด้วยท่านได้รับ เคล็ดวิชาเซียน - กระบวนหอกพลิกฟ้า]
[ติ๊ง!! ยินดีด้วยท่านได้รับ ของล้ำค่าฟ้าดินระดับ์ - ไอเซียนเก้าดินแดน]
[ติ๊ง!! ยินดีด้วยท่านได้รับ พร์ระดับธรรมดา - ร้องเพลง]
[ติ๊ง!! ยินดีด้วยท่านได้รับ พร์ระดับสูง - รากิญญาจิตอัคคี]
[ติ๊ง!! ยินดีด้วยท่านได้รับ หินิญญาระดับต่ำ 10 ก้อน]
เมื่อสิ้นสุดการสุ่มเขาได้หินิญญามาอีก 40 ก้อนเป็ 400 ก้อนพอดีเป๊ะ
และเมื่อเขารับรากิญญาจิตอัคคีมา รากิญญาอัคคีนิลุบลของเขาพลันถูกดูดกลืนไปเนื่องจากระดับต่ำกว่าซ้ำยังเป็ธาตุเดียวกัน
เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้รากิญญาจิตอัคคีเล็กน้อย
ิเทียนเยว่โบกมือเบาๆ พลันปรากฏเพลิงสีเหลือทองขึ้น จากเดิมที่เคยเป็สีม่วงเขาค้นพบมาพลังที่แผ่ออกมาทรงพลังมากขึ้นนับสิบเท่า
'ความต่างของพร์เป็เช่นนี้เอง' ิเทัยนเยว่พยักหน้าเล็กน้อย หากตบะระดับเดียวกันแต่มีรากิญญาระดับต่างกันสามารถตัดสินแพ้ชนระได้เลย บางคนถึงขั้นสามารถสู้ข้ามขั้นได้
ทำเอาตั่งข้อสงสัยในตัวเองว่าตัวที่มีรากิญญาระดับเทพและระดับสูงขนาดนี้ เขาจะสู้ข้ามขั้นมากเท่าใด แต่ก็ไม่ได้คิดมากนักเนื่องจากกลัวว่าตนเองจะหย่อนยาน เขามองแค่เพียงระดับตบะเท่านั้น!
จากนั้นเขาก็หยิบไอเซียนเก้าดินแดนออกมาแม้จะรู้สึกระแวงเล็กน้อยว่าจะส่งผลดึงดูดสิ่งใดหรือไม่แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะเรียกมันออกมาติดตั่งไว้บนเขาอยู่ดี
[ไอเซียนเก้าดินแดน - ของล้ำค่าฟ้าดินระดับ์ หมองควัญไร้รูปร่างสร้างไอเซียนขึ้นอย่างต่อเนื่องมีผลมหาศาลกับสิ่งมีชีวิตระดับเซียน สามารถส่งเสริมตบะให้มนุษย์ธรรมดาได้ แสนปีจะปรากฏสักหนึ่งที่]
เมื่อเขาติดตั้งลงบนูเาสงบจิต พลังงานต่างบนูเาพลันเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันส่งเสริมให้พลังปราณฟ้าดินที่ผลิตโดยบ่อน้ำวิสุทธิ์ทวีคูณความทรงพลังยิ่งขึ้น เติบโตรวดเดียวนับร้อยเท่า
ิเทียนเยว่ตระหนกเล็กน้อยแต่ก็ยังปล่อยพลังเวทออกมาครอบคลุมในระยะ สามร้อยลี้ไม่ให้พลังงานพวกนี้ล่องลอยไปไหน
หลังจากการศึกษานับสิบปีิเทียนเยว่พื้นฐานหนักแน่นยิ่งควบคุมพลังงานรูปแบบต่างๆได้อย่างชำนาญ เหาะเหินเดินอากาศได้ การแผ่จิตััหรือปล่อยพลังเวทเช่นนี้เขาสามารถปลดปล่อยได้ตลอดเวลา ไม่แม้แต่จะรู้สึกเหนื่อยเลย
แน่นอนว่าิเทียนเยว่ไม่รู้ตัวแม้แต่น้อยว่าตนมีพลังเวทและพลังิญญามากกว่าคนอื่นนับร้อยเท่า...เขายังคงสะกดจิตให้ตัวเองต่ำต้อยเพื่อที่จะได้ไม่โอหังไปหาเื่ชาวบ้านเข้า แต่หากคนที่มาหาเื่เขาตบะต่ำกว่าเขาก็ไม่รังเกียจที่จะลงมือ!
เมื่อครานั้นที่เขาฆ่าทั้งสี่คนไป เขาไม่รู้สึกว่าตนฆ่ามนุษย์ไปเลยแม้แต่น้อย ต้องบอกว่าเขาบิดเบี้ยวจากมนุษย์ธรรมดาไปมากก็ไม่ผิดนัก จิตใจเขาแข็งแกร่งยิ่ง
ทันทีที่รอจนพลังงานทุกอย่างพัฒนาถึงจุดสูงสุดเขาก็เริ่มเรียนกระบวนหอกพลิกฟ้าทันที
แม้ตอนนี้เขาจะใช้กระบี่เป็หลักแต่สุดท้ายแล้วเขาก็อยากใช้งานอาวุธได้หลายชนิดยิ่งเพื่อในวันที่จวนตัวแล้วจำเป็ต้องใช้
ส่วนพร์การร้องเพลงนั้น...ช่างเถอะ
หลังจากฝึกอยู่ได้หนึ่งเดือนิเทียนเยว่ก็พยัดหน้าอย่างพอใจ เขาชำนาญกระบวนหอกพลิกฟ้าแล้ว นับเป็วิชาที่ทรงพลังยิ่ง
ตลอด 10 ปีมานี้ิหนิงหนิงกับิหลิงมาเยี่ยมเขาทุกๆปี สาวน้อยคนนี้ยิ่งโตยิ่งน่ารัก ร่าเริ่งได้ข่าวจากิหลิงมาว่านางมีคนมาชมชอบไม่น้อยเลย ในใจเขาหวงลูกสาวคนนี้อย่างยิ่งเพียงแต่ไม่แสดงออกเท่านั้นทุกครั้งที่นางกลับมาเขามักจะทิ้งเสี้ยวิญญาของตนไว้นางร่างกายของนางเสริมความแข็งแกร่งของเสี้ยวพลังิญญานั้นทุกปี
หากนางประสบอันตรายถึงชีวิตเขาจะรู้ตัวในทันที ต้องบอกเลยว่าความเอ็นดูของเขาเอนเอียงอย่างยิ่ง...รองลงมาจากหลิงหนิงหนิงเขาเอ็นดูหลิงฝานมากที่สุด เนื่องจากเป็เด็กที่รู้ความและมีความซื่อบื่อเล็กน้อย ตามด้วย ิเหยา และ ิหลิง สุดท้ายคือถังจื่อ แม้ถังจื่อจะดูเป็ผู้ใหญ่สุดแต่กลับรักษาระยะห่างกับเขาอยุ่เสมอ
ิเหยาแม้จะเก็บตัวแต่นานๆครั้งก็มาอ้อนเขาบ้าง...ส่วนิหลิงนับว่าเก่งเื่งานจิปาถะต่างจากรูปร่างหน้าตาที่ดูกำยำทรงพลัง
จนใจนัก ิฝาน ิเหยา และ ถังจื่อ ไม่เคยกลับมาเยี่ยมเขาเลยทำให้เขาไม่ได้ทิ้งเสี้ยวิญญาไว้...
เขามีความคิดจะเดินทางไปเยี่ยมเยียนิหนิงหนิงกับิหลิง แต่สุดท้ายก็ล้มเลิกไปหากเป็ฝ่ายไปหาสักวันเขาอาจจะติดนิสัยก็เป็ได้เลี่ยงไม่ให้มรรคจิตปั่นป่วนอยากออกไปผจญภัย
แต่อีกหนึ่งความคิดที่เขาวางแผนจะดำเนินคือการก่อตั่งสำนักขึ้น...เขารู้สึกชอบการสั่งสอนเด็กๆนัก เมื่อก่อนเขาคิดว่าเป็ความหลงระเริง่งชั่วขณะเท่านั้นจึงไม่ได้คิดจะก่อตั่งสำนักจริงจัง
เมื่อผ่านมาสิบปีเขาถึงรู้ใจตัวเองแล้วว่าเขาชอบสิ่งนี้ยิ่ง ที่สำคัญคือหาก้าพิสูจน์เซียนเขาจำเป็ต้องพึ่งแรงกุศลมหาศาลในระดับที่ กำยานสามภพมิอาจให้ได้...
ที่สำคัญที่สุดคือเขาไม่อยากใช้ชีวิตอยู่คนเดียวไปตลอดกาล...ด้วยระบบนี้เขามีอายุขัยเป็อนันต์ หากโดดเดี่ยวนับล้านปีเช่นนี้ไร้ซึ่งญาติสนิทมิตรสหาย เขาอาจจะเป็บ้าขึ้นมาก็ได้...
ทันใดนั้นเขาพลันเกิดความรู้สึกแปลกๆหันขวับไปมองยังเส้นขอบฟ้าพร้อมขมวดคิ้ว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้