คำพูดของกูเฟยเยี่ยนทำให้ผู้คนด้านล่างเกิดการสงสัยและการเยาะเย้ยมากขึ้น
หานอวี๋เอ๋อร์มั่นใจในการวินิจฉัยของตนเองเป็อย่างยิ่ง เมื่อเผชิญหน้ากับดอกตงหยิ่นขนาดใหญ่ที่มีคุณสมบัติดีเช่นนี้ นางไม่เชื่อว่ากูเฟยเยี่ยนจะสามารถหาจุดบกพร่องที่ไม่มีอยู่จริงออกมาได้
นางเอ่ยเสียงดัง “ข้าตกหล่นตรงไหน เ้าชี้ออกมาเลย! ”
หานอวี๋เอ๋อร์พูดแล้วก็จงใจหลบไปด้านข้างเพื่อหลีกทางให้กูเฟยเยี่ยน ทว่ากูเฟยเยี่ยนไม่ได้้าจะเดินเข้าไป นางยังคงยืนกอดอกด้วยอารมณ์สงบนิ่งอยู่ที่เดิม
หานอวี๋เอ๋อร์ถือชัยชนะอยู่ในกำมือชัดๆ แต่เมื่อเห็นท่าทีของนางก็เกิดความกังวลขึ้นมา ทว่าก็ได้มองข้ามไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับเอ่ยเร่งรัด “หญิงรับใช้น้อย เดินไปสิ”
กูเฟยเยี่ยนี้เีจะก้าวเดินออกไป นางเอ่ยกับชายชราด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ท่านลุงาุโ ท่านมาดำเนินการขั้นตอนที่สี่ โปรดชิมรสชาติของเกสรดอกไม้”
หลังจากที่หานอวี๋เอ๋อร์ได้ยินเช่นนี้ก็เผยรอยยิ้มเหยียดหยามออกมา เดิมทีนางคิดว่ากูเฟยเยี่ยนจะมีไม้ตายอะไรในขั้นตอนที่สี่เสียอีก ที่เเท้ก็คือวิธีการทั่วไป
นางหยิบดอกตงหยิ่นขนาดใหญ่ขึ้นมาด้วยตนเอง จากนั้นเด็ดกลีบดอกไม้ที่เหี่ยวเฉาออกไปเพื่อให้เกสรดอกไม้ที่เหี่ยวแห้งปรากฏออกมาแล้วยื่นไปให้ชายชรา ชายชราที่ตระหนกใชิมด้วยความระมัดระวังเล็กน้อย เขาไม่กล้าชิมเยอะ
หลังจากที่เขาชิมแล้ว กูเฟยเยี่ยนยังไม่ทันพูดอะไรออกมาหานอวี๋เอ๋อร์ก็ได้แทรกขึ้นมาก่อน “ผู้าุโ ท่านบอกกับนางเถอะว่าท่านชิมแล้วได้รสชาติเช่นไร? ใช่รสชาติหวานชุ่มเล็กน้อยที่แฝงไปด้วยความเผ็ดร้อนหรือไม่? ”
ผู้าุโรีบส่ายหน้าไปมาพร้อมกับพูดว่า “มีความ…ฝาดเล็กน้อย รสชาติ…ดูเหมือนว่าจะไม่มีรสชาติ”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมาหานอวี๋เอ๋อร์ก็เกิดความใ “ไม่มีรสชาติ? ท่านลองชิมอีกครั้ง! ”
กูเฟยเยี่ยนนิ่งเงียบ ชายชราจึงทำได้เพียงฟังคำของหานอวี๋เอ๋อร์แล้วลองชิมอีกครั้งหนึ่ง ทว่าในครั้งนี้เขาก็ยังไม่ได้รสชาติอะไรเลย
“เป็ไปไม่ได้!”
หานอวี๋เอ๋อร์ไม่เชื่อ นางจึงรีบไปชิมเกสรดอกไม้อีกช่อด้วยตนเอง แต่หลังจากที่ชิมแล้วนางก็ตกตะลึงทันที
ไม่มีรสชาติจริงๆ ด้วย!
เป็เช่นนี้ได้อย่างไรกัน?
เกสรของดอกตงหยิ่นจะมีรสหวานในตอนแรกแล้วตามด้วยกลิ่นฉุนเล็กน้อย ส่วนรสชาติของดอกตงหยิ่นขนาดใหญ่นั้นจะเข้มข้นกว่ารสชาติของดอกตงหยิ่นทั่วไปเสียอีก! ต่อให้ถูกตากแห้งแล้วรสชาติเหล่านี้ก็จะไม่สลายหายไป!
หรือว่านางวินิจฉัยผิดพลาด ดอกไม้นี้เป็ของปลอมหรือ?
หานอวี๋เอ๋อร์ไม่อยากจะเชื่อ
ทว่ากูเฟยเยี่ยนกลับเอ่ยถามขึ้นมาอย่างจริงจังว่า “คุณหนูสามตระกูลหาน ท่านยอมรับหรือไม่ว่าเกสรดอกไม้นี้ไม่มีรสชาติ? ”
เมื่อความจริงปรากฏอยู่ตรงหน้าหานอวี๋เอ๋อร์จึงจำเป็ต้องพยักหน้า
กูเฟยเยี่ยนจึงพูดอีกว่า “ท่านลุงาุโ ขั้นตอนที่สาม การััด้วยฝ่ามือ ท่านลองบีบแรงๆ ไปที่กลีบดอกไม้อีกครั้ง” ชายชรารีบทำตาม และเมื่อเขาใช้แรงบีบ กลีบดอกไม้ก็เละจนคั้นออกมาเป็น้ำได้
เมื่อเห็นเช่นนี้หานอวี๋เอ๋อร์และผู้คนด้านล่างล้วนตกตะลึงตาค้างกันหมด สมุนไพรตากแห้งอย่างดอกตงหยิ่นต่อให้มีความเหนียวก็ไม่ถึงกับจะสามารถบีบออกมาเป็น้ำได้
ดอกไม้นี้ดูเหมือนจะแห้ง แต่ในความเป็จริงมีน้ำอยู่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
กูเฟยเยี่ยนถามหานอวี๋เอ๋อร์อีกครั้ง “คุณหนูสามตระกูลหาน น้ำพวกนี้ท่านเห็นหรือไม่? ”
หานอวี๋เอ๋อร์ส่ายหน้าไปมา นางไม่เชื่อ!
นางจึงมาบีบกลีบดอกตงหยิ่นด้วยตนเอง ไม่ช้านางก็บีบน้ำสีเหลืองออกมาด้วยตนเอง นางเกิดความใมาก
กูเฟยเยี่ยนพูดต่อไป “ขั้นตอนที่สอง การดมกลิ่น ท่านลุงาุโ ท่านลองดมไปที่กลิ่นของน้ำเ่าั้”
ชายชราที่ตระหนกใในก่อนหน้านี้เกิดโทสะขึ้นมาทันทีหลังจากที่ดมกลิ่นน้ำที่คั้นออกมาจากกลีบดอกไม้ “สมุนไพรนี้เป็ของปลอม! สมุนไพรนี้เป็ของเลียนแบบ! น้ำเหล่านี้มีกลิ่นหอมของดอกตงหยิ่นแต่ไม่มีกลิ่นฉุน! ”
ดอกตงหยิ่นขนาดใหญ่สดๆ เมื่อดมจากระยะไกลจะมีกลิ่นฉุน เมื่อดมจากระยะใกล้จะมีกลิ่นหอม น้ำคั้นจากกลีบดอกไม้จะมีกลิ่นฉุนแฝงในกลิ่นหอม ในส่วนของดอกตงหยิ่นทั่วไปจะมีเพียงกลิ่นหอมไม่มีกลิ่นฉุน เื่นี้หลายๆ คนล้วนทราบกันดี ชายชราตรงมาหาดอกตงหยิ่นขนาดใหญ่โดยเฉพาะ แน่นอนว่าเขาก็เข้าใจดี!
ในที่สุดเ้าหน้าที่ประมูลถังจิ้งที่สงบนิ่งมาโดยตลอดก็เผยสีหน้าใออกมา ทางด้านของเสียงวิพากษ์วิจารณ์ด้านล่างได้หยุดลงมาสักระยะเวลาหนึ่งแล้ว บัดนี้ทุกคนล้วนมองหน้ากันเลิ่กลั่กเพราะเกิดความใและประหลาดใจมาก
นึกไม่ถึงเลยว่าสนามประมูลของหุบเขาเสินหนงจะมีการประมูลสมุนไพรปลอม! นี่เป็ครั้งแรกในประวัติการณ์เลยนะ! เื่ราวในวันนี้เกรงว่าจะเป็ปัญหา…อย่างใหญ่หลวงแล้ว!
บัดนี้สถานที่แห่งนี้เงียบเป็เป่าสาก กูเฟยเยี่ยนเอ่ยถามหานอวี๋เอ๋อร์อีกครั้ง “คุณหนูสามตระกูลหาน สิ่งที่ท่านลุงาุโพูดออกมา ท่านยอมรับหรือไม่? ”
หานอวี๋เอ๋อร์ไม่ทราบว่าควรจะตอบอย่างไรดีแล้ว
กูเฟยเยี่ยนไม่รอให้หานอวี๋เอ๋อร์ตอบ นางก้าวเดินทีละก้าวไปที่ใจกลางแท่นประมูลแล้วนำดอกตงหยิ่นขนาดใหญ่ที่อยู่บนมือของหานอวี๋เอ๋อร์มา นางนำใบไม้ที่เหี่ยวเฉามากางออกพร้อมกับเอ่ยว่า “ไม่ว่าจะเป็ดอกตงหยิ่นหรือดอกตงหยิ่นขนาดใหญ่ ใบไม้ล้วนมีขนเล็กๆ อยู่ภายใน หลังจากที่ตากแห้งแล้วขนเล็กๆ เหล่านี้จะร่วงหล่นลงทว่าร่วงหล่นไม่หมด คุณหนูสามตระกูลหาน ท่านคิดว่าอย่างไร? ”
หานอวี๋เอ๋อร์ค่อยๆ เงยหน้าหันไปมองกูเฟยเยี่ยน แต่กูเฟยเยี่ยนกลับยื่นดอกตงหยิ่นขนาดใหญ่มา “คุณหนูสามตระกูลหาน ขั้นตอนแรก การมองด้วยตาเปล่า ท่านมาดูสิว่าขนเล็กๆ บนไบไม้นี้หายไปแล้วใช่หรือไม่”
หานอวี๋เอ๋อร์ดูด้วยความตั้งอกตั้งใจ ใบไม้ใบนี้ไม่มีขนเส้นเล็กๆ จริงๆด้วย ในที่สุดนางก็ทนไม่ไหวโพล่งออกมา “เป็แบบนี้ไปได้อย่างไร? หรือว่า…หรือว่าสมุนไพรนี้เป็ของปลอมจริงๆ ? ”
ในที่สุดกูเฟยเยี่ยนที่ทำหน้าบูดบึ้งมาโดยตลอดก็ยิ้มแย้มออกมาโดยที่รอยยิ้มงามสะพรั่งนี้แฝงไปด้วยความเ้าเล่ห์เล็กน้อย นางเอ่ยถามไปว่า “คุณหนูสามตระกูลหาน เมื่อสักครู่นี้ข้าบอกไปแล้วว่ายาสมุนไพรตัวนี้เป็ของจริง ข้าเชื่อการวินิจฉัยของท่าน ทำไม ท่านไม่เชื่อในตนเองแล้วหรือ? ”
เดิมทีหานอวี๋เอ๋อร์ก็สับสนมากอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำพูดของกูเฟยเยี่ยนนางยิ่งไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นเข้าไปอีก บัดนี้หานอวี๋เอ๋อร์ทั้งโกรธทั้งอับอาย “เกิดอะไรขึ้นกันแน่ เ้ารีบพูดออกมา! ”
มุมปากของกูเฟยเยี่ยนยกสูงมากขึ้นเรื่อยๆ พลันเอ่ยต่อไปว่า “ท่านหมายความว่ายินยอมที่จะเชื่อข้าแล้วใช่หรือไม่? ”
นอกจากจะโกรธและอับอายแล้วหานอวี๋เอ๋อร์ยังรู้สึกเสียใจในภายหลังอีกด้วย!
เดิมทีนาง้ามาเหยียบย่ำกูเฟยเยี่ยนและแสดงฝีมือต่อหน้าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย แต่ในตอนนี้นางไม่เพียงจะหน้าแตกแล้ว แต่ยังต้องย้อนกลับมายืนยันทักษะยาสมุนไพรของกูเฟยเยี่ยนอีกด้วย
นี่มันจะอัดอั้นตันใจเกินไปแล้ว!
นางทำไม่ได้!
นางมองไปที่กูเฟยเยี่ยนโดยลืมเลือนที่จะปกปิดความจงเกลียดจงชัง หญิงสาวปิดปากเงียบไม่ยอมตอบกลับไป
ทว่ากูเฟยเยี่ยนยังคงซักถามไปเรื่อยๆ “คุณหนูสามตระกูลหาน ท่านเชื่อข้าหรือไม่? ”
หานอวี๋เอ๋อร์ไม่ปริปากเช่นเคย
ในขณะนี้แววตาเ้าเล่ห์ของกูเฟยเยี่ยนได้มากขึ้นกว่าเดิม นางกดเสียงต่ำซักถามออกไป “ทำไม แพ้ไม่เป็อย่างนั้นหรือ? ”
หานอวี๋เอ๋อร์กระวนกระวายใจในทันที “ข้าเชื่อเ้า ข้าเชื่อเ้า! ข้าเชื่อเ้าแล้ว พอใจหรือยัง! ”
ทันทีที่คุณหนูสามเอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมา ผู้คนรอบข้างล้วนใ พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าคุณหนูสามตระกูลหานที่มักจะมีท่าทีสง่างามและอ่อนโยนละมุนละไมจะมี่เวลาที่ดุร้ายเช่นนี้
นี่คือโกรธเนื่องจากความละอายและความขุ่นเคืองหรือ?
หานอวี๋เอ๋อร์รู้ตัวในภายหลังว่าตนเองตกหลุมพรางไปแล้ว นางรีบมองไปที่ด้านล่างและหวังว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจะไม่ได้อยู่ที่ด้านล่างแท่นประมูล
นางคิดว่าเมื่อสักครู่นี้ตนเองมองไปหลายครั้งแล้วแต่ก็ยังไม่พบเขา บางทีเขาอาจจะไม่อยู่จริงๆ ! ทว่าน่าเสียดายที่ในรอบนี้นางมองเห็นเขาแล้ว
นางพบว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยนั่งอยู่บนตำแหน่งที่นั่งบุคคลสำคัญทางด้านซ้ายของสนามประมูล อีกทั้งกำลังมองมาบนแท่นประมูล นางไม่ทราบว่าเขากำลังมองมาที่นางอยู่หรือไม่ เพราะนางรีบหันหน้ากลับมาโดยไม่กล้ามองอีก นางหวาดกลัวว่าจะเห็นความผิดหวังและความรังเกียจในดวงตาของเขา
หานอวี๋เอ๋อร์หันไปมองกูเฟยเยี่ยนอีกครั้ง ดวงตาของนางไม่อาจปกปิดความอาฆาตแค้นได้อีกต่อไป
ทว่ากูเฟยเยี่ยนไม่ได้สนใจในความอาฆาตแค้นของนาง กูเฟยเยี่ยนพูดด้วยน้ำเสียงขบขัน “คุณหนูสามตระกูลหาน ในเมื่อท่านยอมรับว่าสมุนไพรนี้มีปัญหา เช่นนั้นท่านโปรดชดเชยให้ชายชราท่านนี้เป็จำนวนเงินสิบเท่าของราคาประมูลด้วย จำนวนเงินสิบเท่าก็คือหนึ่งแสนสองหมื่นเหรียญทอง”
ในขณะนี้เองหานอวี๋เอ๋อร์ก็นึกถึงสิ่งนี้ได้ นางตกตะลึงในทันทีและไม่สนใจความอาฆาตแค้นอีกแล้ว
หนึ่งแสนสองหมื่นเหรียญทอง?
อย่าว่าแต่หนึ่งแสนสองหมื่นเหรียญทองเลย แม้แต่สองหมื่นเหรียญทองนางก็ไม่มี! แม้ว่าตระกูลป้อมปราการหานจะร่ำรวย ทว่าเงินที่มารดาบุญธรรมมอบให้นางในแต่ละเดือนนั้นมีขีดจำกัด นางไม่ได้เก็บหอมรอมริบเงินส่วนตัวมากนัก! หากว่ามารดาบุญธรรมรับรู้เื่นี้ ท่านจักต้องลงโทษนางอย่างหนักแน่นอน
ทำอย่างไรดี?
หานอวี๋เอ๋อร์ใกับจำนวนเงินหนึ่งแสนสองหมื่นเหรียญทองจนพูดตะกุกตะกัก “เื่นี้…เื่นี้ยังไม่ได้ข้อสรุปเลย! ข้ายอมรับในตัวเ้า…แต่ แต่ก็ต้องให้สนามประมูลยอมรับในตัวเ้าเช่นกัน! เกิดอะไรขึ้นกับสมุนไพรตัวนี้ เ้าต้องพูดให้ชัดเจน! ”