บนทางที่ไป สีหน้าของนักศึกษาต่างก็แดงระเรื่อ พวกเขาคิดมากเกินไปผอ. เขารักษาให้เหอโม่จริง ๆ ตอนที่อยู่ที่มหาวิทยาลัยก็มีคนบอกแล้วว่าบนใบหน้าของเหอโม่มีรอยแผลเป็อยู่เลยต้องใส่ผ้าปิดปากอยู่ตลอดตอนนี้ถอดผ้าปิดปากออกแล้ว ปัญหาจึงคลี่คลายอย่างหนึ่งแล้วว่ากัวไฮว่รักษาให้เหอโม่
“เสี่ยวโม่ กัวไฮว่รักษาหน้าให้เธอจริง ๆ เหรอ” เจี่ยเสี่ยวเสี่ยวที่เป็นักศึกษาใหม่ปีหนึ่งเช่นเดียวกันถามขึ้นเบาๆ เมื่อก่อนเธอเคยเห็นใบหน้าของเหอโม่ ตอนนั้นเธอใแทบแย่ตอนนี้ใบหน้าของเหอโม่หายดีแล้วจริง ๆ
“ความสามารถทางการแพทย์ของท่านอาจารย์เกินกว่าที่พวกเราเข้าใจเยอะเสี่ยวเสี่ยว เธอต้องรักษาเวลาที่อยู่ที่คลินิกไม่นี่ให้ดีนะ ต่อไปในประวัติศาสตร์หมอหัวซย่าจะต้องมีชื่อเธออยู่” เหอโม่พูดยิ้ม ๆ ั้แ่เด็กจนโต เธอไม่เคยดีใจขนาดนี้มาก่อนเลยเด็กสาวคนไหนบ้างที่ไม่รักสวยรักงามนี่เป็ครั้งแรกหลังจากอายุสิบขวบที่เธอถอดผ้าปิดปากคุยได้อย่างกับคนทั่วไป
“ตอนแรกพวกเรานึกว่าเกิดเื่อะไรกับเธอซะอีก” เจี่ยเสี่ยวเสี่ยวพูดด้วยสีหน้าแดงก่ำคนบนรถคนอื่น ๆ ก็งุดหน้าก้ม พวกเขาเข้าใจกัวไฮว่ผิดไป
“วันนี้ไม่หวังอะไรจากพวกเธอมา คนละแสนราคาสมุนไพรพวกเธอน่าจะมีประมาณการอยู่ในใจกันนะ ไปซื้อเถอะหวังว่าสิ่งที่สอนพวกเธอไปเมื่อวานจะไม่สูญเปล่านะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “และแน่นอนว่าถ้ามีของดี ๆ ถ้าเงินไปพอฉันยังมีอีกฮ่า ๆ”
“เถ้าแก่ครับ นักศึกษาพวกนั้นมากันอีกแล้ว” เด็กหนุ่มสาวที่เดินเตร็ดเตร่อยู่ตรงลานจอดรถเข้าไปในตลาดบรรดาเถ้าแก่ที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันต่างก็แจ้งข่าวให้ทราบกัน
“ฮ่า ๆ ยังคิดว่าต้องรออีกหลายวันกว่าพวกเขาจะกลับมากันไม่คิดเลยว่าจะมาอีกเร็วขนาดนี้” เหล่าเถ้าแก่ต่างก็พูดยิ้มๆ ตัวถลุงเงิน นักศึกษาพวกนี้เป็ตัวถลุงเงินของแท้
“เถ้าแก่ สีตังกุยคุณดูแปลก ๆ นะ ยังมีอีกหรือเปล่าถ้าไม่มีผมไปร้านอื่นแล้วนะ” ซูถูพูดยิ้ม ๆกับเถ้าแก่ที่ร้านขายยาที่เคยทำเขาขาดทุนเมื่อครั้งก่อน
“ไอ้น้อง ครั้งก่อนก็แบบนี้และ เธอดมดูสิ กลิ่นนี้สีนี้แหละใช่เลย” เถ้าแก่พูดขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
“เถ้าแก่ นี่เป็น้ำต้มตังกุยคุณถ้าคุณกล้าดื่มลงไปผมจะเอาตังกุยนี่ไปหมดเลย” ซูถูพูดขึ้นด้วยเสียงดังทำเอาพ่อค้าซื้อยาที่อยู่รายรอบต่างก็มาล้อมที่เถ้าแก่
“นี่นักศึกษา เราไปคุยกันในห้องเถอะ” เถ้าแก่มองซูถูอีกครั้งไม่ผิด ครั้งก่อนก็เป็นักศึกษาคนนี้ ทำไมแค่คืนเดียวก็เปลี่ยนไปขนาดนี้ล่ะเขาไม่กล้าดื่มน้ำต้มตังกุยนี่ ถึงแม้จะดื่มแล้วไม่ตายแต่เข้าท้องไปก็ทนไม่ได้แน่สุดท้ายเถ้าแก่กลัวว่าซูถูจะนำเื่ในร้านของตนไปบอกคนซื้อยาข้างนอกจึงจำต้องใส่ตังกุยชั้นดีลงไปถุงใบใหญ่ให้ซูถูแต่โดยดีส่วนราคาเท่าไหร่นั้นไม่กล้าจะคำนวณมาก
“คุณพี่บ้านเดียวกัน พี่ยังมีโสมป่านั่นอีกหรือเปล่า ผมอยากสั่งอีก” เฉินเจี่ยตี้ถามยิ้มๆ เขามาที่ร้านของ ‘คนบ้านเดียวกัน’ อีกครั้ง
“ไอ้น้อง เข้ามาสิ ข้างนอกร้อนมาก โสมนั่นไม่เลวเลยล่ะสิ ฉันยังมีอีกเยอะเลยเธอไปเลือกเอาเองนะ” ในขณะที่พูดเธอก็ลากกล่องใบใหญ่ออกมาให้เฉินเจี่ยตี้ ด้านในมีโสมเต็มไปหมด
“พี่ครับ นี่มันโสมบำรุงทั้งนั้น มีอันดี ๆ ไหมครับ” เฉินเจี่ยตี้ถามยิ้ม ๆ
“อยากได้โสมป่า? ได้ เธอรอเดี๋ยว ฉันไปเอาให้” พูดเสร็จผู้หญิงคนนั้นก็ยกห่อใบใหญ่ลงมาจากตู้เก็บสินค้าข้างในนั้นมีของที่เธอเก็บเอาไว้่หลายปีมานี้ มีโสมทั้งหมดหนึ่งร้อยต้นข้างในนั้นมีโสมป่าของจริงอยู่แค่ประมาณสิบต้น ที่เหลือเป็ของปลอมหมดเธอไม่กลัวว่านักศึกษาที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้จะหยิบออกมาเพราะเธอรู้สายตาของนักศึกษาที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ดีแค่รอนับเงินก็พอแล้ว
“พี่ครับ โสมพวกนี้ก็ต้นละหมื่นหมดเลยเหรอ” เฉินเจี่ยตี้ถือโสมที่ดูไม่ต่างกับที่เขาซื้อไปครั้งก่อนมาต้นหนึ่งพร้อมกับถามเถ้าแก่เนี้ย
“ไอ้น้อง ต้นละหมื่นนี่ฉันไม่ได้กำไรอะไรเลยเราเป็คนบ้านเดียวกันก็ให้เธอไปต้นละหมื่นแล้วกัน เธอเลือกเอาเถอะ” หญิงผู้นั้นพูดเปิดใจ
เฉินเจี่ยตี้ยิ้มยกตรงมุมปากแล้วก็เริ่มดูไปทีละต้นผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ตอนที่เถ้าแก่เนี้ยคนนั้นกลับมาดูเฉินเจี่ยตี้ ก็มีสีหน้าซีดลงเฉินเจี่ยตี้เลือกไปสิบต้นแล้ว นอกจากสองต้นแรกที่แสร้งทำเป็ปลอมต้นอื่นก็เป็ของจริงหมด เป็โสมป่าอายุเกินกว่าหกปีทั้งนั้น หนึ่งหมื่นงั้นเหรอแสนนึงก็ซื้อโสมป่าของจริงต้นเดียวไม่ได้
“พี่ครับ งั้นก็สิบต้นนี่แหละ ผมให้เงินพี่ไปแล้ว จากนี้ถ้าผมมีเวลาจะมาอีกนะครับ” เฉินเจี่ยตี้พูดยิ้ม ๆ เขาวางเงินไว้บนโต๊ะจากนั้นก็หยิบโสมขึ้นมาแล้วเดินหันกลับไป
“ไอ้น้อง เธอรอเดี๋ยวก่อน เธอยังไปไม่ได้ ฉันไม่ขายโสมนั่นแล้ว” หญิงคนนั้นร้องไห้เสียงดังลั่น
“ไม่ขายแล้ว? ผมอัดเสียงไว้นะครับ แล้วก็ไม่ได้แย่งพี่มาสักหน่อยเงินก็ให้พี่ไปแล้ว พี่บอกว่าไม่ขายก็ไม่ขายแล้วงั้นเหรอ” เฉินเจี่ยตี้พูดเสียงดัง “เมื่อวานผมซื้อโสมบำรุงราคาต้นละไม่ถึงร้อยไปตั้งหมื่นนึงผมยังไม่บอกว่าไม่ซื้อเลยวันนี้พี่มาบอกว่าไม่ขายไม่ได้หรอกมั้งครับ”
เมื่อกัวไฮว่ได้ยินเสียงเฉินจย่าตี้กับผู้หญิงคนนั้นทะเลาะกันก็เดินมายิ้มๆ เขารู้ว่าเฉินเจี่ยตี้ผู้นี้กลับมาแก้แค้น ทั้งยังสำเร็จอีกด้วย
“ไอ้น้อง เมื่อวานฉันทำผิดไป ฉันยอมรับ ฉันให้โสมป่าเธอต้นนึงเป็การไถ่โทษเธออย่าเอาของพวกนี้ไปหมดเลยนะ” หญิงสาวดึงเฉินเจี่ยตี้พร้อมกับพูดเสียงดัง
“เจี่ยตี้ บางทีการให้อภัยคนดีกว่าจองล้างจองผลาญนะเถ้าแก่ตกลงจะให้โสมป่านายต้นนึงแล้ว งั้นเื่นี้ก็ตกลงตามนี้แล้วกันไปดูของอย่างอื่นเถอะไป” กัวไฮว่พูดยิ้ม ๆกับเฉินเจี่ยตี้ เฉินเจี่ยตี้ผงกศีรษะเล็กน้อยส่วนผู้หญิงคนนั้นก็โค้งให้กัวไฮว่ด้วยความซาบซึ้ง
“ผอ. ครับ ทำไมไม่ให้ผมไปสั่งสอนเธอหน่อยล่ะ” เฉินเจี่ยตี้ถามขึ้นเบา ๆ เขาเดิมตามกัวไฮว่ออกมาจากร้านยาร้านนั้น
“โสมในร้านของเธอยังนับว่าใช้ได้ อย่างน้อยก็เป็โสมบำรุงหมดไม่ใช่โสมคุณภาพไม่ดี ทุกคนต่างก็มีใจโลภ แต่คนคนนี้ก็ไม่นับว่าเลวเกินไป ถ้ายอมให้สักนิดต่อไปพบหน้ากันไม่แน่ว่าต่อไปมีวันที่นายมาซื้อโสมที่นี่จริง ๆ ละก็ เธออาจจะไม่หลอกนายอีก” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ ส่วนเฉินเจี่ยตี้ผงกศีรษะเล็กน้อยนี่น่าจะเป็ความต่างระหว่างการแพทย์แผนโบราณและการแพทย์แผนปัจจุบันล่ะมั้ง
ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง นักศึกษาทั้งสิบแปดคนก็ซื้อยามาหลายถุงครั้งนี้ไม่เลวเลย นอกจากบางคนที่ซื้อยาประสิทธิภาพกลาง ๆ มาจำนวนหนึ่งคุณภาพยาส่วนใหญ่ที่ซื้อมาก็ดีกันทั้งนั้น กัวไฮว่พยักหน้าด้วยความพึงพอใจก่อนจะมองไปที่ร้านขายยาที่นักศึกษาพวกนี้ไปเดินมาอีกรอบ เถ้าแก่ต่างก็มีสีหน้าซีดเผือดตอนแรกคิดว่าจะได้เงินมาหน่อย ไม่คิดเลยว่าจะถูกนักศึกษาเหล่านี้หลอกเอาจนได้
“ผอ. วันนี้ได้ระบายอารมณ์ดีจริง ๆคุณไม่ได้เห็นเถ้าแก่ที่ขายยาให้ผมเมื่อวาน ตอนแรกที่เห็นผมก็เหมือนหมาป่าเห็นแกะรู้สึกเหมือนผมส่งเงินในกระเป๋าไปให้ในมือเขาหมดเลย จากนั้นใบหน้าเขาก็ถอดสีในร้านยังมีคนซื้อคนอื่น ๆเขาก็เบิกตากว้างมองผมเอายาคุณภาพดีพวกนั้นแพ็คไปในถุงของผม ฮ่าๆ” หลี่ว์เฟิงนักศึกษาคณะแพทย์แผนโบราณพูดยิ้ม ๆส่วนนักศึกษาคนอื่นก็ผงกศีรษะกันเกรียวกราวดูเหมือนว่าครั้งนี้จะได้ปลดปล่อยอารมณ์กันจริง ๆ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้