“สมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์คุณภาพระดับต่ำ?”
ทุกคนต่างมองไปยังเฝินเสินเว่ย สายตาที่มองไปล้วนเต็มไปด้วยแสงที่เร่าร้อน ของรางวัลล้ำค่าอันดับหนึ่งยาิญญาเทวะ นครแห่งเทพได้ประกาศออกมาั้แ่ก่อนเริ่มงานประลองาระหว่างเขตปกครองแล้ว เพียงแต่ไม่คาดคิดว่าครั้งนี้ยังมีสมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์อีกชิ้นหนึ่งด้วย?
สมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์นี่มันของดีของหายากเชียวนา! แม้กระทั่งตามข้อมูลที่เป็ทางการเท่าที่รู้มา ทั้งห้าตระกูลใหญ่แต่ละตระกูลมีเพียงหนึ่งถึงสองชิ้นเพียงเท่านั้น ตระกูลเย่ประกาศว่ามีชิ้นหนึ่งคือดาบสังหารเทพของเย่เทียนหลง ความจริงแล้วตระกูลเย่มีอยู่ห้าชิ้นแต่ประกาศออกมาเพียงแค่ชิ้นเดียว ส่วนตระกูลอื่นๆ ล้วนมีกันอยู่สี่ห้าชิ้นเช่นเดียวกันเพียงแต่ไม่ประกาศออกมาเท่านั้นเอง ดูเอาว่าแม้กระทั่งห้าตระกูลใหญ่ที่มีทั้งอำนาจบารมียังมีกันเพียงแค่ไม่กี่ชิ้นเท่านั้น แค่นี้ก็พอจะรู้แล้วว่าสมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์นั้นมีค่าและหายากมากเพียงใด คิดว่าคงมีแต่นครแห่งเทพเพียงเท่านั้นที่มองสมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์ไม่เป็สมบัติล้ำค่า
ดวงตาของเหล่าตัวแทนจากตระกูลต่างๆ ที่อยู่ที่นี่ตอนนี้ต่างเริ่มทอประกายแสงแหลมคมขึ้น สมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์หากสามารถได้รับมาละก็ พลังรบของตระกูลตนเองจะต้องเพิ่มสูงขึ้นอีกระดับหนึ่งอย่างแน่นอน
เพียงแต่...เมื่อทูตเสื้อคลุมทองของหอเฝินเซียนนำรายการของรางวัลในครั้งนี้ออกมาให้ทุกคนดู ทุกคนพลันทอดถอนใจออกมาตามๆ กัน สีหน้าแสดงออกถึงความเข้าใจทุกอย่างขึ้นมาในทันที
สมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในรายการนั้นเป็ของที่ไม่สมบูรณ์ พูดอย่างร้ายแรงหน่อยก็คือมีเพียงหนึ่งในสี่ส่วนจากทั้งหมด เป็ชิ้นเกราะแขน ตามข้อมูลที่บอกเอาไว้เดิมทีมันคือชุดเกราะาเทพเพลิงอัคคีสมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์คุณภาพระดับสูง แต่เนื่องจากว่าอีกสามชิ้นที่สูญหายกระจัดกระจายไปไม่ครบชุด ดังนั้นเกราะแขนที่เหลืออยู่นี้จึงสูญเสียพลังการปกป้องผู้เป็เ้าของไป จึงถูกวินิจฉัยให้เป็สมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์คุณภาพระดับต่ำไป
เชอะ! หลายคนทั้งส่ายหัวทั้งถอนหายใจออกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลายคนแสดงออกถึงสายตาที่ดูถูกและไม่ยี่หระอย่างเด่นชัด ไม่มีความสามารถในการปกป้องเ้าของก็ไม่สามารถจะเรียกได้ว่าเป็สมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์แล้ว ที่สำคัญยังเป็ชิ้นเกราะแขนที่ราคาถูกที่สุดจากทุกชิ้นส่วนทั้งหมดของเกราะป้องกันอีกด้วย ของชิ้นนี้เรียกว่าสมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์ได้ด้วยรึ? โดยเฉพาะอย่างยิ่งคะแนนที่ใช้แลกก็สูงลิ่วขนาดนั้น พอๆ กับคะแนนที่ใช้แลกยาิญญาเทวะเลย
ต้องเข้าใจว่าสมบัติล้ำค่าระดับวิเศษคุณภาพระดับสูงชิ้นหนึ่งที่เป็อาวุธหรือเป็ชุดเกราะป้องกันครบชุด ใช้คะแนนเพียงแค่หกเจ็ดพันเท่านั้นเองในการแลก ดังนั้นทุกคนจึงละสายตาลงไปยังรายการสมบัติล้ำค่าระดับวิเศษที่อยู่ด้านล่างแทน
เย่ชิงหนิวเองก็ถอนหายใจออกมาเช่นกัน ถ้าหากเกราะแขนใช้คะแนนในการแลกไม่มากนักเขาคงบอกให้เย่ชิงหานแลกอย่างไม่ลังเล แต่เมื่อมองดูคะแนนที่ต้องใช้แลกแล้วรู้สึกว่าไม่ค่อยจะคุ้มสักเท่าใดนัก ไม่สู้ไปแลกเกราะป้องกันที่เป็สมบัติล้ำค่าระดับวิเศษครบชุดจะดีกว่า เพราะไม่ว่าอย่างไรแขนก็ไม่ใช่จุดอันตรายถึงชีวิตบนร่างกาย แต่ลำตัวสิใช่แน่นอน
เย่ชิงหานก็ถอนหายใจออกมาเช่นกัน หลังจากที่แลกยาิญญาเทวะไปแล้วเขายังเหลือคะแนนอีกเกือบสองหมื่นคะแนน ถ้าหากสมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์เป็ของที่สมบูรณ์ละก็แม้ต้องใช้คะแนนทั้งหมดในการแลกเขาก็ยอม อานุภาพของสมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์นั้นเขารู้ดี หลายต่อหลายครั้งที่รอดตายมาได้ทำให้เขารู้ว่าสมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์นั้นสำคัญกับผู้ฝึกยุทธ์มากแค่ไหน
“ลูกพี่ รีบแลกเกราะแขนชิ้นนั้นไว้ เกราะแขนนั้นเป็สุดยอดของล้ำค่า!” ในขณะที่เย่ชิงหานกำลังเตรียมที่จะละสายตาลงไปมองดูรายการสมบัติล้ำค่าระดับวิเศษเหมือนคนอื่นๆ เผื่อว่าถึงรอบตนเองจะได้แลกได้อย่างพอใจ แต่ทันใดนั้นภายในหัวของเขาพลันมีเสียงของเสี่ยวเฮยที่ส่งเข้ามา
“สุดยอดของล้ำค่า? เสี่ยวเฮย มันอย่างไรกัน?” เย่ชิงหานตื่นใรีบถามขึ้นในทันที ของชิ้นนี้แม้แต่เย่ชิงหนิวยังวินิจฉัยว่ามูลค่าไม่สมกับราคา เสี่ยวเฮยอาศัยอะไรถึงแน่ใจได้ขนาดนั้น?
“เหตุผลโดยรวมข้าบอกอย่างชัดเจนไม่ได้ แต่ความรู้สึกของข้าบอกว่าของสิ่งนี้เป็ของดีอย่างแน่นอน เชื่อข้าไม่ผิดแน่ ท่านแลกไว้ก็พอ!” เสี่ยวเฮยส่งกระแสเสียงอธิบายบอกมาค่อนข้างคลุมเครือแต่น้ำเสียงหนักแน่นแน่วแน่
เย่ชิงหานไม่มีทางเลือกอื่นจึงพยักหน้าตอบรับเงียบๆ สำหรับเขาแล้วเสี่ยวเฮยไม่ได้เป็แค่เพียงสัตว์อสูรธรรมดาๆ ทั่วไป นับั้แ่เสี่ยวเฮยเริ่มส่งกระแสเสียงพูดคุยกับเขาเมื่อตอนที่อยู่เทือกเขารกร้างเขาก็เริ่มมองเสี่ยวเฮยไม่ใช่สัตว์อสูรตัวหนึ่ง ไม่ใช่สัตว์ตัวหนึ่ง แต่มองมันเป็คนๆ หนึ่ง คนที่ยืนหยัดต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขา ตอนนี้เสี่ยวเฮยขอให้เขาทำเื่ๆ หนึ่งเป็ครั้งแรก อย่าว่าแต่ของสิ่งนี้เป็สมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์เลย ต่อให้เป็ขยะชิ้นหนึ่งเขาก็จะทำการแลกมันมาโดยไม่ลังเลเลยสักนิด
หลังจากที่ทุกคนตรวจดูรายการของรางวัลกันอย่างชัดเจนดีแล้วจึงเริ่มทำการแลกเปลี่ยนของรางวัลขึ้น เดิมทีเย่ชิงหานคิดว่าตนเองทำการแลกเปลี่ยนของรางวัลอันดับหนึ่งไปแล้ว รอบนี้ผู้ที่จะได้แลกของรางวัลก่อนจึงน่าจะเป็หลงไซ้หนาน แต่ไม่คาดคิดว่าหลงไซ้หนานเปิดปากพูดเสนอขึ้นมาอีกครั้งโดยให้สิทธิ์แก่เย่ชิงหานทำการแลกเปลี่ยนเป็คนแรก เพื่อเป็การตอบแทนต่อทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำให้เขตปกครองเทพาในงานประลองาระหว่างเขตปกครองครั้งนี้
ข้อเสนอนี้แน่นอนว่าไม่มีใครคัดค้าน ถ้าหากไม่มีเย่ชิงหานพวกเขาหลายคนที่อยู่ที่นี่คงไม่มีโอกาสได้มาแลกของรางวัลด้วยซ้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีหลายคนที่จะต้องทิ้งชีวิตไว้บนเกาะแห่งความมืดมิดนั้นตลอดกาล กลายเป็เถ้าธุลีและเป็ปุ๋ยให้ต้นไม้ใบหญ้าของที่นั่น
“แลกของรางวัลชิ้นที่หกสมบัติล้ำค่าระดับวิเศษคุณภาพระดับสูง” เย่ชิงหานก็ไม่เล่นตัวอืดอาดยืดยาด ในเมื่อทุกคนเห็นเช่นนี้เขาก็พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคารพ แต่เมื่อกำลังจะแลกของรางวัลเย่ชิงหนิวส่งกระแสเสียงมาหาเขาในทันที
ของรางวัลชิ้นที่หกสมบัติล้ำค่าระดับวิเศษเป็ชุดเกราะเกล็ดั ทั้งชุดทำมาจากเกล็ดัสีเงินมารอสูรระดับแปด พลังป้องกันของชุดอยู่ในขั้นสุดยอด จัดเป็หนึ่งในสุดยอดสมบัติล้ำค่าอันดับต้นๆ ในจำพวกสมบัติล้ำค่าระดับวิเศษ เย่ชิงหนิวรู้ว่าเย่ชิงหานไม่มีชุดเกราะป้องกันสวมใส่จึงได้ช่วยเขาคัดเลือกชุดที่ดีที่สุดให้
“ขอแลกสมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์ชิ้นนั้น คะแนนทั้งหมดหักเอาจากแหวนของข้า ยังมีก่อนหน้านี้อีกหนึ่งหมื่นคะแนน!” เย่ชิงหานไม่ได้ทำตามที่เย่ชิงหนิวส่งสัญญาณบอก แต่กลับยื่นมือซ้ายชี้ออกไปที่ของรางวัลอันดับสองสมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์เกราะแขนเพลิงอัคคี
“ฮือ...!”
ทุกคนส่งเสียงเกรียวกราวกันขึ้น ต่างรู้สึกว่าเย่ชิงหานอายุยังน้อยไม่รู้เื่เลยคิดว่าสมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์เป็ของที่ดีที่สุดจึงทำให้สูญเสียคะแนนมากมายไปฟรีๆ เย่ชิงหนิวรีบส่งกระแสเสียงไม่เห็นด้วยมาในทันที เยว่ชิงเฉิงได้แต่ส่ายหัวมองดูเย่ชิงหาน เพียงแต่เย่ชิงหานยืนกรานกระต่ายขาเดียวจะแลกเกราะแขนเพลิงอัคคีเท่านั้น
“เย่ชิงหาน เ้าแน่ใจใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นข้าจะปลดแหวนของเ้าออกและหักคะแนนออกทั้งหมด!” ทูตเสื้อคลุมทองไม่ได้กล่าวอะไรมาก เพียงพูดออกมาอย่างเ็าประโยคเดียว
“แน่ใจ!” เย่ชิงหานตอบอย่างมั่นใจ
“ตกลง!” ทูตเสื้อคลุมทองยื่นมือแก่หง่อมออกมา วางมือไป้ามือของเย่ชิงหานข้างที่สวมใส่แหวนอยู่ จากนั้นกระแสพลังแสงสีเขียวพวยพุ่งออกมาจากใจกลางฝ่ามือของเขา แหวนที่อยู่บนนิ้วมือของเย่ชิงหานหลุดลอยออกไปอยู่ในมือของทูตเสื้อคลุมทองทันที
“นี่คือสมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์เกราะแขนเพลิงอัคคี คะแนนของเ้าทั้งหมดสองหมื่นหกพันสามร้อยคะแนน หักส่วนของยาิญญาเทวะและสมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์ไปเ้ายังเหลือหกพันสามร้อยคะแนน! คะแนนที่เหลือเ้าจะทำการแลกของรางวัลต่อที่นครแห่งเทพหรือจะนำกลับไปแลกที่เมืองั?” ทูตเสื้อคลุมทองอีกคนที่อยู่ข้างๆ นำกล่องหยกสีแดงยื่นมาให้เย่ชิงหานโดยตรง จากนั้นทำการจดบันทึกคะแนนที่เหลือลงบนสมุดบันทึก
“คะแนนของข้าที่เหลือมอบอำนาจให้ผู้าุโเย่ชิงหนิวจัดการไปก็แล้วกัน!” เย่ชิงหานรับกล่องหยกมาแล้วยัดเข้าไว้ภายในหน้าอกทันที จากนั้นประสานมือไปยังทุกคนแล้วพูดขึ้นต่อ “ทุกท่านเชิญแลกของรางวัลกันตามสบาย เมื่อคืนวานดื่มหนักไปหน่อยรู้สึกปวดศีรษะเล็กน้อยจึงจะขอตัวกลับไปพักผ่อนที่สวนสักหน่อย” พูดจบ เขาเดินออกไปภายใต้การพูดหยอกล้อของทุกคนและสีหน้าอาการเป็ห่วงกังวลของเยว่ชิงเฉิงที่มองมา
เย่ชิงหนิวพยักหน้าออกมาจากนั้นหันไปบอกเย่ผิงที่อยู่ด้านหลัง “เย่ผิงเ้าติดตามเย่ชิงหานไป ทุกท่านเชิญแลกรางวัลกันต่อตามสบาย ความสามารถในการดื่มเหล้าของเ้าเด็กคนนี้ยังคงต้องฝึกฝนอีกมากแล้วอย่างนี้!”
“อืม แม่นางหลงถึงรอบของเ้าแล้ว!”
.................................
เย่ชิงหานแน่นอนว่าไม่ได้ปวดศีรษะเพราะฤทธิ์เหล้า แต่เป็กังวลเย่ชิงอู่ที่อยู่ในสวนที่พัก ยาิญญาเทวะอยู่ในมือแล้วจึงอยากที่จะกลับไปถึงยังตระกูลเย่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ จึงอยากจะรีบกลับมาดูว่าเย่ชิงอู่ว่าตอนนี้เป็อย่างไรบ้าง สามารถที่จะเคลื่อนย้ายกลับไปยังเมืองัพร้อมกันเลยได้หรือไม่ จากนั้นรีบเดินทางกลับตระกูลเย่ด้วยกัน
“ผู้าุโเย่ผิง ค่ายกลเคลื่อนย้ายของนครแห่งเทพสามารถเคลื่อนย้ายไปที่เมืองชางโดยตรงได้เลยหรือไม่?” มองเห็นเย่ผิงตามมาด้านหลัง เย่ชิงหานนึกอะไรขึ้นมาได้จึงหันหน้าไปเอ่ยถามขึ้น
“แน่นอนว่าทำไม่ได้ ค่ายกลเคลื่อนย้ายของนครแห่งเทพทำได้แค่เพียงเคลื่อนย้ายไปยังเมืองหลักของแต่ละเขตปกครองเท่านั้น เมืองชางแม้จะเป็เมืองหลักแต่ก็ยังไม่มีคุณสมบัติพอที่จะทำการเคลื่อนย้ายไปได้โดยตรง!” เย่ผิงมองเห็นท่าทางของเย่ชิงหานร้อนรนรีบอยากจะกลับให้ถึงบ้านอย่างรวดเร็วที่สุดทำให้เขารู้สึกแอบยิ้มออกมาในใจ แต่ทันใดนั้นราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้จังหวะก้าวเท้าหยุดลงและพูดออกมาด้วยสีหน้าอาการสงสัย “เอ่อ...นายน้อยหาน กลัวว่าวันนี้เ้าจะไม่สามารถกลับไปเมืองัได้แล้ว ข้าเพิ่งได้ข่าวแจ้งมาว่าค่ายกลเคลื่อนย้ายเกิดปัญหาขึ้นเล็กน้อยในตอนเช้า ตอนนี้กำลังทำการซ่อมแซมแก้ไขปัญหาอยู่ คาดว่าคงต้องรออีกหลายวันแล้วละอย่างนี้!”
เย่ชิงหานจังหวะก้าวเท้าหยุดชะงักลงในทันทีพร้อมกับพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ “ค่ายกลเคลื่อนย้ายพัง?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้