ขณะที่หลินเยว่เตรียมจะร้องะโด้วยความลืมตัวเพราะ้าปลอดปล่อยความรู้สึกตื่นเต้นดีใจที่เกิดขึ้นอยู่ในใจนั้นท่านเฮ่อฉางเหอกลับตบบ่าของเขาอย่างแรงและพูดขึ้น “คิดอะไรอยู่? ตาแก่จวงอยากได้เครื่องเคลือบชิ้นนี้คุณเสนอราคาสิ”
หลินเยว่เงยหน้ามองท่านจวงเขาพบว่าอีกฝ่ายมองมาที่ตนเองพร้อมรอยยิ้ม และสายตาของอีกฝ่ายก็มีความคาดหวังแฝงอยู่ด้วย
“ในเมื่อท่านจวงอยากได้ ถ้าอย่างนั้นก็มอบให้ท่านได้เลยครับ”
หลินเยว่ส่งเสียงครางลึกๆ ในลำคอแล้วพูดขึ้น
ในเมื่อเป้าหมายที่้าบรรลุผลเรียบร้อยแล้วเขาจึงไม่ได้สนใจสิ่งอื่นๆ และการมอบให้ผู้าุโท่านหนึ่งด้วยความเคารพนับถือก็ว่าเป็สิ่งที่ควรทำอยู่แล้ว
เมื่อประโยคนี้ถูกเอ่ยออกมาทุกคนที่อยู่ในห้องนี้ต่างอึ้งกันไปตามๆ กัน พวกเขาต่างจ้องไปที่ใบหน้าของหลินเยว่เพื่อดูว่าอีกฝ่ายมีร่องรอยการล้อเล่นหรือเปล่าแต่ทว่าพวกเขาก็ต้องผิดหวัง
สีหน้าของหลินเยว่เต็มไปด้วยความจริงใจ
ร่างกายของทุกคนจึงเกร็งขึ้นทันที
เงินเป็ล้านหยวนก็ยกให้กันง่ายๆอย่างนี้เลยหรือ?
แม้กระทั่งตาก็ไม่ต้องกะพริบกันเลยทีเดียว?
มีคนที่ใจเด็ดแบบนี้อยู่บนโลกใบนี้ด้วย และคนคนนี้กลับเป็เพียงเด็กหนุ่มคนหนึ่ง
ท่านเฮ่อฉางเหอเป็คนแรกที่ได้สติก่อนใครท่านรู้จักนิสัยลูกศิษย์ของตนเองเป็อย่างดีหลินเยว่เป็คนที่เคารพธรรมเนียมประเพณีมาก และพยายามปฏิบัติตามให้ดีที่สุดไม่เคยทำตัวเกินเลย ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ก็หาพบได้ยากจริงๆ แม้จะเป็เวลาพันปีก็ยากที่จะหาได้พบใน่ที่จะคารวะขอเป็อาจารย์ อาจจะมีบางคนที่เจตนาทำตัวดีเป็พิเศษแต่เมื่อเวลาผ่านไปตัวตนที่แท้จริงก็จะต้องค่อยๆ ถูกเปิดเผยออกมาแต่ทว่าหลินเยว่ไม่ใช่คนแบบนี้อย่างแน่นอน เวลาผ่านไปก็ทำให้ยิ่งรู้จักตัวตนที่แท้จริงเขากลับทำตัวดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะตอนแรกการปฏิบัติตัวของเขายังดูติดขัดไม่มั่นใจแต่ทว่าตอนนี้เขากลับทำได้ดีและดูมีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น การวางตัวการเคารพนบนอบ การเอาใจใส่ การให้เกียรติผู้าุโ ทุกการกระทำของเขาล้วนดูเป็ธรรมชาติยิ่งนักและดูเป็การกระทำที่ออกมาจากความจริงใจจากภายในของเขาอย่างแท้จริง
การที่มีลูกศิษย์แบบนี้สักคน ถึงจะเป็ความฝันในตอนกลางคืนเวลาสะดุ้งตื่นก็ยังต้องยิ้มอย่างมีความสุข
ท่านเจี่ยเหวยเกิ่งจะเป็ผู้ที่ััความรู้สึกแตกต่างได้ดีที่สุดนับั้แ่ครั้งแรกที่เจอหลินเยว่จนถึงตอนนี้ เพียงเวลาสั้นๆ 3 วันเท่านั้นหลินเยว่กลับสร้างความตกตะลึงให้กับเขามากมายนักไม่ว่าจะเป็ที่นิสัยหรือว่าความตั้งใจศึกษาหาความรู้ก็ล้วนเหนือกว่าคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด
เพราะไม่้าหลอกลวงคนอื่น ดังนั้นจึงไม่้าขายแจกัน “ปลอม”ที่ต้องทำให้แตกใบนั้นไป นี่ก็คือ เนื้อแท้ ความจริงใจ ความดีงาม
หลังจากรู้ว่าเป็ของแท้แล้วเมื่อรู้ว่าเพื่อนของอาจารย์ของตนคิดอยากได้ จึงยินดีที่จะทิ้งเงินเป็ล้านหยวนอย่างเต็มใจ
ความใจเด็ดนี้ นิสัยเช่นนี้ หาได้ยากช่างหาได้ยากจริงๆ!
การมีลูกศิษย์เช่นนี้ก็เป็ความปรารถนาของอาจารย์อย่างยิ่ง!
ตาแก่เฮ่อมีลูกศิษย์ที่ดีจริงๆ!
ท่านเจี่ยเหวยเกิ่งลอบถอนหายใจอย่างเงียบๆเขาเริ่มรู้สึกอิจฉาอีกฝ่ายอย่างไม่รู้ตัว
การที่ได้พบลูกศิษย์ที่ดีอย่างนี้สักคนล้วนเป็ความปรารถนาของคนที่้าหาผู้สืบทอดไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีโอกาสหาได้พบ และตอนนี้ก็ไม่ต้องสงสัยเลยเพราะเฮ่อฉางเหอเป็คนที่ได้พบกับลูกศิษย์ที่มีความเหมาะสมที่สุดจริงๆ
ถึงเขาตั้งใจศึกษาความรู้หลายด้านก็ไม่เป็ไร ขอแค่มีจิตใจดีงามเช่นนี้บุคคลผู้นี้จะต้องสามารถทำให้ฝีมือการพิสูจน์เครื่องเคลือบพัฒนาได้ดียิ่งๆ ขึ้นไป
ทำไมเขาถึงไม่ได้เจอเด็กหนุ่มคนนี้ก่อนเฮ่อฉางเหอล่ะ?
ท่านเจี่ยเหวยเกิ่งมองหลินเยว่ด้วยสายตาอยากได้มาเป็ของตนเองอย่างรุนแรงแต่แล้วสายตานั้นก็ค่อยๆ จางหายไป
การแย่งลูกศิษย์เป็สิ่งที่ไม่ควรทำ ลูกศิษย์ดีๆ สักคนก็ไม่สามารถแย่งได้หรอกและลูกศิษย์ที่แย่งได้ก็น่าจะไม่ได้เป็คนดี เพราะสามารถทรยศต่ออาจารย์คนแรกได้ ก็ย่อมทรยศต่ออาจารย์คนที่สองได้เช่นกันคนแบบนี้ไม่ควรรับไว้เป็ลูกศิษย์
และหากลงมือแย่งจริงๆ ถึงจะแย่งได้แล้วมิตรภาพระหว่างเขากับเฮ่อฉางเหอก็ต้องแตกหักลง
ผลลัพธ์สุดท้ายมีแต่ความเลวร้าย และไม่เหลืออะไรสักอย่าง
ลูกศิษย์ก็แย่งมาไม่ได้แล้วยังทำผิดต่อสหายเก่าเสียอีก แล้วเขาจะทำไปเพื่ออะไรล่ะ?
ถึงแม้ว่าของที่ไม่ได้ตกเป็ของตนเองมักจะรู้สึกดีอยู่เสมอก็เหมือนกับพระจันทร์ในต่างประเทศมักจะกลมสวยมากกว่า ลูกศิษย์ของคนอื่นก็ย่อมรู้สึกว่าดีกว่าแต่ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าลูกศิษย์ของคนอื่นดีกว่าไม่ได้เป็เพียงแค่ความรู้สึกแต่เป็เพราะลูกศิษย์ของคนอื่นดีกว่าอย่างแท้จริง
ไม่ยอมรับไม่ได้หรอก! เขาต้องยอมรับความจริง!
สีหน้าของเสี่ยวเตี๋ยก็ปรากฏความไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินเหมือนกันนี่คือผู้ชายน่ารำคาญที่เธอเจอเมื่อเช้านี้หรือเปล่า?
ทำไมเขาถึงมีความใจกล้าเช่นนี้?
คงไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำหรอกนะ?
เธอพยายามมองหาพิรุธจากสีหน้าของเขาแต่สุดท้ายเธอก็ต้องยอมแพ้ เพราะไม่มีพิรุธใดๆ เลยสีหน้ามีแต่ความจริงใจอย่างแท้จริง
ผู้ชายคนนี้ต้องโง่แน่ๆ เลย คิดอยากจะทำตามคนอื่นที่พูดคำไหนคำนั้นสมองคงถูกประตูหนีบจนผิดปกติไปแล้วล่ะ!
เสี่ยวเตี๋ยก็ยังคงรู้สึกไม่พอใจหลินเยว่อยู่ในใจ
ส่วนท่านจวงกลับมองใบหน้าของหลินเยว่ที่มีแต่ความหนักแน่นเด็ดขาดอย่างอึ้งๆในใจเกิดเป็ความรู้สึกหลากหลายซับซ้อน
นี่เป็ครั้งแรกในชีวิตที่เขาได้พบเด็กหนุ่มที่มีความโดดเด่นเช่นนี้
ตอนที่เขาเจอใน่เช้าอีกฝ่ายอุ้มแจกันเคลือบไว้ ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ไม่ยอมขายมันออกมา เขาจึงจำเป็ต้องเชื่อว่าอีกฝ่ายต้องมองเห็นอะไรบางอย่างอายุยังน้อยขนาดนี้แต่กลับมีสายตาเฉียบแหลมซึ่งความสามารถเช่นนี้ก็สามารถยิ้มเย้ยคนรุ่นเดียวกันได้ทุกคน
แต่คำพูดเมื่อสักครู่นี้ถึงเป็สิ่งที่ทำให้เขาตกตะลึงไม่น้อยเครื่องเคลือบมูลค่าเป็ล้านหยวน แต่กลับพูดยกให้อย่างง่ายดายอีกทั้งไม่มีความลังเลเลยสักนิด
เขาโง่หรือเปล่า?
เขาไม่ได้โง่ แต่เขาจริงใจ มีความจริงใจที่ไม่เหมือนใคร!
เฮ่อฉางเหอหาลูกศิษย์ได้ดีจริงๆ!
ท่านจวงก็แอบรำพึงเงียบๆ อยู่ในใจเหมือนกับท่านเจี่ยเหวยเกิ่งหลังจากนั้นเขาจึงมองไปที่หลินเยว่แล้วถามขึ้น“คุณยืนยันว่าจะยกเครื่องเคลือบใบนี้ให้กับผมจริงๆ หรือ?”
“ครับ!” หลินเยว่พยักหน้าและพูดพร้อมรอยยิ้ม“ในเมื่อท่าน้าก็มอบให้ท่านได้เลย ท่านเป็เพื่อนของอาจารย์ของผมผู้น้อยเจอท่านก็ย่อมต้องมอบของบางอย่างให้อยู่แล้ว”
“ของชิ้นใหญ่แบบนี้ผมไม่กล้ารับหรอกนะ”
ท่านจวงหัวเราะฮ่าๆ แล้วพูดกึ่งเล่นกึ่งจริง “คุณมอบของให้ผมตามธรรมเนียมแต่กลับทำให้ตาแก่อย่างผมต้องขัดเขิน ผมเป็ผู้าุโเมื่อเจอคุณที่เป็ผู้น้อยก็ต้องมอบของให้เช่นกัน คุณให้ผม ผมให้คุณแบบนี้มันจะยิ่งดูว่าผมไม่ให้เกียรติตัวเองหรือเปล่า?”
“เื่นี้......”
หลินเยว่คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะพูดแบบนี้เขาไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับอย่างไรดี
“เอาอย่างนี้ไหมล่ะ ผมซื้อแจกันเคลือบของคุณใบนี้ด้วยเงิน1 ล้านหยวน ตอนนี้แจกันเคลือบใบนี้น่าจะมีมูลค่าประมาณ1.5 ล้าน แบบนี้ก็ถือว่าคุณได้มอบของตามธรรมเนียมแล้วและก็ถือว่าผมได้มอบอั่งเปาให้คุณด้วย เป็อย่างไรล่ะ? แต่หากคิดกันจริงๆคุณก็ยังเสียเปรียบอยู่ดี เหอๆ......”
หลินเยว่ได้ยินเช่นนี้ก็คิดจะพูดตอบกลับแต่กลับถูกอาจารย์ของตนห้ามไว้ และพูดออกมาแทน “ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงตามนี้เลยหลินเยว่ ยังไม่ขอบคุณท่านจวงอีก”
“ขอบ......”
หลินเยว่เพิ่งหลุดคำว่าขอบออกมาเพียงพยางค์เดียวแต่กลับถูกท่านจวงขัดจังหวะไว้ “ขอบคุณอะไรล่ะ? นี่ก็เป็การตบหน้าผมน่ะสิ ความจริงแบบนี้ก็ถือว่าผมเอาเงินของคุณมา5 แสนกว่าหยวนฟรีๆแล้วคุณยังจะขอบคุณผมอีกหรือ เอาแต่เชื่อคำพูดของอาจารย์ของตัวเองเด็กหนุ่มอย่างคุณนี่ก็โง่ได้ใจจริงๆ”
หลินเยว่ได้ยินเช่นนี้ก็เกาศีรษะอย่างขัดเขิน
เขาไม่รู้จริงๆว่าการสนทนากับผู้าุโควรปฏิบัติตัวอย่างไรดีเขาคาดเดาไม่ได้ว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่ละคนดูมีความคิดลึกซึ้ง เขาเกรงว่าเขาจะทำอะไรผิดหรือทำอะไรล่วงเกินอีกฝ่ายหลินเยว่จึงจะระมัดระวังตัวมาก และพยายามทำให้ดีที่สุด
โง่ได้ใจจริงๆ... เสี่ยวเตี๋ยก็แอบประชดอย่างเงียบๆ
ผู้าุโทั้งสามก็คุยกันอีกประมาณครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นท่านเจี่ยเหวยเกิ่งและท่านจวงจึงกลับห้องพักของตนเสี่ยวเตี๋ยก็ตามคุณปู่ของเธอไปด้วย
“อาจารย์ครับ เมื่อสักครู่ทำไมอาจารย์ถึงไม่ยอมให้ผมมอบแจกันเคลือบใบนั้นให้กับท่านจวงล่ะ?”
เมื่อรอให้พวกเขาเดินจากไปแล้วหลินเยว่จึงถามท่านเฮ่อฉางเหอ
“คุณโง่หรือไง!เขาเป็ผู้าุโจะรับของมูลค่าเป็ล้านจากคุณฟรีๆ ได้อย่างไร? หากคุณฝืนมอบให้เขาเขาก็ไม่มีทางรับไว้หรอก”
ท่านเฮ่อฉางเหอกลอกตาใส่หลินเยว่
หลินเยว่รู้สึกเขินจนแทบจะต้องปาดเหงื่อ เขาคิดแค่เพียงอยากจะมอบของให้กับคนอื่นแต่ไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย
ครั้งหน้าเขาจะต้องระวังให้มากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาอยู่กับเหล่าผู้าุโ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้