“ ใช่แล้วเ้าไม่ต้องกลัวเหงาเพราะว่าภารกิจ รออยู่ข้างหน้าจนเ้าแทบจะไม่ได้อยู่ในสำนักเทียนซานเลยละ”หวงเจียง
พวกเขารู้สึกการเดินทางไม่น่าเบื่อเกินไปเพราะมีเสียงเล็กๆของศิษย์น้อง คอยถามเื่ราวตลอดทาง
ก่อนจะเข้าป่า พวกเขาแวะชื้อเสบียงเพื่อที่จะเก็บไว้กินในป่า และไปรวมกับสำนักอื่นหน้าทางเข้า ลูกศิษย์ของสำนักเทียนซานจะใส่เป็ชุดสีฟ้าเข็ม
สำนักที่จะเข้าไปหา ใบไม้ทองคำวันนี้มีทั้งหมด 156 คนจากสี่สำนักใหญ่ จะมีแต่สำนักเทียนซานเท่านั้นที่มาแค่หกคนแถมยังมีเด็กมาด้วย
ลูกศิษย์จากสำนักต่างๆที่มารวมกันต่างกระซิบกระซาบพากันหัวเราะและมองมาที่ถิงถิง หัวเด็กน้อยสูงเลยเขาพวกเขาไปแค่นิดเดียวเท่านั้น
อาจารย์ใหญ่จาก สำนักหลงซานจากเมืองฉาง เป็ตัวแทนเปิดป่าในครั้งนี้ ได้กล่าวถึงกฎระเบียบที่ตั้งขึ้นมาใหม่ และปล่อยทุกคนเข้าไป โดยการเข้าไปครั้งนี้จะใช้เวลานานถึงสองเดือน
เพราะถ้าทางสำนักไหนได้ใบไม้ทองคำเยอะก็หมายถึงว่าค่าใช้จ่ายต่างๆและอุปกรณ์การเรียนอาหารพวกเขาก็จะดีไปด้วย
“ ศิษย์พี่ สำนักอื่นส่งลูกศิษย์มา 50 คนต่อสำนักทำไมของเรามาแค่หกคนเองเ้าค่ะหรือว่าสำนักพวกเขามี ลูกศิษย์ เยอะกว่า”
“ ใช่แล้วศิษย์น้องเล็ก สำนักหลงซานมาจากเมืองฉาง เป็เมืองที่ใหญ่สุด มีลูกศิษย์พันกว่าคน สำนักจินซานมาจากเมืองว่าน มีลูกศิษย์พันกว่าคนเหมือนกัน สำนักต้าซาน มาจากเมืองหนาน ลูกศิษย์พันกว่าคน ”
“ สำนักเทียนซานของเรามีลูกศิษย์น้อยที่สุด อาจารย์ถึงบอกถ้าใครเอาลูกหลานมาสมัครเรียนแล้วที่บ้านยากจนจะแจกใบไม้ทองคำให้ เพราะที่นี่อยู่ห่างไกล และที่สำคัญอยู่ติดกับป่าดงดิบซึ่งค่อนข้างอันตราย ”
“แล้ว ศิษย์พี่ไม่กลัวรึเ้าค่ะถึงได้มาสมัครเรียนที่นี่ ”
“ ตระกูลของพวกข้าสนิทกับท่านอาจารย์ใหญ่ท่านพ่อท่านแม่เลยส่งเข้ามาเรียนที่นี่ พวกเราทั้งห้าคนรู้จักกันมาก่อนแล้วเป็คนมาจากเมืองฉาง”
“ ข้าก็มาจากเมืองฉางเ้าค่ะศิษย์พี่แต่ พวกท่านส่งข้ามาเพราะเหตุใดนั้นโตขึ้นข้าจะไปหาความจริง ให้ได้”
ทั้งหกคน เดินเข้าป่าูเาต้นไม้ไปแบบไม่เร่งรีบ เพราะทุกสำนักแย่งกันเข้าไปทำให้เดินไม่สะดวก
นอกจาก ลูกศิษย์สำนักต่างๆแล้วก็ยังมีชาวบ้านที่ถือโอกาสเข้าไปตอนนี้เพราะว่าถ้าคนเยอะโอกาสที่จะเจอสัตว์ป่าก็มีน้อยลงและยิ่งทางสำนักประกาศห้ามแย่งชิงกัน พวกชาวบ้านธรรมดา ไม่ต้องกลัวอะไรแบบสมัยก่อน หามาได้ก็โดนแย่งชิงไป
ทำให้ในป่าูเาหิน คึกคักไปด้วยผู้คน รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 500 คน
“ คนมาหาใบไม้ทองคำเยอะขนาดนี้เลยรึเ้าค่ะ แล้วศิษย์พี่รู้ไหมว่า ใบไม้ทองคำ มันอยู่ตรงไหนของูเาต้นไม้เ้าคะ”
“ รู้สิใบไม้ทองคำมันอยู่่ปลายของูเาเ้าก็จำลองต้นไม้ต้นหนึ่งใบมันอยู่ที่ไหนแต่ใช่ว่าทุกใบจะเป็ใบไม้ทองคำนะ”
“ มันก็เหมือนผลไม้นั่นแหละใช่ว่าทั้งต้นจะมีผลทั้งต้น บางต้นอาจจะมีแค่สองสามใบด้วยซ้ำ”
“ เ้าต้องฝึกปีนหา ใบไม้ทองคำให้เก่งนะถิงถิง เพราะอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จะมีการแข่งขันกันเกิดขึ้นที่นี่ โดยแต่ละสำนักจัดส่งยอดฝีมือดีเข้ามาหาใบไม้ทองคำแล้วถ้าสำนักไหนชนะสำนักอื่นจะต้องเอามา ใบไม้ทองคำของตัวเองยกให้สำนักนั้นไปเพื่อเป็การกระชับความสัมพันธ์และแข่งขันกันเื่ ความไว”
ถิงถิงข้าเคย แต่ปีนต้นไม้ข้างป่าช้าเท่านั้น ปีนเขาก็เพิ่งมาฝึกกับอาจารย์ไม่กี่วันนี่เอง
สำนักต่างๆเริ่มจับจองูเาและปีนหา ใบไม้ทองคำกันแล้ว ทั้งหกคนยังเดินหาูเา ที่ถูกใจยังไม่ได้ พากันเดินลึกเข้าไป จนไม่ได้ยินเสียงของ ลูกศิษย์ สำนักอื่นแล้ว
จึงพากันหยุดที่เขาลูกหนึ่ง ที่ศิษย์พี่เจี๋ยบอกว่าลักษณะ ูเาใบไม้แบบนี้แหละที่เคยเรียนมา ศิษย์พี่ทั้งห้าคนเลยปลดเอาเสบียงอาหาร และเครื่องนอนจากตัวเพื่อที่จะได้ปีนเขาได้สะดวก
โดยแบ่งหน้าที่กัน จะเป็แค่สามคนที่ปีนหาใบไม้ทองคำ อีกสองคนเฝ้าเสบียงไว้ เผื่อมีสัตว์ป่ามาขโมยไป
เสียงฝีเท้าเดินเหยียบใบไม้ดัง" กรอบแกรบ "ทำให้ทั้งหกคนหันไปมองพร้อมกัน ต่างคิดว่าเป็ ลูกศิษย์จากสำนักอื่น แต่สิ่งที่เจอมันคือ
สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าพวกเขาคือหมีควายสีดำขนาดใหญ่ ที่เท้าหน้าข้างหนึ่งของมันยังมีรังผึ้งติดอยู่ มันยืนสองเท้า ทำให้มันยิ่งสูงและดูน่ากลัวกว่าเดิม
ทุกคนยังไม่เคยเจอหมีที่น่ากลัวแบบนี้มาก่อน ถิงถิงที่ยืนอยู่ใกล้ มีควายตัวแค่มันแยกเขี้ยว ยกสองเท้าหน้าขึ้น ทำท่าเหมือนตะปบเหยื่อ ศิษย์พี่ทั้งห้าคนก็หายจากตรงนั้นแล้ว
“กรี๊ด!!”
“ ศิษย์พี่รอข้าด้วย ทำไมพวกท่านถึงหายไปไวแบบนี้ ” ถิงถิง กรี๊ดลั่นป่าูเาหิน สองเท้าและมือรีบปีนป่าย ขึ้นูเาหิน ตามที่อาจารย์เคยจำลองเหตุการณ์มา เหมือนท่านจะรู้ ว่าต้องมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นจริง
หมีตัวใหญ่ไม่ได้ตามถิงถิงไปแต่มันรื้อค้นข้าวของที่พวกเขากองไว้กระจุยกระจายไปหมด มันหยิบเอาเนื้อหมูตากแห้งที่เป็เสบียงของพวกเขาไป และเดินออกไปจากตรงนั้น
“ ถิงถิงศิษย์น้อง เ้าอยู่ที่ไหนออกมาได้แล้ว หมีั์มันเดินไปแล้ว”
“ ศิษย์พี่ข้าอยู่ข้างบนนี้ พวกท่านขึ้นมาอยู่ข้างบนนี้จะปลอดภัยกว่าเ้าคะ”ถิงถิง ะโลงมาจาก ยอดของูเาต้นไม้
“ ศิษย์น้องเล็กมันสูงและชันขนาดนั้นเ้าขึ้นไปได้อย่างไร แต่จะว่าไปพวกเราขึ้นไปอยู่ข้างบน ดูจะปลอดภัยกว่าข้างล่างนะดูสิข้าวของเสียหายหมดแล้ว”
“ ศิษย์น้องเล็ก เดี๋ยวข้าจะใช้ธนูยิงเชือกขึ้นไป เ้าเอามันมัดกับต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ข้างบนไว้ด้วย ศิษย์พี่จะมัดขนเสบียงขึ้นไปก่อน”
ถิงถิงเอา ปลาย เชือกที่ศิษย์พี่ ใช้ธนูยิงส่งขึ้นมามัดกับต้นไม้จนแน่นแล้ว
“ ศิษย์พี่ข้ามัดปลายเชือกข้างบนเรียบร้อยแล้ว พวกท่านปีนขึ้นมาได้เลย ให้ไวยิ่งดีเร็วเข้าข้างล่างไม่ปลอดภัย”ที่ถิงถิง ตระโกนแบบนั้นเพราะว่านางอยู่มุมสูงจึงเห็นรอบทิศทางได้ดี
“ พวกท่านเชื่อข้าเถอะรีบขึ้นมา ข้าอยู่บนนี้มองเห็นด้านล่างทุกอย่าง เห็นแม้กระทั่งเสือและสุนัขหมาป่าหมีก็ยังไปไม่ไกล”
“ ศิษย์น้องเล็กเ้าว่าอะไรนะ ข้าได้ยินไม่ถนัด”จางซุน ะโถามให้แน่ใจ
“ เสือ!ศิษย์พี่ทั้งหลายเสือดำกำลังมาทางนี้รีบขึ้นมาข้างบนนี่ให้เร็วเข้า ข้าวของไม่ต้องเป็ห่วงแล้ว”
ได้ยินดังนั้น ศิษย์พี่ทั้งห้าของทิงถิงก็ปีนขึ้นมาแบบไม่คิด ชีวิตสัมภาระบนบ่าก็ไม่ได้ยกออก แมู้เาที่สูงชันก็ไม่ใช่อุปสรรคของพวกเขา
ถิงถิงถึงกับตาโต พวกเขามีทักษะการหนีที่รวดเร็วมากไม่น่านางถึงตามไม่ทันสักที
“ ศิษย์พี่พวกท่านช่างมีทักษะในการนี้ที่รวดเร็วยิ่งนัก” แต่ทั้งห้าคนก็นั่งหอบหายใจทางปาก และเมื่อพวกเขามองไปด้านล่าง ถึงกับยกมือจับหน้าอกตัวเองไว้
“ ที่นี่ทำไมถึงมีสัตว์ป่าดุร้ายเยอะขนาดนี้ เราก็ไม่ได้เดินเข้ามาไกลจากพวก ลูกศิษย์สำนักอื่นนี่นา ”
“ ศิษย์พี่พวกท่านอย่าพึ่งวางใจ เราต้องหาอะไรที่ป้องกันตัวเองไว้ก่อนเพราะว่าที่เราเห็นอยู่ด้านล่างเป็สัตว์ที่ปีนูเาเก่งทั้งนั้นเลย”
“ จริงหรือศิษย์น้องเล็ก แต่ก็ใช่อย่างเ้าว่านั่นแหละ พวกมันอยู่กับูเาเป็ไปไม่ได้ที่มันจะขึ้นมาไม่ได้”
“ ใช่เ้าค่ะถึงูเาต้นไม้ที่เราอยู่จะสูงชันแต่ ถ้าพวกมันปีนขึ้นมา เราก็ต้องสู้กับมัน”
“ อาหารของเรามีน้อยเนื้อก็ถูกหมีควายเอาไปหมดเลย ต้องรีบหาใบทองคำและหาแหล่งน้ำสะอาด ”
“ศิษย์พี่ทั้งห้าคน หาใบไม้ทองคำเจอกันแล้วทำไมข้าหาไม่เจอนะ ข้าก็ทำตามพวกท่านทุกอย่างหรือว่ามีขั้นตอนไหนที่มันมองเลยไป”
“ ค่อยๆหาไปศิษย์น้องเล็ก ตรงไหนที่มีใบไม้หล่นหนาแน่นเ้าก็ต้องดูให้ดีด้วยเผื่อใต้นั้นจะมีใบทองคำโผล่ขึ้นมาจากพื้นหิน”
ถิงถิงเดินบนยอดต้นไม้จนทั่ว หาไม่เจอเลยมาขออยู่เวรยามแทน เปลี่ยนให้ ศิษย์พี่ไปหา
นางเอาคันธนูขึ้นมา เตรียมยิงสัตว์ที่คิดจะปีนขึ้นมา เห็นนกตัวใหญ่บินมาเกาะบนกิ่งไม้เตี้ย ถิงถิงจึงสังหารมันโดยธนู นกตกลงกองใบไม้หนา ที่เป็ชั้นต่ำลงมา ของยอดเขา
ถิงถิงปีนลงมา เอานกขึ้นไปให้ ศิษย์พี่ทำอาหาร นางถูกมดกัดเจ็บและคันมาก ตอนไปเอานกที่ตกบนกองใบไม้แห้งนางโมโหแบ่งเอาไฟ ที่ศิษย์พี่ข่ายปรุงอาหาร
โยน ท่อนฟืนที่ติดไฟลงบน กองใบไม้แห้งทับถมกับหนาแน่่น ไฟจึงลุกไหม้ ใบไม้ที่อยู่แถวบริเวณนั้นจนหมด
“ ศิษย์น้องเล็กจะทำอะไรรึถึงกับเผาใบไม้ แห้งพวกนั้น”
“ เผามดศิษย์พี่ใหญ่ มันกัดข้าทั้งเจ็บทั้งคัน” ศิษย์พี่ข่ายใหญ่เดินมาหานางพร้อมยาทาแก้พิษ
“ ยาทาแก้พิษ แมลงกัดสัตว์ต่อยเ้าทาเสียแล้วพกไว้ติดตัวข้าให้เ้า”
“ เอ๊ะ!ศิษน้องเล็ก นั่นใบไม้ทองคำนี่หลายใบเลยมันอยู่ใต้ใบไม้ที่ทับถมพอเ้าเผามันไป จึงมองเห็นมันได้ชัดขึ้นเหมือนมันโดนไฟแล้วมันจะมีความแวววาวขึ้นยังงั้นแหละ”
ถิงถิงปีนลงไปที่เดิมพร้อมศิษย์พี่ ใช้มีดขุดงัดแงะหินตรงที่มียอดแหลมของใบไม้สีทองโผล่ออกมา
“ ศิษย์พี่ข่ายมีใบไม้ทองคำหลายใบเลยไม่น่าหละใบไม้ตรงนี้ถึงทับถมแ่าขนาดนี้ แสดงว่าไม่มีใครหามันเจอมาก่อน”
“ ตรงนี้พื้นที่ไม่กว้างไม่งั้นจะได้เรียกอีกทั้งสี่คนมาช่วยกันขุดตรงนี้ ที่เดียวนี่ก็ทำให้ สำนักเทียนชานของเรามีใบไม้ทองคำใช้จ่ายได้นานเป็ปีเลยล่ะ”
“ จะว่าไปใบไม้ทองคำนี่มันเหมือนกับใบมะยมที่ข้าเคยรู้จักเลย ศิษย์พี่มีแต่ใบใหญ่ๆทั้งนั้นเลย ”
“ เ้าทั้งสองทำอะไรอยู่ตรงนั้น เอ๊ะ!นั่นมันใบไม้ทองคำนี่ ใบมันผุดขึ้นมายังกะหน่อไม้ ” พูดเสร็จจางซุนก็ปีนลงมาช่วยกันขุด
หวังข่าย จึงเล่าให้จางซุนฟัง ทั้งสองตกลงกันว่าจะเผาตรงที่ใบไม้แ่าทับถมกันเพื่อหาใบไม้ทองคำไม่แน่ว่าอาจจะเจอเยอะแบบตรงนี้
พวกเขาขุดอยู่ที่เดียวเจอ ใบไม้ทองคำ มาตั้ง 22 ใบซึ่งถือว่าเยอะมาก แถมยังมีใบใหญ่ถึงแปดใบ บางคนสองเดือนอาจจะได้แค่สองหรือสามใบเท่านั้น