ชาวบ้านที่มาต่อแถวต่างแยกย้ายกันไป ถังชิงหรูเก็บข้าวของเตรียมกลับบ้าน ส่วนของที่ชาวบ้านมอบให้เ่าั้ นางตัดสินใจเก็บส่วนหนึ่งใส่ตะกร้าหิ้วไว้ในมือ ส่วนที่เหลือก็ใส่เข้าไปในกระเป๋า ซึ่งสามารถประกันได้ว่าแม้ของที่ใส่เข้าไปอยู่ในสภาพไหนก็สามารถรักษาความสดให้คงอยู่ในสภาพเดิมได้ตลอด ดูจากปริมาณของผักผลไม้เ่าั้คงพอประทังความหิวไปได้สักสามวัน
เดิมทีสถานที่แห่งนี้เป็มุมเปลี่ยวลับตาคน เมื่อคนไข้ไปกันแล้ว ก็ไม่มีใครสังเกตเห็นนาง ถังชิงหรูค่อยๆ เก็บโต๊ะเก้าอี้ รวมถึงของกำนัลต่างๆ ใส่เข้าไปในกระเป๋าสะพาย ขณะที่กำลังเตรียมตัวกลับ ก็มีชายวัยกลางคนผู้หนึ่งลากชายชราอีกคนวิ่งเข้ามา
"ท่านหมอเทวดา... โปรดรอก่อน ท่านหมอเทวดา..." ชายวัยกลางคนร้องะโเรียกมาแต่ไกล
ถังชิงหรูหันกลับไป เห็นพวกเขาวิ่งเข้ามา ท่าทางของทั้งสองคนแลดูวิตกกังวลมาก คงจะเจอเื่ร้อนใจอันใดมาสักอย่าง
"ท่านหมอเทวดา..." ในที่สุดพวกเขาก็วิ่งมาถึง ชายชราเหนื่อยจนแทบขาดใจ ใบหน้าซีดเซียวบิดเบี้ยวด้วยความเ็ปทรมาน ลมหายใจถี่กระชั้นขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้นก็ติดขัดคล้ายหายใจไม่ออก ชายวัยกลางคนที่อยู่ด้านข้างก็ร้องถามอย่างร้อนใจ "ท่านพ่อบ้าน ท่านพ่อบ้าน ท่านเป็อะไรไป"
ถังชิงหรูฝังเข็มที่ศีรษะของชายชรา หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็กลับมาหายใจเป็ปรกติ
"ท่านเป็โรคหืดหอบขั้นร้ายแรง อย่างไรก็ควรใส่ใจหน่อยนะ" นางเอ่ยเสียงเรียบ
ชายชรากลับมาเป็ปรกติแล้ว ก็จัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ก่อนค้อมกายประสานมือคำนับถังชิงหรูอย่างนอบน้อม "ขอบคุณท่านหมอเทวดาที่เมตตาช่วยชีวิต"
"ไม่ต้องขอบคุณหรอก อาการของท่านค่อนข้างหนัก ถึงเป็ข้าก็ไม่อาจรักษาท่านให้หายได้ภายในระยะเวลาอันสั้น" ถังชิงหรูเอ่ยตามตรง "พวกท่านกลับไปกันก่อนเถอะ พรุ่งนี้ค่อยมาให้ข้าฝังเข็มใหม่"
"ท่านหมอเทวดา พวกเรามีเื่้าความช่วยเหลือจากท่านขอรับ" ชายวัยกลางคนทำความเคารพอย่างเต็มพิธีการ "ท่านนี้คือพ่อบ้านในจวนของเรา เมื่อครู่นายท่านของพวกเราจู่ๆ ก็หมดสติไปกะทันหัน เชิญท่านหมอมาหลายคนแล้วก็ไร้ประโยชน์ เมื่อครู่ข้ามาให้ท่านตรวจแล้ว จึงเชื่อมั่นในวิชาแพทย์อันล้ำเลิศของท่าน หลังจากกลับไปได้ยินพ่อบ้านเอ่ยถึงอาการประหลาดของเ้านาย จึงรีบพาเขามาหาท่านนี่แหละ ขอท่านหมอเทวดาโปรดไปที่จวนของเรา ช่วยให้นายท่านฟื้นขึ้นมาด้วยเถิด"
"เอ้อ... เื่นี้...." ถังชิงหรูมีสีหน้าลำบากใจ "วันนี้ข้าเหนื่อยแล้ว"
พ่อบ้านผู้นั้นโขกศีรษะคำนับอีกครั้งพลางเอ่ยปากวิงวอน "ขอท่านหมอเทวดาช่วยพวกเราด้วยเถิด หากนายของพวกเรามีอันเป็ไป บ่าวอย่างพวกเราก็คงต้องตายตามไปด้วย ตลอดทางที่ผ่านมาได้ยินแต่คำชื่นชมสรรเสริญว่าท่านหมอเป็ดั่งพระโพธิสัตว์เปี่ยมไปด้วยจิตเมตตา ให้การรักษากับคนเจ็บไข้โดยที่ไม่รับเงินสักอีแปะ ช่างเป็คนดีอย่างแท้จริง ขอท่านหมอได้โปรดเห็นแก่ชีวิตอันต่ำต้อยของพวกเราด้วยเถิด"
"ท่านหมอเทวดา แม้ว่าท่านจะตรวจรักษาคนไข้โดยไม่เก็บเงิน แต่นั่นก็สำหรับชาวบ้านธรรมดาทั่วไป หากเป็คนมั่งมีเงินทอง ท่านก็ควรจะเก็บค่ารักษา หนึ่งคนมีเงินย่อมมิขาดแคลนเงินทอง ท่านหมอไม่รับ พวกเขาก็เอาไปละลายที่อื่น สองครั้นมีเงินแล้ว ท่านหมอก็เอาไปซื้อสมุนไพรเองได้ เช่นนี้ก็จะยิ่งช่วยเหลือคนจนได้มากขึ้น ดังนั้น เพียงท่านยอมไปตรวจอาการให้นายท่านของพวกเรา ท่านพ่อบ้านสามารถเป็ธุระจัดการจ่ายค่ารักษาให้ท่านหนึ่งร้อยตำลึง" ชายวัยกลางคนหันไปขยิบตาให้พ่อบ้าน
พ่อบ้านเข้าใจความหมาย รีบเอ่ยตามน้ำ "ใช่แล้วขอรับ จุดนี้บ่าวจัดการให้ได้ เื่ไหนก็ไม่สำคัญเท่าความเป็ความตายของเ้านายอีกแล้ว เงินทองจะนับว่าเป็อันใด ขอแค่ท่านหมอรักษานายท่านให้หายได้ ให้เพิ่มอีกเท่าไรก็มีจ่าย"
ถังชิงหรูทำท่าซังกะตาย ในสายตาของสองคนนั้น มองว่านางเป็คนซื่อตรง ไม่ถูกล่อลวงด้วยอำนาจของเงินทอง แต่แท้ที่จริงนางตื่นเต้นจนหัวใจแทบกระดอนออกจากอกตั้งนานแล้ว
"หนึ่งร้อยตำลึง! หนึ่งร้อยตำลึงของที่นี่มันเยอะมากหรือไม่ เสี่ยวอี อธิบายหน่อยสิ"
"เรียนนายหญิง หนึ่งร้อยตำลึงหากเป็ยุคสมัยของพวกเราก็คิดเป็เงินสองสามหมื่นเหรียญ นับว่าเป็เงินก้อนเล็ก หากนายหญิงมีเงินหนึ่งร้อยตำลึง ก็ไม่ต้องกังวลเื่ปากท้องในแต่ละวันอีกแล้ว ทั้งยังสามารถซื้อเสื้อผ้าสวยๆ และแป้งชาดประทินผิวอย่างดีได้อีกด้วย จริงสิ สำคัญที่สุดคือนายหญิงสามารถสร้างบ้านหลังใหม่ แบบนี้ก็ไม่ต้องวิตกว่ายามนอนหลับฝาบ้านจะถูกลมพัดปลิวไปหรือไม่"
"..."
ถังชิงหรูมุมปากระตุก นึกเข่นเขี้ยวในใจกล่าวว่า "เสี่ยวอี นายรู้สึกว่าการเห็นฉันในสภาพอนาถาแบบนี้คือเื่น่าสนุกใช่ไหม"
"นายหญิงสูงส่งดังเทพธิดา กล้าเชิดใส่แม้กระทั่งเ้าชายของดาวโลก ปรกติเสื้อผ้าก็สวมใส่แต่ของชั้นเลิศ อาหารการกินต้องสดใหม่เท่านั้น ข้าวของเครื่องใช้ล้วนวิจิตรประณีต ทว่าตอนนี้ต้องมาอยู่บ้านเก่าผุพัง มิหนำซ้ำยังต้องกินแต่ของป่าเหมือนเดิมทุกวัน เสี่ยวอีรู้สึกว่า... ก็น่าสนใจอยู่นะครับ"
"Fuck!" ถังชิงหรูได้ยินคำพูดของเสี่ยวอี ก็โพล่งสบถออกมาอย่างสุดกลั้น
พ่อบ้านกับชายวัยกลางคนผู้นั้นใจนแทบะโ ต่างมองถังชิงหรูด้วยแววตากระสับกระส่าย
"ถังชิงหรูกระแอมกระไอเบาๆ พลางเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม "ช่วยคนหนึ่งชีวิตดีกว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้น ข้าเป็หมอ ไหนเลยจะนิ่งดูดายยามเห็นคนป่วยทุกข์ทรมานได้ ไปกันเถอะ"
ทั้งสองต่างหันมามองหน้ากัน ก่อนแสดงท่าทีผ่อนคลายประหนึ่งจะบอกว่ารอดแล้ว
"ท่านหมอเทวดาเชิญทางนี้ขอรับ พวกเราเตรียมรถม้าไว้แล้ว" พ่อบ้านกล่าวจบก็ผายมือเชิญ
คฤหาสน์โอ่โถงกว้างใหญ่ ถังชิงหรูยืนอยู่หน้าประตูข้างซึ่งอยู่ในจุดที่หลบมุม มองกำแพงซึ่งตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าด้วยสีหน้าครุ่นคิด พยายามคาดเดาสถานะของผู้เป็เ้าของคฤหาสน์หลังนี้
ที่นี่ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองค่อนข้างไกล เมื่อครู่นางนั่งรถม้าของพวกเขามายังใช้เวลานานมาก ระหว่างทางพ่อบ้านแนะนำตัวให้รู้จัก เขาแซ่หลิน คนอื่นเรียกเขาว่าพ่อบ้านหลิน ส่วนชายวัยฉกรรจ์อีกคนเป็ผู้คุ้มกันของที่นี่ วันนี้เป็วันหยุดพักผ่อนของเขา บังเอิญไปพบเห็นถังชิงหรูตั้งแผงลอยตรวจคนไข้ไม่คิดค่ารักษา ก็เลยไปต่อแถวกับเขาด้วย ยามกลับมาที่จวนได้ยินว่าพ่อบ้านหลินกำลัง้าหมอ จึงแนะนำนางไป พ่อบ้านหลินได้ยินเกี่ยวกับหมอเถื่อนในยุทธภพมามาก ยังมิใคร่เชื่อใจนัก เลยตามเขามาด้วย หากถังชิงหรูมิได้แสดงฝีมือให้เห็นต่อหน้าต่อตา พ่อบ้านหลินต้องไม่เชื่อถือนางเป็แน่
"ท่านหมอเทวดา ท่านอย่าได้คิดมาก วันนี้นายท่านเกิดเื่ ในจวนโกลาหลวุ่นวายไปหมด ดังนั้น..." พ่อบ้านหลินเอ่ยด้วยความรู้สึกตะขิดตะขวงใจ "อย่าเข้าทางประตูหลักจะดีกว่า ต้องลำบากท่านหมอเข้าทางประตูเล็ก ขอเพียงท่านช่วยรักษานายของข้าให้หาย นายท่านจะต้องปฏิบัติต่อท่านหมอเยี่ยงแขกผู้มีเกียรติเป็แน่"
ถังชิงหรูปรายตามองพ่อบ้านหลิน พลางกล่าวเสียงเรียบ "ข้าไม่สนใจเื่ในจวนของพวกท่านเ่าั้หรอก ประตูหลักก็ดี ประตูรองก็ช่าง ไม่ว่าประตูไหนๆ ก็เข้าไปได้เหมือนกัน ข้าเองก็ไม่ได้อยากเป็แขกผู้มีเกียรติในจวนของพวกท่านสักเท่าไร คฤหาสน์หลังใหญ่มีแต่เื่ยุ่งยากซับซ้อน มิสู้อยู่ในชนบทสบายใจกว่าเยอะ"
พ่อบ้านหลินได้ยินคำกล่าวของถังชิงหรู ก็ยิ่งละอายกว่าเดิม นึกชื่นชมในใจ มิเสียแรงที่เป็ผู้สูงส่ง ความคิดช่างแตกต่างจากคนสามัญทั่วไปโดยแท้
พ่อบ้านหลินพาถังชิงหรูผ่านเข้าประตูเล็ก ด้วยไม่อยากให้นางล่วงรู้สถานะผู้เป็นาย เพราะเกรงว่าหากนางรู้ความจริงแล้วออกไปพูดจามั่วซั่วข้างนอก ย่อมไม่เป็ผลดีต่อทุกฝ่าย
"พ่อบ้านหลิน อาการของนายท่านย่ำแย่ถึงขั้นวิกฤติแล้ว หมอที่ท่านไปเชิญมาหรือยัง" หญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งเดินเข้ามาอย่างเร่งร้อน พลางพร่ำบ่นกับเขาด้วยสีหน้าหวั่นวิตก
พ่อบ้านหลินพยักหน้ากล่าวว่า "หมัวมัว[1] อย่าวิตกไปเลย ท่านนี้ก็คือ... หมอเทวดา มิทราบว่าแซ่อันสูงส่งของท่านคือ..."
"ข้าแซ่ถัง" ถังชิงหรูทำสีหน้านิ่งขรึม จงใจวางมาดให้ดูสูงส่งลึกล้ำยากจะคาดคะเน
หญิงวัยกลางคนมองถังชิงหรูอย่างพินิจั้แ่หัวจรดเท้า ก่อนเอ่ยวาจาพลางมุ่นคิ้วขมวด "นางน่ะหรือหมอเทวดา จะเยาว์วัยไปหน่อยหรือไม่"
"หมัวมัว หมอเทวดาคือผู้สูงส่งในตำนาน ไหนเลยจะเอาคนสามัญทั่วไปมาเปรียบเทียบได้ ท่านอย่ากังวลไปเลยน่า เื่อื่นๆ มอบให้ข้าจัดการเอง" พ่อบ้านหลินเกรงว่าจะเป็การล่วงเกินถังชิงหรู จึงรีบไกล่เกลี่ย หลังกล่าวจบก็หันมาเอ่ยกับถังชิงหรู "ท่านหมอ เชิญทางนี้ขอรับ"
ถังชิงหรูตามพ่อบ้านหลินเข้าไปในห้องที่หรูหรางามวิจิตร ของทุกสิ่งในนั้นล้วนเลอเลิศจนไม่อาจหาไหนมาเปรียบปานได้ เห็นแล้วพานรู้สึกั์ตาพร่าไปหมด ด้วยสายตาของถังชิงหรูย่อมมองออกว่าของทุกชิ้นเ่าั้ล้วนเป็ของดีมีราคา หากหยิบออกไปสักชิ้นเอาไปแลกเป็เงิน นางก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ที่นี่อย่างสุขสบายไปตลอดชาติ
บุรุษที่นอนอยู่บนเตียงอายุราวยี่สิบปี สวมใส่อาภรณ์สีม่วงปักดิ้นเงินเป็ลายดอกโบตั๋นดอกใหญ่ เสื้อผ้าของเขาช่างหรูหรางดงามยิ่งนัก นางเห็นแค่ปราดเดียวก็สะดุดตากับชุดของเขาเสียแล้ว เป็บุรุษแต่สวมใส่อาภรณ์วิจิตรตระการตาขนาดนี้ช่างน่าอัศจรรย์ใจนัก
ทว่ายามเห็นรูปโฉมของบุรุษบนเตียงอย่างชัดเจน นางกลับรู้สึกว่าทุกสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็ธรรมชาติ ใบหน้าของเขางดงามสลักเสลาคล้ายถอดแบบออกมาจากภาพเขียน หากไม่ใช่เพราะเห็นลูกกระเดือกกับเรือนร่างกำยำล่ำสัน นางคงคิดว่าเขาเป็สตรีคนหนึ่ง หน้าตาช่างงดงามเหลือเกิน ราวกับหุ่นยนต์หญิงสาวงานวิจัยใหม่ล่าสุดในศตวรรษที่สามสิบเอ็ดก็ไม่ปาน
พ่อบ้านหลินส่ายหน้ากล่าวด้วยความจนใจ "ใบหน้านี้ของเ้านายนำมาซึ่งภัยพิบัติโดยแท้ เพราะใบหน้านี้ ั้แ่อายุสิบขวบเป็ต้นมานายท่านก็ถูกสตรีเ่าั้วางยาพิษ หลายปีที่ผ่านมานี้เขาจึงเห็นสตรีทุกคนเป็ดั่งงูพิษ แต่เพื่อทำให้ผู้อื่นสบายใจ ก็จำต้องรับสตรีที่คนเ่าั้ส่งมาบรรณาการให้ ดังนั้นชีวิตในแต่ละวันของนายท่านจึงเหมือนตกนรกทั้งเป็
"นายของพวกท่านเคยถูกผู้หญิงวางยาพิษหรือ" ถังชิงหรูจับชีพจรให้คนผู้นั้นพลางเอ่ยถาม
"ใช่ขอรับ นายของเราหน้าตางดงามเกินไป สตรีใดได้เห็นเป็ต้องตกหลุมรัก แต่เขากลับเฉยชากับสตรีเป็อย่างยิ่ง นึกเหยียดหยันมาแต่ไหนแต่ไร ทำให้พวกสตรีที่ตกหลุมรักเขาเ่าั้พากันว้าวุ่น ยิ่งเขาเ็าเท่าไร พวกนางก็ยิ่งกระตือรือร้น แต่ยิ่งพวกนางกระตือรือร้นเท่าไร นายท่านก็ยิ่งรังเกียจมากเท่านั้น เมื่อคนหนึ่งตามตื๊อ อีกคนวิ่งหนี เวลาผ่านไปนานเข้า วัยสาวดั่งวสันต์แรกแย้มไหนเลยจะรอต่อไปได้ ครั้นแล้วเื่วางยาพรรค์นั้นจึงเกิดขึ้น..." พ่อบ้านหลินเล่าพลางทอดถอนใจ
ในที่สุดถังชิงหรูก็ตรวจพบสาเหตุที่ทำให้ชายหนุ่มหมดสติไม่ฟื้น
เขาถูกวางยา!
"ดูท่าครานี้ก็ถูกสตรีวางยาอีกแล้ว" ถังชิงหรูยิ้มพลางโคลงศีรษะ "ร่างกายของเขามีพิษสะสมเยอะมาก พิษเ่าั้คงสะสมมาจากของที่เขากินตลอดหลายปีมานี้ ข้าจะแก้พิษของครานี้ให้ก่อน หลังจากฟื้นขึ้นมาแล้ว ข้าจะออกเทียบยา เ้าต้มให้เขาดื่มครึ่งเดือน ก็จะสามารถขจัดพิษที่สะสมในร่างกายก่อนหน้านี้ได้"
"ท่านหมอช่วยให้นายท่านฟื้นได้จริงหรือขอรับ เมื่อครู่เชิญหมอมาห้าท่าน ล้วนแต่บอกว่าพิษที่โดนครานี้พิสดารนัก พวกเขาก็จนปัญญา" พ่อบ้านหลินกล่าวด้วยความซาบซึ้งใจ
ทว่าถังชิงหรูกล่าวเพียงเรียบๆ "พิษที่เขาได้รับครานี้ไม่ธรรมดา ชะรอยนายของท่านคงจะไปล่วงเกินผู้สูงศักดิ์เข้ากระมัง แต่ยังดีที่ข้ารักษาได้"
"ขอบพระคุณท่านหมอเทวดา" พ่อบ้านหลินประกบมือคารวะอย่างนอบน้อม
ถังชิงหรูมองไปยังบุรุษเบื้องหน้า เขากำลังหลับสนิท หัวคิ้วขมวดเกร็งเผยความร้อนรนกระวนกระวาย ไม่รู้ว่ากำลังฝันอะไรอยู่ถึงได้ดูเดือดดาลเช่นนั้น
แต่หน้าตาดีจริงๆ
ถังชิงหรูลองเปรียบเทียบชายหนุ่มตรงหน้ากับชายรูปงามที่บ้านของตนเอง น่าหลันหลิงนุ่มนวลอ่อนโยนเสมือนหยก สุขุมนุ่มลึกสง่างาม ส่วนบุรุษคนนี้หล่อเหลาราวกับรูปสลัก แต่เท่าที่เห็นไม่น่าจะเป็คนที่อยู่ร่วมกันได้ง่ายนัก เกรงก็แต่จะเป็อ๋องน้อยจอมอหังการเสียมากกว่า แม้ว่าจะหน้าตาหล่อเหลา แต่อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวน่าจะดีที่สุด
ขณะขบคิดไปเรื่อยๆ มือก็ฝังเข็มทองให้กับบุรุษรูปงามตรงหน้าตามจุดฝังเข็มต่างๆ ชายหนุ่มเปล่งเสียงร้องครางอย่างเ็ปทรมาน แผ่นเปลือกตาเริ่มขยับไหว ดูเหมือนใกล้จะฟื้นแล้ว
--------------------------------------------------------------------------------
[1] หมัวมัว เป็คำเรียกหญิงรับใช้าุโ อาจเป็แม่นม หรือเป็ผู้อบรมสั่งสอนจรรยามารยาท
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้