ป้าสองจ้าวเกือบหน้ามืดหมดสติ นางวิ่งกลับบ้านพักที่จ้าวสุ่ยเซิงเช่าไว้ จ้าวสุ่ยเซิงไม่ได้พิถีพิถันเหมือนเจียงหงหย่วน เขากับขอทานที่พามาด้วยสองคนเช่าบ้านในตรอกใกล้ๆ บ่อนพนันอยู่ด้วยกัน
พวกจ้าวสุ่ยเซิงกำลังจะออกไปทำงาน เห็นป้าสองจ้าววิ่งกลับมาอย่างใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เหลียงเฉวียนกับเว่ยเซิ่งถอยออกไปอย่างรู้งาน บอกจ้าวสุ่ยเซิงว่าไม่ต้องรีบไปบ่อน พวกเขาจะช่วยบอกเจียงหงหย่วนให้
“ท่านแม่ เกิดกระไรขึ้นหรือ?” จ้าวสุ่ยเซิงประคองป้าสองจ้าวเข้าบ้าน
“ท่านแม่ ท่านดื่มน้ำสักหน่อยค่อยพูด” จ้าวสุ่ยเซิงรินน้ำร้อนให้ป้าสองจ้าวแล้วยื่นให้นาง
ป้าสองจ้าวดื่มน้ำอึกใหญ่จนหมด ใช้มือเช็ดปาก ดึงมือจ้าวสุ่ยเซิงมาพูดว่า “หยาเหมินในอำเภอติดประกาศ บอกว่าที่หัวเมืองจับนายหน้าค้ามนุษย์ได้ มีสตรีสาวหลายคนกำลังรอให้ครอบครัวไปรับอยู่ที่หัวเมือง สุ่ยเซิง เ้าว่าน้องสาวเ้าจะอยู่ในนั้นหรือไม่? พวกเราไปดูที่หัวเมืองกันดีหรือไม่?”
จ้าวสุ่ยเซิงดูเวลาแล้วพูดว่า “ท่านแม่ ต่อให้พวกเราออกเดินทางตอนนี้ ไปถึงหัวเมืองก็เข้าไปไม่ได้อยู่ดี เอาเช่นนี้ เช้าวันพรุ่งพวกเราค่อยไปดีหรือไม่?”
ไม่ใช่ว่าเขาไม่ร้อนใจ แต่ร้อนใจไปก็เปล่าประโยชน์ หัวเมืองอยู่ห่างจากอำเภอไกลเกินไป นี่ก็ใกล้ค่ำแล้ว พระอาทิตย์กำลังตกดิน อีกไม่นานก็มืด
“ท่านพักผ่อนให้สบายก่อนเถิด มีแรงแล้วค่อยไปที่หัวเมืองวันพรุ่ง” จ้าวสุ่ยเซิงเกลี้ยกล่อมอีกครั้ง
“ได้…ได้…เช่นนั้นค่อยไปวันพรุ่ง” ป้าสองจ้าวเข้าใจความหมายของจ้าวสุ่ยเซิง ก่อนหน้านี้นางรีบร้อนเกินไป
“ถ้าเช่นนั้นข้าไปทำงานก่อน มีซาลาเปาอยู่ในหม้อที่ครัว หากท่านหิวก็หยิบมากินนะขอรับ” สองสามวันมานี้แม่เขาโทรมลงมาก เื่นี้ทำให้จ้าวสุ่ยเซิงปวดใจ
น้องสาวคนนี้นี่ช่าง…
“อื้ม แม่รู้แล้ว” ป้าสองจ้าวเดินไปส่งลูกชายออกจากบ้าน “เ้ารีบไปทำงานเถิด อย่าไปสายเพราะอ้างว่ารู้จักกับเจียงต้าเกอ”
“ข้าทราบแล้วขอรับ วันพรุ่งพวกเราออกเดินทางก่อนฟ้าสาง จะได้ไปถึงหัวเมืองก่อนประตูเมืองเปิด ไปถึงหยาเหมินแล้วรีบกลับมา เช่นนี้จะได้ไม่รบกวนเวลางาน”
จ้าวสุ่ยเซิงปลอบใจป้าสองจ้าวเสร็จก็วิ่งเหยาะๆ ไปทางบ่อนพนัน
“เจียงต้าเกอ วันพรุ่งข้าต้องพาท่านแม่ไปตามหาน้องสาวที่หัวเมือง กลัวว่ากลับมาช้าแล้วจะรบกวนเวลางาน”
“เจียงไฉจะไปหัวเมืองพอดี วันพรุ่งเ้ารอที่บ้าน ข้าจะให้เจียงไฉไปรับ”
“ข้าอยากไปเช้าหน่อย” จ้าวสุ่ยเซิงเกาหัว รู้สึกเกรงใจเล็กน้อย
เจียงหงหย่วนชำเลืองตามอง “จะไปเช้าเพียงใดก็ต้องรอประตูเมืองเปิด วางใจเถิด ข้าจะให้เจียงไฉรีบไปรับ”
จ้าวสุ่ยเซิงเกาหัว เขาลืมเื่นี้ไปเสียได้
“เอาล่ะ ไปทำงานเถิด รีบทำความคุ้นเคยกับงานในบ่อน” เจียงหงหย่วนตบไหล่เขาเสร็จก็เดินขึ้นชั้นสองไปหาเหลียงหู่
ตระกูลเหลียงอยู่ในหัวเมืองเช่นกัน หลายวันมานี้หวงจ้งซานงานยุ่ง เขาไม่กล้าเอาเื่เล็กๆ น้อยๆ ไปรบกวน แต่ยังไหว้วานให้เหลียงหู่ช่วยได้อยู่
“…่นี้ข้าพอจะมีเงิน อยากซื้อบ้านในหัวเมืองสักสองหลัง หนึ่งในนั้นอยากให้มีหน้าร้านด้วย ให้ดีคือมีสองลาน ไม่ทราบว่าเหลียงต้าเกอพอจะมีคนรู้จักในหัวเมืองที่ช่วยแนะนำให้ข้าได้หรือไม่ ไม่เกี่ยงเื่ราคา ขอแค่ได้มาตรฐาน คนกลางหายาก ถูกหลอกได้ง่าย”
เหลียงหู่หัวเราะ “ฮ่าฮ่าฮ่า เื่เล็กนิดเดียว! สหายเจียงอยากไปทำธุรกิจในหัวเมืองหรือ? นี่ถือเป็ข่าวดี! ข้าพอจะรู้จักพรรคพวกที่เป็นายหน้าอยู่ เอาเช่นนี้ ข้าจะช่วยเขียนจดหมาย เ้าให้คนนำจดหมายไปให้เขาเป็พอ เขาจะช่วยเ้าเลือกให้ดีเป็แน่ ไม่หลอกลวง”
“เช่นนั้นคงต้องขอบคุณเหลียงต้าเกอแล้วขอรับ!” เจียงหงหย่วนประสานมือให้ “ไว้พวกเราค่อยนัดกันไปดื่ม!”
“ได้ พวกเราดื่มด้วยกันก่อนข้าไป!” หลังจากวันที่สิบห้า เหลียงหู่ต้องไปประจำที่บ่อนในหัวเมืองอย่างเป็ทางการแล้ว แต่เขามีวันหยุดพักสองสามวันก่อนไปรายงานตัว หยุดเพื่อที่จะได้ย้ายบ้านและจัดการธุระในอำเภอให้เรียบร้อย
“ข้าได้ยินข่าวมาจากเบื้องบนว่าบ่อนไพ่นกกระจอกใกล้เสร็จแล้ว หลังวันที่สิบห้านี้น่าจะเปิดทำการ ถึงเวลานั้นพวกเราเตรียมรอนับเงินได้เลย” เหลียงหู่มีความสุขมากที่ได้รู้ข่าวนี้
“อืม ถือเป็ข่าวดีขอรับ” เจียงหงหย่วนพูด
“เ้าเองก็เตรียมตัวหน่อยเถิด หลังจากข้ากลับหัวเมืองไปแล้ว เถ้าแก่ใหญ่ต้องเรียกพบเ้าเป็แน่” เหลียงหู่กำชับ
เจียงหงหย่วนพยักหน้า “ขอรับ” เหลียงหู่กำลังชี้แนะเขา เตรียมตัวกระไรน่ะหรือ? ก็คือเตรียมของขวัญให้เถ้าแก่ใหญ่อย่างไรเล่า
รับพวกจ้าวสุ่ยเซิงเข้ามาทำงานในบ่อน ขณะเดียวกันก็รับ่ต่อคนสนิทสองสามคนมาจากเหลียงหู่ ่นี้เจียงหงหย่วนแลกเวรกับเหลียงหู่ คนหนึ่งกลับเร็ว คนหนึ่งกลับดึก วันนี้ถึงเวรที่เจียงหงหย่วนได้กลับเร็วพอดี เพิ่งต้นยามไฮ่[1]ก็กลับบ้านแล้ว
เจียงหงหย่วนกลับถึงบ้าน เห็นภรรยาตัวน้อยกำลังพิงหัวเตียงอ่านหนังสืออยู่ใต้ตะเกียง
“ระวังสายตาเสีย!” เจียงหงหย่วนดึงหนังสือจากมือนางไปวางด้านข้างแล้วขึ้นเตียงไปดึงนางเข้ามากอด
“ข้าจุดตะเกียงตั้งเยอะ สว่างจะตาย” หลินหวั่นชิวพูด “อีกอย่าง ข้าก็นอนไม่หลับ ไม่ให้อ่านหนังสือแล้วจะให้นอนเหม่อบนเตียงแทนหรือ?”
เจียงหงหย่วนจูบดวงตาทั้งสองข้างของนาง “ข้าควรทำอย่างไรกับเ้าดี?”
ทำอย่างไร?
ตามใจข้าสิ
“สุ่ยเซิงบอกว่าจะไปตามหาจ้าวหงฮวาที่หัวเมืองวันพรุ่ง ข้าบอกเจียงไฉไปแล้วว่าเช้าวันพรุ่งให้แวะรับสุ่ยเซิงสองแม่ลูกไปหัวเมืองด้วยกัน จริงสิ เหลียงต้าเกอช่วยเขียนจดหมายให้ ข้ามอบให้เจียงไฉแล้ว เหลียงต้าเกอจะช่วยแนะนำนายหน้าขายบ้านที่เชื่อถือได้ให้ มีคนรู้จักช่วยแนะนำ การซื้อบ้านจะได้ง่ายขึ้น”
“เช่นนั้นก็เยี่ยมไปเลย” หลินหวั่นชิวพูด นางนึกถึงท่าทีลนลานของป้าสองจ้าวแล้วเศร้าสลดเล็กน้อย “ปกติป้าสองจ้าวดูจะรักลูกชายมากกว่าลูกสาว แต่พอจ้าวหงฮวาหายไป คนที่ร้อนใจที่สุดในบ้านจ้าวก็คือนาง”
“คงได้แต่โทษว่าจ้าวหงฮวาใจโหด โหดถึงขั้นทอดทิ้งได้แม้กระทั่งพ่อแม่ เื่นี้เ้าไม่ต้องสนใจ มันไม่ใช่เื่ที่เราจะเข้าไปยุ่งได้”
จ้าวหงฮวาปองร้ายภรรยาตัวน้อย เขาไม่ลงมือฆ่าอีกฝ่ายก็ถือว่าปราณีแล้ว
แต่แน่นอนว่าที่ภรรยาตัวน้อยไม่ให้เขาทำสิ่งใดก็เป็หนึ่งในสาเหตุเช่นกัน
“ข้ารู้แล้ว” หลินหวั่นชิวถูใบหน้าเข้ากับอกเจียงหงหย่วน “แค่รู้สึกไม่สบายใจ การที่ลูกเติบโตมาเป็คนไม่ดีก็เป็ความผิดพ่อแม่เช่นกัน ไม่ว่าผู้ใดก็เป็มนุษย์ผู้มีความรู้สึกนึกคิด ป้าสองจ้าวรักลูกชายมากกว่าลูกสาว จ้าวหงฮวาต้องโกรธเคืองนางเป็แน่ ยิ่งผ่านไปนานวัน ความเห็นแก่ตัวและชั่วร้ายจึงก่อตัวขึ้น ไว้พวกเรามีลูก พวกเราต้องสอนให้ดี ต้องรักลูกให้เท่ากัน ไม่ว่าจะลูกชายหรือลูกสาว”
คำพูดของภรรยาตัวน้อยทำให้บุปผาในใจเจียงหงหย่วนเบ่งบาน ฟังจากที่นางพูด…ภรรยาตัวน้อยยินดีมีลูกให้เขา ทั้งยังไม่ใช่แค่คนเดียว!
“อืม เื่ในบ้านเราให้เ้าเป็คนตัดสิน!” เขาพูดจบก็ประคองหน้านางขึ้นมาจูบ “ดึกแล้ว นอนกันเถิด…”
เชิงอรรถ
[1] ยามไฮ่(亥时) คือเวลา 21:00 น. – 23:00 น.
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้