เมื่อป้าหวังพูดออกไปเช่นนี้ ชาวบ้านที่กำลังดูเื่ครึกครื้นกันอยู่เมื่อครู่ก็คล้ายจะนึกขึ้นได้ในที่สุดว่าซ่งอวี้ก็เป็คนในหมู่บ้านของพวกเขาเอง จึงเริ่มคิดอย่างมีตรรกะ
จริงด้วย หากซ่งอวี้เข้าไปในอำเภอ เช่นนั้นก็ต้องเดินผ่านทั้งหมู่บ้าน เป็ไปไม่ได้ที่จะไม่มีใครเห็นนาง สาวใช้ของนางไม่จำเป็ต้องโกหก เพียงแค่ถามคนในหมู่บ้านก็ได้คำตอบแล้ว
อาฝูเห็นว่าสถานการณ์สงบลงแล้วจึงหาโอกาสพูดบ้าง "ทุกท่าน วันนี้คุณหนูของข้าไม่อยู่ที่เรือนจริงๆ หากพวกท่านไม่เชื่อ ลองไปถามท่านปู่หนิวที่อยู่หน้าหมู่บ้านก็ได้ วันนี้เป็วันที่ท่านปู่หนิวขี่เกวียนเข้าไปอำเภอ ก่อนไปคุณหนูของข้าบอกว่าเดินไปอำเภอเหนื่อยเกินไป ทั้งยังเสียเวลา คุณหนูจะไปนั่งเกวียนของท่านปู่หนิว"
อาฝูไม่อาจปล่อยให้แม่สื่อจ้าวพูดพล่ามได้อีกแล้ว ขืนปล่อยให้นางชักนำทุกคน เช่นนั้นคุณหนูของตนก็จะกลายเป็ 'คนหยิ่งผยองดูถูกชาวบ้าน' ในสายตาของทุกคน
ครั้งนี้อาฝูไหวตัวเร็ว ป้าหวังจึงรู้สึกขัดหูขัดตาน้อยลงเล็กน้อย แล้วอธิบายตาม "จริงด้วย เื่นี้ง่ายนิดเดียว เพียงแค่มีคนไปถาม ความจริงก็เปิดเผยแล้ว หากแม่สื่อจ้าวไม่เชื่อ ข้าช่วยเ้าได้ ประเดี๋ยวข้าจะไปถามภรรยาของตระกูลหนิวให้ ดูสิว่าวันนี้ยัยหนูซ่งได้ไปที่เรือนของพวกเขาหรือไม่ เพียงแค่ถามเื่ทุกอย่างก็ชัดเจนแล้ว"
แม่สื่อจ้าวมองเหตุการณ์ที่เดิมทีกำลังเอนเอียงมาทางนาง แต่ตอนนี้กลับเบนกลับไปเพราะคำพูดเพียงไม่กี่คำของป้าหวัง จึงอดไม่ได้ที่จะบ่นในใจ 'ไม่ใช่กระมัง หรือว่าซ่งอวี้จะไม่อยู่ที่เรือนจริงๆ?'
นางยังคงไม่ยอมแพ้ เอาแต่พร่ำถามตนเองในใจ ทว่าช่างบังเอิญยิ่งนัก บริเวณนี้เกิดเื่ใหญ่ครึกครื้นเช่นนี้ ชาวบ้านที่ไม่ได้อาศัยอยู่ละแวกนี้ต่างก็มาดูด้วยความสนใจ หนึ่งในนั้นรวมถึงภรรยาตระกูลหนิวที่ป้าหวังพูดถึงเมื่อครู่นี้ด้วย
ภรรยาตระกูลหนิวที่เพิ่งมาถึง ยังไม่รู้ว่าเกิดเื่อะไรขึ้น เมื่อเห็นสายตาของทุกคนจับจ้องมาที่ตนเอง ก็อดที่จะสงสัยไม่ได้
เกิดเื่อะไรขึ้น? หรือเื่ที่เกิดขึ้นวันนี้เกี่ยวข้องกับนาง?
ป้าหวังเห็นความฉงนของนางจึงอธิบายเื่ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ให้ฟัง จากนั้นค่อยพูดขึ้น "เ้าก็ช่างบังเอิญยิ่งนัก พวกข้ากำลังคิดว่าจะไปถามเ้า เพื่อไม่ให้แม่สื่อจ้าวเข้าใจซ่งอวี้ผิด แล้วเ้าก็เดินมาพอดี พวกข้าไม่ต้องเสียเวลาถ่อไปหาเ้าถึงที่เรือนแล้ว"
เมื่อภรรยาตระกูลหนิวได้ยินว่าไม่ใช่เื่ของตน นางก็โล่งอกขึ้นมาทันที ทั้งยังมีอารมณ์พูดล้อเล่น "พูดอะไรกัน ข้าได้ยินเสียงพวกท่านั้แ่ที่ไกลๆ ข้าเองก็ตามทุกคนมา ในเมื่อป้าหวังมีเื่จะถามข้า เช่นนั้นก็ถามเถอะ หากข้ารู้ข้าย่อมบอกท่านทุกอย่างอยู่แล้ว"
เมื่อครู่ตอนที่หวังเสี่ยวลิ่วมากระซิบบอกป้าหวัง เขาบอกแล้วว่าวันนี้ซ่งอวี้เข้าไปในอำเภอจริงๆ ด้วยเหตุนี้ป้าหวังจึงไม่ร้อนตัวแม้แต่น้อย นางพูดขึ้นเสียงดัง
"ได้ พวกเราเป็เพื่อนบ้านกัน อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกันมานานหลายปี ข้าเองก็ไม่พูดอ้อมค้อมแล้ว แม่สื่อจ้าวคิดว่าพวกเราหลอกนาง เ้าได้โปรดเป็พยาน บอกทุกคนว่าวันนี้ยัยหนูซ่งไปหาสามีของเ้า นั่งเกวียนของสามีเ้าหรือไม่? ยัยหนูซ่งได้เข้าไปในอำเภอหรือไม่? ไปนานเพียงใด? เ้าบอกเื่ทั้งหมดกับพวกข้าเถอะ ช่วยพวกข้าตัดสินเื่นี้"
ภรรยาตระกูลหนิวเป็คนตรงไปตรงมา หลังจากครุ่นคิดครู่หนึ่ง นางก็พูดขึ้น "เื่นี้ไม่ยาก คนมานั่งเกวียนในวันนี้มีไม่มาก ตอนยัยหนูซ่งมา ข้ากำลังคลุมเกวียนพอดี ทั้งยังได้พูดคุยกับนาง น่าจะสองชั่วยามก่อนหน้านี้กระมัง ในตอนหลังพอคนมาครบกันแล้ว เกวียนก็ขับออกไป คำนวณเวลาแล้ว น่าจะถึงอำเภอประมาณหนึ่งชั่วยามแล้ว"
เวลานี้ ทุกคนเข้าใจทันที เื่ที่เกิดขึ้นวันนี้แม่สื่อจ้าวสร้างเื่ขึ้นมาเอง ซ่งอวี้ไม่ได้อยู่บ้าน แล้วจะตรวจรักษานางได้อย่างไร?
แรกเริ่มบอกว่าซ่งอวี้เป็คนหยิ่งผยองดูถูกชาวบ้าน ไล่นางออกมา เวลานี้นางพูดจาเหลวไหลเองทั้งนั้น
ดวงหน้าของป้าหวังฉายรอยยิ้ม ดูได้ใจเล็กน้อย
"ดูเล่า แม่สื่อจ้าว ข้าบอกแล้วว่าซ่งอวี้ไม่ใช่คนเช่นนั้น เ้าต้องเข้าใจผิดแน่ๆ ซ่งอวี้ไม่อยู่ในเรือน แล้วจะตรวจรักษาเ้าได้อย่างไร?"
"ข้าว่าหากเ้าไม่สบายจริงๆ เช่นนั้นอย่าประหยัดเงินเลย ไปหาหมอในอำเภอยังจะเร็วกว่า เ้าจะได้ไม่ต้องเสียเวลาหาหมอด้วย"
คราวนี้แม่สื่อจ้าวถือว่าอับอายขายหน้ายิ่งนัก
ทุกคนไม่สงสารนางแล้ว แต่กลับเข้าข้างซ่งอวี้ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีคนพูดอีกว่า "นางคงมีความแค้นกับยัยหนูซ่งกระมัง ถึงได้อยากใส่ร้ายยัยหนูซ่ง?"
สุดท้ายแม่สื่อจ้าวก็รีบวิ่งแจ้นออกไปจากหมู่บ้านเสี่ยวหนิวทันที
ท่ามกลางเสียงร้องของทุกคน นางรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งใบหน้า
เสียหน้าในหมู่บ้านเสี่ยวหนิวครั้งนี้เกรงว่าวันหน้าคนที่จะให้นางช่วยเป็แม่สื่อคงจะน้อยลง ถือว่าขาดทุนอย่างมาก ทั้งยังไม่อาจกู้หน้ากลับมาได้ด้วย
ซ่งอวี้ที่กำลังกลับเรือนไม่รู้เลยว่าเมื่อครู่หน้าบ้านของตนเกิดเื่ขึ้น นางกำลังคิดว่าพรุ่งนี้จะจัดสรรห้องหับให้สองคนที่จะมาอย่างไร
ในเรือนมีผู้ชายเพิ่มขึ้นสองคน ต้องมีข้ออ้างที่เหมาะสม มิเช่นนั้นน้ำลายของคนในหมู่บ้านคงจะทำให้นางจมน้ำลายตายได้
ครุ่นคิดอยู่นาน ซ่งอวี้ก็รู้สึกว่าอ้างว่าซื้อบ่าวรับใช้มาน่าจะเป็การดีที่สุด แล้วค่อยบอกเหตุผลว่าซื้อมาเฝ้าเรือน น่าจะพูดให้คนพอใจได้
ความจริงแล้ว หากวันนี้นางไม่ออกจากเรือนก็ไม่ต้องเหนื่อยหาข้ออ้างแล้ว การก่อกวนของแม่สื่อจ้าวเพียงพอที่เป็ข้ออ้างของนางแล้ว
ซ่งอวี้นั่งอยู่บนเกวียนที่โคลงเคลงไปมา ครุ่นคิดเงียบๆ นางมาถึงหมู่บ้านเสี่ยวหนิวอย่างไม่รู้ตัว แค่ไม่รู้ว่านางรู้สึกไปเองหรือไม่ว่าสายตาของชาวบ้านที่มองนางคล้ายมีบางอย่างผิดปกติ
เป็สายตาที่เคล้าไปด้วยความสงสาร พินิจพิเคราะห์ และดูห่างเหิน กล่าวโดยสรุปสายตาของชาวบ้านมีหลากหลายอารมณ์ปนเปกัน จู่ๆ ซ่งอวี้ก็มีลางสังหรณ์ไม่ดี
หลังจากกลับถึงเรือน ลางสังหรณ์ไม่ดีนี้ก็กลายเป็ความจริงแล้ว
"เ้าบอกว่าวันนี้แม่สื่อจ้าวมาก่อความวุ่นวายที่เรือน?" ซ่งอวี้ขมวดคิ้วเป็ปม สีหน้าเคร่งเครียดเล็กน้อย "พูดมา เกิดเื่อะไรขึ้นกันแน่"
เพราะสาเหตุนี้สายตาของชาวบ้านที่มองมาที่นางเมื่อครู่ นางไม่ได้คิดไปเอง?
เพียงแค่คิดไม่ถึงว่าแม่สื่อจ้าวจะไม่มีความอดทนเช่นนี้ เมื่อวานเพิ่งพูดคุยกับป้าหวัง วันนี้ก็มาหาเื่นางแล้ว
ดูเหมือนว่านางต้องเริ่มแผนเร็วขึ้นแล้ว รอพรุ่งนี้ซื้อสองคนนั้นกลับมาก็ทำตามแผนการทันที เวลานี้นางไม่อยากอดทนกับตระกูลฉีและแม่สื่อจ้าวแม้แต่น้อย
หลังจากอาฝูและเสี่ยวหมานออกไป ซ่งอวี้ก็หยิบห่อผ้าและจดหมายที่ท่านจ้าวให้นางมา มาที่ห้องของหรงจิ่ง
"นี่คือสิ่งที่ท่านจ้าวเตรียมเอาไว้ให้ท่าน จดหมายนี่ก็เช่นเดียวกัน ท่านดูเอาเองเถอะ"
หรงจิ่งรับห่อผ้าและจดหมายอย่างมีมารยาท ยามเขาเผชิญหน้ากับซ่งอวี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาไม่เคยลดน้อยลงเลย
"คุณหนูซ่ง ขอบคุณยิ่งนัก"
ขณะพูด หรงจิ่งรับจดหมายฉบับนั้น ทว่ากลับคืนห่อผ้ามาให้ซ่งอวี้ "อันนี้ แม่นางเก็บไว้เถอะ ข้าไม่จำเป็ต้องใช้"
ซ่งอวี้ชะงัก "ท่านอาจารย์ให้ท่าน ท่านจะให้ข้าทำไม?" ขณะพูด ซ่งอวี้คิดอยากจะดันกลับไปให้เขา