ซ่งฉางชิงหันมองกู้ซินเยว่เพียงเห็นกู้ซินเยว่มองเขาด้วยท่าทีเหนียมอาย ดวงหน้างดงาม แววตาแฝงเร้นด้วยประกายความรักเมื่อััได้ว่าซ่งฉางชิงมองอยู่ กู้ซินเยว่รีบก้มหน้าลงด้วยความขวยเขิน ใบหน้าแดงจนถึงใบหู ซ่งฉางชิงขมวดคิ้วเล็กน้อยจนแทบจับสังเกตไม่ได้ เข้าใจความหมายของฮูหยินเฒ่ากู้ทันที
“ข้ารู้สึกว่าเสื้อตัวนี้ตรงนี้แน่นไปหน่อย” ซ่งฉางชิงยกแขนขึ้น กล่าวด้วยท่าทางเสียดาย
ฮูหยินเฒ่ากู้มองโดยละเอียด“แน่นเกินไปนิดจริงด้วย! ถ้าอย่างไรเ้าถอดออก ข้าจะนำไปให้ฮวาหม่านยีแก้ใหม่”
ซ่งฉางชิงยิ้มพร้อมกล่าว“ไม่ต้องรบกวนท่านแม่แล้ว ที่นี่ก็ไม่ได้ห่างจากฮวาหม่านยี หากมีเวลา ข้าไปด้วยตัวเองให้ฮวาหม่านยีวัดขนาดร่างกายเพื่อตัดเย็บไม่ดีกว่าหรือ? ”
ฮูหยินเฒ่ากู้พยักหน้า“ที่เ้าพูดก็ถูก เช่นนั้นเ้ามีเวลาว่างก็ไปด้วยตัวเองแล้วกัน”
“ญาติผู้พี่ ข้าก็มีของสิ่งหนึ่งจะมอบให้ท่านเ้าค่ะ”กู้ซินเยว่ถือของชิ้นหนึ่งไว้ในมือ เดินขึ้นหน้า ยื่นส่งให้ซ่งฉางชิง
ซ่งฉางชิงขมวดคิ้วเล็กน้อย“ที่ข้ามีทุกสิ่งแล้ว ญาติผู้น้องไม่จำเป็ต้องเสียเงินซื้อมา”
กู้ซินเยว่ “ญาติผู้พี่นี่ไม่ใช่ของล้ำค่าอะไร เป็เพียงตำราหนึ่งเล่ม ข้าได้ยินมาว่าตำราเล่มนี้ไม่เพียงแต่โด่งดังในเมืองโยวหลันที่อำเภอกว่างชางก็เป็ที่ชื่นชอบกันมาก ไม่รู้ว่าญาติผู้พี่ซื้อมาหรือยัง ซินเยว่เห็นว่าน่าอ่านจึงซื้อมาเล่มหนึ่งเพื่อมอบให้ญาติผู้พี่ นี่เป็เล่มแรก ยังมีเล่มที่สองกับเล่มที่สามหากวางขายเมื่อไร ซินเยว่จะนำมาให้ญาติผู้พี่ทันทีเ้าค่ะ”
ตำรา?
พอซ่งฉางชิงได้ยินว่าเป็ตำราคิ้วที่ขมวดเป็ปมจึงผ่อนคลายลงเล็กน้อย ใช้มือทั้งคู่รับมา เอ่ยประโยคหนึ่งอย่างหาได้ยากนัก"เช่นนั้นก็ขอบใจญาติผู้น้องมาก! "
ท่าทีดีกว่าท่าทางเ็าเมื่อครู่นี้มากนัก
"ญาติผู้พี่และท่านป้าดีต่อซินเยว่ถึงเพียงนี้มอบตำราเล่มหนึ่งให้ญาติผู้พี่ ไม่ใช่ของล้ำค่า จะรับคำขอบคุณได้อย่างไรเ้าคะ! "
กู้ซินเยว่รู้สึกยินดีอยู่ในใจเฝ้ารอคอยให้ถึงเวลาที่จะได้มอบเล่มต่อไปแล้ว
ฮูหยินเฒ่ากู้มองอยู่ข้างๆด้วยท่าทางชื่นใจ ภายในใจก็รู้สึกเบิกบานใจยิ่งนัก
หลานสาวคนนี้ชอบฉางชิงจริงๆไม่อย่างนั้น คงไม่เอาเวลาไปคิดเื่ของเขา เช่นนี้ก็ดี จะได้สนิทชิดเชื้อกันยิ่งขึ้น
เพียงแต่ไม่รู้ว่า ฉางชิงคิดเห็นเช่นไร!
เขามีท่าทางเรียบสงบต่อทุกสิ่งไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น คนที่จะครองคู่กันชั่วชีวิต อย่างไรก็ต้องมีใจให้กัน ถึงจะครองรักได้อย่างยืนยาว!
ใกล้ถึง่เที่ยงแล้วลูกค้าที่จะมาทานมื้อเที่ยงก็ทยอยกันมา ทุกคนในเซียนจวีโหลวกำลังจะมีงานยุ่งแล้ว ซ่งฉางชิงจะไปชั้นล่างย่อมต้องส่งฮูหยินเฒ่าออกไป
ฮูหยินเฒ่ากู้จับมือซ่งฉางชิงพร้อมกำชับให้เขาดูแลตัวเองให้ดีซ่งฉางชิงขานตอบ กู้ซินเยว่ที่อยู่ข้างๆ รวบรวมความกล้าอยากจะกล่าวอะไร แต่พอเห็นว่าซ่งฉางชิงไม่มองนางด้วยซ้ำคำพูดมากมาย สุดท้ายก็กล่าวไม่ออกแม้แต่คำเดียว
ฮูหยินเฒ่ากู้ขึ้นรถม้ากู้ซินเยว่ตามขึ้นไป
ซ่งฉางชิงยืนอยู่ข้างๆ
กู้ซินเยว่รวบรวมความกล้าพูดออกมาหนึ่งประโยค"ญาติผู้พี่ ท่านป้าอยู่บ้านคิดถึงท่านทุกวัน ท่านกลับไปเยี่ยมท่านป้าบ่อยๆ นะเ้าคะ"
กล่าวจบ เมื่อเงยหน้าขึ้นข้างรถม้ายังมีเงาร่างของซ่งฉางชิงที่ไหนกัน
มองไปอีกที เห็นเพียงซ่งฉางชิงเดินไปถึงบันไดแล้ว
จากรถม้าถึงบันได เป็ระยะทางเท่ากับเวลาที่นางกล่าวประโยคนั้นพอดี
เขาไม่ได้ยินที่นางพูดกับเขาหรือว่าได้ยินแล้วแสร้งทำทีเป็ไม่ได้ยินกันแน่
พอคิดถึงความเป็ไปได้อย่างหลังกู้ซินเยว่กลัวจนขาอ่อนแรง ขณะขึ้นรถม้าไม่ทันระวังจึงสะดุด จื่อเยียนที่อยู่ข้างหลังเห็นเข้าจึงรีบประคองนางไว้ "คุณหนู..."
กู้ซินเยว่กัดริมฝีปากแน่นริมฝีปากที่ผ่านการบรรจงแต่งแต้มถูกนางกัดจนแทบไม่มีสีเื ทว่า เพียงชั่วพริบตาเดียวนางก็กลับคืนสู่สภาวะปกติ เปิดม่านเข้าไป แววตาฉายประกายรู้สึกผิดและตำหนิตัวเอง คุกเข่าลงตรงหน้าฮูหยินเฒ่ากู้ดังฟุ่บ
ฮูหยินเฒ่ากู้เห็นดังนั้นก็รีบยื่นมือไปพยุงนาง เอ่ยถามด้วยความห่วงใย "ซินเยว่ เ้าเป็อะไรไป? เหตุใดสีหน้าถึงดูแย่นัก? "
กู้ซินเยว่ส่ายหน้า"ไม่เป็อะไรเ้าค่ะ ท่านป้า ข้าเพียงแค่… เพียงแค่รู้สึกผิดต่อท่านเ้าค่ะ! "
"เด็กโง่ มีอะไรให้รู้สึกผิดกัน!" ฮูหยินเฒ่ากู้นึกว่านางยังรู้สึกผิดเื่ที่เมื่อครู่นางเกือบลื่นล้ม"ข้าก็ไม่ได้เป็อะไรไม่ใช่หรือ! "
"หากไม่ได้ฮูหยินเซียวช่วยไว้ท่านป้า ข้ากลัวท่านจะได้รับาเ็จริงๆ เ้าค่ะ หากท่านาเ็ ซินเยว่ก็จะเป็คนบาปที่สุด!" กู้ซินเยว่สะอื้นไห้ พิงอยู่ในอ้อมอกของฮูหยินเฒ่ากู้ ร่ำไห้ด้วยความเสียใจ
ฮูหยินเฒ่ากู้ตบศีรษะของนางเบาๆ"ไม่เป็อะไร เด็กโง่ ป้ารู้ว่าเ้าไม่ได้ตั้งใจ"
"แต่ว่า ญาติผู้พี่เขา..."พอคิดถึงท่าทีของซ่งฉางชิงเมื่อครู่นี้ กู้ซินเยว่ก็รู้สึกเศร้าใจนัก หยาดน้ำตาไหลลู่ลงมาอย่างไม่อาจหยุดได้
"ไม่ต้องกังวล ญาติผู้พี่ของเ้าก็เป็คนเช่นนี้เ้าไม่เห็นหรือ? ตอนเ้ามอบตำราให้เขาถึงแม้เขายังคงเ็า แต่ข้าดูออกว่าเขาดีใจมาก" ฮูหยินเฒ่ากู้กล่าว "ดังนั้นครั้งหน้าเ้าพบเขา ก็คุยเื่ที่เขาสนใจ เขาก็จะคุยมากขึ้นเอง"
กู้ซินเยว่พยักหน้า"เช่นนั้นท่านป้า กลับไปข้าจะอ่านซีโหยวจี้เล่มนั้นอีกหลายๆ รอบ ครั้งหน้าจะได้มีเื่คุยกับญาติผู้พี่เ้าค่ะ"
"เ้าจริงใจต่อเขาเขาย่อมรับรู้ได้ถึงความหวังดีของเ้า! " ฮูหยินเฒ่ากู้ตบมือนางเบาๆ กล่าวด้วยความชื่นใจ
แววตาของกู้ซินเยว่ดูอ่อนโยนก้มหน้าลงด้วยความเหนียมอาย แต่ยามฮูหยินเฒ่ากู้ไม่ได้มอง ประกายแสงเย็นเยียบในแววตานางกลับทำให้คนหนาวสะท้าน
ญาติผู้พี่ที่มีความสามารถมากล้นทั้งยังมีรูปลักษณ์หน้าตาดี มีทั้งทรัพย์สินเงินทองและอำนาจบารมีผู้นี้ ต้องเป็ของนางเท่านั้น!
วันนี้กิจการของเซียนจวีโหลวดีเป็พิเศษซ่งฉางชิงทำงานอยู่ข้างล่างถึงยามซวี [1] จึงส่งลูกค้ากลุ่มสุดท้ายเสร็จ
ยืนอยู่หน้าโต๊ะคิดเงินจดบันทึกบัญชีรายการสุดท้ายก่อนคำนวณบัญชีรายรับรวมของวันนี้จนเสร็จ ซ่งฉางชิงจึงนวดคลึงหว่างคิ้ว กลับขึ้นชั้นบนคิดจะพักผ่อนแล้ว
ซ่งฝูยกน้ำร้อนมา ซ่งฉางชิงไม่้าให้เขาปรนนิบัติเพียงยืนอย่างเงียบสงบอยู่ข้างๆ
ซ่งฉางชิงบิดผ้าเช็ดหน้าสะอาดล้างมือและล้างหน้าเสร็จ จึงให้ซ่งฝูออกไป "เ้าก็รีบไปอาบน้ำพักผ่อน วันนี้ทุกคนล้วนเหนื่อยแล้ว"
ภายในห้องเหลือซ่งฉางชิงเพียงคนเดียวถอดรองเท้าและถุงเท้าออก แช่เท้าในอ่างไม้ที่มีน้ำอุ่นจนค่อนข้างร้อน เริ่มกิจวัตรประจำวันที่เขาทำอยู่ทุกวันคือการแช่เท้า
ไม่ว่าจะดึกเพียงใด เขาก็จะแช่เท้าครู่หนึ่ง
ในยามปกติ เขาจะแช่เท้าไปพลางหลับตาพักผ่อนไปพลางวันนี้นอนลงครู่หนึ่ง ก็ลุกขึ้น ยื่นมือไปหยิบตำราที่กู้ซินเยว่มอบให้ในวันนี้
แกะห่อด้านนอกออก สิ่งที่ปรากฏสู่สายตาคือตัวอักษรขนาดใหญ่สามตัวที่งามสง่าประหนึ่งัเหินหงส์ร่ายรำ ‘ซีโหยวจี้’ และด้านข้าง เป็ชื่อของผู้แต่ง ‘คุณชายหลัวยวี่’
ซีโหยวจี้?
ซ่งฉางชิงกล่าวพึมพำ"เหตุใดถึงไม่เคยได้ยินชื่อตำราเล่มนี้มาก่อน? "
เมื่อเปิดดูหน้าแรก ซ่งฉางชิงลุกจากเก้าอี้นอนขึ้นมานั่งทันที
เชิงอรรถ
[1] ยามซวี คือ 1 ใน 12 ชั่วยามของจีนเป็่เวลาระหว่าง 19.00 - 21.00 น.
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้