ดังนั้นพื้นฐานทั่วไปนั่นก็อาจจะมีความเกี่ยวข้องอะไรสักทางกับเหวินกวนจิ่งอย่างนั้นเหรอ?
หลินลั่วหรานรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา ดูจากท่าทางของท่านเทพป๋ายแล้วตอนนี้ยังไม่อยากจะถามเจาะลึกถึงจุดประสงค์ของเธอนักหลินลั่วหรานจึงได้แต่ข้ามหัวข้อการสนทนานี้ไป
ในตอนนั้นเอง เธอเห็นว่าเสี่ยวจินบินขึ้นไปเฝ้าระวังอยู่้าหลีซีเอ๋อร์เองก็กินลูกท้อจนอิ่มหนำแล้ว จึงวิ่งมายังข้างกายของหลินลั่วหราน
หลินลั่วหรานหันสายตาไปมองที่แท้ก็เป็ลิงกลุ่มหนึ่งที่มาจากด้านล่างของเนินเขา มันโหนไปมาอยู่ระหว่างต้นท้อแถมยังวิ่งเร็วมากด้วย
ความจริงแล้ว ป่าต้นท้อแห่งนี้เป็พื้นที่ของลิงเหล่านี้อยู่ก่อนแล้วอีกทั้งเพราะลูกท้อบนยอดเขานี้ก็มีรสชาติที่อร่อยมาก บางครั้งพวกลิงเองก็ยังทำใจกินเข้าไปไม่ได้ตอนแรกมีลิงตัวหนึ่งพบพวกเขาเข้าที่เนินเขา เลยรีบวิ่งไปแจ้งข่าวให้ตัวอื่นรู้สุดท้ายก็พาเหล่ากองทัพลิงขึ้นมาที่นี่
ลิงพวกนี้ดูท่าทางดุร้าย แต่กลับกลัวพลังของเสี่ยวจินพวกมันจึงหยุดอยู่ในระยะไกล ลิงที่เป็ผู้นำตัวหนึ่งกัดฟันแน่นแต่มันก็ไม่อยากจะหยุดอยู่เพียงแค่นี้ คิดอยู่สักพักสุดท้ายมันก็เลือกที่จะเก็บลูกท้อบนต้นลงมา ก่อนจะปามาที่พวกหลินลั่วหราน
กองทัพลิงเมื่อเห็นแบบนั้นก็ทำตาม มันค่อยๆพากันเก็บลูกท้อแล้วปาออกไปบ้าง เริ่มต้นการโจมตีระยะไกล หวังว่าจะไล่พวกหลินลั่วหรานออกไปได้
ณ ตอนนั้นก็ได้ยินเพียงแค่เสียงร้องของฝูงลิงทั่วทั้งท้องฟ้าเต็มไปด้วยลูกท้อและใบไม้ ลูกะุของกองทัพลิงนั้นมีอยู่มากมายการโจมตีก็นับได้ว่าดูรุนแรง
แน่นอนว่าลูกท้อพวกนั้นไม่อาจจะปามาถึงตัวหลินลั่วหรานได้ แต่กลับทำให้เสี่ยวจินโมโหขึ้นมากรงเล็บของมันกางออก พร้อมที่จะเข้าไปฉีกเ้าลิงเ่าั้ให้กระจุยเป็ชิ้นๆแต่ก็ถูกหลินลั่วหรานห้ามเอาไว้เสียก่อน
มีเชือกวิเศษอยู่ข้างกาย ของอย่างลูกท้อก็ไม่อาจจะทำอะไรหลีซีเอ๋อร์ได้อีกทั้งเธอกลับรู้สึกว่าลิงพวกนี้นั้นช่างน่ารักจึงเห็นด้วยอย่างมากที่หลินลั่วหรานห้ามเสี่ยวจินเอาไว้
เมื่อเห็นว่าเสี่ยวจินโมโหขึ้นมาแล้ว หัวหน้าลิงก็ส่งเสียงหวีดร้องขึ้นก่อนที่ฝูงลิงทั้งหลายจะปาท้อในมือทิ้ง แล้ววิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
“รุ่นพี่ พวกมันดูน่าสนุกกันจัง พวกเราตามมันไปดูรังมันกันสักหน่อยไหม?”
หลีซีเอ๋อร์เป็พวกกระตือรือร้นชอบเล่นมาั้แ่เกิดหลินลั่วหรานเองก็มาที่สถานที่ลึกลับเพื่อเพิ่มความรู้ให้ตัวเองจึงเห็นด้วยกับข้อเสนอของเธอ
เื่ง่ายๆ อย่างการวิ่งและะโนั้นเป็เื่ที่หลีซีเอ๋อร์เองก็ทำได้ดังนั้นจึงไม่ต้องลำบากเสี่ยวจิน ทั้งสองต่างก็วิ่งและะโไปตามแนวต้นไม้ตามติดกองทัพลิงไปโดยรักษาระยะห่างเอาไว้ให้อยู่ในระยะสายตา
ฝูงลิงหันกลับมามองพวกเธอเป็ระยะเมื่อเห็นว่าทั้งสองยังคงตามมาก็โมโหมากขึ้น มันหันมายิงฟันขู่ให้ใก่อนจะรีบวิ่งให้ไวขึ้น
ทั้งสองคนวิ่งตามมาจนข้ามมาที่เขาอีกลูก ในป่ามีต้นไม้ขึ้นหนาแน่นจึงส่งผลกระทบของความเร็วของพวกเธอ เมื่อออกมายังที่กว้างอีกครั้งพวกลิงก็หายไปหมดแล้ว หลีซีเอ๋อร์ร้อนใจ แต่หลินลั่วหรานกับแสดงออกให้เธอใจเย็นๆเอาไว้ก่อน
เสี่ยวจินนั้นมองมาจาก้าอยู่ตลอด ตอนนี้จึงมีประโยชน์ขึ้นมาแล้วทั้งสองจึงตามติดไปในทิศทางเดียวกันกับเสี่ยวจิน
เมื่อมาถึงโพรงเขาที่มีหินประหลาดๆ อยู่หลินลั่วหรานก็ได้ยินเสียงน้ำไหลขึ้นมา เมื่อแหวกต้นไม้ออกดูก็พบว่ามันคือน้ำตกขนาดใหญ่ ไม่มีลิงสักตัวอยู่ที่นี่แต่เสี่ยวจินกลับบินอยู่้าน้ำตกไม่ออกห่างไปไหน
หลินลั่วหรานหันไปหาหลีซีเอ๋อร์ ก่อนที่ทั้งสองจะพูดขึ้นมาพร้อมกัน
“ถ้ำน้ำตก?”
“ถ้ำน้ำตก!”
ฮ่าๆ ที่แท้ก็คิดเหมือนกันเลยเหมือนว่าที่ไซอิ๋วเขียนเอาไว้จะอ้างอิงมาจากความจริงนะ หลินลั่วหรานนำไปด้านหน้าก่อนที่กลุ่มลิงจะพุ่งตัวออกมาจากม่านน้ำตก
เมื่อเห็นว่าในมือของพวกมันถือก้อนหินเอาไว้ สีหน้าเต็มไปด้วยความจริงจังเธอและหลีซีเอ๋อร์เพียงแค่เล่นอะไรแบบเด็กๆ เท่านั้นแต่ดูเหมือนว่าจะสร้างความกดดันอันใหญ่หลวงให้กับพวกลิงไปเสียแล้ว?
“ช่างเถอะ ถ้าเรายังจะดึงดันเข้าไปก็คงจะเป็การรบกวนพวกมันแล้วล่ะมั้ง?” หลินลั่วหรานตั้งใจว่าจะแนะนำให้หลีซีเอ๋อร์ออกไปแต่กลับเห็นลิงแก่ที่ทั้งสูงและตัวใหญ่เดินออกมาจากม่านน้ำตกโดยมีลิงตัวเล็กอีกตัวช่วยพยุงเอาไว้ มันเดินตัวตรงท่าทางดูเหมือนพวกผู้เฒ่าอะไรแบบนั้น!
เมื่อเห็นว่าลิงแก่ดูจะร่างกายไม่สู้ดีนักอีกทั้งยังโค้งคำนับให้กับพวกเธอทั้งสองด้วยความสุภาพหลินลั่วหรานจึงได้แต่ตกตะลึงจนนิ่งไป!
เมื่อเห็นว่าลิงแก่ทำท่าเชื้อเชิญพวกเธอด้วยความทุลักทุเลหลินลั่วหรานจึงไม่กล้าที่จะออกไปเลยในทันที อีกทั้งั้แ่ที่ลิงแก่ปรากฏตัวขึ้นแม้ว่าเหล่ากองทัพลิงจะยังถือหินเอาไว้ แต่สีหน้าก็ดูอ่อนลงไปมาก
คนที่เติบโตมาในยุคของการอ่านสี่สุดยอดวรรณกรรมของจีน1ต่างก็ไม่มีใครไม่อยากพบกับซุนหงอคงจากเขาฮวากั่วใช่ไหมล่ะ? หลีซีเอ๋อร์คือตัวแทนของการไม่คิดอะไรมากรู้เพียงแค่หลินลั่วหรานนั้นกำลังตั้งตารอในที่สุดหลินลั่วหรานก็ไม่อาจจะทนการเรียกร้องจากใจของตนเองได้เธอบอกให้เสี่ยวจินอยู่รอใกล้ๆ ก่อนจะเดินตามลิงแก่เข้าไปในถ้ำด้านหลังน้ำตก
เมื่อเดินผ่านน้ำตกเข้ามา เรือนผมของหลินลั่วหรานก็เต็มไปด้วยหยาดน้ำและนั่นก็ยิ่งทำให้เจาเสวี่ยที่ปักอยู่บนผมของเธอเปล่งประกายดึงดูดสายตามากขึ้น
นี่ดูราวกับอุโมงค์ยาวตามธรรมชาติ และเพราะว่าอยู่ใกล้กับน้ำตกทำให้อุโมงค์ขนาดสามคนเดินแห่งนี้ เต็มไปด้วยความชุ่มชื้นทำให้พวกเธอทั้งสองต้องยกกระโปรงขึ้นเวลาก้าวเดิน
ลิงแก่เดินนำทางอยู่ด้านหน้า พร้อมทั้งหันกลับมามองที่พวกเธอเป็ระยะหลินลั่วหรานเห็นว่าเมื่อมันรีบเดิน ก็ยิ่งหอบหายใจหนักขึ้นทำให้ในใจของหลินลั่วหรานไม่อาจจะทนต่อได้ เธอจึงตั้งใจเดินให้ช้าลงเพื่อให้ลิงตัวนี้เดินช้าลงตามแล้วรอพวกเธอ
ดูเหมือนว่าลิงแก่จะเข้าใจถึงเจตนาของหลินลั่วหรานมันจึงตั้งใจหมุนตัวมาหา พร้อมทั้งโบกมือปฏิเสธท่าทางเหมือนคนขึ้นมาอีกแต่ก็เริ่มเดินให้ช้าลง เพื่อให้ความร่วมมือกับการกระทำของหลินลั่วหราน
สองคนสองลิงเดินอยู่ในอุโมงค์ยาวอยู่นานหลีซีเอ๋อร์กลัวบรรยากาศที่เงียบสงบแบบนี้ แต่หลินลั่วหรานกลับรู้สึกได้ว่าด้วยทิศทางแล้ว ดูเหมือนว่าพวกเธอกำลังจะเดินเข้าไปยังใจกลางูเา?
หรือว่ารังของลิงพวกนี้จะอยู่กลางป่ากันนะ? หลินลั่วหรานนึกถึงบรรยากาศแบบนั้นแต่อุโมงค์แห่งนี้กลับดูไม่เห็นปลายทาง แต่ใครจะรู้ว่าเมื่อเลี้ยวมาอีกสองโค้งลิงแก่ก็พยายามดันประตูหินก้อนใหญ่ออกทันใดนั้นหลินลั่วหรานก็รู้สึกได้ถึงแสงที่สว่างเข้ามา
พวกเธอเดินตามลิงแก่เข้ามาในประตูหินทิวทัศน์ที่ปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเธอนั้นทำให้คนที่สงบนิ่งอยู่ตลอดอย่างหลินลั่วหรานยังอดที่จะรู้สึกสบายและมีความสุขขึ้นมาไม่ได้
นี่ต้องเป็ผลงานของเทพแห่งขวานแน่เลยใช่ไหม?!
มันคือถ้ำที่เปิดกว้างแห่งหนึ่ง ดูเหมือนว่าจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางราวๆ สองถึงสามร้อยเมตร มีความสูงกว่าสิบเมตรนับได้ว่าเป็ถ้ำที่ใหญ่มากแห่งหนึ่ง ในถ้ำนั้นมีแสงอาทิตย์ส่องผ่านเข้ามาอ่อนๆไม่ได้ดูมืดมนเลยแม้แต่นิดเดียว!
หินย้อยห้อยลงมาจาก้าของถ้ำ ตรงกลางมีต้นไม้ใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง ไม่รู้ว่ามีอายุมากี่พันปีกิ่งก้านใบของมันแผ่ขยายออกไปกว่าสี่ห้าเมตร้าของต้นสูงขึ้นไปจนถึงส่วนที่แสงอาทิตย์สาดส่องลงมาดังนั้นแสงอาทิตย์จึงถูกบดบังให้กระทบลงมาอย่างสลัวๆเมื่อกระทบเข้ากับเหล่าหินย้อยแล้ว ก็เกิดเป็รอยพาดผ่านอันสวยงาม
ลำต้นที่มีขนาดใหญ่นั้น ถูกเจาะให้กลายเป็โพรงมีหน้าต่างบานเล็กอยู่เต็มไปหมดอีกทั้งลิงแก่ยังเชื้อเชิญให้พวกเธอเข้าไปด้านในอีกด้วย
ลิงแก่แสดงท่าทาง “เชิญ” ออกมาหลินลั่วหรานกับหลีซีเอ๋อร์จึงเดินเข้าไปด้านใน
ด้านในห้องเต็มไปด้วยความสดชื่นอีกทั้งยังมีกลิ่นหอมของผลไม้ลอยอยู่ล้อมรอบไม่เหมือนกับสถานที่ที่ลิงอยู่อาศัยเลยสักนิด โอเคความจริงแล้วความรู้สึกที่ลิงแก่ตัวนี้มีให้ นอกจากที่ไม่ได้พูดภาษาคนแล้วก็ไม่ได้มีความแตกต่างอะไรไปจากพวกคนเลยสักนิด
ทั้งสองคนนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ในห้องสักพักก็ได้ยินเสียงร้องของลิงดังขึ้นจากด้านนอก เมื่อมองออกไปจากหน้าต่างที่แท้พวกลิงฝูงนั้นเองก็ตามเข้ามาด้วย ไม่เพียงเท่านั้น ในมือของพวกมันยังเต็มไปด้วยผลไม้หลากสีโดยให้พวกผู้นำส่งเข้ามาด้านใน
ไม่ได้มีเพียงแค่ลูกท้อเท่านั้น แต่ยังมีสาลี่ป่า กล้วยและก็ผลไม้ที่พวกเธอทั้งสองไม่เคยเจอมาก่อนอีกด้วย
ตอนที่กำลังกินผลไม้อยู่ ลิงแก่ก็ไอออกมาอีกหลินลั่วหรานไม่สบายใจเท่าไรนัก เมื่อมองไปยังเคราขนที่กลายเป็สีขาวน่าสงสารของมันก็อดไม่ได้ที่จะส่งสายตาอันแหลมคมเข้าไปสำรวจ...
เอ๋ ร่างกายของลิงแก่ตัวนี้มีพลังอยู่สมบูรณ์เลยนี่หรือว่าจะเป็สัตว์ฝึกศาสตร์ในตำนานกันนะ?
****************
1 สี่สุดยอดวรรณกรรมของจีน ได้แก่ สามก๊กซ้องกั๋ง ไซอิ๋ว ความฝันในหอแดง