ตกตะลึง น่าทึ่งเกินไปแล้ว
สิ่งที่เจียงเฉินตอบดั่งสายฟ้าฟาดลงมาใส่หัวของกั๋วฉาน ก่อนหน้านี้เขาได้พยายามที่จะปรุงโอสถิญญาหวง แต่เขาไม่สามารถที่จะผสมหญ้าบาเล่ย์และผลศิลาหวงรวมเข้าด้วยกันได้ผลลัพธ์ที่ออกมาทำให้เตาเกิดการะเิขึ้น ในความคิดเขา นี่เกือบเป็อุปสรรคที่ใหญ่หลวงที่สุด เมื่อเจียงเฉินได้ยินคำถามของเขา ไม่เพียงเขาสามารถที่จะไขปัญหานี้ได้ เขาสามารถที่จะบอกชื่อโอสถที่ตัวเขากำลังปรุงได้อีกด้วย
ที่สำคัญที่สุด เมื่อเจียงเฉินตอบคำถามของกั๋วฉาน มันไม่แม้จะทำให้เขาได้ใช้เวลาคิดแม้เพียงเสี้ยววินาที เขาได้ตอบออกมาราวกับว่าทฤษฎีและการแก้ปัญหานั้นได้ฝังรากลึกในความคิดของเขา
" ์!ใช้ผลึกทรายชั้นหนึ่งในการช่วยผสานหญ้าบาเล่ย์และผลศิลาหวงเข้าด้วยกัน เหตุใดข้าถึงนึกไม่ถึงก่อนหน้านี้กัน?"
มันเป็ที่ชัดเจนสำหรับกั๋วฉานและเขารู้สึกราวกับได้รู้แจ้ง เขาเป็เหมือนศิษย์ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับคำถามและอาจารย์ได้บอกเขาถึงวิธีแก้ไขปัญหาให้แก่เขา
" ข้าจะสามารถปรุงยาเทียนเหลียนที่มีประสิทธิภาพสิบส่วนได้อย่างไรรึ? "
กั๋วฉานถาม
"เม็ดยาเทียนเหลียนไม่ใช่ยาที่มีคุณภาพระดับสูงสุด แต่มันสามารถช่วยผู้ฝึกตนในการเพิ่มพูนสมาธิต่อััเทวะของพวกเขา แม้ว่ามันจะไม่ใช่ยาคุณภาพระดับสูงสุด เพราะมันปรุงออกมาได้ยากมาก ััเทวะคือรากฐานของผู้ฝึกตน มันไม่อาจที่จะได้รับความเสียหายได้เพราะฉะนั้น มีเพียงเม็ดยาเทียนเหลียนที่มีคุณภาพสิบส่วนเท่านั้นที่สามารถใช้ได้ หากต่ำกว่าสิบส่วน ล้วนไร้ค่า"
เจียงเฉินยิ้มแล้วกล่าวขึ้นต่อ
"ในการที่จะปรุงยาเทียนเหลียน ผลหุ้นหยวนเป็วัตถุดิบหลัก ผลนี้ควรมีอายุแปดสิบปีจะดีที่สุด หากแก่กว่านี้ พลังงานของมันจะมีมากเกินไป ทำให้ยากที่จะควบคุม หากอ่อนกว่านี้พลังงานอาจไม่เพียงพอต่อความ้าของยาเทียนเหลียน ดังนั้นการที่จะปรุงยาเทียนเหลียนให้มีประสิทธิภาพเต็มสิบส่วน นอกเหนือจากทักษะปรุงยา ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคืออายุของผลหุ้นหยวน"
ดวงตาของกั๋วฉานเบิกกว้างยิ่งขึ้น มุมมองที่มีต่อเจียงเฉินเปลี่ยนไปโดยสมบูรณ์คำถามนี้เป็ปัญหาต่อเขาเป็เวลานานแล้ว แต่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้ากลับเป็เื่ง่ายดายสำหรับเขาเหมือนเขารอบรู้ในทุกเื่ เพียงแค่ไม่กี่คำเขาก็สามารถแก้ไขปัญหาของกั๋วฉานได้
"กลีบดอกไม้นรกสามารถที่จะปรุงยาอัคคีหยวนได้หรือไม่?"
กั๋วฉานถามอีกครั้ง
"แน่นอนว่าสามารถทำได้ ดอกไม้นรกเป็ดอกไม้มีพิษร้ายแรง และพิษของมันจำเป็ต้องนำมาผสมกับเกสรตัวเมียของดอกกระเรียนแดง ที่เป็สมุนไพรมีพิษ ไม่เพียงแค่ไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพยาอัคคีหยวน มันยังเพิ่มความเข้มข้นให้ตัวยาอีกด้วย"
เจียงเฉินพูดอธิบาย
'มารดาเถอะ...ข้าไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าดอกไม้นรกและเกสรตัวเมียของดอกกระเรียนแดงสามารถใช้เช่นนี้ได้ด้วยหรือ!'
กั๋วฉานประหลาดใจอีกครั้ง ตอนนี้เขาได้ลืมว่าเจียงเฉินเป็ศิษย์สายนอก มุมมองของเขาที่มีต่อเจียงเฉินเต็มไปด้วยความชื่นชม
"เจียงเฉิน เ้าจะแก้ปัญหาที่พลังิญญากระสับกระส่ายได้อย่างไร?"
กั๋วฉานถามอีกครั้ง
"เหตุที่ว่าพลังิญญาของคนผู้หนึ่งกระสับกระส่ายนั่น เป็เพราะพวกเขาหุนหันพลันแล่นพยายามที่จะได้รับผลลัพธ์อย่างรวดเร็วจากการบ่มเพาะทักษะเสริมิญญา มันจักต้องพัฒนาค่อยเป็ค่อยไป"
เจียงเฉินตอบ
"ข้าขอถามเ้าเื่..."
กั๋วฉานถามคำถามต่ออีกนับสิบคำถาม คำถามทั้งหมดที่เขาถามไปล้วนเป็คำถามที่สร้างปัญหาให้แก่เขามาหลายปี เขาไม่สามารถหาคำตอบเหล่านี้ได้ คำถามเหล่านี้เป็เหตุผลหลักที่ทำให้การเติบโตของนักปรุงยาของเขาชะลอลง
อย่างไรก็ตาม วันนี้เจียงเฉินได้ตอบทุกคำถามของเขา กั๋วฉานรู้สึกเหมือนเงาที่บดบังใจของเขาได้สลายหายไป และทักษะปรุงยาของเขาก็เพิ่มขึ้นในเวลาเดียวกัน
"ฮ่าฮ่า... ประเสริฐ ประเสริฐนัก!น้องเจียง เ้าเป็อัจฉริยะที่หาผู้ใดเทียบโดยแท้! เ้าได้ช่วยข้าแก้ไขปัญหาทั้งหมดที่ข้ามีปัญหาในหลายปีที่ผ่านมา!กั๋วฉานขอคารวะ!"
กั๋วฉานหัวเราะเสียงดัง แล้วเขาก็คารวะอย่างลึกซึ้งต่อเจียงเฉิน
เจียงเฉินยิ้มและรับการคารวะจากเขา มันเป็เกียรติของกั๋วฉานที่ได้รับการชี้แนะจากเจียงเฉิน นอกจากนี้เจียงเฉินรู้ว่ากั๋วฉานได้ทุ่มความพยายามทั้งหมดไปกับการปรุงยา ความเพียรของเขาไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วๆไปสามารถที่จะเข้าใจได้ คำตอบที่เขาให้แก่กั๋วฉาน ไม่มีสักข้อที่สามารถประเมินค่าได้ด้วยเงิน การคารวะของกั๋วฉานแสดงออกถึงความขอบคุณของเขา
"อย่าได้ใส่ใจเลยท่านผู้าุโกั๋ว ข้าแค่บังเอิญผ่านมาเอง"
เจียงเฉินยิ้ม
"ไม่ต้องเรียกข้าว่าผู้าุโหรอก แค่พี่ก็พอ แม้ว่าระดับการบ่มเพาะของข้าจะอยู่สูงกว่าเ้า เมื่อเป็เื่ของศาสตร์การปรุงยา เ้าคือศิษย์พี่ของข้า ถึงอย่างไรข้าก็าุโกว่าเ้า เช่นนั้นเรียกข้าว่าพี่ก็แล้วกัน"
กั๋วฉานเอามือตบเข้าที่บ่าเจียงเฉินแรงพอควร
"พี่กั๋ว"
เจียงเฉินทำตามที่กั๋วฉานบอกเขา เขาสามารถที่จะบอกได้ว่านี่เป็บุคลิกที่แท้จริงของเขา และเขาไม่เคยจำกัดตัวเองด้วยวิธีการเก่าแก่ ข้าเจียงเฉินชอบคนเช่นนี้นอกจากนี้การที่ได้กลายเป็พี่น้องกับนักปรุงยาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในนิกายเซวียนอี้จะไม่นำภัยมาสู่เจียงเฉิน
ในนิกายเซวียนอี้ มีเพียงแค่เจียงเฉินที่สามารถเป็พี่น้องกับกั๋วฉานได้
"น้องเจียง โชคดีที่เ้าได้ผ่านมา... หากไม่ล่ะก็ข้าก็ไม่รู้ว่าปัญหาจะได้รับคำตอบเมื่อใด อย่างไรก็ตาม มันทำให้ข้างงจริงๆ เ้าแตกฉานถึงเพียงนี้ได้อย่างไร การปรุงยานั้นไม่เหมือนสิ่งอื่นใด พวกเราจำเป็ต้องสำรวจสิ่งต่างๆตลอดทางเพื่อเพิ่มพูนความรู้ หากตัดสินจากสิ่งที่เ้ารู้ ข้าคิดว่าเ้าจักต้องใช้เวลาอย่างน้อยนับร้อยปีถึงจะขึ้นระดับเ้าได้ แต่เ้าเพิ่งอายุสิบห้าสิบหกปี นี่มันเป็ไปไม่ได้"
กั๋วฉานประหลาดใจยิ่งนัก เขาไม่สามารถที่จะจินตนาการได้ว่าเด็กหนุ่มอายุสิบหน้าถึงสิบหกปีมีความรู้เกี่ยวกับการปรุงยา หากว่าเขาไม่ได้พบเจอด้วยตนเอง เขาคงไม่เชื่อว่าคนเช่นนี้จะมีตัวตนจริงๆ
"ข้าบอกท่านแล้วไม่ใช่หรือ? ข้าเป็อัจฉริยะ"
เจียงเฉินยักไหล่อีกครั้ง
"ท่านย่าทวดมันเถอะ! อัจฉริยะไม่สามารถที่จะตัดสินได้จากสามัญสำนึก น้องเจียง เ้าเองก็น่าจะเป็นักปรุงยาด้วยเช่นกัน ด้วยความรอบรู้ของเ้า หากเ้ามุ่งเน้นความพยายามทั้งหมดกับการปรุงยา ข้าแน่ใจว่าเ้าจะได้เป็นักปรุงยาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรุ่นของเ้า นามของเ้าจะได้แพร่กระจายไปทั่วโลก"
กั๋วฉานพูดขึ้น
"พี่กั๋ว การปรุงยาเป็เพียงงานอดิเรกของข้า ข้าไม่ได้มุ่งเน้นมากนัก เมื่อเทียบกับความตื่นเต้นจากการต่อสู้แล้ว ข้าชอบอย่างหลังมากกว่า"
เจียงเฉินแหงนหน้ามองท้องฟ้า กั๋วฉานไม่มีทางเข้าใจมุมมองของเขาเป็แน่
"เฮ้อ... ช่างน่าเสียดายนัก อย่างไรก็ตามด้วยความรู้และความสามารถของเ้า ข้าแน่ใจว่าเ้าจะปรมาจารย์แห่งรุ่น และเต๋าแห่งการปรุงยาของเ้าจะไปถึงขั้นปรมาจารย์อย่างแน่นอน"
ถอนหายใจอีกครั้ง กั๋วฉานได้กล่าวขึ้นอีก
"ข้าได้ยินมาว่าเ้าจะต้องต่อสู้กับหนานเป่ยเฉาในอีกหนึ่งปีหลังจากนี้สินะ"
"ใช่"
เจียงเฉินผงกหัว
"หนานเป่ยเฉาเป็อัจฉริยะไร้ที่เปรียบที่อาจพบได้ในรอบหมื่นปี มีโชคชะตาอันยิ่งใหญ่ ความสำเร็จในอนาคตไร้ขีดจำกัด เวลาเพียงแค่หนึ่งปี สำหรับเ้า มันน้อยเกินไป"
กั๋วฉานพูด ข่าวที่ว่าจะต่อสู้กันภายในหนึ่งปีระหว่างเจียงเฉินและหนานเป่ยเฉาได้แพร่สะพัดทั่วแคว้นฉี แน่นอนว่ากั๋วฉานเองก็ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน มีคำถามหรือไม่ว่าเจียงเฉินจะสามารถที่จะสู้กับหนานเป่ยเฉาในหนึ่งปีได้หรือไม่ แค่เพียงความกล้าอย่างเดียว ก็ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะเทียบได้
"ข้ามีวิธีอยู่ พี่กั๋วอย่าได้กังวล"
เจียงเฉินยิ้ม
ในวันนั้นเอง เจียงเฉินและกั๋วฉานได้พูดคุยกันมากมาย กั๋วฉานได้เลี้ยงไวน์ชั้นเลิศแก่เจียงเฉินมันเป็ไวน์ที่บ่มด้วยสมุนไพรสิบแปดชนิด มันสามารถพูดได้ว่าทั่วทั้งนิกายเซวียนอี้ผู้ที่โชคดีที่ได้ชิมไวน์ชั้นเลิศที่กั๋วฉานเป็ผู้บ่มมันมีเพียงสองคน คนแรกคือนักพรตเซวียนอี้ และเจียงเฉิน
เมื่อตกเย็น เจียงเฉินจึงขอตัวลา
"น้องเจียง หาก้าสิ่งใดในนิกายเซวียนอี้มาหาข้ากั๋วฉานนะ!"
กั๋วฉานกล่าวพร้อมทุบอกตัวเอง
"แน่นอน!เพื่อไวน์ของพี่ชาย ข้าจะต้องมาแน่นอน "
เจียงเฉินพูดพร้อมพลางหัวเราะคิกคัก
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ท่าทีของกั๋วฉานเปลี่ยนไป
"เช่นนั้นอย่าได้มาจะดีกว่า"
เมื่อเจียงเฉินเอ่ยถึงไวน์ กั๋วฉานรู้สึกปวดใจเล็กน้อย เขานำไวน์ที่ดีที่สุดของเขามาเลี้ยงเจียงเฉิน ้าที่จะแสดงถึงทักษะการบ่มไวน์ของเขา อย่างไรก็ตามเขาไม่คาดคิดว่าเ้าบ้านี่จะดื่มไวน์แทนน้ำเปล่า มันช่างเสียของนัก
เจียงเฉินกางปีกโลหิตและบินออกจากเขากั๋วฉาน กลับไปยังที่พักของเขา กลายเป็สหายกับกั๋วฉานมันเป็สิ่งที่ดีต่อเจียงเฉิน ในอนาคตเมื่อเขา้าเม็ดยาอะไร เขาไม่จำเป็ต้องกังวลถึงวัตถุดิบสมุนไพรอีก ั้แ่ที่เขามีร่างกายที่ทรงพลัง ตลอดจนโลหิตและปราณที่แข็งแกร่ง สิ่งที่เขาต้องมุ่งเน้นหลักคือระดับการบ่มเพาะและไม่ใช่การปรุงยา ทักษะร่างแปลงัไม่จำเป็้าเม็ดยาใดๆ
ณ ที่พักเจียงเฉิน มีคนสี่ถึงห้าคนรออยู่ด้านนอก คนที่อยู่ด้านหน้าคือหวังหยุน และศิษย์นอกแก่นแท้มนุษย์คนอื่นๆเมื่อเขาเห็นเจียงเฉินดวงตาเขาส่องประกาย
"ศิษย์พี่เจียงกลับมาแล้ว!"
ใครบางคนพูดออกมา เมื่อเขาเห็นปีกโลหิตของเจียงเฉิน ช่วยไม่ได้ที่เขาจะแสดงถึงความอิจฉา
เจียงเฉินหุบปีกและร่อนลงข้างๆคนเหล่านี้
"หวังหยุน พวกเ้ามาหาข้างั้นหรือ?"
เจียงเฉินถาม
"ข้า้าเชิญศิษย์พี่เจียงร่วมเดินทางไปหาประสบการณ์กับพวกเรา พวกเราจะไปยังเขาหมื่นอสูร!"
หวังหยุนพูดขึ้น
"เขาหมื่นอสูร?"
เจียงเฉินขมวดคิ้ว เขาไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน
"ข้าคาดว่าศิษย์พี่เจียงคงไม่รู้จักสถานที่นี้เป็แน่ เขาหมื่นอสูรเป็เทือกเขา มันเป็สนามฝึกซ้อมของเหล่าศิษย์นิกายเซวียนอี้ ภายในเทือกเขานี้ สัตว์อสูรทุกประเภทสามารถพบได้ และมันมีทรัพยากรธรรมชาติมากมาย สมบัติก็เช่นกัน พวกข้ากำลังจะเดินทางไปยังเขาหมื่นอสูร และหากศิษย์พี่จะสามารถไปกับพวกข้าด้วย มันจะเหมือนกับว่าพวกเราได้รับประกันความปลอดภัย"
หนึ่งในศิษย์พูดออกมา
"ใช่แล้ว ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเรา พวกเราสามารถที่จะเข้าไปยังส่วนแรกได้เท่านั้น หากศิษย์พี่เจียงไปกับพวกเรา บางทีอาจจะสามารถเดินทางในระดับที่สองได้!"
ศิษย์อีกคนหนึ่งพูดเสริม
"เป็เช่นนั้นรึ "
ในที่สุดเจียงเฉินก็เข้าใจ จุดประสงค์ของพวกเขาคือการได้รับการปกป้องจากเจียงเฉิน ด้วยความแข็งแกร่งของเจียงเฉิน พวกเขาสามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัย หากพวกเขาได้เดินทางไปด้วยกัน
"หวังหยุน เ้าเล่ารายละเอียดของเขาหมื่นอสูรให้ข้าฟังหน่อยซิ"
เจียงเฉินกล่าว เขาแสดงความสนใจต่อเขาหมื่นอสูรอย่างมาก เวลามีเพียงแค่หนึ่งปีที่จะต่อสู้กับหนานเป่ยเฉา และวันเวลาก็ผ่านไปอย่างช้าๆทุกๆวัน ดังนั้นเขาจึงคิดหาทางเพิ่มระดับการบ่มเพาะของเขา หากอาศัยกับนิกายเซวียนอี้เพียงอย่างเดียวมันยังห่างไกลจากความเพียงพอ เขาได้ทำการบ่มเพาะทักษะร่างแปลงัและเขาสามารถดูดซับความสามารถดั้งเดิมของสัตว์อสูรได้ และการล่าสัตว์อสูรเป็หนทางที่จะทำให้เลื่อนระดับได้โดยเร็วที่สุด หากว่าเขาโชคดีคงจะได้พบกับสัตว์อสูรที่มีสายเืหายาก และนำความสามารถของพวกมันมาเป็ของตน
"เขาหมื่นอสูรเป็เทือกเขายุคา มันตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก ห่างจากที่นี่เพียงหนึ่งพันลี้เท่านั้น ภายในเขาหมื่นอสูรแบ่งออกเป็สามเขต และเขตแรกจะมีสัตว์อสูรระดับฉีไห่หรือแก่นแท้มนุษย์เกือบทั้งหมด ในบางครั้งอาจมีสัตว์อสูรขั้นแก่นแท้์อยู่ แต่มันพบเจอได้ยากที่จะปรากฏขึ้นที่เขตแรก สำหรับเขตที่สองสัตว์อสูรส่วนมากจะอยู่ในระดับแก่นแท้์ และมันเป็สถานที่ที่อันตรายมากสำหรับพวกเรา ในเวลานี้มีเพียงแค่ศิษย์แก่นแท้์จากศิษย์ในที่กล้าเข้าไปฝึกฝนที่นั้น แม้ว่าศิษย์พี่เจียงจะอยู่ขอบเขตแก่นแท้มนุษย์ แต่เมื่อท่านสามารถสังหารหลี่หวู่หลิงที่อยู่ระดับแก่นแท้์ได้ ข้าแน่ใจว่าท่านสามารถไปบริเวณชายแดนของเขตที่สองได้อย่างปลอดภัย สำหรับเขตที่สามข้าได้ยินว่ามีสัตว์อสูรขั้นแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังปกครองเขตนั้นอยู่ มันเป็สถานที่น่าสะพรึงกลัวมาก มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่กล้าเข้าไป"
หวังหยุนอธิบาย
