เสียงนั้นดังมาพร้อมกับคลื่นเสียงโจมตี เริ่นเสี้ยวเทียนเห็นเข้าจึงเคลื่อนตัวมาขวางหน้าเฝิงเป่าเป่าเพื่อต้านทานคลื่นเสียงนั้นเอาไว้
เฝิงเป่าเป่ามีพลังยุทธ์ขั้นบรรพบุรุษเท่านั้น ทว่าคลื่นเสียงของอีกฝ่ายเพียงพอที่จะสังหารขั้นบรรพบุรุษได้ เขาต้องเข้าต้านทานให้อยู่แล้ว
“ไปหาน้องชายคนนั้น เขาปกป้องเ้าได้”
เริ่นเสี้ยวเทียนมองเสิ่นเลี่ยนที่ยืนอยู่กับเสิ่นเสวียน แล้วบอกให้เฝิงเป่าเป่าไปหาเขา
เฝิงเป่าเป่ารู้สึกตื่นใกับคลื่นเสียง จึงทำตามที่เริ่นเสี้ยวเทียนบอก มุ่งหน้าไปหาเสิ่นเลี่ยนในทันที
“น้องชาย ข้าขอฝากตัวด้วย”
“ไปอยู่ด้านหลังก็พอ”
เสิ่นเลี่ยนกล่าวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ แต่สามารถมองเห็นถึงความกระหายเืได้จากแววตาของเขา
“เรียนรู้ที่จะยับยั้งชั่งใจ”
เสียงของเสิ่นเสวียนดังเข้าในหูของเสิ่นเลี่ยน ทำให้ความกระหายเืในแววตาของเสิ่นเลี่ยนจางลงเล็กน้อย
“ขอรับ”
เสิ่นเลี่ยนพยักหน้าให้เสิ่นเสวียน เมื่อครู่เขาเกือบละเมิดข้อห้ามไปแล้ว ข้อห้ามของจอมยุทธ์สังหารคืออิทธิพลต่อจิตใจ ไม่ว่าเมื่อไรหรือที่ไหนต้องทำจิตใจให้ปลอดโปร่งอยู่เสมอ เพื่อพร้อมรับการต่อสู้ด้วยสภาวะที่ดีที่สุด ส่วนความกระหายเืนั้นคือข้อเสียของจอมยุทธ์สังหาร พลังยุทธ์ของเสิ่นเลี่ยนก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว แต่มีพื้นฐานค่อนข้างต่ำ ยังมิอาจควบคุมจิตใจอย่างที่้าได้
ส่วนเฝิงเป่าเป่ามองเสิ่นเลี่ยนและเสิ่นเสี่ยวเม่ยแล้วก็พบว่า ที่แท้เสิ่นเสวียนต่างหากที่มีอำนาจอยู่เื้ัอย่างแท้จริง
“เ้ากล้าหาญยิ่งนัก”
เสียงของบุรุษร่างกำยำดังขึ้น ตรงเข้าหาเริ่นเสี้ยวเทียนทันที
ในน้ำเสียงของเขาเปี่ยมไปด้วยความสนใจ ซึ่งเื่ที่น่าสนใจเช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมานานแล้ว
เมื่อสามปีก่อนมีจอมยุทธ์ขั้นราชันระดับสูงสุดคนหนึ่งดูถูกพวกเขา ผลสุดท้ายคือโดนเขาจัดการไป
และเขาในตอนนั้นเพิ่งมีพลังยุทธ์ขั้นราชันระดับสูงเท่านั้น
“เ้าเองก็กล้าหาญไม่เบา ทำไม อยากได้เงินก็เอาเงินไปสิ ทำไมยังคิดสังหารคนอื่นด้วย”
เริ่นเสี้ยวเทียนยืนอยู่ที่เดิม จากนั้นจึงไพล่มือสองข้างไว้ด้านหลังแล้วก้าวเดินออกไป เขาหยุดลงเมื่ออยู่ไม่ไกลจากคนผู้นั้นมากนัก
เขายืนอยู่ตรงนั้นคนเดียว แต่กลับมีอำนาจเทียบเคียงโจรสลัดอากาศเ่าั้ได้
ผู้คุมเรือสามคนบนเรือเสวียนอู่กำลังมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยร่างที่สั่นเทิ้ม สิ่งที่พวกเขาหวาดกลัวที่สุดคือการทะเลาะวิวาทและการทะเลาะกับโจรสลัดอากาศ หากทำให้อีกฝ่ายโกรธแค้นขึ้นมา เรือทั้งลำจะพินาศลงทันที
“อ๋อ? ฮ่าๆๆ!!!”
บุรุษร่างกำยำหยุดนิ่งไปเล็กน้อย แล้วหัวเราะขึ้นมาพร้อมกับโจรสลัดเ่าั้
ไร้เดียงสา ไม่กลัวตาย เขาชอบมากจริงๆ
ตอนนี้พวกเสิ่นเสวียนเดินเข้ามาอยู่ไม่ไกลจากเริ่นเสี้ยวเทียนมากนัก เหมือนเป็คนผ่านมาดูเหตุการณ์เฉยๆ
“ข้าสังหารใครไม่เคยมีเหตุผลมาก่อน เ้าเองก็เหมือนกัน แน่นอนว่าหากเ้าเอาชนะข้าได้ ข้าจะพิจารณาปล่อยพวกเขาไป”
บุรุษร่างกำยำขี่ซือจิ้วเดินหน้าไปเล็กน้อย เพื่อให้เข้าใกล้เริ่นเสี้ยวเทียน
“อย่าพล่ามให้เสียเวลาอีกเลย มาเริ่มกันเถอะ”
เริ่นเสี้ยวเทียนมีเสิ่นเสวียนเป็กองหนุนอยู่ด้านหลัง ตอนนี้เขาจึงไม่กลัวโจรสลัดเ่าั้เลย แม้แต่ผู้ศักดิ์สิทธิ์ยังสามารถจัดการได้ แล้วจะต้องกลัวโจรกระจอกเหล่านี้อีกทำไมกัน
บุรุษร่างกำยำขี่ซือจิ้วพลางยิ้มมุมปากน้อยๆ ด้วยความมั่นใจ
“ข้าจะไม่รังแกเ้า เดี๋ยวข้าจะลงจากซือจิ้วไปสู้กับเ้า”
บุรุษร่างกำยำะโลงจากหลังของซือจิ้ว ในพริบตาที่ะโลง มิติเบื้องหน้าพลันบิดเบี้ยวแล้วร่างของเขาก็จางหายไป
“อยากเล่นเคล็ดวิชามิติกับข้าอย่างนั้นหรือ”
เริ่นเสี้ยวเทียนยิ้มน้อยๆ รู้สึกขันที่อีกฝ่ายช่างไม่รู้อะไรเลย
เขามาจากสำนักบุปผา เผ่าอนธการอยู่ใต้อำนาจของสำนักบุปผา หนึ่งในความสามารถที่โดดเด่นที่สุดของเผ่าอนธการคือเคล็ดวิชามิติ และเคล็ดวิชามิติของสำนักบุปผาเมื่อเทียบกับเผ่าอนธการแล้วมีแต่สูงส่งยิ่งกว่า คนผู้นั้นอยากเล่นเคล็ดวิชามิติกับเขา เหมือนหยิบขวานใหญ่มาเล่นต่อหน้าหลู่ปัน[1]
เขายอมรับว่าเคล็ดวิชามิติของเสิ่นเสวียนยอดเยี่ยมยิ่งกว่าเขา แต่สำหรับคนตรงหน้าเขานี้ เขาไม่มีทางยอมรับได้
“ขึ้นไป”
เขาะโออกไปด้วยเสียงดังก้อง จากนั้นก็โจมตีพลังหมัดออกไปกลางอากาศที่ว่างเปล่า
เปรี้ยง!!!
เสียงดังสนั่นหวั่นไหว เดิมทีบุรุษร่างกำยำผู้นั้นหายตัวไปแล้วกลับกระเด็นออกไปราวะุปืน แล้วกระแทกใส่ร่างซือจิ้วตัวนั้นอย่างรุนแรง จึงสามารถต้านทานพลังส่วนใหญ่ไว้ได้
“ไม่ใช่ว่าข้าดูถูกเ้า เ้าต่างหากที่ไม่แน่ว่าจะเป็คู่ต่อสู้ของข้าได้ แสดงทักษะของเ้าออกมาให้หมดเลยดีกว่า”
เริ่นเสี้ยวเทียนยิ้มเย็น มองอีกฝ่ายอย่างเหยียดหยาม
ตอนนี้หัวหน้าโจรสลัดอากาศที่ยืนอยู่ตรงกลางผู้นั้นนั่งเท้าคางมองเริ่นเสี้ยวเทียนด้วยความสนใจ
“เ้า... ดีมาก”
บุรุษร่างกำยำที่โดนหมัดของเริ่นเสี้ยวเทียนกำลังเดินกลับมาด้วยอารมณ์พลุ่งพล่าน เขากล่าวออกมาเพียงแค่นั้นแล้วชี้ไปทางซือจิ้ว
ปีกขนาดใหญ่กระพืออย่างรวดเร็ว แล้วซือจิ้วตัวนั้นก็กระโจนเข้าใส่เริ่นเสี้ยวเทียน
เมื่อเห็นซือจิ้วพุ่งมาด้วยความเร็วสูง เริ่นเสี้ยวเทียนจึงระวังตัวขึ้นมา
บุรุษร่างกำยำผู้นั้นเขาไม่เคยเห็นค่าอยู่แล้ว แต่ซือจิ้วตัวใหญ่ตัวนี้เขาต้องรับมืออย่างระมัดระวัง นี่คือซือจิ้วที่โตเต็มวัยแล้ว มีพลังเหนือกว่าผู้ฝึกตนขั้นราชันระดับสูงสุดมาก หากต้องเทียบพลังกันจริงๆ อาจสามารถสู้กับขั้นจักรพรรดิได้เลยทีเดียว
แต่แม้ว่าพลังจะแข็งแกร่ง กลับไม่มีสติปัญญามากนัก และนี่คือส่วนสำคัญที่ทำให้เริ่นเสี้ยวเทียนเอาชนะได้
เคล็ดวิชามิติ
ก่อนที่อีกฝ่ายจะกระโจนเข้ามาถึง ร่างของเริ่นเสี้ยวเทียนพลันเลือนหายไปจากตรงนั้น ทำให้อีกฝ่ายกระโจนเข้าใส่อากาศที่ว่างเปล่า
เสิ่นเสวียนมองเริ่นเสี้ยวเทียนที่กำลังต่อสู้อยู่ แม้เคล็ดวิชามิติดูเหมือนไม่ค่อยยอดเยี่ยมนัก แต่สำหรับคนในโลกนี้เรียกได้ว่าเป็ทักษะขั้นสูง ด้วยพลังของเริ่นเสี้ยวเทียนที่แสดงเคล็ดวิชา สามารถทำให้มิติโดยรอบหลอมรวมเป็หนึ่งเดียวกัน ทะลวงผ่านมิติได้ ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นมาได้
หลังจากซือจิ้วกระโจนผ่านอากาศที่ว่างเปล่าไป บุรุษร่างกำยำผู้นั้นพลันมีสีหน้าเคร่งเครียด เขามิอาจเทียบเคล็ดวิชามิติกับเริ่นเสี้ยวเทียนได้จริงๆ แต่กว่าเริ่นเสี้ยวเทียนจะตอบโต้เขากลับมาได้คงสายเกินไปแล้ว
ซือจิ้วอยู่้า ทว่าบุรุษร่างกำยำกลับรู้สึกถึงความผิดปกติ จึงหันไปมอง้าซ้ายเล็กน้อย
เขาเห็นว่ามีกำปั้นข้างหนึ่งพุ่งเข้ามาและใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว โจมตีเข้าตรงหน้าผากของเขา
พลังรุนแรงพุ่งตรงเข้าไปในหัวของเขาทันที ตัดเส้นประสาทในหัวของเขาทั้งหมด ทำให้เขาเกือบหมดสติ
จากนั้นเท้าข้างหนึ่งเตะเข้าที่ใต้คางจนร่างหมุนควงกลางอากาศ กระเด็นไปตกอยู่ใต้เท้าของหัวหน้าโจรสลัดและหมดสติไปทันที
ซือจิ้วตัวนั้นที่ไม่มีเ้านายแล้วถูกเริ่นเสี้ยวเทียนหลอกล่อมา มันไม่อาจโจมตีเขาได้จึงพุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า
“วี้ด!”
หัวหน้าโจรสลัดอากาศผู้นั้นเป่าปากคล้ายกำลังชี้นำ ทำให้ซือจิ้วตัวนั้นรู้ทิศทางและบินไปทางโจรสลัดอากาศได้
เริ่นเสี้ยวเทียนจึงดีดตัวเองขึ้นแล้วค่อยๆ เหาะลงไปที่พื้นอย่างมั่นคง
เพียงกระบวนท่าเดียว เขาสามารถจัดการโจรสลัดขี่ซือจิ้วขั้นหกได้แล้วคนหนึ่ง
เป็การเคลื่อนไหวที่สะอาดหมดจดและเป็ระเบียบมาก
แปะ! แปะ! แปะ!
หัวหน้าโจรสลัดปรบมือ เหมือนกำลังชื่นชมการสังหารที่สมบูรณ์แบบของเริ่นเสี้ยวเทียนเมื่อครู่นี้
“ขอบคุณคุณชายที่เมตตา ไม่อย่างนั้นข้าคงจบเื่นี้ไม่ได้จริงๆ”
หัวหน้าโจรสลัดอากาศยิ้มน้อยๆ พลางกล่าวกับเริ่นเสี้ยวเทียน
“เขาอวดดีมากเกินไป ข้าแค่สั่งสอนเขาเล็กน้อยเท่านั้น”
เริ่นเสี้ยวเทียนยิ้มบางเบาราวกับสายลมพัดผ่าน
ผู้โดยสารที่อยู่ข้างๆ มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความรู้สึกตื่นใ
ที่แท้พวกเขายังมียอดฝีมืออยู่ด้วย ยอดฝีมือเช่นนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว มียอดฝีมืออยู่ด้วยอย่างนี้พวกเขาอาจไม่ต้องเสียเงินแล้ว
“เื่กฎระเบียบข้าเข้าใจดี ข้าอยากหารือกับคุณชายสักหน่อย ไม่ทราบว่าคุณชายมีความเห็นอย่างไร”
หัวหน้าโจรสลัดกล่าวพลางยิ้ม
“มา”
เริ่นเสี้ยวเทียนหรี่ตามอง พลางทำท่าทางเชื้อเชิญ
เขามองอีกฝ่ายไม่ออกเลย แสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายไม่ธรรมดา แต่เขาก็เข้าใจว่าขอเพียงเอาชนะอีกฝ่ายได้ ก็จะสามารถคลี่คลายอันตรายที่นี่ได้
“รับไปซะ”
หัวหน้าโจรสลัดอากาศกล่าวออกมา ในขณะเดียวกัน เขาที่ควรนั่งอยู่บนหลังซือจิ้วกลับปรากฏตัวขึ้นด้านหลังเริ่นเสี้ยวเทียนอย่างน่าประหลาด
กำปั้นโจมตีเข้าใส่ตำแหน่งซี่โครงด้านซ้ายของเริ่นเสี้ยวเทียนในทันที
“เคล็ดวิชามิติของเ้าคงหมดประโยชน์แล้ว”
หัวหน้าโจรสลัดอากาศกระตุกยิ้มมุมปากน้อยๆ
..........................................................
[1] หลู่ปัน ถือกำเนิดที่แคว้นหลู่ ในยุคชุนชิว เป็บุคคลที่ได้รับการยกย่องให้เป็เทพแห่งช่างและงานก่อสร้าง โดยเฉพาะช่างไม้ จนมีคำกล่าวว่า ใครกล้าอวดฝีมือขวานของตนต่อหน้าหลู่ปัน คนผู้นั้นช่างไร้ยางอาย ไม่รู้จักประมาณตน