“ผมจะไปท่ารถทัวร์ในเมืองครับพี่… จะเข้ากรุงเทพฯ ครับ”
ศักรินทร์ตอบ ทว่าอึดใจต่อมาชายหนุ่มก็มีอันต้องใ เมื่อโชเฟอร์สาวพวงมาลัยหักเลี้ยวรถตรงทางแยกที่ตัดผ่านถนนใหญ่
“เอ่อ... พี่ครับ… พี่จะไปไหนครับ”
ศักรินทร์ใ เหลือบมองหน้าโชว์เฟอร์สิบล้อที่กำลังหักพวงมาลัยเปลี่ยนเส้นทางกะทันหัน
ชายหนุ่มรู้ ทางนี้ไม่ใช่เส้นทางเข้าเมืองอย่างแน่นอน แม้ว่าครอบครัวของศักรินทร์เพิ่งจะย้ายมาอยู่ในไร่อ้อยย่านจังหวัดกาญจนบุรีได้สามปีกว่า แต่ก็นานพอที่จะทำให้รู้จักเส้นทางแถวนี้เป็อย่างดี
“ขอพักรถหน่อยเถอะ... แหม… ผู้ชายด้วยกัน ไม่ต้องกลัวหรอกน่ะ ไฟเรืองๆ ข้างหน้านี่ก็ถึงจุดพักรถแล้วนะ เดี๋ยวพี่ซดเอ็มร้อยสักขวดให้กระปรี้กระเปร่าแล้วค่อยไปต่อ”
โชเฟอร์บอกถึงสาเหตุ ที่ทำให้ต้องแวะพักกะทันหัน
“ครับพี่... ”
ศักรินทร์พยักหน้า มาถึงขั้นนี้แล้ว จะขัดอะไรได้ เพราะว่าเป็คนขอติดรถมาเอง
ถนนเส้นนี้ถึงแม้จะเปลี่ยว แต่อันที่จริงก็มีรถตู้วิ่งผ่าน บางทีอาจจะต่อรถตู้ไปเอง แต่ตอนนี้ก็ค่ำแล้ว ชักเริ่มไม่แน่ใจว่ารถตู้คิวสุดท้ายที่วิ่งเข้ากรุงเทพฯ ยังมีอยู่หรือเปล่า
“พี่ชื่อเบิ้มนะ... เอ็งล่ะ… ชื่ออะไร”
คนขับสิบล้อแนะนำตัวเอง รู้สึกถูกชะตากับศักรินทร์ั้แ่แรกเห็น
“ชื่อศักรินทร์ครับ… ชื่อเล่นศักดิ์ครับ”
ศักรินทร์ตอบ ยอมรับว่ารู้สึกกลัวเหมือนกัน ที่รู้ว่ารถวิ่งออกมาจากเส้นทางอันเป็จุดหมาย หากก็พยายามทำใจดีสู้เสือ ไหนๆ ก็มากับเขาแล้ว
ในเวลาต่อมา
รถแล่นมาจอดยังจุดพักรถ แลเห็นรถสิบล้อและรถพ่วงหลายคันจอดเรียงรายอยู่ข้างทางซึ่งเป็เพิงพักหลังเล็กๆ มีอยู่ด้วยกันหลายหลัง สองข้างทางเป็ร้านขายลาบและร้านเหล้าเบียร์ตั้งเรียงราย
