ถนนย่านสถานบันเทิงในตอนกลางวันนั้นเงียบเหงาเป็อย่างมาก นอกจากหมาแมวไม่กี่ตัว กับรถวิ่งผ่านไม่กี่คันแล้ว แทบไม่มีผู้คนสัญจรไปมา ช่างต่างจาก่เวลากลางคืนดั่งฟ้ากับเหว
หยางเฉินเปิดประตูเข้าไปในบาร์โรส เขาโบกมือทักทายบาเทนเดอร์หนุ่มคนเดิมอย่างเสี่ยวจ้าว
บริกรหลายคนสังเกตถึงการมาของหยางเฉิน พวกเขาไม่ได้ขัดขวางหยางเฉินแต่อย่างใด ทว่ากลับแสดงท่าทางเคารพนอบน้อม พวกเขารู้ดีว่าความสัมพันธ์ของหยางเฉินและเฉียงเวยไม่ธรรมดา
ทางเดินด้านหลังของบาร์ยาวกว่าห้าสิบเมตร ปลายทางเดินปรากฏชายร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสองคน ยืนเฝ้าประตูไม้ที่สูงกว่าสามเมตร เมื่อหยางเฉินเดินมาถึง พวกมันต่างโค้งคำนับอย่างสุภาพ ต้อนรับด้วยความยินดีกับการมาของเขา
หยางเฉินพยักหน้าเดินไปหน้าประตูไม้ใหญ่และเปิดมันออก กลิ่นหอมธรรมชาติโชยเข้าจมูก พร้อมกลิ่นหอมเล็กน้อยของดอกลาเวนเดอร์
ภายในห้องใหญ่ช่างกว้างขวาง พื้นเป็ไม้ปาร์เกต์เรียบสีน้ำตาล ผนังหินอ่อนสีดำ ตรงกลางเป็เตียงขนาดใหญ่วางบนพรมหนังขนาดั์ สิ่งของตกแต่งสีกาแฟให้บรรยากาศภายในห้องทรงเสน่ห์อึมครึม อีกด้านหนึ่งของห้องเป็ประตูกระจก ด้านนอกเป็สระว่ายน้ำและสวนขนาดย่อม
ยากที่จะเชื่อว่าด้านหลังของบาร์แห่งนี้จะมีสถานที่เงียบสงบเช่นนี้ ใช่แล้วที่นี่เป็บ้านของเฉียงเวย
ขณะที่ก้าวเข้ามาในห้อง หยางเฉินรู้สึกเย็บวาบ โดยไม่ลังเลเขาเหยียดแขนออกไปข้างหน้า
"ฟิ้ว!" เสียงของมีคมตัดผ่านอากาศ แขนเรียวขาวพร้อมใบมีดเย็นเฉียบปรากฏห่างจากใบหน้าหยางเฉินเพียงสามนิ้ว ทว่ามันกลับถูกขัดขวางอย่างสมบูรณ์โดยหยางเฉิน
เมื่อการลอบจู่โจมล้มเหลว กริชในมือพลันหมุนวนเคลื่อนไหวราวกับสายน้ำตรงไปที่ซี่โครงของหยางเฉิน
หยางเฉินผลักแขนที่ถูกคว้าด้วยมือใหญ่ออกด้านข้าง เ้าของกริชรู้ตัวว่าสู้แรงไม่ได้ พลันยกเท้าเรียวงามหวังเตะเข้าด้านหลังของหยางเฉิน ดั่งนกรู้กริชที่ด้านข้างกลับเข้าขวางการเคลื่อนไหวของเท้า
"ผมไม่อยากเล่นแล้ว!"
เฉียงเวยเบ้ปากอย่างไม่พอใจ พร้อมโยนกริชทิ้งลงพื้น
"อีกแล้วหรือ? ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าสัตว์ประหลาดอย่างนี้ฝึกมายังไงถึงทำได้ขนาดนี้ ทั้งที่อายุน้อยว่าฉันแท้ๆ แต่กลับ… ฮึ่ม"
หยางเฉินปล่อยแขนเรียวงามลง ความนุ่มละมุนให้ความรู้สึกไม่อยากแยกจาก พลางเดินไปรอบๆ ด้วยท่าทีที่ดูไม่ออกว่ากำลังยิ้มหรือไม่ยิ้ม
"ไม่เลวเลย คุณพัฒนาได้รวดเร็วกว่าเมื่อเดือนก่อนมาก"
"แต่สำหรับนาย ฉันก็ยังแพ้ในกระบวนท่าเดียว" เฉียงเวยจ้องมองหยางเฉินขณะนั่งอยู่บนเตียงขนาดั์ ภายในห้องนี้เปรียบดั่งเวทีเดินแฟชั่น ชุดวาบหวิวของเธอพร้อมจะหลอมละลายหัวใจชายทุกคนจนสลายไป
เนื่องจากหยางเฉินพยายามรักษาระยะห่างของเขากับเธอ แต่ปัจจุบันดูเหมือนว่าหยางเฉินจะต้านทานการยั่วยวนของเธอได้น้อยลง เธอจึงแอบมีความสุขอยู่ในใจ พลางส่งสายตาออดอ้อนมาทางหยางเฉิน
"หยางเฉิน… พี่สาวน่ารักหรือเปล่า..."
"น่ารัก..." หยางเฉินกลืนน้ำลาย พยายามควบคุมอารมณ์ที่ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวอย่างยากลำบาก โอ้พระเ้า ผู้หญิงคนนี้เหมือนออกมาจากขุมนรกโลกีย์ก็ไม่ปาน
"อยากลองััไหมล่ะ?" เฉียงเวยกะพริบตาอย่างเย้ายวน มือข้างหนึ่งขยับเปิดเผยส่วนสำคัญปรากฏต่อหน้าหยางเฉิน
หยางเฉินสูดหายใจลึก แม้เขาจะเห็นสาวงามมามากมาย และยิ่งกับความงามล่มเมืองอย่างภรรยาของเขาหลินรั่วซี แต่กับหญิงสาวตรงหน้าเขาก็ยังมีเสน่ห์เหนือชั้น แม้ความงามจะด้อยกว่า แต่เสน่ห์ของเธอเปรียบดั่งดอกกุหลาบสีแดงพร้อมกลิ่นหอมหวานชวนให้เคลิบเคลิ้มงมงาย
หยางเฉินเดินไปหาเฉียงเวยช้าๆ และโน้มตัวลงตรงหน้าเธอพลางกล่าวว่า
"พี่เฉียง ผมก็อยากััดูนะ แต่กลัวโดนกริชในมือพี่สับมือขาดน่ะสิ"
"ฉันสามารถงั้นหรือ?" เฉียงเวยกล่าวอย่างยั่วยวน
"พี่สาวงดงามขนาดนี้ บางทีความรู้สึกของผมอาจจะทื่อด้านไปบ้าง"
"แล้วนายอยากลองไหมล่ะ" เธอเลียริมฝีปากพูดด้วยน้ำเสียงเร่าร้อน
หยางเฉินสูดกลิ่นกายของเธอ ให้ความรู้สึกเหมือนดอกไม้ที่กระตุ้นอารมณ์ทางเพศ
"แล้วผมต้องทำอะไรเป็การแลกเปลี่ยน?"
จบประโยค แววตายั่วยวนของเฉียงเวยเปลี่ยนเป็ผิดหวัง เ็ปและเคียดแค้น ความรู้สึกมากมายปรากฏในดวงตา
"ฮ่าๆๆ หยางเฉิน นายเห็นฉันเป็คนแบบนี้นี่เองสินะ..."
"เป็แบบไหนล่ะ?" หยางเฉินหัวเราะอย่างสนุกสนาน
"นายคงคิดว่าฉันใช้ร่างกายเข้าแลกเพื่อบรรลุเป้าหมายอยู่ใช่ไหม?" เฉียงเวยพูดอย่างตรงไปตรงมา
"ใช่แล้ว นายแข็งแกร่งอย่างมาก ฉันไม่เคยเห็นใครไร้เทียมทานเท่านายมาก่อน" เธอกล่าวพลางดึงผ้าคลุมปกปิดร่างกาย
"และฉันก็้าพลังของนาย ตอนนี้แก๊งหนามแดงของฉัน และแก๊งพันธมิตรตะวันตกของพ่อฉัน เป็สองแก๊งมาเฟียที่ใหญ่ที่สุดในเขตตะวันตกนี้ แก๊งหนามแดงของฉันยังอ่อนแออยู่มาก ถ้าเกิดการปะทะกันขึ้น แก๊งพันธมิตรตะวันตกอาจสูญเสียไม่น้อย แต่แก๊งหนามแดงของฉันแน่นอนว่าต้องพินาศย่อยยับโดยสมบูรณ์..."
พูดถึงตอนนี้ ใบหน้าที่น่ารักของเธอเปลี่ยนเป็เย็นเยียบ
"หยางเฉิน จำวันที่เราพบกันครั้งแรกได้หรือไม่… คืนนั้นที่ฉันถูกซุ่มโจมตีจนาเ็ และลูกน้องทั้งหมดถูกกวาดล้าง ส่วนฉันหลบหนีอย่างโดดเดี่ยว..."
หยางเฉินเงี่ยหูฟังเงียบๆ นึกย้อนเหตุการณ์ในค่ำคืนนั้น