ครั้งนี้ไป๋หลิงฮัวกำลังหาเสื้อ คงเพราะมีนัดกับใคร่เที่ยง เธอจึงปูเสื้อผ้าไว้เต็มเตียง
หร่านซวี่จือคุกเข่าอยู่ขอบเตียงแล้วช่วยเธอหา
ไป๋หลิงฮัวค้นออกมาเองหนึ่งตัวแล้วถอดเสื้อเชิ้ตออก อีกครั้งหนึ่งที่หร่านซวี่จือได้เห็นาแบนไหล่ของไป๋หลิงฮัว ซึ่งก่อนหน้านี้ที่เห็น หร่านซวี่จือจำได้ชัดเจนว่ามีเพียงหนึ่งถึงสองรอย แต่ครั้งนี้ กลับมีหลายรอยอย่างเห็นได้ชัด
แม้ว่าไป๋หลิงฮัวจะอธิบายว่าเหล็กจากสายเสื้อชั้นในเกี่ยวโดน แต่อีกครั้งที่หร่านซวี่จือได้เห็น เขากลับรู้สึกว่ามันคล้ายกับรอยที่เกิดจากเล็บ
“พี่” จู่ๆ หร่านซวี่จือก็เอ่ยขึ้นมา “ทำไมพี่ถึงรู้ว่าเฉิงจวิ้นน่าจะมีปัญหาล่ะ? ”
ไป๋หลิงฮัวไม่ได้มีปฏิกิริยามากมายกับคำถามที่โพล่งออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยของหร่านซวี่จือ แต่เธอก็ไม่ได้เอ่ยปากตอบ หลังจากที่เธอจัดการเสื้อผ้าของตนเองเสร็จ เธอก็ลุกไปยืนอยู่ที่หน้ากระจก
เธอยืดตัวตรงแล้วหันข้างสำรวจตนเองในกระจก จากนั้นก็จัดผมลอนให้สยายบนบ่า
เสื้อตัวที่ไป๋หลิงฮัวหาออกมาคือชุดกี่เพ้า ชุดนั้นสวยงามมากและพอดีกับตัว ผ้าไหมที่เย็บอย่างประณีตกำลังห่อหุ้มรูปร่างที่สะโอดสะอง แต่เนื่องจากอุณหภูมิที่ต่ำ การแต่งกายแบบนี้จึงไม่ค่อยเหมาะสมนัก
ไป๋หลิงฮัวไม่ได้รู้สึกหนาวแต่อย่างใด เธอก้มมองสำรวจตนเอง
หร่านซวี่จือรออย่างอดทนชั่วครู่ เขารอไป๋หลิงฮัวตอบคำถามของตน
“เสี่ยวหลิง แกคิดว่าสวยไหม? ” ไป๋หลิงฮัวหมุนตัว เธอมองหร่านซวี่จือแล้วเอ่ยถาม
หร่านซวี่จือชี้ไปจุดที่ยับเหนือสะโพกของไป๋หลิงฮัว “จัดตรงนี้สักหน่อย”
ไป๋หลิงฮัวหันศีรษะไปทางด้านข้างแฃ่งใช้นิ้วมือปาดรอยยับบนนั้น แต่เหมือนไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่
ขณะที่หร่านซวี่จือคิดว่าไป๋หลิงฮัวคงจะไม่บอกอะไรแล้ว ทันใดนั้นหร่านซวี่จือก็ได้ยินเสียงคล้ายพึมพำออกมา “เราเหมือนกัน”
หร่านซวี่จอเงยหน้ามอง
ไป๋หลิงฮัวยังคงจัดแจงเสื้อผ้าของตนเอง ท่าทีของเธอไม่เปลี่ยนไป ราวกับว่าคำพูดเมื่อครู่เธอไม่ได้พูดออกมาและหร่านซวี่จือนั้นคิดไปเอง
คงเพราะเห็นว่าพี่สาวของเขาจะไม่พูดอะไรมากไปกว่านี้ หร่านซวี่จือจึงลุกขึ้นจากขอบเตียงแล้วเดินไปทางประตู
ก่อนจากไป จู่ๆ ไป๋หลิงฮัวก็เอ่ยขึ้นอีก “เสี่ยวหลิง”
หร่านซวี่จือหยุดชะงักฝีเท้า
“ถ้ามีเวลา พาพี่ไปดูข้างนอกบ้างนะ”
“อืม”
หร่านซวี่จือ: “สองสามสาม นายอยู่หรือเปล่า? ”
ระบบ: “คุณรัน ไม่เจอกันนานนะครับ”
หร่านซวี่จือ: “คนร้ายที่ฆ่าเฉิงจวิ้น เซียวหงกับจ้าวผิง เป็คนเดียวกันหรือเปล่า? ”
ระบบ: “คุณรันครับ คำถามนี้เป็หนึ่งในเื่แจ้งเตือน ้าใช้แต้มสะสมเพื่อเปิดดูไหมครับ? ”
หร่านซวี่จือ: “อืม”
ระบบ: “คนร้ายที่ฆ่าเซียวหง กับคนร้ายที่ฆ่าเฉิงจวิ้นและจ้าวผิง ไม่ใช่คนเดียวกันครับ”
หร่านซวี่จือ: “ถ้าอย่างนั้นคนร้ายยังมีชีวิตอยู่หรือไม่? ”
ระบบ: “ขอโทษครับ กระผมไม่มีอำนาจในการตอบคำถามนี้ครับ”
หร่านซวี่จือ: “ได้”
หวังเฉิงใช้รถเข็นขนปูนซีเมนต์ไปหลังบ้านไป๋ เขามองไม่เห็นหร่านซวี่จือ เห็นแต่ไป๋หลิงฮัวยืนที่อยู่ตรงหน้าต่างและจ้องเขาไม่พูดไม่จา
“น้องชายเธอล่ะ? ”
ไป๋หลิงฮัวพ่นควันบุหรี่ออกมา “เมื่อครู่เสี่ยวจางมาหาเขา”
หวังเฉิงเกาศีรษะด้วยความหงุดหงิด “เ้าเด็กบ้า กล้าทิ้งฉันไว้แล้วไปเอง”
“มาถมรูหรือ? ” ไป๋หลิงฮัวมองไปที่กองปูนซีเมนต์
หวังเฉิงใช้พลั่วตักปูนซีเมนต์ไปบนหลุม “รูบ้านเธอตรงนี้แค่เห็นก็อัปมงคลแล้ว”
“ถมตอนนี้ก็เปล่าประโยชน์” ไป๋หลิงฮัวหลับตาเอ่ย “นายควรจะมาเร็วกว่านี้”
หวังเฉิงหน่ายใจ “ปูนซีเมนต์ก็เอามาแล้ว เธอจะให้ฉันลากกลับไปโดยไม่ทำอะไรเนี่ยนะ? ”
ขณะที่พูดอยู่นั้น หวังเฉิงไม่ได้สนใจไป๋หลิงฮัวอีก จากนั้น เขาก็เริ่มใช้ปูนซีเมนต์ถมรู
ปูนซีเมนต์ก้อนแล้วก้อนเล่าถูกถมเข้าที่ขอบของรู และหวังเฉิงก็ใช้พลั่วปาดมันให้เรียบ ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ก็เริ่มถมรูได้พอประมาณ
“หวังเฉิง” ขณะที่ได้ยินหวังเฉิงถึงกับสะดุ้ง เขาคิดไม่ถึงว่าไป๋หลิงฮัวยังอยู่นี่ไม่ได้ไปไหน
“เราสองคนยังมีความเป็ไปได้ไหม? ” ไป๋หลิงฮัวเอ่ยเสียงค่อย
หวังเฉิงปฏิเสธทันควัน “อย่าเลย เธอเป็คนสูงส่งเช่นนี้ ฉันน่ะไม่กล้ายุ่งด้วยหรอกนะ”
“ตอนนี้บ้านฉันมีเื่ให้ทำเยอะแยะ ยังไม่มีใจพูดเื่ความรัก เธอหาคนอื่นเถอะ”
“ไม่มีใจ? ” เหมือนคำนี้จะน่าขำอย่างมาก ไป๋หลิงฮัวยกยิ้มมุมปาก กระทั่งหรี่ตาพริ้ม แต่ต่อมาก็ไม่ได้พูดอะไร แล้วหายไปจากตรงหน้าต่าง
หมู่บ้านส่งคนมาจัดการเื่สวนที่ดินของจ้าวผิง
บ้านของจ้าวผิงอยูห่างจากบ้านของเสี่ยวจางเล็กน้อย ตอนที่เริ่มพรวนดิน มีชาวบ้านไม่น้อยไปล้อมวงดูความครึกครื้น
หร่านซวี่จือบังเอิญเดินผ่านตรงจุดนั้นพอดีก็ได้ยินพวกเขาคุยกัน บอกว่าที่นี่น่าจะมีการสร้างบ้านหลังใหม่เร็วๆ นี้ เพื่อไว้ใช้สำหรับงานของคณะกรรมการเพราะหอคณะกรรมการเดิมนั้นเก่าแก่ทรุดโทรมมากแล้ว
“เฮ้อ นายดูสิจ้าวผิงนั่น น่าอนาถจริงๆ ถึงคราวจริงๆ ก็ปกป้องที่ดินนี้ไว้ไม่ได้ ว่าไหม? ”
“ก็ใช่ไง ตอนนั้นเคยทะเลาะกันใหญ่โตเื่สร้างถนน ตอนนี้คนตายไป แผนที่วางไว้ก็กลายเป็อากาศไป? ”
“ความแน่นอนก็คือความไม่แน่นอน…”
หร่านซวี่จือได้ยินเื่เหล่านี้ เขาจึงเอ่ยถามเสี่ยวจางที่อยู่ข้างกาย “ที่พวกเขาพูด คืออะไรหรือครับ? ”
เสี่ยวจางกำลังนับเงินที่อยู่บนตัว พอได้ยินคำถามของหร่านซวี่จือ เขาก็ตอบ “เฮ้อ ปีนั้นในหมู่บ้านมีผู้ใหญ่ใจดีคนหนึ่ง อยากสร้างถนนให้หมู่บ้านเรา บ้านพี่จ้าวอยู่ขวางที่ตรงนั้นพอดี หากจะสร้างถนนก็ต้องทุบบ้านทิ้ง”
“มีถนนหลวงก็น่าจะสะดวกกว่ามากไม่ใช่หรือ? คนที่ไม่เห็นด้วยน่ะหรือ เห็นจะมีแค่พี่จ้าวที่หวังว่าที่ดินที่ได้รับจากบรรพบุรุษจะสร้างความมั่งคั่งให้เขาได้ เป็ตายก็ไม่ยอมตกลง ต่อมาเื่ก็เลยไปถึงที่ว่าการตำบล”
“แต่ตอนนั้นเมื่อคำนึงถึงความเจริญของหมู่บ้านในการสร้างถนน กำนันจึงไม่ได้ฟังคำของพี่จ้าว เพียงแต่จู่ๆ ผู้ลงทุนนิรนามนั้นก็เปลี่ยนใจ บอกว่าไม่สร้างแล้ว พี่จ้าวถึงได้รักษามันไว้ได้ แต่ปรากฏว่าตอนนี้เสียชีวิต ที่ดินก็ถูกจัดการอยู่ดี” เสี่ยวจางถอนหายใจ
“ใช่สิ พี่เสี่ยวจาง” หร่านซวี่จือถาม “ผมได้ยินว่า พี่กับพี่เฉิง แต่ก่อนเคยได้รับทุนการศึกษาถึงได้ร่ำเรียน เื่นี้จริงหรือเปล่าครับ?”
เสี่ยวจางใ “นายรู้เื่นี้ได้อย่างไรกัน? ”
“บังเอิญได้ยินคนพูดถึงน่ะครับ” หร่านซวี่จือเอ่ย “พี่รู้ไหมว่าคนที่ให้ทุนการศึกษาตอนนั้นคือใคร? ”
“เื่นี้ไม่แน่ใจ” เสี่ยวจางเอ่ย “เฮ้อ ฉันรู้สึกซาบซึ้งคุณคนนั้นเหลือเกิน หากไม่ใช่เพราะได้ร่ำเรียน ฉันที่ทำงานอยู่ข้างนอกนานหลายปีก็คงไม่มีทางได้งานแน่นอน ตอนนี้ก็คงไม่มีทางได้ตำแหน่งคณะกรรมการหมู่บ้าน”
หลังจากที่เสี่ยวจางได้เงินมา เขาก็กล่าวลากับหร่านซวี่จือแล้วรีบวิ่งไปหาเพื่อนวงไพ่ที่นัดไว้แล้ว หร่านซวี่จือก็หันหลังแล้วเดินกลับเข้าบ้าน
“เสี่ยวหลิง มีคนส่งของนี่มาให้แกน่ะ” หร่านซวี่จือเพิ่งกลับถึงบ้าน ก็ได้ยินเสียงของไป๋เหมยะโออกมาจากในห้อง
หร่านซวี่จือหยิบของสิ่งนั้นมาก็เห็นว่าเป็จดหมาย เหมือนจะส่งมาจากมหาวิทยาลัยที่หร่านซวี่จือกำลังศึกษาอยู่
หร่านซวี่จืออ่านเสร็จ ความหมายของทางมหาวิทยาลัยก็คือ ทางมหาวิทยาลัยได้พิจารณาเื่ผลการเรียนดีเด่นของหร่านซวี่จือและ้าหยิบยื่นทุนการศึกษาต่างประเทศให้เขา แต่หากเขา้าจะไปจริงก็ต้องเรียนถึงสี่ปี แต่ถ้าเรียนจบกลับมา อนาคตนั้นก็ย่อมไม่มีขีดจำกัดแน่นอน
พวกไป๋เหมยมองหน้ากัน ทุกคนต่างก็ดีใจตื่นเต้น ให้หร่านซวี่จือตอบรับ แต่หร่านซวี่จือกลับลังเลเล็กน้อย
ไม่ใช่เพราะอื่นใด แต่เป็เพราะหวังเฉิง
หวังเฉิงย่อมไม่อยากแยกจากหร่านซวี่จือแน่นอนและหร่านซวี่จือเองก็ไม่อยากเช่นกัน อีกทั้งการเรียนต่างประเทศสำหรับหร่านซวี่จือแล้วก็ไม่ได้มีอะไรที่น่าดึงดูดมากมาย