“ท่านพ่อ…ตอนนี้จินเป่าต้องใช้เงินเรียนหนังสือเยอะ ที่บ้านไม่มีแม้แต่เนื้อ จะเอาเงินจากที่ใดไปซื้อบ่าวใช้”
หลินซย่าจื้ออยากมีคนปรนนิบัติเช่นกัน เมื่อก่อนนี้หลินหวั่นชิวเป็ทั้งสาวใช้และคนใช้แรงงาน
แต่ตอนนี้…
กลายเป็นางที่ต้องทำงาน…
สวี่ซื่อพูดอย่างไม่เห็นด้วยเช่นกัน “แค่ข้าวละเอียดยังไม่มีให้กิน คิดจะซื้อบ่าวใช้ มีเงินเยอะจนเผาเล่นหรือ?”
หลินฟาไฉไม่พูดกระไรมาก เขากลับห้องแล้วปิดประตู สวี่ซื่อเข้าไปไม่ได้ โมโหถมึงทึง
ไม่นาน หลินฟาไฉก็กลับออกมา “ข้าจะเข้าตำบล ลูกใหญ่ไปเอาเศษเงินมาหน่อย ข้าจะช่วยออกเงินเพิ่ม ซื้อข้าวละเอียดกับเนื้อ จินเป่ากลับมาแล้วจะได้มีเนื้อกิน”
ต่างจากสำนักศึกษาชิงซง สำนักศึกษาจิ่วไท่ยังไม่หยุดเรียนจนกว่าจะสิ้นปี ภายนอกเหมือนดูแลรับผิดชอบนักเรียน แต่แท้จริงแล้วหลอกเอาเงิน อาจารย์ครึ่งหนึ่งในสำนักหยุดงานั้แ่วันล่าปา อีกครึ่งที่เหลือต้องผลัดกันมาดูนักเรียน
หลินซย่าจื้อได้ยินเขาพูดเช่นนี้ก็ย่อมไม่คัดค้าน
อีกอย่างบ้านหลินก็มีบ้านมีที่ดิน สวีเทาเป็คนจ่ายค่าเล่าเรียนให้จินเป่า ถึงครอบครัวจะลำบากอย่างไรก็ยังดีกว่าครอบครัวส่วนใหญ่ในหมู่บ้าน
นางกลับห้องไปหยิบเงิน หลินฟาไฉรอด้านนอก
“กรี๊ด…เงินของข้า…” เสียงร้องแหลมและเสียงร่ำไห้ของหลินซย่าจื้อดังขึ้น หลินฟาไฉกับสวี่ซื่อรีบวิ่งเข้าไปดู เห็นหลินซย่าจื้อถือกล่องใบเปล่าไว้ในมือ ม่านเตียงถูกเลิกขึ้น อิฐด้านหลังสองก้อนถูกแงะออกมาเป็รู
“เงินหายไปแล้ว…ป้ายหยกนั่นก็หายไปแล้ว…” หลินซย่าจื้อทรุดตัวร้องไห้บนพื้นประหนึ่งบิดามารดาตาย
“เ้าว่ากระไรนะ?” สวี่ซื่อรู้สึกหน้ามืด เงินหายไปแล้ว ป้ายหยกก็หายไปแล้ว!
หลินฟาไฉหน้าดำยิ่งกว่าก้นหม้อ “ไหนเ้าบอกว่าไม่มีเงินแล้วอย่างไรเล่า?” เขาถึงได้ขอแค่เศษเงินจากหลินซย่าจื้อ “นับจากนี้ หากจินเป่ายังไม่แต่งงาน รายรับทั้งหมดให้ข้าเป็คนดูแล!”
หลินฟาไฉหันตัวเดินจากไปด้วยความเดือดดาลเมื่อพูดจบ
สวี่ซื่อไม่สนใจทั้งนั้นว่าผู้ใดจะเป็คนเก็บเงิน เพราะถึงอย่างไรก็ตกมาไม่ถึงมือนาง แค่เปลี่ยนคนก็เท่านั้น
นางถามหลินซย่าจื้อด้วยความเสียดาย “ลูกใหญ่ เงินหายไปเท่าไร?”
หลินซย่าจื้อร้องไห้ “หยกชิ้นนั้นขายเป็เงินได้ไม่รู้ตั้งเท่าไร มีเครื่องประดับที่ข้าเก็บสะสมมาหลายปีกับเงินที่เก็บไว้ให้จินเป่าอีกแปดสิบตำลึง… หมดแล้ว ไม่เหลือแล้ว หากนำป้ายหยกไปจำนำ…อย่างน้อยต้องได้สองสามร้อยตำลึง มิหนำซ้ำ ข้าวางแผนไว้ว่าจะยกป้ายหยกให้จินเป่า… ฮือฮือ หมดแล้ว! หลินฉิน...ต้องเป็ฝีมือหลินฉินเป็แน่ นังลูกเวรนี่ หนีออกจากบ้านแล้วยังจะขโมยสมบัติข้าอีก! นังลูกอกตัญญู ต้องโดนฟ้าผ่า! เหตุใดตอนนั้นข้าไม่โยนนางลงสะพาน…เก็บไว้ทำกระไรกัน?”
หลินซย่าจื้อรู้สึกไม่ต่างจากฟ้าถล่ม เงินของนาง…ป้ายหยกของนาง ไม่มีกระไรเหลือแล้ว!
เนื้อบนร่างเหมือนโดนควักเอาไปเสียหมด
เจ็บเหลือเกิน!
นี่มันเพราะเหตุใดกันแน่ เงินบ้านเจียงก็ไม่ได้ กลายเป็ครอบครัวนางเสียเองที่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด
ต้องเป็เพราะตัวซวยหลินหวั่นชิวเป็แน่!
“นังเด็กเวรนั่น!” สวี่ซื่อตบเข่าด้วยความโมโห สองแม่ลูกนั่งร้องไห้บนพื้นด้วยกัน
หลินฮั่วกลัวจนไม่กล้าออกจากห้อง โจวเอ้อร์เหนิงไปเก็บฟืนที่ตีนเขา ไม่กล้าอยู่บ้านเช่นกัน
มีคนปีนกำแพงแอบดูบ้านหลินแต่ก็ไม่เห็นกระไร ต่างพากันเดาว่าเกิดกระไรขึ้น
พลบค่ำ เหล่าหลินนั่งเกวียนกลับมา
เขาไม่เพียงซื้อข้าวสารและเนื้อ แต่ยังพาฟู่เหรินกับแม่นางน้อยสองคนกลับมาด้วย
ฟู่เหรินอายุประมาณสามสิบกว่า สวมเสื้อบุนวมสีม่วงอ่อนกับกระโปรงสีเดียวกันปักลายผีเสื้อขาว ท่าทีสุภาพ
แม่นางน้อยคนหนึ่งแต่งตัวค่อนข้างดี แม่นางน้อยที่หน้าตาคล้ายฟู่เหรินดูอายุประมาณสิบขวบ แม่นางท่าทางอายุประมาณสิบสี่อีกคนที่สวมชุดบุนวมสีพื้นไม่มีลายดูเหมือนจะเป็สาวใช้ของแม่นางน้อย
แม่นางอายุสิบสี่สะพายห่อผ้า หลินฟาไฉช่วยถือหนึ่งห่อใหญ่
หลังจากพาพวกนางเข้ามา สวี่ซื่อออกมาดูทันที
“ไอ้คนสารเลว แอบมีสตรีอื่นลับหลังข้า…ข้าจะฆ่าเ้า!” สวี่ซื่อะโแล้วกระโจนเข้ามา หลินฟาไฉไม่ทันตั้งตัว หน้าโดนข่วนไปสองแผล
หยดเืซึมออกมา
หลินฟาไฉตบหน้านาง แววตาประหนึ่งจะกินคน สวี่ซื่อใตัวสั่น หลินฟาไฉพูดเสียงกร้าว “ถ้าโวยวายอีกข้าจะหย่ากับเ้าเสีย!”
สวี่ซื่อไม่กล้าโวยวายอีก ได้แต่มองจางซื่อด้วยแววตาโกรธแค้น
“โอ้ ลุงหลิน พาคนรักกลับมาฉลองปีใหม่หรือ?”
“ป้าสะใภ้คนใหม่งดงามยิ่งนัก!”
“ตาแก่หลิน เ้ามีวาสนาเื่สตรีไม่เบา!”
หลินฟาไฉสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้ามีรอยยิ้ม หันไปประสานมือให้ทุกคน “ขอบคุณทุกท่าน ไว้ผ่านปีใหม่แล้วจะเชิญทุกท่านมาดื่มสุรา จางซื่อเป็ผิงชี[1]คนใหม่ของข้า”
เดิมทีชาวบ้านที่มามุงดูก็มีการคาดเดาต่างๆ นานา แต่คิดไม่ถึงว่าเหล่าหลินจะพาภรรยาคนใหม่กลับมาจริงๆ
พากันชมว่าเขามีโชคเื่สตรี อายุสี่สิบกว่าแล้วยังแต่งกับสตรีหน้าตางดงามขนาดนี้ได้อีก
“วันนี้ไม่สะดวกต้อนรับทุกท่าน กลับไปพักผ่อนกันก่อนเถิด” เขาเดินไปปิดประตูเมื่อพูดจบ จางซื่อย่อตัวคำนับให้ทุกคน ท่าทีประณีตอ่อนช้อย ต่างจากสตรีชาวบ้านในชนบทโดยสิ้นเชิง
ทุกคนยิ่งชื่นชมเข้าไปใหญ่ พากันบอกว่าเหล่าหลินโชคดี…เหมือนเมื่อสิบกว่าปีก่อนที่จู่ๆ ก็โชคดีมีเงินสร้างบ้านซื้อที่ดิน
ทั้งที่ในบ้านเกิดเหตุการณ์ยากลำบากแต่กลับพาสตรีกลับมาบ้าน
หลังจากที่คนนอกกลับไปหมด หลินฟาไฉพาทั้งสามคนไปพักห้องที่หลินฉินเคยอยู่ จากนั้นเรียกหลินซย่าจื้อกับสวี่ซื่อมาที่ห้องโถง ปิดประตูห้องโถงให้เรียบร้อย
หลินซย่าจื้อถามอย่างไม่พอใจ “ท่านพ่อ…ที่บ้านลำบากขนาดนี้ เหตุใดท่านยังพาคนอื่นกลับมาอีก? ทั้งที่ก่อนหน้านี้ท่านบอกว่าจะซื้อบ่าวใช้”
นี่ไม่ต่างกระไรกับหลังคารั่วแล้วฝนตกทั้งคืน ท่านพ่อนางเพิ่มภาระ สามคนนี้ดูแล้วไม่เหมือนคนที่ทำงานเป็
มีปากต้องกินอาหารเพิ่มเข้ามาสามปาก
สวี่ซื่อปิดหน้าร้องไห้
นางเสียใจจริงๆ
หลินฟาไฉจุดปล้องยาสูบ สูบหนึ่งคำแล้วพูดว่า “เดิมทีข้าจะไปซื้อบ่าวใช้ ผู้ใดจะไปคิดจะว่าเจอโชคก้อนใหญ่”
ได้ยินหลินฟาไฉพูดด้วยน้ำเสียงมีความสุข สวี่ซื่อยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม
เชิงอรรถ
[1] ผิงชี(平妻) ตำแหน่งภรรยารองตำแหน่งถัดๆ ไปในบ้านเดียวกัน สถานะต่ำกว่าภรรยาหลวง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้