กงเจวี๋ยพอคาดเดาได้ว่าหนังสือเล่มนี้เป็หนังสืออะไร
“เสด็จพี่ เพราะเหตุใดท่านจึงอ่านหนังสือประเภทนี้?” เขากล่าวด้วยท่าทางจริงจังแกมไม่เข้าใจ
ดูจากภายนอก เขาดูบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ใบหน้าเ็าดวงตาสีน้ำหมึกคู่นั้นมองมาที่นางพร้อมขมวดคิ้วมุ่นท่าทางเช่นนี้ทำให้กงอี่โม่ก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด
“ข้าไม่ได้อ่าน”
“ถ้าเช่นนั้นจะให้ใครอ่านหรือ?” กงเจวี๋ยแอบยิ้มอยู่ในใจ ทว่าเขากลับแสดงออกโดยการเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“ก็ต้องเป็เ้าน่ะสิ” เมื่อได้ยินเช่นนี้ กงอี่โม่จึงเงยหน้าขึ้นทันที เมื่อเห็นกงเจวี๋ยนิ่งงัน กงอี่โม่จึงรู้สึกว่าเื่นี้เป็ไปได้จริงๆ
“ตอนนี้เ้าอายุสิบเอ็ดปีแล้ว ถึงเวลาที่ควรสอนเ้าเกี่ยวกับเื่ระหว่างหญิงชายแล้ว”
หากเขามีมารดา มารดาของเขาย่อมต้องจัดคนสอนเขาเกี่ยวกับเื่เหล่านี้ทว่าตอนนี้เขาไม่มีมารดา ดังนั้นกงอี่โม่จึงต้องเป็ผู้รับหน้าที่นี้ไว้เองเวลานี้กงเจวี๋ยอยู่ในวัยที่ยังไม่เคยััเื่พวกนี้ หากสอนให้เขารู้บางส่วนเวลาเขาอยู่ด้านนอกจะได้ไม่ถูกหญิงสาวหลอกลวง
“ให้ข้าอ่าน?” เห็นกงเจวี๋ยพลันหน้าแดง กงอี่โม่จึงเกร็งร่าง
“ใช่ เ้ามานี่ เ้าบริสุทธิ์ไร้เดียงสาเกินไปข้าคิดว่าข้าจำเป็ต้องสอนเ้าว่าเื่ระหว่างหญิงชายเป็เื่เกี่ยวกับอะไร”
เื่ระหว่างหญิงชาย
กงเจวี๋ยยังเป็เด็กหนุ่มบริสุทธิ์ เมื่อเห็นท่าทางกระตือรือร้นของกงอี่โม่เช่นนี้หัวใจที่เคยสงบนิ่งก็เริ่มสั่นสะท้านขึ้นมา เขาถูกนางดึงตัวนั่งลงตรงข้างเตียงด้วยสภาพงุนงง
ทว่าแม้คำพูดจะติดตรงริมฝีปากแล้วแต่กงอี่โม่ยังคงไม่รู้ว่าจะเริ่มเอ่ยปากเช่นไร
พวกเขาทั้งสองนั่งเรียงกัน บรรยากาศอึดอัดมาก กงอี่โม่เกร็งร่างเล็กน้อยนางไม่รู้ว่าจะกล่าวต่อเช่นไรทว่ากงเจวี๋ยไม่คิดจะปล่อยโอกาสเข้าใกล้นางอย่างใกล้ชิดเช่นนี้เลย
“คืออย่างนี้” กงอี่โม่หยุดคิดสักครู่ นางตบบ่ากงเจวี๋ยด้วยท่าทางมั่นใจ
“เ้าก็โตแล้ว อีกไม่กี่ปีก็ถึงวัยแต่งงาน ดังนั้นเวลาอยู่ด้านนอกเ้าต้องรู้จักรักนวลสงวนตัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาอยู่กับสตรีต้องระวังให้มาก เ้าต้องควบคุมตนเองอย่าจากไปไม่กี่ปีแต่กลับมีบุตรเป็ตัวเป็ตนเสียล่ะ”
เื่มันเลยเถิดไปไหนแล้ว? ตอนแรกกงเจวี๋ยตั้งใจฟังอย่างดี แต่เมื่อนางกล่าวออกมาเรื่อยๆเขาจึงเริ่มรู้สึกผิดปกติ จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเ็า
“ไม่มีทาง” เขาไม่มีทางััสตรีนางอื่น และยิ่งไม่มีทางมีบุตร
“ทำไมจึงไม่มีทางล่ะ เ้ารู้หรือไม่ว่าการมีบุตรเป็เื่ง่ายมากเพียงใดแค่เ้าจูบหญิงสาวสักคน นางก็จะตั้งครรภ์ได้แล้ว” กงอี่โม่เห็นท่าทางไม่ใส่ใจของเขาแล้วนางจึงแกล้งแหย่เขาให้ใ
เมื่อสิ้นเสียงของนาง กงเจวี๋ยพลันโน้มตัวไปด้านหน้า ปิดปากเล็กๆที่เขาหลงใหลมานานของอีกฝ่าย เขาััเพียงชั่ววินาทีจากนั้นจึงะโออกมาโดยพลัน
“แบบนี้หรือ?”
ราวกับเวลาหยุดชะงักไปเขาได้ยินเพียงเสียงหัวใจเต้นแรงราวฟ้าะเืของตน
การััครั้งแรก กงเจวี๋ย้าลิ้มรสเพียงแ่เบาเท่านั้นทว่าการกระทำนี้กลับทำให้กงอี่โม่ตะลึงงันไปทันที กงเจวี๋ยมองริมฝีปากนุ่มชุ่มชื่นเขารู้สึกลำคอแห้งผาก ์ย่อมรู้ดีว่าเขาต้องใช้ความพยายามมากเพียงใดจึงไม่ปล่อยให้ตัวเองลุ่มหลงอยู่ในนั้นเขาเกรงว่าหากััลึกซึ้งเกินไปอาจทำให้นางรังเกียจเขาจึงได้แต่ลิ้มลองแ่เบาแล้วจึงผละออกมา ดวงตาสีน้ำหมึกของเขาเป็ประกายสุกใสพร้อมเอ่ยถาม
“แบบนี้หรือ?” หากจูบเพียงเท่านี้ก็สามารถมีบุตรได้แล้ว มันก็คงดีไม่น้อย
โดยปกติหากองค์ชายไม่มีเสด็จแม่แล้ว เขาจะมีขันทีอยู่ข้างกายแม้จะรู้ข้อมูลเหล่านี้อยู่บ้าง แต่ก็ยังไร้เดียงสามากทว่าในวังหลังมีผู้คนมากมาย้าพาเขาเสียคนนับั้แ่ตอนวัยเก้าขวบที่เขาถูกนางกำนัลคนหนึ่งวางยา อีกทั้งยังเปลือยกายยั่วยวนเขาหลังจากเหตุการณ์นั้นล้มเหลวแล้ว ภายหลังเขาจึงหาหนังสือเหล่านี้มาอ่านด้วยตนเอง
เขาไม่มีทางปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ที่เขาไม่อาจควบคุมเื่ระหว่างหญิงชายก็เช่นเดียวกัน ดังนั้นหลายปีมานี้แม้เขาไม่เคยมีประสบการณ์โดยตรง ทว่าเขาก็ได้ผ่านตามาไม่น้อยภายหลังเขาจึงสามารถเอาตัวรอดจากกลอุบายของหญิงสาวมาได้ตลอดเพียงแต่เขาไม่เคยกล่าวถึงเื่เหล่านี้เท่านั้นเอง
ทว่ากงอี่โม่กลับลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับกงเจวี๋ยในวัยเก้าขวบนานแล้วนางเข้าใจว่าการเติบโตของเขาอยู่ภายใต้ขอบเขตการควบคุมของนางเสมอมาแต่นางไม่เคยรู้เลยว่าความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาของเขาล้วนเกิดจากการเสแสร้งขณะที่นางมองไม่เห็นนั้น เขาได้เติบโตขึ้นตามที่เขา้าอีกทั้งยังไม่อาจควบคุมความปรารถนาที่้านาง
เมื่อกงอี่โม่รู้ตัวว่าเมื่อสักครู่เกิดอะไรขึ้นแล้วนางจึงในิ่งงัน นางถูกหนุ่มน้อยที่นางเลี้ยงมากับมือจูบหรือ?แต่อีกฝ่ายกลับทำหน้าไร้เดียงสาขอคำตอบ ทำให้นางไม่กล้ากล่าวคำพูดแรงๆผ่านไปนานพอสมควรนางจึงเรียกสติกลับคืนมา
“ย่อมไม่ใช่เพียงเท่านี้อยู่แล้ว”
“แล้วต้องทำเช่นไรอีก?” ดวงตาของกงเจวี๋ยพลันเป็ประกาย
“ยังต้องนอนบนเตียงเดียวกัน เปิดเผยใส่กัน จากนั้นจากนั้นก็ปล่อยให้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ” กงอี่โม่ทำได้เพียงฝืนใจกล่าวขึ้น
์ย่อมรู้ดี ท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของกงเจวี๋ยนางเอ่ยปากพูดประโยคนี้ลำบากมากเพียงใด
“โดยสรุปก็คือ ใน่หลายปีที่เ้าอยู่ด้านนอกนั้น เ้าต้องรักนวลสงวนตัวห้ามทำกิริยาแบบเมื่อสักครู่อีก ห้ามทำกับใครทั้งนั้น”
ท่าทางร้อนใจของนางทำให้กงเจวี๋ยยิ่งอยากหยอกล้ออีกฝ่ายเขามองนางอย่างลึกซึ้งชั่วครู่ จากนั้นจึงมองซ้ำอีกครั้ง สุดท้ายจึงกล่าวเสียงต่ำ
“ข้าเข้าใจแล้วเสด็จพี่”
ทว่าสายตาทิ้งท้ายของเขากลับทำให้กงอี่โม่ขนหลังตั้งชัน
สิ่งของบรรเทาทุกข์ถูกทยอยเตรียมอย่างครบครันมีคนจำนวนมากเห็นแก่ฮ่องเต้จึงมอบของขวัญตามมารยาทให้กงเจวี๋ยตอนที่กงเช่อเดินทางมานั้น เขาไปที่ตำหนักไท่จี๋ก่อน เนื่องจากทุกคนต่างทราบกันดีกงเจวี๋ยถือเป็เงาของกงอี่โม่ ทว่าครั้งนี้เขากลับเดินทางมาเสียเปล่าแต่เมื่อได้เจอกงอี่โม่แล้ว เขาก็ดีใจอยู่ไม่น้อย
เวลานี้เป็ยามพลบค่ำ ทว่าท้องฟ้ายังคงสว่างอยู่กงอี่โม่ถือขวดยาสองสามขวดอยู่ในมือ นางกำลังวิ่งออกไปด้านนอกอย่างร่าเริงเมื่อเห็นกล่องผ้าไหมในมือของกงเช่อแล้ว นางจึงส่งยิ้มจนดวงตาเป็เส้นโค้ง
“ท่านพี่รัชทายาทมามอบของขวัญให้กงเจวี๋ยหรือ?”
ขณะที่กล่าวนั้น นางเดินเข้าไปคล้องแขนพาเขาเดินออกไปด้านนอกด้วยท่าทางสนิทสนม“ข้าก็กำลังจะไปพอดี พวกเราไปด้วยกันเถิด”
ดูเหมือนว่าวันนี้นางอารมณ์ดีมากปกตินางมักแสดงออกอย่างใกล้ชิดกับกงเจวี๋ยเท่านั้น มีส่วนน้อยที่จะแสดงท่าทางกระตือรือร้นเช่นนี้กับเขากงเช่อััถึงอุณหภูมิร่างกายของนาง เขาตื่นเต้นอยู่ในใจทว่ากลับไม่อยากตำหนินาง เขาจึงปล่อยให้นางดึงตัวเขาเดินไปด้วยกัน
เมื่ออยู่นอกตำหนัก เพื่อเป็การรักษาภาพลักษณ์อันดีงามกงอี่โม่จึงปล่อยแขนเขา ในขณะเดียวกันนางก็ทำท่าสนใจกล่องในมือของอีกฝ่าย“ท่านพี่รัชทายาทมอบของอะไรหรือ?”
กงเช่อไม่ได้ปกปิดอะไร เขาเปิดกล่องให้นางดูโดยตรง ด้านในเป็มีดสั้นประดับด้วยอัญมณีเล่มหนึ่งมันประณีตสวยงาม ทว่ามองเพียงแวบเดียวกงอี่โม่ก็รู้ได้ทันทีว่าความคมของมันสู้เล่มที่นางมอบให้กงเจวี๋ยไม่ได้เลย
“อุ๊ย สวยจังเลย กงเจวี๋ยจะต้องชอบอย่างแน่นอน” นางรำพึงออกมา ใช่ของมีค่าขนาดนี้สามารถขายเป็เงินไม่น้อยเชียวล่ะ
เมื่อเห็นกงอี่โม่ทำท่าชอบใจ กงเช่อจึงรู้สึกหัวใจอ่อนยวบราวกับน้ำ เขาส่งยิ้มขณะที่กำลังกล่าวว่าต่อไปข้าจะมอบมีดสั้นสักเล่มให้เ้านั้นกงอี่โม่กลับมองดอกบัวที่กำลังผลิบานอย่างหลงใหล นางอุทานหนึ่งคำจากนั้นจึงวิ่งตรงเข้าไป
นางสดใสมีชีวิตชีวา ดวงตาของนางมักเห็นความงามที่คนอื่นมองข้ามอยู่เสมอ
กงเช่อเดินตามนางไปทางสระบัว ในพระราชวังมีสระบัวอยู่แปดแห่งทว่าเวลานี้เขากลับรู้สึกว่าไม่มีสระบัวแห่งใดผลิบานได้งดงามเหมือนที่นี่มันมีสีสันสดใส ท้องฟ้ากระจ่างเริ่มปรากฏสีแดงตรงขอบฟ้ากงอี่โม่อยู่ในชุดยาวสีน้ำทะเลสาบ นางกำลังเริงร่าอยู่ท่ามกลางบรรยากาศเช่นนี้ชายชุดของนางปลิวไปตามสายลม ราวกับเทพธิดาผีเสื้อเลยทีเดียว
“ท่านพี่รัชทายาทรีบมาเร็ว มีฝักบัวแล้ว”
เวลานี้ดอกบัวมีฝักอ่อนฝักเล็กๆ ปรากฏอยู่บนผิวน้ำ ทว่าไม่ได้ส่งผลต่อการชื่นชมความงามของกงอี่โม่เลย
นางเขย่งเท้าเดินตัวปลิว ร่างของนางราวกับนกนางแอ่นเหินเวหา เพียงขยับตัว นางก็อยู่ในเรือที่จอดอยู่ลำหนึ่งพร้อมเด็ดดอกบัวเมื่อยืนนิ่งแล้ว นางจึงหันมาส่งยิ้มให้กับเขาที่ยืนอยู่ข้างทะเลสาบ
เวลานี้กงเช่อจึงเข้าใจแล้วว่าอาการหัวใจหยุดเต้นจากรอยยิ้มมีเสน่ห์มันเป็เช่นนี้เอง