น้ำมนต์นั่งทำงานของตัวเองไปโดยที่ไม่สนใจเลยว่า น้ำเพชรตอนนี้เอาแต่จ้องมองเธอ ภายในใจก็คิดว่าน้ำมนต์เปลี่ยนไปมากจริงๆ แถมยังลืมกันจนหมดใจ มันทำให้น้ำเพชรเสียใจไม่น้อยที่น้ำมนต์ลืมสัญญาที่เคยให้ไว้ต่อกัน แต่ก็พอจะเข้าใจได้ว่า ตอนนั้นน้ำมนต์อายุแค่ห้าขวบก็ไม่แปลกที่เด็กขนาดนั้นจะลืมได้ เมื่อพบเจอเพื่อนใหม่สังคมใหม่และผู้คนมากหน้าหลายตาผ่านเข้ามา และตอนนี้เธอจะมีใครไปหรือยัง แต่ตอนจูบกันอย่างลึกซึ้งเมื่อเช้าบนห้อง มันก็พอจะมั่นใจได้ว่า น้ำมนต์ไม่เคยจูบกับใครมากก่อนนอกจากน้ำเพชร ทำให้น้ำเพชรยิ้มออกมาได้แต่ก็ยังคงเก็บซ่อนเอาไว้ภายในใจ
“ทำไปถึงไหนแล้ว เอามาดูหน่อยสิน้ำมนต์ นั่งเงียบมาตั้งนานแล้ว”
น้ำมนต์หันกลับไปมองคนต้นเสียงที่ตอนนี้เหมือนกำลังรบกวนเธอมากกว่าจากที่เธอจะรีบทำให้เสร็จๆ ก่อนจะมืด กลายเป็ต้องเอาไปรายงานเ้านายหน้าั์ของเธออีก น้ำมนต์หยีบแฟ้มหอบไปให้น้ำเพชรอีกรอบแล้ววางลงบนโต๊ะในส่วนที่น้ำมนต์ทำเสร็จแล้ว และแก้ไขส่วนผิดพลาดให้เรียบร้อย
น้ำเพชรเปิดแฟ้มเอกสารตรวจดูที่ละหน้าก็เห็นการแก้ไขส่วนที่ผิดพลาดและรอเอาไปถ่ายเอกสารใหม่ มันทำให้น้ำเพชรเห็นว่า น้ำมนต์มีความสามารถจริงๆ ในด้านนี้พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างน้ำเพชรได้แน่นอน
“ดี ถือว่าจัดเรียงใหม่ได้สวย แต่ถ้าจะให้ดี ควรจัดเรียงหน้าให้ถูกด้วยนะ ไม่ใช่วางมั่วแบบนี้ แล้วแยกด้วยว่าแฟ้มไหนสำคัญกว่ากัน ไม่ได้ทับๆ กันแบบนี้ ไม่แยกเลย”
“หนิ คุณ ฉันก็แยกดีแล้วในตอนแรก แต่ใครละที่อยากจะดู ถ้าไม่ให้ฉันหอบมาให้ดูทั้งหมด ก็จะบอกว่า ให้ไปตั้งมาก ทำไมพึ่งทำได้แค่นี้หรือ มันน่าจะเป็แบบนี้ใช่มั้ยละ”
“เถียงทุกคำ งั้นมานี้” น้ำเพชรชี้ให้เข้ามาใกล้ๆ “เข้ามาอีก” พอน้ำมนต์เข้าไปข้างๆ โต๊ะก็ทำให้น้ำเพชรคว้าเอวเธอเข้ามา แล้วจับนั่งลงบนตัก หวังแค่ว่า เธอจะจำตักของน้ำเพชรได้ ทำเอาน้ำมนต์หน้าเสียที่ถูกฉวยโอกาสอีกแล้ว
“หนิ ปล่อยนะคุณ จะทำอะไร”
น้ำมนต์พยายามดิ้นให้หลุด แต่เหมือนเธอยิ่งดิ้น น้ำเพชรก็ยิ่งรัดเอวของเธอแรงขึ้น
“โอ้ย เจ็บนะ ปล่อยนะ”
“อย่าดิ้น นั่งเฉยๆ ถ้าไม่อยากให้รัดมากกว่านี้ ไหนจัดเรียงแฟ้มให้ฉันดูสิถ้าบอกว่าเมื่อกี้เรียงดีแล้วก่อนฉันใช้ให้ยกมา”
“ปล่อยก่อนสิ นั่งแบบนี้มันอึดอัด”
“อึดอัดตรงไหน ชอบจะตาย” น้ำเพชรสูบดมกลิ่นหอมที่เย้ายั่วของเธอ แต่ก็ไม่ถึงกับเตลิดมากมาย แค่ทำเหมือนจะจูบอีกครั้ง แค่นั้นก็ทำให้น้ำมนต์ร้องห้าม
“พอๆ ก็ได้ นั่งก็นั่ง แค่เรียงให้ดูใช่มั้ย พอเสร็จจะปล่อยใช่มั้ย”
“อือ เรียงสิ” น้ำเพชรไม่ได้รับปากว่าจะปล่อย แต่ก็ให้เธอจัดเรียงให้ดู แต่น้ำเพชรก็รู้ว่าเธอทำได้อยู่แล้ว ในเมื่อแก้งานได้ แค่จัดเรียงแฟ้มเอกสารทำไมเธอจะทำไม่ได้
“เสร็จแล้ว ปล่อยสิ” น้ำมนต์พยายามเอามือของตัวเองไปแกะมือของน้ำเพชร แต่มือปลาหมึกของน้ำเพชรมันเหนียวยิ่งกว่าหนวดปลาหมึกอีก
“ไหนบอกว่าจะปล่อยไง มือคนหรือมือปลาหมึก เหนียวจริงๆ”
“มือของฉันนี้แหละ คุณเพชร”
น้ำเพชรมองดูแฟ้มที่น้ำมนต์จับ มันก็เป็อย่างที่คิดคือจัดเรียงได้ถูกต้องจริงๆ น้ำเพชรจึงปล่อยเธอตามที่บอก
“จะไปไหน ยังไม่ได้บอกให้ไป เที่ยงแล้วฉันหิวข้าว เธอต้องไปกินข้าวพร้อมฉัน เพราะ่บ่ายฉันมีประชุมอีกบริษัท ไปหยิบกระเป๋าและถือแฟ้มสองอันนี้ไปด้วย”
น้ำเพชรลุกขึ้นเดินน้ำหน้าน้ำมนต์ไป ทำเอาน้ำมนต์หมั่นไส้ไม่น้อยที่เอาแต่สั่งๆ งานที่ให้เมื่อเช้าก็ยังไม่เสร็จ นี้ลากเธอไปอีกบริษัทละ มันอะไรของน้ำเพชรนั้นคือสิ่งที่น้ำมนต์ไม่เข้าใจ เจอกันวันแรกก็สั่งงานกองเต็มโต๊ะ พอตอนนี้พาไปประชุมอีก
ภายในร้านอาหารสุดหรูที่แยกเป็ห้องพิเศษส่วนตัว น้ำเพชรมาเป็ประจำก็นั่งลงที่ห้องประจำ พร้อมทั้งส่งเมนูให้น้ำมนต์สั่ง เพื่อที่จะดูว่าเธอจะสั่งอะไรมาบ้าง
“สั่งเองสิ คุณจะทานอะไรฉันจะทราบมั้ย ส่วนฉันยังไม่หิว ไม่ต้องสั่งมาเผื่อหรอก”
“อย่าดื้อ เธอนั้นแหละสั่ง สั่งทั้งของฉันและของตัวเอง ถึงเวลาทานก็ต้องทาน เรายังต้องทำงานอีกทั้งวัน จะปล่อยให้ท้องว่างได้ยังไง แล้วภายในท้องของเธอ ในอนาคตมันก็คือที่อยู่ของลูก ช่วยดูแลตัวเองให้ดีหน่อย เพื่อลูกในอนาคต”
“ใครอยากจะมีลูกกัน”
“คนที่รักเธอไง ก็ต้องอยากมีลูกกับเธออยู่แล้ว อย่าเถียงทำตัวเป็เด็ก ตอนเด็กไม่เห็นดื้อแบบนี้ นอนบนอกฉันทุกคืนทุกวัน ทำตัวน่ารักมาก พอโตขึ้น เถียงทุกคำพูดอะไรก็เถียงไม่หยุด”
“นั้นมันเื่ตอนเด็ก ฉันยังไม่รู้ความ ไม่รู้อะไรทั้งนั้น มันเอามานับไม่ได้หรอกคะ แต่ตอนนี้ฉันโตแล้ว ถ้าคุณน่าเคารพ ฉันก็จะเชื่อฟังคุณ แต่คุณทำอะไรให้ฉันเคารพบ้าง”
“ได้ ตอนเด็กไม่นับ งั้นถ้ามีอะไรเกิดขึ้นตอนเธอโตแล้ว รู้ความแล้วก็ห้ามปฏิเสธ ถูกมั้ยน้ำมนต์”
“ถ้าเป็สิ่งที่ยอมรับได้ ฉันก็ไม่ปฏิเสธ”
“ดี เธอพูดเองนะ แล้วอย่ามากลับคำ กลืนน้ำลายตัวเองที่หลังก็แล้วกัน ฉันไม่ยอมเธอแน่น้ำมนต์ สั่งได้แล้ว ฉันหิว”
น้ำมนต์หยิบเมนูอาหารขึ้นมาดู และสั่งอาหารมาสามอย่างพร้อมเครื่องดื่มที่เข้ากับอาหารที่เธอสั่งมา พอเอามาเสริฟ ทำให้น้ำเพชรยิ่งพอใจในตัวว่าที่ภรรยาของตัวเองมาก ถึงขั้นหลงใหลเลยที่เดียว เมื่อเธอสั่งมาได้ถูกใจน้ำเพชร แต่ของน้ำมนต์สิ ทำให้น้ำเพชรถึงกับขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างเร็ว
“สั่งมาให้เดี๋ยวนี้น้ำมนต์ มีแต่ผักอย่างเดียว สั่งพวกเนื้อมาเพิ่มเดี๋ยวนี้ แล้วอย่าให้ฉันเห็นเธอสั่งแต่ผักมาแบบมากินอีกนะ แล้วสั่งนมมาด้วย ไม่ใช่สั่งแต่น้ำเปล่า หรือไม่ก็น้ำผลไม้ สั่งใหม่น้ำมนต์ อย่าให้ฉันต้องลุกขึ้นไปนะ”
น้ำมนต์เห็นน้ำเพชรทำท่าจะลุกขึ้นมา ก็ไม่รู้หรอกว่าหล่อนจะลุกขึ้นมาหาเธอทำไม แต่คงไม่ดีแน่ๆ เพราะดูจากสิ่งที่หล่อนทำกับเธอแต่ละครั้ง มันไม่ดีเลย น้ำมนต์จึงรีบสั่งเนื้อกับน้ำผลไม้และนมมาเพิ่ม เพราะไม่ไว้ใจเลยว่าหล่อนจะทำอะไรอีกถ้าลุกขึ้นมาประชิดตัว
พอพนักงานเอาอาหารอีกชุดมาเสริฟน้ำเพชรก็พอใจและเริ่มทนจนหมด มองดูน้ำมนต์ก็ยังทานแต่ผักจึงหงุดหงิดไม่น้อย ลุกขึ้นไปนั่งลงข้างๆ และหันเนื้อให้กันน้ำมนต์ ยื่นไปที่ปากของเธอ
“ทานซะ อย่าดื้อ ถ้าไม่อยากให้ฉันใช้ปากของฉันเพื่อป้อนเธอ ก็กินเข้าไปเดี๋ยวนี้”
พอน้ำมนต์ได้ยินหล่อนขู่กันแบบนี้ ก็รีบรับเนื้อที่หันมาให้อย่างพอดีคำเข้าปากไปอย่างเร็ว
“เกลียดที่สุดเลย เผด็จการ ผู้ใหญ่อะไร ชอบบงการที่สุด”
“เธอก็เด็กอะไร ทั้งดื้อและหัวรั้นที่สุด แต่ก็ดี พยศแบบนี้ ฉันชอบ จะปราบให้อ่อนเลยคอยดู”
“ไม่มีวัน นอกจากคุณแม่ทั้งสอง ฉันไม่มีวันอ่อนให้ ผู้ใหญ่จอมบงการแบบคุณหรอก อื้อ อื้อออ”
เธอที่เถียงทุกคำก็ทำให้น้ำเพชรใช้วิธีลงโทษในแบบของตัวเอง ด้วยการคว้าเอวของเธอเข้ามาและประกบจูบเธอด้วยลึกซึ้ง ตวัดกวัดแกว่งปลายลิ้นเข้าภายในโพรงปากเชื้อชวนให้เธอตอบสนองกัน แต่น้ำมนต์ใที่ทำไมหล่อนถึงจูบเธอทุกครั้ง ทำไมถึงฉวยโอกาสได้ตลอด แบบนี้จะให้เธอเคารพได้ยังไงกัน
“อื้อ อื้อ ปะ..ปล่อย อื้อ”
น้ำมนต์พยายามผละหล่อนให้ถอยออกไปจากอกของเธอและคืนอิสระให้กับปากของเธอ แต่น้ำเพชรกลับกระชัดกอดรัดจนแน่นกว่าเดิม ยิ่งทำให้ตอนนี้เธอโดนจูบเร่าร้อนขึ้นกว่าเดิม ทำเอาน้ำมนต์หัวหมุนกับอากาศที่มันไม่ได้ผ่านเข้าปอดเลย
“ห..หายใจไม่ออก พะ.พอแล้ว” น้ำเพชรเมื่อรู้ว่าจูบเธอนานเกินไปก็รีบผละปากออกจากเธอ
“ที่หลังอย่าดื้อ แล้วอย่างเถียงผู้ใหญ่อีก ถ้ายังไม่ฟังกัน ฉันจะจูบเธอทุกครั้งเพื่อปิดปากเธอซะ จะได้เลิกเถียงสักที”
“ฉันเกลียดคุณ คนฉวยโอกาส” น้ำมนต์รีบลุกขึ้น และเดินไปเข้าห้องน้ำ เพื่อล้างปากของตัวเองที่ถูกน้ำเพชรจูบกันถึงสองรอบภายในวันเดียว แถมยังเป็วันแรกที่เธอเข้ามาฝึกงานด้วย จะย้ายไปฝึกที่อื่นก็ไม่ทันแล้ว มันหมดเวลายื่นใบสมัครแล้ว เธอก็ได้แต่ต้องทนฝึกงานกับเพื่อนแม่ที่ใจร้ายคนนี้ต่อไป
“เกลียดที่สุดเลย ผู้ใหญ่ที่ชอบฉวยโอกาส ไม่มีอะไรให้น่าเคารพเลย”
น้ำเพชรที่ยืนฟังอยู่ ก็ถอนหายใจ “แต่ฉันรักเธอน้ำมนต์ สักวันเธอจะเข้าใจฉันเอง คุณเพชรคือคนของน้ำมนต์เสมอ คนสวยของคุณเพชร”
น้ำเพชรที่ขับรถพาน้ำมนต์ไปอีกบริษัทที่มีร่มฉัตรรอประชุมอยู่ เมื่อน้ำมนต์เห็นว่าแม่ทั้งสองนั่งอยู่ในห้องประชุมด้วยจากที่หน้าเสียเพราะโมโหน้ำเพชร ก็จะเข้าไปหาแม่ แต่น้ำเพชรคว้ามือเอาไว้และสายหัว
“เธอคือคนของบริษัทฉันเป็นักศึกษาฝึกงาน อย่าลืมตำแหน่งของตัวเองแล้วไปนั่งตรงที่ของเธอ ตอนนี้เธอไม่ใช่คุณหนูใหญ่ของใจภักดีอย่าลืม”
น้ำเพชรพูดด้วยเสียงที่นิ่งเรียบ ไม่ได้ออกคำสั่งหรือข่มขู่อะไรเธอ แค่บอกให้เธอรู้ถึงหน้าที่ของตัวเองในตอนนี้ และค่อยจดทุกรายละเอียดในการประชุม ที่เ้าของทั้งสามสามบริษัทมาพร้อมกันโดยมีบริษัทลูกมาฟังและเสนอแผนการตลาดใหม่ให้เ้าของทั้งสามบริษัทใหญ่ฟัง
เมื่อประชุมกันเสร็จ น้ำเพชรก็เดินไปหาน้ำมนต์จับมือเธอให้ลุกขึ้น ไม่ยอมให้เธอได้เข้าไปทักทายครอบครัวของตัวเองเลย ร่มฉัตรที่อยากพาน้ำมนต์กลับบ้านพร้อมกันก็เดินจับมือน้ำใสเข้ามาจับไหลน้ำเพชร
“พี่เพชรคือว่า..” น้ำเพชรหันมามองร่มฉัตร
“อย่าลืมสัญญาสิฉัตร พี่ทำตามแล้วทุกอย่างที่เธอเคยขอ ตอนนี้คนที่ควรปล่อยคือเธอ ให้โอกาสพี่บ้าง ปล่อยมือได้แล้ว พี่ทำหน้าที่ของพี่มาโดยตลอด ตอนนี้ก็ยังทำอยู่ มันเกินกำหนดที่เราเคยคุยกันเอาไว้ด้วยซ้ำ ในเมื่อไม่มีใคร ไม่เคยมีใคร พี่ก็มีสิทธิ์ถูกมั้ยฉัตร พี่จะไม่ถอยอีก นานพอแล้วฉัตร อย่าห้ามพี่”
“อืม ฉัตรเข้าใจ งั้นตามใจพี่นะ แค่ทำตามสัญญาก็พอ เป็เด็กดีนะน้ำมนต์ ตั้งใจเรียนรู้ในสิ่งที่คุณเพชรสอน อย่าเกเรละเรา”
น้ำมนต์หันกลับมาทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ เพราะเธอเหมือนกำลังถูกแยกออกจากครอบครัวของตัวเองโดยผู้ใหญ่ใจร้ายคนนี้เลย
“ค่ะคุณแม่ ถ้าเขาทำตัวน่าเคารพมากกว่า ไม่ทำตัวแบบนี้ มนต์ก็จะทำตามที่คุณแม่บอก แต่ถ้าคุณแม่บอกว่าเขาดี ลูกจะเชื่อค่ะ”
“สักวันนะมนต์ ลูกก็จะเข้าใจคุณเพชร เหมือนที่แม่เคยเข้าใจคุณเพชรมาโดยตลอด ั้แ่ครั้งแรกที่เจอกัน จนถึงตอนนี้ คุณเพชรก็คือคุณเพชรคนเดิม ตั้งใจเรียนรู้ให้มากๆ เชื่อใจแม่ แม่เคยเลือกสิ่งที่ไม่ดีให้มนต์หรือคะ แม่มีแต่มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้น้ำมนต์ของแม่เสมอ ั้แ่วินาทีแรกที่แม่ได้อุ้มน้ำมนต์ แม่ก็รักน้ำมนต์จนหมดหัวใจ”
“มนต์จะเชื่อแม่ฉัตร แต่คุณแม่ค่ะ มองหน้าลูกบ้างได้มั้ย มองหน้าลูกสักครั้งไม่ได้จริงๆ หรือคะ น้ำมนต์ลูกสาวของคุณแม่ แค่มองหน้าลูก”
น้ำมนต์สะบัดมือน้ำเพชร เพื่อจะเข้าไปหาน้ำใส น้ำเพชรพยายามจะคว้าเอาไว้แต่ไม่ทัน น้ำมนต์เดินเข้าไปกอดน้ำใสจากด้านหน้าเพื่อให้น้ำใสมองเธออีกสักครั้งให้เต็มตา ทำเอาน้ำใสสั่นไม่น้อยบีบมือร่มฉัตรเอาไว้แน่น
“พี่เพชร พาไปหน่อย” น้ำเพชรรีบเข้ามาดึงน้ำมนต์
“ไปกับฉัน อย่าดื้อน้ำมนต์ ปล่อยคุณแม่ อย่าบังคับใจท่าน เธอก็รู้ดีั้แ่เด็กไม่ใช่หรือไง ว่าแม่ป่วย บังคับแบบนี้จะได้อะไรขึ้นมา มากับฉันเดี๋ยวนี้ เธอเป็คนของเพชรภักดี ก็ต้องอยู่กับน้ำเพชร”
น้ำเพชรแกะมือน้ำมนต์ออกจากเอวของน้ำใส ทำเอาน้ำใสเข้าไปกอดร่มฉัตรอย่างเร็วเมื่อหลุดออกจากน้ำมนต์
“พาน้ำกลับบ้าน พี่ฉัตร กลับบ้านนะ”
ร่มฉัตรอุ้มน้องขึ้นมา แล้วบอกลูกสาวคนโตของน้ำใส
“น้ำมนต์ อย่าบังคับคุณแม่อีก น้ำมนต์ก็รู้ว่าคุณแม่กลัว มีแค่แม่กับคุณยายที่กอดคุณแม่ได้ จริงใจก็ไม่เคยได้กอดคุณแม่เหมือนกัน ถึงจะได้นอนหนุนตักบางครั้ง แต่คุณแม่ก็ไม่เคยกอดเหมือนน้ำมนต์ และแม่จะบอกน้ำมนต์นะว่า น้ำมนต์เป็ลูกคนเดียวที่คุณแม่กอดมากที่สุด น้ำมนต์กินนมคุณแม่จนสามขวบ แต่จริงใจได้กินแค่ขวบเดียว เข้าใจคุณแม่ใหม่ด้วย คุณแม่น้ำใส รักน้ำมนต์มากที่สุด แค่ไม่กล้ามองหน้าก็เท่านั้น”
“หน้าตาของลูกมันหน้ากลัวขนาดนั้นเลยหรือคะคุณแม่” น้ำใสกอดรอบคอร่มฉัตรเอาไว้แน่น
“ไม่ได้น่ากลัว แต่แม่เองที่ไม่กล้ามอง แม่ขอโทษจริงๆ น้ำมนต์ แต่แม่รักลูกนะ รักมากจริงๆ แม่ขอโทษ อภัยให้แม่ด้วย” น้ำใสร้องไห้อีกครั้งที่อกของร่มฉัตร
“แม่ไปนะน้ำมนต์เจอกันที่บ้าน พวกเรารักลูกนะน้ำมนต์”
“มนต์ก็รักคุณแม่ มนต์แค่ไม่เข้าใจ ทำไมถึงกลัวมนต์มากขนาดนี้ กลัวเหมือนมนต์เคยไปข่มขืนคุณแม่ทำให้คุณแม่ฝังใจ”
พอน้ำใสได้ยินคำพูดแบบนั้นออกจากปากของลูกสาว มันเหมือนมีดนับร้อยมากรีดแทงหัวใจของเธอให้ยิ่งสาหัส ทำให้น้ำใสกรี๊ดร้องเสียงดังจนคนภายนอกใ รีบตรงเข้ามา น้ำมนต์ใไม่น้อย
“พอแล้ว หยุดพูดสักที พอได้แล้ว แม่ขอร้อง พี่ฉัตรช่วยน้องด้วย ไม่เอาแล้ว พอที”
ร่มฉัตรรีบกลับไปนั่งลงอย่างเร็วเมื่อน้ำใสเริ่มคุมสติตัวเองไม่อยู่ และสั่นอย่างหนัก ตนจึงจับน้องให้นั่งคร่อมแค่การช้อนอุ้ม พร้อมทั้งประกบจูบลงไปอย่างเร็ว เพื่อทำให้น้ำใสหยุดคิดถึงเื่อื่น คิดแค่เื่ของร่มฉัตรกับน้ำใสแค่สองคน ร่มฉัตรประกบจูบน้องอยู่พักใหญ่จนน้องหายสั่นและกลับมากอดรอบคอเอาไว้
ตอนนี้ภายในห้องมีเพียงร่มฉัตร น้ำใส น้ำมนต์และน้ำเพชร มันยิ่งทำให้น้ำมนต์เข้าใจมากขึ้นถึงอาการสั่นและหวาดกลัวของน้ำใส ว่าอาการป่วยของแม่ตัวเอง ต้องมีสาเหตุหนึ่งคือการฝังใจและมีตนเกี่ยวข้องด้วยแน่นอน น้ำใสถึงไม่เคยมองหน้าน้ำมนต์เลย
“กลับบ้าน น้ำจะกลับบ้านเดี๋ยวนี้”
ร่มฉัตรอุ้มน้ำใสขึ้นมา และไม่ยอมคุยกับใครอีก น้ำมนต์เองก็ไม่้าทำให้น้ำใสลำบากใจ ก็ได้แต่มองแม่เดินจากไป น้ำเพชรจึงดึงมือน้ำมนต์ให้ตามไปที่รถ
“ทำไมพูดแบบนั้นน้ำมนต์ ไปรู้อะไรมาหรือเปล่า ไหนลองบอกมาสิ”
“เปล่า ฉันไม่รู้อะไร และไม่อยากรู้ด้วย เป็ลูกของแม่ฉัตรกับคุณแม่ก็พอแล้ว ไปเถอะ กลับบริษัทได้แล้ว ฉันมีงานที่คุณสั่งให้ทำกองอีกเต็มโต๊ะเลย”
“แน่ใจนะ ว่าไม่มีอะไร และไม่ได้ไปรู้อะไรมา แล้วพูดแบบนั้นให้แม่ะเืใจทำไม”
“แค่ไม่เข้าใจ ว่าทำไมถึงมองหน้าฉันไม่ได้ ฉันมันน่าเกลียดขนาดนั้นเลยหรือไง จริงใจยังมองหน้าได้ แต่กับฉัน พอกลับจากปีนัง คุณแม่ก็ไม่เคยกอดสักครั้ง มองหน้าก็ไม่เคย จนฉันสงสัยว่า คุณแม่คลอดฉันออกมาจริงๆ หรือไปเก็บฉันมาจากถถังขยะกันแน่”
“พอแล้วน้ำมนต์ หยุดพูดจาดูถูกแม่ของตัวเองแบบนี้ เธอไม่เคยเป็เด็กก้าวร้าวพูดจาไม่รู้เื่แบบนี้เลยนะ น้ำใสคลอดเธอออกมาจริงๆ และเ็ปจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดก็ตอนตั้งท้องเธอซะด้วยซ้ำ แต่เพราะมีเธออยู่ในท้อง แม่ของเธอถึงทนทุกอย่างเถอะให้เธอได้มีชีวิตขึ้นมา จำเอาไว้เลยน้ำมนต์ แม่ของเธอต้องเกือบตายก็เพราะเธอ เพราะงั้นแม่ของเธอรักเธอแน่นอน ไม่งั้นคงไม่มีเธอในวันนี้หรอก งานไม่ต้องไปทำแล้ว ฉันจะไปส่งที่บ้าน กลับไปถึงก็ขอโทษแม่ด้วย แล้วไม่ต้องไปพูดอะไรมากกว่าการขอโทษ ไม่ต้องถามอะไรด้วยเข้าใจมั้ยน้ำมนต์ ถ้าเธอกล้าดื้อกับฉัน เธอคงรู้ใช่มั้ยว่าฉันจะลงโทษเด็กดื้อแบบเธอยังไง”
“เข้าใจแล้ว จะไม่พูดถึงอีกละกัน พอใจคุณละยังที่นี้ จะพาไปไหนก็ไปเถอะ”
น้ำเพชรส่ายหัวไปมา น้ำมนต์ดื้อขึ้นมากจริงๆ ในสายตาของน้ำเพชร คงต้องดัดนิสัยกันอีกนาน ให้น้ำมนต์อ่อนโยนกว่านี้ น้ำเพชรขับรถพาน้ำมนต์กลับไปส่งที่บ้าน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้