โจวเฉิงวางสายโทรศัพท์
เขายังไปจากปักกิ่งไม่ได้โชคดียังมีเพื่อนสนิทวัยเด็กที่ไหว้วานได้อยู่บ้าง
เพราะคังเหว่ยรู้จักเซี่ยเสี่ยวหลาน เื่นี้ย่อมต้องบอกกับคังเหว่ยก่อน พอคังเหว่ยได้ยินว่าเซี่ยเสี่ยวหลานถูกอันธพาลประจำพื้นที่หมายตาในหยางเฉิงอารมณ์ของเขาพลุ่งพล่านยิ่งกว่าโจวเฉิงเสียอีก
“สารเลว อย่างพวกมันก็จะคู่ควรหรือ?”
เซี่ยเสี่ยวหลานคือภรรยาของพี่เฉิงจื่อ ั้แ่คังเหว่ยรับทราบเื่นี้แม้แต่ความชื่นชอบเล็กๆ เมื่อก่อนของตัวเขาเองในอดีตของตัวเองที่มีต่อเซี่ยเสี่ยวหลานยังหมดสิ้นไปแล้ว
ทว่าตอนนี้พวกอันธพาลท้องถิ่นถึงขั้นกล้าคิดไม่ซื่อกับเซี่ยเสี่ยวหลาน คนพวกเขาเ่าั้ช่างอาจหาญเสียจริง!
คังเหว่ยโมโหยิ่งนัก หากภรรยาเขาโดนคนหมายตาแทนก็ยังไม่รู้สึกกราดเกรี้ยวถึงเพียงนี้ด้วยซ้ำ
“คู่ควรหรือไม่ ต้องดูว่ามันมีสำนึกในตัวเองดีหรือเปล่าแต่เดิมทีบนโลกนี้ก็มีคนสมเหตุสมผลน้อยอยู่แล้ว พี่สะใภ้นายอยากทำธุรกิจเธอลำบากแค่ไหนนายเห็นอยู่กับตา ตอนนี้ไอ้หมอนั่นข่มขวัญเธอจนไม่กล้าไปหยางเฉิงง่ายๆ อีก ถ้าปัญหานี้ไม่ถูกแก้ไขฉันก็ไม่อาจวางใจได้”
โจวเฉิงกล่าวไปพลางคังเหว่ยก็พยักหน้ารับอย่างเอาจริงเอาจัง
แรกเริ่มคังเหว่ยตกตะลึงเพราะรูปลักษณ์ของเซี่ยเสี่ยวหลาน ทว่าหลังจากได้รับรู้กิตติศัพท์ของเซี่ยเสี่ยวหลานเขาก็เคยสงสัยถึงขนาดเคยรังเกียจอีกฝ่ายด้วยซ้ำ พอทำความรู้จักกันหลายครั้งเขาเริ่มเข้าใจนิสัยของเซี่ยเสี่ยวหลานโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือเซี่ยเสี่ยวหลานยืนหยัด้าฝ่าฟันและแก้ปัญหาด้วยตนเองการกระทำเช่นนี้ทำให้คังเหว่ยนับถือเป็พิเศษ
คังเหว่ยคิดว่าตนเองก็ทำไม่ได้ไม่สามารถทำได้ใครบ้างที่ไม่อยากเดินทางลัดบ้างเขาเองยังต้องอาศัยโจวเฉิงพาหาเงินเลย
ทว่าเซี่ยเสี่ยวหลานสามารถปฏิเสธสิ่งล่อตาล่อใจนี้ได้เอาแค่ธุรกิจเก็งกำไรบุหรี่นี่ พี่เฉิงจื่อยินดีมอบหุ้นส่วนนั้นของตนเองให้แก่เซี่ยเสี่ยวหลานเสียด้วยซ้ำทว่าเธอแน่วแน่ไม่ยอมรับ ยินดีที่จะเดินทางไปกลับหยางเฉิงและซางตูนั่งรถไฟขาเดียวตั้ง 30 กว่าชั่วโมงเหน็ดเหนื่อยขนาดไหนกันได้ยินมาว่าหนึ่งรอบก็ทำกำไรได้พันสองพันหยวนเอง... สำหรับคนธรรมดาเป็จำนวนเงินที่มากทีเดียวแต่เมื่อเทียบกับการเก็งกำไรบุหรี่แล้วก็ไม่เท่าไรต่อให้เซี่ยเสี่ยวหลานเดินทางไปหยางเฉิงหนึ่งรอบต่อหนึ่งสัปดาห์หนึ่งเดือนทำเงินได้หลายพันหยวน จำนวนเงินทั้งปีรวบรวมเข้าด้วยกันก็แตกต่างจากจำนวนกำไรที่พวกเขาทำได้ต่อการขนบุหรี่หนึ่งรอบไม่เท่าไร
เงินที่เซี่ยเสี่ยวหลานปฏิเสธไม่ใช่แค่ไม่กี่หมื่นหยวนแต่เป็หลักหมื่นหยวนจำนวนหลายครั้ง!
“พี่เฉิงจื่อ พี่จะทำอย่างไรผมก็ทำอย่างนั้นว่าตามพี่นั่นแหละ”
“คราวหน้าถ้าพี่สะใภ้นายไปหยางเฉิงอีก นายติดตามไปด้วยไปพบอันธพาลประจำถิ่นนั่นเสียหน่อย”
โจวเฉิงไม่้าให้มีการโรมรันฟันตี แทง เื่แบบนี้นั้นจะมอบหมายแก่คังเหว่ยไม่ได้แต่คังเหว่ยย่อมมีวิธีอื่นแน่นอนเขาหัวเราะออกมาอย่างร้ายกาจ “ได้สิคราวก่อนคุยกันว่าจะทำธุรกิจไปถึงหยางเฉิงด้วย อย่างนั้นก็ควรไปเก็บข้อมูลสักเสียหน่อยพอดี!”
โจวเฉิงไม่ร่วมการเดินทาง ตัวคังเหว่ยเองอยู่บนถนนหนทางก็ไม่ปลอดภัย
ทั้งสองคนจึงหารือวิธีการใหม่เรียบร้อย
รายชื่อผู้ติดต่อและช่องทางยังไม่เปลี่ยนแปลงการจะใช้รถไฟขนส่งสินค้าโดยตรงขอเพียงเส้นสายของโจวเฉิงยังคงอยู่ บุหรี่ก็สามารถกระจายจำหน่ายในเมืองระหว่างทางจากปักกิ่งถึงเซี่ยงไฮ้ได้เหมือนเดิมสิ่งที่ค่อนข้างยุ่งยากก็คือรถไฟทุกขบวนขนสินค้าจำนวนเท่าไรล้วนต้องให้คังเหว่ยคอยดูแลขณะนี้เขาคุ้นเคยกับตารางเวลารถไฟของแต่ละพื้นที่เป็ที่สุด ถ้าไม่ทำธุรกิจเก็งกำไรนี้อีกแล้วอาศัยทักษะนี้ส่งเขาไปทำงานในหน่วยงานรถไฟก็ยังได้
“แต่พี่เฉิงจื่อ ธุรกิจนี้ของพวกเรา พาพี่สะใภ้เข้ามาร่วมไม่ได้จริงๆ หรือ?”
จัดการปัญหาหนนี้ไป อย่างไรก็ย่อมมีอีกหนในภายภาคหน้าอีก
เธอหน้าตาสะสวยเกินไป เดินทางห่างไกลจึงดึงดูดความวุ่นวายอย่างง่ายดาย และอาจไม่ใช่ทุกครั้งที่จะโชคดีขนาดนั้นเหมือนครั้งนี้
หากให้คังเหว่ยออกความเห็น แบ่งเส้นทางธุรกิจของซางตูให้เซี่ยเสี่ยวหลานเสียให้เธอรับผิดชอบการรับสินค้าที่สถานีรถไฟซางตูมากที่สุดคือจัดการเื่นำสินค้าของซางตูขึ้นรถไม่ว่าอย่างไรกำไรต่อหนึ่งปีก็มากมายกว่าการค้าขายเสื้อผ้า
แบ่งเส้นทางสินค้าสักสายให้แก่เซี่ยเสี่ยวหลานหรือ?
โจวเฉิงไม่พูดแล้ว
เขาได้รับจดหมายที่เซี่ยเสี่ยวหลานส่งมา ข้างในแนบเงิน 850 หยวน ทำเอาโจวเฉิงอยากจะบีบคนจัดซื้อตัวจ้อยที่ชื่อจูฟ่างนั่นให้ตายเป็บุรุษอกสามศอกกลับถ่อไปร้องทุกข์ต่อเซี่ยเสี่ยวหลาน อวดดีเสียนี่กระไร!
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้ตำหนิเขาหรอก แค่เกริ่นในจดหมายถึง ‘เคารพซึ่งกันและกัน’ โจวเฉิงก็หัวเสียมากพอแล้ว
เขาไม่รู้ว่าตนเองไม่ให้เกียรติเซี่ยเสี่ยวหลานตรงไหนแต่เขารู้ว่าเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ใช่หญิงสาวธรรมดาดาษดื่น เธอมีความคิดเป็ของตัวเองมีแบบแผน ทั้งยังรังสรรค์จนสำเร็จได้ด้วยตนเอง...โจวเฉิงยังกลัวว่าเซี่ยเสี่ยวหลานจะถามเขาเื่ได้รับจดหมายหรือไม่อยู่เลยเวลาที่อันธพาลหยางเฉิงผู้นี้ปรากฏตัวช่างเหมาะเจาะ ดันที่จะผลักไสคำถาม ‘เคารพซึ่งกันและกัน’ นี้่ไปอีกทางก่อนได้เป็อย่างดี
“พี่สะใภ้นายมีความคิดของเธอเอง นายไปถามเธอเถอะ”
แบบนี้ถือว่าเคารพซึ่งกันและกันแล้วหรือยังนะ?
----------------------------------------
ครั้งแรกโจวเฉิงวานคังเหว่ย ครั้งที่สองเป็เสี่ยวกวง เสี่ยวกวงมีชื่อเสียงเรียงนามเต็มยศคือเส้ากวงหรงเป็หนึ่งในแวดวงสังคมเช่นกัน ั้แ่คราวก่อนที่ยืมคนของลุงเสี่ยวกวงช่วยหลิวหย่งให้หลุดพ้นจากกลุ่มลักลอบขนสินค้าเถื่อนจนกระทั่งครั้งนี้ที่โจวเฉิงวานเส้ากวงหรงช่วยตามหาคนในซางตูในใจของเส้ากวงหรงราวกับมีแมวเจ็ดแปดตัวกำลังข่วนเสียจนยุบยิบ [1] !
โจวเฉิงยังจะต่อโทรศัพท์หาเขาอีก เส้ากวงหรงรู้สึกไม่สบอารมณ์ทันใด
ทันทีที่พอพบหน้าเขาก็คว้าคอของคังเหว่ยไว้ “คังจื่อ นายพูดความจริงกับพี่หน่อย พี่เฉิงเกิดอะไรขึ้นเกิดอะไรขึ้นกับพี่เฉิงในซางตูหรือเปล่าฉันว่าเขาใส่ใจสถานที่แบบนั้นมากเหลือเกิน ตัวกลับปักกิ่งแล้ว หรือมีใครคล้องใจเขาไว้น่ะไว้ได้กัน?”
ตระกูลโจวอยู่ปักกิ่ง ไร้ซึ่งความเกี่ยวข้องโดยสิ้นเชิง
โจวเฉิงก็ไม่ได้จงใจปิดบังเส้ากวงหรงรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติในตอนแรก
เดิมทีคังเหว่ยไม่อยากบอก เส้ากวงหรงจึงกระเซ้ากระซี้เขาตลอดเวลาเดินไปไหนตามไปนั่น คังเหว่ยแทบคุกเข่าขอร้องเส้ากวงหรงให้หยุดแล้ว
“ผมพูดไม่ได้!”
ใครจะรู้ว่าเื่โจวเฉิงมีคนรักได้บอกกล่าวกับครอบครัวหรือไม่ตอนนี้ในแวดวงก็มีเพียงคังเหว่ยที่รู้ เส้ากวงหรงเป็คนปากสว่างเขาจะต้องพูดพล่ามไปทั่วแน่ เื่ราวแพร่เข้าหูตระกูลโจวเข้าเขาจะทำอย่างไร?
เส้ากวงหรงเบิกตาโพลง “ชื่อฉันก็รู้แล้วยังจะหาตัวไม่เจอเชียวหรือ? ได้ นายไม่พูดฉันก็จะไปซางตูเอง!”
เส้ากวงหรงกล่าวชื่อ ‘เซี่ยเสี่ยวหลาน’ ออกมาโดยถูกต้องไม่มีผิดเพี้ยน คังเหว่ยรู้สึกร้อนใจในบัดดล
“พี่ไปไม่ได้นะ!”
“ทำไมจะไปไม่ได้? ฉันจะไปหาลุงของฉัน!”
คังเหว่ยไม่มีทางเลือก เขาให้เส้ากวงหรงชูมือสาบานว่าจะไม่ห้ามบอกเผยแพร่เื่นี้กับผู้อื่นถึงยอมบอกคร่าวๆ ไม่กี่ประโยค
เส้ากวงหรงสีหน้าตกตะลึง โจวเฉิงรู้จักการมีคนรักแล้วนี่เอง!
ในกลุ่มของพวกเขานี้ นอกจากคังเหว่ยที่ถูกครอบครัวดูแลอย่างเข้มงวดแล้วคนอื่นอายุได้สิบกว่าปีก็เที่ยวเล่นกับหญิงสาวแล้ว ั้แ่ที่เส้ากวงหรงเริ่มมีประสบการณ์ [2] จนถึงตอนนี้ เปลี่ยนแฟนสาวซึ่งคบหากันอย่างจริงจังถึงเจ็ดแปดคน อีกทั้งยังมีบางส่วนที่เคยอยู่กินฉันสามีภรรยาระยะสั้นอีกด้วย
มีเพียงโจวเฉิงเท่านั้น ตระกูลโจวย่อมไม่เคร่งครัดเื่แบบนี้แน่นอนพวกเส้ากวงหรงจึงพากันนินทาลับหลังว่าโจวเฉิงจะถวายวัยหนุ่มแด่ประเทศชาติอนาคตก็จะรอรัฐมอบภรรยาให้... ไอ้เสือร้าย ที่แท้แอบมีคนรักอยู่ในซางตูหรือ?
เส้ากวงหรงสงสัยใครรู้เกี่ยวกับ ‘เซี่ยเสี่ยวหลาน’ สุดชีวิต คังเหว่ยกลับไม่ได้แพร่งพรายเื่ราวมากนัก กดดันแล้วก็บอกเพียงว่าหน้าตาสะสวย
เส้ากวงหรงครุ่นคิด หน้าตาสะสวยน่ะสวยขนาดไหนกันเชียว? สามารถทำให้โจวเฉิงหลงใหลได้ หรือจะเป็รูปลักษณ์สาวทรงเสน่ห์?
สมกับที่เขาเป็พวกปากสว่าง คำสาบานของตนเขานั้นไร้ค่าเหมือนผายลมพอมึนเมาด้วยฤทธิ์สุราก็เล่าเื่นี้เสร็จสรรพ ขณะนี้คนที่สนิทสนมกับโจวเฉิงต่างอยากเห็นหน้าอนาคตพี่สะใภ้เสียหน่อยส่วนคนที่เกลียดโจวเฉิงกลับกำลังแอบเย้ยหยันอยู่ลับๆ—หลงเสน่ห์สาวต่างถิ่นแสนสวยคนหนึ่งเสียได้ ฮ่าๆรูปลักษณ์สวยงามจะมีราคาค่างวดเท่าไรกัน?
“เขาว่าโจวเฉิงน่ะร้าย ไม่ใช่แบบนั้นหรือ?”
“ฉันยังคิดเลย เขาปฏิเสธน้องฉันไปแล้วจะหาได้ดีขนาดไหนกัน!”
“อาจแค่เล่นสนุกก็ได้ พวกนายจะรื่นเริงบนหายนะของคนอื่นก็ยังเร็วเกินไปรอพาเข้าตระกูลโจว พวกเราค่อยดูอะไรคึกคักดีกว่า”
พาเข้าตระกูลโจวได้หรือ?
แม้ไม่ยินดียอมรับ แต่สถานะตระกูลโจวสูงส่งกว่าตระกูลของพวกเขามากโขเลยทีเดียว
----------------------------------------
“ฮัดชิ่ว!”
เซี่ยเสี่ยวหลานบีบนวดจมูก พอเธอกลับถึงซางตูก็ป่วยไข้
อาจเพราะต้นตอของความเจ็บป่วยซึ่งถูกฝังไว้ในเยว่หยาง หรือจะบอกว่าเพราะความยุ่งวุ่นวายหลายเดือนนี้สะสมรวมกับต้นตอของโรคก็ได้จนกระทั่งถูกเื่ที่เยว่หยางกระตุ้น ทั้งหมดเลยปะทุออกพร้อมกัน หลิวเฟินจึงให้เธอพักผ่อนอยู่บ้านเซี่ยเสี่ยวหลานจึงข้ามผ่านวันปีใหม่ [3] 1984 โดยนอนอยู่บนเตียง
ภายใต้คำขอที่จริงจังของหลิวเฟินเซี่ยเสี่ยวหลานใช้ชีวิตอย่างเกียจคร้านกินๆ นอนๆเนื่องจากเจ็บป่วยเป็เวลาหลายวัน หลังจากนั้นก็คือการสอบปลายภาคของเซี่ยนอีจง
เื่ขายสินค้าเธอได้มอบหมายให้แก่หลี่เฟิ่งเหมยทั้งหมดในการสอบปลายภาคเซี่ยเสี่ยวหลานจะไม่ถูกปฏิบัติแบบพิเศษอีกแล้ว คนอื่นสอบอย่างไรเธอก็สอบอย่างนั้นเธอไม่มีหอพักในโรงเรียน และจำเป็ต้องเปิดห้องของบ้านพักรับรองในเขตอันชิ่งอาศัยอยู่หนึ่งคืน
เมื่อถึงเวลาที่เธอปรากฏตัวในห้องเรียน ก็เกิดเสียงอื้ออึงไปด้วยเสียงอุทานขนานใหญ่
เชิงอรรถ
[1]心里像猫挠 ในใจเหมือนมีแมวข่วน หมายถึง มีสิ่งกวนใจอยู่ทำให้กระวนกระวาย
[2]开荤 หมายถึง การทำสิ่งใดๆ เป็ประสบการณ์แปลกใหม่ในที่นี้คือประสบการณ์เื่เพศ
[3]ในที่นี้คือวันที่ 1 มกราคม
