อวี๋ฉี่เจ๋อวางถ้วยยาลง มองกากสมุนไพรที่นอนอยู่ก้นถ้วยดูไม่ออกว่าใบหน้าหล่อเหลาสะอาดสะอ้านเผยอารมณ์ใด เพียงเอ่ยถามเสียงราบเรียบว่า“โสมโบราณร้อยปีราคาเท่าใดหรือขอรับ? ”
“หากจะพูดให้น้อยคงเจ็ดถึงแปดสิบตำลึงเงินกระมังเมื่อก่อนข้าเคยไปขายสมุนไพรที่ร้านขายยารับซื้อสมุนไพรในตำบลเคยเห็นร้านขายยารับซื้อโสมคนหัวหนึ่งอายุห้าสิบปีคนผู้นั้นยังขายตั้งสี่สิบตำลึงเงิน!” อวี๋ฝูหลิงเอ่ยพึมพำเสียงเบากับอวี๋ฉี่เจ๋อ
อวี๋ฉี่เจ๋อนึกถึงท่าทางรับมือกับอวี๋หรูไห่อย่างเฉียบแหลมเพราะเื่เงินค่ารักษาของอวี๋เจียวเอ่ยด้วยน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อยว่า “ข้าจะจดจำเอาไว้”
“จำอะไรกัน? ” อวี๋ฝูหลิงเอ่ยต่อไป “วันนั้นที่ฝนตกบนูเา เมิ่งอวี๋เจียวตากฝนออกไปหาสมุนไพรให้เ้ามิหนำซ้ำยังหกล้มด้วย ถึงแม้เมื่อก่อนข้าจะคิดว่าอาโหรวดีมากแต่หากเมิ่งอวี๋เจียวสามารถรักษาโรคของเ้าจนหายดีภายหน้าข้าก็จะยอมรับนางผู้นี้เป็น้องสะใภ้”
อวี๋ฉี่เจ๋อไม่มีท่าทีใดหลังได้ฟังยกถ้วยน้ำชาบนโต๊ะขึ้นจรดริมฝีปาก เรียวนิ้วขาวเห็นข้อกระดูกชัดเจนน่ามองขับให้ถ้วยเครื่องลายครามหยาบกระด้างในมือแลดูล้ำค่าขึ้นมา
อวี๋เจียวเดินมายังเรือนฝั่งตะวันออกนางเคาะประตูห้องของอวี๋ฉี่เจ๋อ อวี๋ฝูหลิงผลักประตูเปิดออกเมื่อเห็นอวี๋เจียวจึงเอ่ยถามว่า “มีอะไรหรือ? ”
สายตาของอวี๋เจียวทอดมองถ้วยยาบนโต๊ะ เมื่อเห็นอวี๋ฉี่เจ๋อดื่มยาเสร็จแล้วถึงเอ่ยว่า“ท่านปู่เรียกท่านไปพบนายท่านมู่สักหน่อย”
"นายท่านมู่ผู้นั้นมีอะไรให้น่าพบ? " อวี๋ฝูหลิงพึมพำเสียงเบา
อวี๋ฉี่เจ๋อลุกขึ้นยืนและเดินตามอวี๋เจียวออกไปนอกห้อง
“ได้ยินท่านพี่บอกว่าเ้าเอาโสมร้อยปีที่เก็บได้จากบนูเามาปรุงยาให้ข้าหรือ? ” อวี๋ฉี่เจ๋อถามเสียงเรียบ
อวี๋เจียวหันไปมองอวี๋ฉี่เจ๋อ “ทำไมหรือ? ”
"วันหน้าข้าจะคืนเงินให้เ้า"อวี๋ฉี่เจ๋อกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
อวี๋เจียวยิ้มบางแม้ว่าอวี๋ฉี่เจ๋อจะพูดจาและท่าทางคร่ำครึหัวโบราณทว่าเขากลับหน้าตางดงามน่ามองยิ่งนัก ดวงตาดอกท้อคู่นั้นเปล่งประกายเจิดจรัสเดิมทีควรจะเ้าชู้ ไม่รู้จักโตแต่กลับถูกนิสัยเ็าของเขากดข่มเอาไว้จนกลายเป็ความเ็าฝังลึกเข้าไปข้างใน
อวี๋เจียวหรี่ดวงตาผลซิ่ง แฝงแววหยอกล้อ “อ้อ? ท่านยังจะคืนข้าหรือ? โสมโบราณอายุร้อยปีมีราคา แต่ชีวิตของท่านไม่มีราคา ท่านเตรียมจะชดใช้ข้าอย่างไร? มอบกายถวายชีวิต?”
อวี๋ฉี่เจ๋อหลบแววตาเป็ประกายของนางภายในใจเกิดเป็ความยินดีอย่างน่าแปลก เขาหลุบตาลงหางตาเรียวยาวมีชีวิตชีวาขึ้นสามส่วน ใบหูเห่อแดงเล็กน้อย เอ่ยเสียงเบาว่า “เ้าเป็สตรีเหตุใดถึงเอ่ยวาจาไม่สำรวมเช่นนี้? เ้าเคยบอกว่ารอกระทั่งข้าหายดีแล้วจะปล่อยเ้าจากไปพวกเราสองคนไม่ติดค้างอะไรกันอีก”
อวี๋เจียวเหลือบมองผิวเนียนละเอียดของเขาลอบคิดในใจว่าคำกล่าวของคนโบราณไม่ได้หลอกข้าจริงๆ ที่ว่านิสัยรักของสวยๆ งามๆเกิดขึ้นโดยสัญชาตญาณเดิม [1]นางรังแกผู้อื่นหนักขึ้นอีกหนึ่งขั้น เอ่ยเสียงเบาว่าอย่างหลอกล่อว่า“ถ้าหากข้าไม่อาจหักใจจากไป ท่านจะยอมมอบกายถวายชีวิตหรือไม่?”
ใบหน้าเรียวเล็กขาวสะอาดของอวี๋เจียวใกล้กับใบหน้าของอวี๋ฉี่เจ๋ออย่างมากลมหายใจของเขาไม่สงบเล็กน้อย สีแดงระเรื่อบนใบหูลามมาถึงใบหน้าขาวดุจหยกอวี๋เจียวเห็นแล้วทั้งรู้สึกประหลาดใจและนึกสนุกอย่างยิ่งในคราวเดียวกัน
ยามปกติคนผู้นี้สุขุมเ็าวาจาก็น้อยนิดมักปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างเมินเฉย น้อยครั้งนักจะมีสีหน้าสวยสดงดงามเช่นนี้
อวี๋เจียวเกิดเป็ความพอใจ รอยยิ้มมุมปากของนางเจิดจ้ายิ่งกว่าเดิมดวงตาผลซิ่งที่จดจ้องอวี๋ฉี่เจ๋อเป็ประกายคิดอยากจะหยอกล้อให้ใบหน้าหล่อเหลาน่ามองของเขาเผยความรู้สึกอื่นมากขึ้นกว่านี้จึงเอ่ยเสียงอ่อนอย่างนุ่มนวลว่า “ถึงแม้ว่าข้าจะถูกท่านปู่ซื้อตัวมาเพื่อเสริมมงคลให้ท่านแต่ไม่ว่าอย่างไรก็นับได้ว่าท่านแต่งข้าแล้ว มิสู้พวกเราเป็สามีภรรยากันจริงๆ ?”
เพราะอวี๋เจียวอยู่ใกล้มากอวี๋ฉี่เจ๋อสามารถได้กลิ่นพืชและสมุนไพรบนกายของนางผสมปนเปเป็กลิ่นเดียวกันจังหวะหัวใจกลับกลายเป็เต้นระส่ำจนไม่อาจควบคุม ราวกับบรรยากาศรอบข้างแปรเปลี่ยนเป็หนาแน่นด้วยม่านหมอกทำให้ยามผู้คนสูดหายใจเข้าจำต้องรู้สึกยากลำบาก
อวี๋ฉี่เจ๋อผู้อุณหภูมิร่างกายต่ำมาโดยตลอดยามนี้บนหน้าผากเกลี้ยงเกลากลับมีเหงื่อเม็ดเล็กผุดออกมาเขาถอยหลังไปหนึ่งก้าวแล้วผินหน้าหนี ถอนหายใจออกมาหนึ่งเฮือกอย่างสงบเยือกเย็น“หากเ้ายินดี...”
อวี๋เจียวเห็นท่าทางเนียมอายของเขานางเกรงว่าจะบีบบังคับจนผู้อื่นร้อนใจจึงเอ่ยพลางแย้มยิ้มบางว่า “ไม่แหย่ท่านแล้วเมื่อครู่ข้าล้อท่านเล่น”
เชิงอรรถ
[1] ความหมายหลักคือ แิทั่วไปคือ "อาหาร สี เพศ" เป็ธรรมชาติของมนุษย์ที่จะกินและชอบเพศตรงข้ามเกิดแล้วไม่จำเป็ต้องสอนไม่จำเป็ต้องเรียน
ซึ่งแินี้มาแิของขงจื๊อที่ว่า “อาหาร สีสัน เพศ เมตตาธรรมจากภายในไม่ใช่ภายนอก ความชอบธรรมอยู่ภายนอก ไม่ใช่ภายใน คุณธรรม ภายนอก ไม่ใช่ภายใน”หมายถึง "อาหาร สีสัน เพศ" เป็ธรรมชาติของมนุษย์ที่จะกินและชอบเพศตรงข้าม “เมตตาธรรมคือภายในและไม่ใช่ภายนอก” ความเมตตากรุณาเป็ความเมตตาของมนุษย์และเกิดขึ้นจากใจ “ความชอบธรรมอยู่ภายนอก ไม่ใช่ภายใน” ความชอบธรรมเป็ผลจากการบ่มเพาะไม่ใช่จิตใจ “คุณธรรม ภายนอก ไม่ใช่ภายใน” นอกจากการฝึกฝนแล้วอิทธิพลของสิ่งแวดล้อม ครอบครัว และเพื่อน ๆ ยังเกิดจากอิทธิพลของโลกภายนอกอีกด้วย