ในตอนเย็นลู่จื่อยู่ส่งหลินกู๋หยู่กลับบ้าน จากนั้นก็เดินทางกลับด้วยรถม้า
ประตูยังคงลงกลอนเหมือนตอนที่นางออกไป
หลินกู๋หยู่เอื้อมมือไปดึงแม่กุญแจ จากนั้นหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเสื้อที่เอว เปิดประตูเข้าไปข้างใน
บ้านอยู่ในความมืด หลินกู๋หยู่อุ้มโต้ซาขึ้นมาเพราะกลัวว่าเขาจะหกล้มอีกครั้ง
ฉือหางนั่งพิงผนังถ้ำ และค่อยๆ เติมฟืนลงในกองไฟตรงหน้าเขา
ถ้ำแห่งนี้เขาเป็คนค้นพบก่อนหน้า และต่อมา เขาก็เพิ่มเครื่องนอน หม้อ และกระทะเข้าไป เมื่อเขาไม่กลับบ้าน ที่นี่ก็เป็ที่ที่เขาสามารถนอนหลับได้อย่างสงบ
ชายหนุ่มคลี่ผ้านวมบนกองฟาง นอนโดยสวมเสื้อผ้า กองไฟที่อยู่ในระยะไม่ไกลยังคงให้ความร้อนและแสงสว่างอยู่
เมื่อผล็อยหลับไป ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงแว่วดังข้างใบหู
ฉือหางเป็คนหลับตื้นมาโดยตลอด เมื่อเขาได้ยินเสียงเคลื่อนไหวข้างนอก เขาก็พรวดลุกขึ้นทันที เอื้อมมือไปคว้าคันธนูและลูกธนู แล้วเดินไปข้างนอกอย่างแ่เบา
ทางเข้าถ้ำเต็มไปด้วยกองหญ้าที่ฉือหางวางไว้เพื่อซ่อนที่อยู่ของเขา
“ยังไม่รีบฆ่ามันอีก พวกเ้าอ้ำอึ้งอะไรอยู่?”
“อ๊า มันมาแล้ว ถ้าพวกเ้าคนใดคนหนึ่งฆ่ามันได้สำเร็จ ข้าจะตบรางวัลเป็เงินหนึ่งร้อยตำลึง”
“ไม่ ไม่ ไม่ สองร้อยตำลึง”
......
เสียงนั้นคุ้นมาก ฉือหางขมวดคิ้วเล็กน้อย รีบมุ่งไปที่แหล่งเสียงนั้น
ฉือหางยืนอยู่ในระยะไกล ทว่าพอที่จะมองเห็นเสือตัวหนึ่งยืนอยู่ใกล้กับกองไฟ
เสือตัวนั้นเดินไปมายังใต้ต้นไม้อย่างสบายๆ ฉือหางเงยหน้าขึ้นและเห็นหญิงสาวในชุดสีฟ้าคนหนึ่งกำลังกอดต้นไม้ต้นนั้นแน่น
“พวกเ้ายืนโง่อยู่ทำไม ถ้าข้าตายขึ้นมา พวกเ้าทุกคนอย่าคิดว่าจะรอดชีวิตไปได้!” หญิงสาวบนต้นไม้ะโเสียงดัง ขมวดคิ้วแน่น แต่เสียงที่สั่นเครือของนางกลับแสดงความกลัวของนางออกมาอย่างชัดเจน
ฉือหางเดินไปที่แหล่งเสียงอย่างระมัดระวัง และเมื่อเขากำลังจะเข้าไปในระยะใกล้ เขาก็ปีนขึ้นไปบนต้นไม้โดยตรง
เสือปีนต้นไม้ไม่เป็ จึงได้แต่คอยอาหารอยู่ด้านล่าง
“คุณหนู ท่านอดทนก่อน อีกสักครู่ อีกสักครู่รอให้มันไปแล้วท่านก็จะปลอดภัย!” หญิงสาวในชุดสีชมพูบนต้นไม้อีกต้นด้านข้างตัวสั่นเทาขณะกอดต้นไม้แน่น
"ซิ่งฮวา!" หญิงสาวในชุดสีฟ้าอดไม่ได้ที่จะะโ "ข้าจะเหนื่อยตายแล้ว มือของข้ามีแผลแล้ว ข้าอดทนต่อไปไม่ไหวแล้ว"
“คุณหนู” หญิงสาวในชุดสีชมพูพูดอย่างร้อนรนกระวนกระวาย “หรือว่าให้ข้าลงไปไล่มัน เช่นนี้เสือมันก็จากไปแล้ว ท่านก็จะได้ปลอดภัยแล้ว!”
ฉือหางยืนอยู่บนกิ่งไม้ที่ต่ำกว่าเล็กน้อย ในมือถือคันธนู โดยมีลูกธนูสามดอกวางอยู่บนคันธนู สายตาเล็งตรงไปที่บั้นท้ายของเสือ ยิงพวกมันออกไปโดยไม่ลังเล
"โฮก!"
เสือตัวบนพื้นนั้นวิ่งหนีราวกับว่ามันบ้าคลั่ง
"ใครน่ะ?" เจียงโหรวปล่อยมือ ลงจากต้นไม้อย่างรวดเร็ว และมองไปยังทิศทางของลูกศร
ซิ่งฮวารีบวิ่งไปหาเจียงโหรว มองสำรวจอย่างระมัดระวังก่อนจะร้องอุทานออกมาด้วยความใ "คุณหนู บ่าวคิดว่าบ่าวจะไม่ได้พบท่านอีกแล้วเสียอีก!"
"ซิ่งฮวา" ด้วยน้ำตาคลอ เจียงโหรวมองไปยังชายหนุ่มทั้งหกคนด้วยความไม่พอใจ ชายหนุ่มเหล่านี้ไม่มีใครภักดีแม้แต่คนเดียว และเพื่อรักษาชีวิตที่ไร้ค่าของพวกเขา ไม่มีใครกล้าลงมาสักคนเดียว สู้สาวใช้ของนางไม่ได้
“บนูเานี้อันตรายเกินไป” ฉือหางเดินช้าๆ มายังด้านหน้าคนเ่าั้ และพูดอย่างเ็า “ข้าแนะนำให้พวกเ้าลงเขาให้เร็วที่สุด”
ซิ่งฮวามองดูฉือหางจากศีรษะจรดปลายเท้าอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า "เป็เ้านี้เอง คุณชายฉือ!"
ฉือหางมองไปที่ซิ่งฮวาปราดหนึ่ง ขมวดคิ้วเล็กน้อย ดูเหมือนเขาจะไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้
"คนแซ่ฉือ" เจียงโหรวยกมือขึ้นแสร้งทำเป็จัดปิ่นปักผมให้เรียบร้อย ใช้โอกาสนี้เช็ดน้ำตาบนใบหน้าของนาง นางเดินไปหาฉือหาง โดยเอามือทั้งสองของนางไพล่หลังอย่างโอหัง "ที่แท้ก็เป็เ้านี่เอง เ้าช่วยชีวิตข้าอีกครั้ง ขอบคุณมาก"
"ไม่ใช่เื่ยากลำบากอะไร" ตอนนี้ฉือหางพอจะรู้แล้วว่าผู้หญิงคนนี้เป็ใคร ที่แท้นางคือผู้หญิงที่เขาพบข้างถนนเมื่อวานนี้
"ไฟของพวกเ้าต้องก่อให้สว่างมากกว่านี้ จึงจะขับไล่สัตว์ร้ายออกไป" ฉือหางชี้นิ้วมือไปที่ไฟข้างๆ เขาและพูดอย่างเฉยเมย
หลังจากพูดจบ ฉือหางก็หันหลังกลับและเดินจากไป
"หยุดนะ!" เจียงโหรวรีบเดินนำหน้าฉือหาง ดวงตาของนางจับจ้องไปที่ใบหน้าของฉือหาง "พูดมาเถอะ เ้า้าอะไร?"
"ไม่จำเป็"
ขณะที่ฉือหางพูด เขาก็ยกเท้าขึ้นและกำลังจะเดินไปข้างหน้า
"หยุด!" เจียงโหรววิ่งไปหาฉือหาง สายตาของนางจับจ้องไปที่คันธนูในมือของเขา มุมปากของนางก็โค้งเล็กน้อย
เมื่อวานเมื่อเขาเข้าไปในเมือง เขาไม่ได้นำธนูมาด้วย เขาดูคล้ายชาวนาธรรมดาทั่วไป เวลานี้เขาถือธนูอยู่ในมือแล้ว เขาดูแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
สายตาของเจียงโหรวมองไปที่ร่างของฉือหางจากศีรษะจรดหัวปลายเท้า พูดอย่างมั่นใจว่า "ข้าสามารถฝ่าฝืนกฎและให้เ้าเป็องครักษ์ส่วนตัวของข้า ข้าจะจ่ายให้เดือนละสิบตำลึง!"
ฉือหางมองดูร่างของเจียงโหรวอยู่ครู่หนึ่ง เขานึกถึงกู๋หยู่ที่อยู่ที่บ้านก่อนจะส่ายศีรษะเบาๆ “ข้าขอโทษ ข้าไม่อยากไป”
"เ้า!" ใบหน้าของเจียงโหรวแดงก่ำด้วยความโกรธ นางเปิดปากพูดอย่างกราดเกรี้ยว "โอกาสเช่นนี้หายากนัก"
“งั้นก็ให้คนอื่นไปสิ” ถ้าเขาเป็องครักษ์ให้คนอื่น เขาคงกลับบ้านตามใจไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นเขาจะไม่ได้เจอกู๋หยู่ทุกวัน
"อืม" เจียงโหรวพูดอย่างบูดบึ้ง "ในสองวันนี้ ถ้าเ้าปกป้องข้าไปที่ที่หนึ่ง ข้าจะให้เงินเ้าสิบตำลึง"
เจียงโหรวมองไปที่ฉือหาง โดยไม่รอให้ฉือหางพูด "เ้ายังไม่ได้ลงเขาในเวลานี้ ถ้าข้าเดาถูก เ้าจะต้องพักอยู่บนูเาสองสามวันเป็แน่"
“อืม” สมองของฉือหางคิดคำนวณเร็วมาก นี่เป็ข้อตกลงที่คุ้มมาก “เ้าจะไปที่ใดหรือ?”
เมื่อมองไปที่ท่าทีของฉือหาง เจียงโหรวก็รู้ว่าเขาต้องตอบตกลง เอามือไพล่หลังและเชิดศีรษะสูงราวกับนางดูถูกทุกสิ่ง แม้ว่าชุดของนางจะสกปรกมากก็ตาม แต่บุคลิกของนางก็ยังคงสง่างาม "ข้าจะไปหาบางอย่างบนูเา ขอแค่ข้าพบ ข้าก็จะกลับไป”
"กี่วัน?" ฉือหางพูดอย่างเ็า เมื่อมองไปที่รูปลักษณ์ของหญิงสาว นางต้องไม่รู้วิธีใช้ชีวิตบนูเาเป็แน่
"ข้าไม่รู้" เจียงโหรวถอนหายใจอย่างเศร้าโศก หันศีรษะไปมองฉือหาง "เงินสิบตำลึง อย่างมากที่สุดก็ไม่เกินสิบวัน อาหารที่ข้านำมาก็เพียงพอแค่สิบวัน"
"ตกลง" ฉือหางพยักหน้าตอบ
จากนั้น เจียงโหรวก็เดินกลับไปที่กองไฟอย่างยโส มองไปที่องครักษ์ทั้งหกที่ยืนอยู่ตรงข้ามนาง ใบหน้าของนางกลายเป็ไม่น่ามอง
"ข้าจะมีพวกเ้าไว้ทำอะไรหรือ พวกเ้าไม่กล้าแม้กระทั่งสู้เสือ หลังจากกลับไป ข้าจะให้เงินจำนวนหนึ่งกับพวกเ้าแล้วไสหัวไปเสีย!" เจียงโหรวขมวดคิ้วเป็ริ้วรอย นางพูดอย่างรุนแรงแล้วเดินไปหาซิ่งฮวา
ฉือหางชำเลืองมองผู้ชายหกข้างๆ เขา พูดตามตรง เสือตัวนั้นนับว่าตัวใหญ่ ถ้าทั้งหกคนนี้ร่วมมือร่วมใจกัน พวกเขาก็จะสามารถขับไล่เสือออกไปได้ อย่างไรเสียพวกเขาแต่ละคนก็มีดาบอยู่ในมือ
ฉือหางเดินไปที่กองไฟและเติมไม้ฟืนเข้าไป
“ในูเา จะนอนห่างจากกองไฟไม่ได้ ไฟสามารถขับไล่สัตว์ป่าออกไปได้” ฉือหางลดศีรษะลงอธิบายอย่างเคร่งขรึม
"เ้าเคยเจอเสือขณะล่าสัตว์บนูเาหรือไม่?" เจียงโหรวที่ใบหน้าตึงเครียด แสร้งทำตัวเป็ผู้ใหญ่
"ไม่เคย" ฉือหางไม่เคยเจอเสือเช่นนี้จริงๆ ท้ายที่สุดแล้วบนูเาจะมีเสือสักกี่ตัวกัน?
“คุณหนู” ซิ่งฮวานั่งข้างๆ เจียงโหรว ด้วยความกังวลใจ “พวกเรากลับไปดีหรือไม่เ้าคะ แล้วให้คนมาหาแทน”
"จะทำเช่นนั้นได้อย่างไร?" สีหน้าของเจียงโหรวเปลี่ยนไป นางพูดอย่างโกรธเคือง "ตอนนี้พวกเรามีเขาอยู่ด้วย เขาสามารถปกป้องพวกเราได้อย่างแน่นอน"
เมื่อได้ยินถ้อยคำของเจียงโหรว สีหน้าของฉือหางดูไม่พอใจเล็กน้อย
คนรวยเหล่านี้มักจะชอบหาเื่ อยากจะทำอะไรก็ทำตามความ้าของตัวเอง
ูเาแห่งนี้อันตรายมาก นอกจากสัตว์ป่าแล้ว ยังมีพืชที่มีพิษอีกจำนวนมาก หากโดนพิษเ่าั้เข้าคงไม่น่าดูนัก
สำหรับคนยากจน หากไม่ถูกบังคับให้อยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังเช่นนี้ จะมีใครบ้างที่อยากจะมาทีู่เาเพื่อทำงานหนัก นั่นเป็งานที่เสี่ยงมาก
ค่ำคืนนี้ครึกครื้นมากเป็พิเศษ เสียงแมลงและเสียงกบร้องระงมในสายน้ำที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ฉือหางใส่ฟืนเข้าไปในกองไฟ ถือธนูไว้ในมือทั้งสองข้าง เอนหลังหลับตาพิงต้นไม้
เขาแค่หลับตาพักสมองเท่านั้น เขาไม่กล้าหลับจริงๆ เพราะถ้ามีอะไรเกิดขึ้น คงไม่ดีแน่
เสียงเ่าั้ค่อยๆ หายไป
ฉือหางเปิดตาของเขาทันที และมองไปยังรอบๆ ด้วยท่าทางระแวดระวัง
ค่ำคืนนี้เงียบสงบจนน่าขนลุก ยกเว้นเสียงหายใจของผู้คนรอบๆ ตัว เขาไม่ได้ยินสิ่งอื่นใดอีก
หูของเขาไม่ได้มีปัญหา หรือว่ารอบๆ มีบางอย่างเกิดขึ้น?
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ฉือหางก็ปลุกเหล่าองครักษ์และหญิงสาวสองคน
เจียงโหรวลืมตาด้วยความสะลึมสะลือ เงยหน้าขึ้นมองฉือหาง ปากบ่นพึมพำด้วยน้ำเสียงเ็า "ดึกดื่นป่านนี้ เ้าปลุกข้าทำไม?!"
"ชู่ว!" การแสดงออกของฉือหางยิ่งจริงจังมากขึ้น
ซิ่งฮวามองไปที่รูปลักษณ์ของฉือหาง จากนั้นก็ดึงแขนของเจียงโหรว เอ่ยเสียงเบาว่า "คุณหนู ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างผิดปกติ"
"เกิดอะไรขึ้นหรือ..." เจียงโหรวะโเสียงดังก่อนจะค่อยๆ เบาลง นางมองไปยังสภาพแวดล้อมรอบๆ และตระหนักได้ว่าเวลานี้นางอยู่บนูเา "ข้าก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรผิดปกติ"
ฉือหางลุกขึ้นยืนข้างกองไฟ พร้อมกับธนูในมือ
ลมกระโชกแรงเสียจนต้นไม้สั่นไหว ใบไม้ปลิวสะบัด
เจียงโหรวกอดไหล่ตัวเองแน่น นางมองไปรอบๆ ด้วยความกลัว
"ซิ่งฮวา" เจียงโหรวลดเสียงลง พูดด้วยน้ำเสียงที่คนสองคนได้ยินเท่านั้น "ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าน่ากลัวนัก?"
ต้นไม้โดยรอบดูใหญ่กว่าปกติ แสงจันทร์ทำให้เงาของพวกมันยาวเป็พิเศษ ราวกับเป็สัตว์ป่าที่พร้อมจะกลืนกินพวกเขาในพริบตาถัดไป
ฉือหางยกธนูขึ้นพลางง้างสายจนตึง
คราวนี้องครักษ์ทั้งหกคนที่อยู่ด้านข้างล้อมรอบ ปกป้องเจียงโหรวข้างใน
ใบหน้าของฉือหางตึงเครียด เขาหันกลับด้วยความเร็ว และปล่อยลูกศรในมือโดยตรง
ลูกศรทะลุทะลวงสามจุด
"โฮกก!"
จู่ๆ เสือตัวหนึ่งก็ะโออกมาจากตรงนั้น ขนาดตัวใหญ่กว่าตัวก่อนหน้านี้มาก
ทุกครั้งที่มันก้าวเท้า ขนบนตัวของมันก็แกว่งไกวตามไปด้วย สายตาของมันมองไปยังพวกเขาตรงหน้าอย่างเอื่อยเฉื่อยราวกับว่ามันไม่ได้เกรงกลัวคนเ่าั้เลย
ลูกธนูหนึ่งดอกติดอยู่กับคันธนูของฉือหางแล้ว เขามองไปที่เสือด้วยสายตาไม่แยแส
เมื่อเจียงโหรวเห็นเสือตัวนั้น ขาของนางก็อ่อนแรง ร่างกายสั่นเทิ้มอย่างไม่อาจควบคุม
"คุณ... คุณหนู" เสียงของซิ่งฮวาสั่นเครืออยู่ใกล้กับเจียงโหรว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้