ผ่านไปหกชั่วยาม ผู้าุโแห่งตระกูลหลงส่งคนนำตัวเซียวหลานเฟิงไปทิ้งอยู่ใกล้ๆ จวนตระกูลเซียว
ยามพลบค่ำ ณ ตำหนักตระกูลหลงอู่ ทุกคนรวมตัวกันอยู่ที่นี่เพื่อปรึกษาหารือถึงวิธีการป้องกันตัวจากคนตระกูลเซียว
แววตาของผู้าุโแลดูร้อนแรง เขากวาดตามองทุกคน แล้วสายตาก็หยุดลงที่หลงเหยียน ก่อนจะเอ่ยถาม “เหยียนเอ๋อ เ้าคิดว่าพวกเราควรทำอย่างไรกับตระกูลเซียวดี ตอนนี้พวกเราสองตระกูลแตกหักกันแล้ว อีกเื่หนึ่ง หากเป็อย่างที่เ้าบอก ตระกูลเซียวที่น่าสมเพชร่วมมือกันคนของสำนักบงกชมาร เช่นนั้นเราควรรับมืออย่างไร”
หลงกงฉู่ถามหลงเหยียนเป็คนแรก กลับเมินเฉยผู้ใหญ่แห่งตระกูลหลง จากการกระทำนี้จึงเห็นได้ชัดว่าผู้าุโแห่งตระกูลหลงให้ความสำคัญกับหลงเหยียนมากเพียงใด
ถึงกระนั้น หลงอีผู้เป็บิดาและคนอื่นๆ ผ่านเคราะห์ร้ายนี้มาได้ มีหรือที่จะถือสาหลงเหยียน ยิ่งไปกว่านั้น หลงจ้านก้มหน้าลงไม่พูดไม่จา ส่วนคนอื่นๆ หันไปมองหลงเหยียน รอคำตอบจากเขา
หลงเหยียนไม่อวดดี เวลานี้ราชสีห์หิรัณย์หมอบอยู่ข้างเท้าหลงเหยียน ขายืนอยู่ในตำหนักใหญ่ มองผู้าุโแล้วพูดอย่างเคารพ “ท่านปู่ ตอนนี้พวกเราสองตระกูลอยู่ร่วมถ้ำไม่ได้แล้ว หรือไม่พรุ่งนี้พวกเราไปตระกูลเซียว ตัวแทนจากตระกูลอู่ตี้บอกชัดเจนแล้ว การแข่งขันล่าสัตว์ในเทือกเขาหยุนหลัวนั้นตระกูลหลงของเราได้ที่หนึ่ง และข้าคือผู้ที่มีสิทธิ์ได้ไปในเมืองหยุนจง”
“หากเราใช้โอกาสนี้กวาดล้างตระกูลเซียวก่อน เช่นนั้นชีวิตหลังจากเราก็ไม่ต้องอยู่กับความหวาดกลัวแล้ว อู่หยาแห่งสำนักบงกชมาร่วมมือกับศิษย์สำนักมาร ช่วยเหลือคนตระกูลเซียว ฉะนั้นเราต้องลงมือให้เร็วกว่า ก่อนพวกเขาจะมาถึง เราควรลงมือก่อน”
ความจริงหลงเหยียนอยากอาศัยเว่ยเวยที่เป็ตัวแทนจากตระกูลอู่ตี้ นำวิชาต่อสู้สองเล่มมาตามที่กล่าวคำมั่นไว้ เพราะสถานการณ์ของทั้งสองตระกูลในตอนนี้เกรงว่าคนตระกูลเซียวอาจผิดคำพูดได้ ถึงตอนนั้น ตระกูลหลงก็มีโอกาสใช้เหตุผลนี้ควบคุมปัญหา ลงมือฆ่าพวกเขาก่อน หากเป็เช่นนั้นแน่นอนว่าเว่ยเวยต้องเข้าข้างฝ่ายพวกเขาแน่
ในเมื่อนางเป็ผู้ตรวจสอบการแย่งชิงของสองตระกูลในครั้งนี้ ในเมื่อให้คำมั่นไว้ั้แ่แรก ฝ่ายที่แพ้ต้องมอบตำราการต่อสู้ระดับมายาสองเล่มให้อีกฝ่าย
เมื่อหลงเหยียนพูดประโยคนี้ออกมา หลงกงฉู่ก็เข้าใจแล้วหัวเราะเสียงดัง เอ่ยว่า “ดีมาก เ้าพูดถูก ครั้งนี้ข้าจะกำจัดเขาให้ราบ คอยดูว่าพวกเขาจะยอมมอบตำราให้เราหรือไม่ บัดนี้ เด็กหนุ่มในตระกูลเซียวถูกเหยียนเอ๋อจัดการแล้ว ข้าจะจัดการผู้แข็งแกร่งในตระกูลเซียวเอง ดูเหมือนครั้งนี้พวกเราต้องสะสางเื่นี้ให้เร็วที่สุด เพราะนี่เป็เื่สำคัญที่เกี่ยวเนื่องไปถึงการอยู่รอดของตระกูลหลง”
ในเมื่อมีการปรากฏตัวของเว่ยเวย นางเป็ยอดฝีมือระดับชีพเทพ หากสลัดบุญคุณความแค้นระหว่างนางกับตระกูลหลง นางไม่มีทางทนดูตระกูลหลงถูกตระกูลเซียวกับสำนักมารร่วมมือกันทำร้ายแน่
ทุกคนต่างก็มีสีหน้าเคร่งขรึม เพราะรู้ดีว่าครั้งนี้ตระกูลหลงต้องเจอบททดสอบครั้งใหญ่
หลงเหยียนครุ่นคิดครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็ตัดสินใจบอกเื่ที่ตนเจอหญ้าเซียนหอมหมื่นลี้ในเทือกเขาหยุนหลังกับผู้าุโ
“ท่านปู่ เท่าที่ข้ารู้มา ลึกสุดในเทือกเขาหยุนหลัวนั้นมีต้นเซียนหอมหมื่นลี้ที่ใกล้โตเต็มที่สามต้น มันเป็ถึงหญ้าวิเศษระดับมายา ได้ยินมาว่าหากหลอมแล้วจะสามารถช่วยเลื่อนระดับพลังให้สูงยิ่งขึ้น ครั้งนี้หลานรีบกลับมารายงานเพราะเห็นคนสำนักบงกชมารกับศิษย์สำนักมารเฝ้าอยู่ที่นั่น”
“ว่าอย่างไรนะ? เหยียนเอ๋อ ที่เ้าพูดมาเป็ความจริงหรือ?” หลังจากได้ยินเช่นนั้น ผู้าุโตระกูลหลงก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที มือทั้งสองข้างจับไหล่หลงเหยียนแน่น
“เ้ามั่นใจว่านั่นเป็เซียนหอมหมื่นลี้จริงหรือ? นั่น นั่นเป็เหมือนสมบัติล้ำค่าเชียวนะ มิน่าเล่า ข้ามักรู้สึกเหมือนข้างนอกมีกลิ่นหอม แท้จริงแล้วก็เป็เพราะสมบัติล้ำค่านี้ใกล้โตเต็มที่แล้วนี่เอง”
แววตาผู้าุโแห่งตระกูลประกายความโลภเจือความร้อนแรง
ไม่นานสีหน้าเขาก็สงบนิ่งลง “สำนักมาร? มันคือสำนักอะไร?”
หลงเหยียนส่ายหน้า “ข้าก็ไม่ทราบเหมือนกันขอรับ ทว่าตอนที่เข้าใกล้เซียนหอมหมื่นลี้ ข้าััได้ว่าสองคนที่เฝ้ามีพลังระดับชีพัขั้นที่เก้าสูงสุด!”
ตอนแรกหลงเหยียนไม่อยากบอกความลับนี้ให้กับคนอื่น ทว่าตนก็ไม่มั่นใจว่าจะชิงมันมาสำเร็จ สุดท้ายเขาจึงยอมบอก เผื่อว่าผู้าุโจะมีวิธีอื่น
“ชีพัสูงสุดทั้งคู่เลยหรือ? หากพวกเราโจมตีด้วยกำลังสูงสุด คาดว่าข้าคงรับได้หนึ่งคน อีกด้านหนึ่งก็มอบให้ห่าวเทียน หลงจ้านและหลงอีรับมือ พวกเ้าสามคนต่อกรกับหนึ่งคน พวกเราอาจมีโอกาสชนะ ทว่าหากพละกำลังพวกเขามากกว่านั้น เช่นนั้น...”
ผู้าุโตระกูลหลงสีหน้าหนักอึ้ง หากออกเดินทางทันที ไม่แน่ตระกูลหลงอาจต้องเจอหายนะ ทว่าหากไม่ทำสิ่งใดเลย หญ้าวิเศษที่ล้ำค่าก็จะตกไปอยู่ในมือผู้อื่น
หลงกงฉู่ไม่สบายใจจริงๆ เมื่อไรที่ตระกูลหลงได้เซียนหอมหมื่นลี้ อย่างน้อยก็ทำให้สองคนในตระกูลมีพลังขึ้นไปถึงระดับชีพเทพ หลอมกลายเป็ระดับชีพมนุษย์ ส่วนอีกต้นก็มอบให้หลงเหยียน
ทว่าตอนนี้... ศัตรูที่อยู่ตรงหน้ามีพลังแข็งแกร่งทำให้ผู้าุโรู้สึกลำบากใจขึ้นมาทันที ปีนี้เขามีอายุแปดสิบปีแล้ว เซียนหอมหมื่นลี้สามารถช่วยให้เขาก้าวขึ้นเป็ผู้แข็งแกร่งระดับชีพมนุษย์ เพิ่มอายุขัย ข้อดีมากเพียงนี้มีหรือที่เขาจะไม่ตื่นเต้น!
มองสมาชิกตระกูลหลงนับร้อยคน ผู้าุโเริ่มลังเล นี่เป็ทางเลือกที่เขาลำบากใจยิ่งนัก
เวลานี้เอง แววตาของหลงเหยียนประกายความร้อนแรง เขามองผู้าุโด้วยความเคารพ “ท่านปู่ สถานการณ์ในตอนนี้คือต้องเลือกระหว่างเสี่ยงชีวิตหรือไม่ก็จบชีวิต ในเมื่อเป็เช่นนั้น สู้เราลองเสี่ยงสักครั้งดีหรือไม่ หลานรู้ว่าท่านกำลังกังวลเื่ใด หรือเราฉวยโอกาสตอนเซียนหอมหมื่นลี้ยังโตไม่เต็มที่แล้วจัดการคนตระกูลเซียวเสียก่อนเป็อย่างไร จากนั้นหลานค่อยนำทางท่านเข้าป่า เมื่อถึงตอนนั้น หลานจะเข้าไปทดสอบพละกำลังของพวกเขาก่อน ส่วนท่านก็จับตามองห่างๆ หากพวกเขามีพลังระดับชีพเทพ เช่นนั้น...”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ หลงเหยียนก็พูดตัดบท เม้มปากแล้วหันกลับไปมองทุกคนในตระกูลหลง เอ่ยต่อว่า “หากพวกเขามีพลังชีพเทพจริง พวกท่านต้องรีบถอยกลับไปโดยเร็ว ปกป้องพวกเราตระกูลหลง เมื่อถึงวันครบรอบในปีถัดไปก็อย่าลืมเผากระดาษให้ข้าด้วย”
แววตาของหลงเหยียนเต็มไปด้วยความแน่วแน่ ถือว่าทำเพื่อทุกคนตระกูลหลง หลงเหยียนต้องยืดอกอย่างผ่าเผย เพราะนี่เป็โอกาสเพียงหนึ่งเดียวของพวกเรา
คำพูดของเขาทำให้ทุกคนในตระกูลตื้นตันอย่างยิ่ง หลงหยุนฉีวิ่งเข้ามาโผกอดเขาทันที
“ไม่นะ พี่เหยียน ข้าไม่ยอมให้ท่านไปเสี่ยงอันตรายเช่นนั้นแน่ ข้าไม่ยอมให้ท่านไปเสี่ยงตายแน่...”
หลงเหยียนลูบหัวของนางเบาๆ แล้วพูดปลอบใจ “หยุนฉี เชื่อฟังนะ! ชีวิตคนเรามักเจอเื่ท้าทายเสมอ ไม่ว่าจะเจอพายุลมที่โหมกระหน่ำเพียงใด เราก็ต้องอดทนเดินต่อไปเข้าใจหรือไม่”
“ครั้งนี้ พวกเราตระกูลหลงต้องเสี่ยงชีวิต ไม่เช่นนั้นก็คงต้องจบชีวิต”
“หากเดิมพันถูก ชีวิตเราจะรุ่งโรจน์ ตระกูลก้าวะโ หากเดิมพันผิด มากสุดก็แค่จบชีวิต ไปเจอยมบาลในแดนนรก จากนั้นก็พังที่นั่นสักหน หลังผ่านไปอีกสิบหกปีค่อยกลับมาเป็ชายชาตรีอีกครั้ง”
เมื่อหลงเหยียนพูดจบ เขาก็หัวเราะ...
“ไม่ได้นะเหยียนเอ๋อ ข้าในฐานะที่เป็บิดานั้นไม่เห็นด้วยที่เ้าจะไปเสี่ยงอันตรายเช่นนั้น มันอันตรายเกินไป เราจะไม่มีวิธีอื่นเลยหรือ หากต้องไปจริงๆ คนนั้นควรเป็ข้า ข้าที่เป็ผู้นำตระกูล ถึงเวลาแล้วที่ข้าควรทำอะไรเพื่อตระกูลของเราจริงๆ สักครั้ง”
เวลานี้เอง หลงห่าวเทียนและหลงจ้านต่างก็พากันเดินขึ้นมาด้านหน้า ขอให้ผู้าุโอนุญาต
“ท่านพ่อ โปรดอนุญาตให้เราไปทดสอบศิษย์จากสำนักมารสองคนนั้นด้วยเถิด เหยียนเอ๋อช่วยชีวิตพวกเราไว้แล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้เราจะปล่อยให้เหยียนเอ๋อไปเสี่ยงชีวิตอีกไม่ได้แล้ว”
ผู้าุโถอนหายใจ เขาไม่ได้พูดอะไรอีก บรรยากาศห้องโถงในเวลานี้นั้นเงียบสงัด หลังผ่านไปครู่หนึ่ง หลงกงฉู่ก็กวาดสายตามองทุกคน
--------------------