หรูเยียนนึกถึงใบหน้าบอกบุญไม่รับของเฟิ่งหยาง ก็ตัวสั่นงันงกด้วยความหวาดผวา รีบโบกไม้โบกมือ "จวนของพวกเราไม่เหมือนกัน อย่าทำเื่แบบนั้นจะดีกว่า"
"ห้องที่อยู่ถัดไปคือห้องของหลันเซิง ข้าจะแนะนำให้รู้จักสักหน่อย นี่คือหลินหลันเซิง เป็น้องชายบุญธรรมของข้า การกินอยู่ของกินของใช้ของเล่นต่างๆ ล้วนยึดตามมาตรฐานของข้า เ้าไม่ต้องมาปรนนิบัติข้าทุกวัน แต่ต้องดูแลเขา คุณชายหาอาจารย์มาให้เขาคนหนึ่ง เขาต้องเรียนหนังสือในจวน ปรกติแค่เรียนอย่างเดียวก็เหนื่อยแล้ว ้าพักผ่อน เ้าจะพาเขาไปเดินเล่นภายในจวนก็ได้" ถังชิงหรูจูงหลินหลันเซิงมาแนะนำ และอธิบายกับหรูเยียนว่า "ตอนนี้ข้าต้องรับผิดชอบเื่การออกแบบอาภรณ์ของร้านค้า แม้กล่าวว่ามอบให้เสี่ยวเม่ยดูแล ไม่ต้องกังวลกับเื่มากมาย แต่ด้านการออกแบบและวางแผนข้ายังต้องทำด้วยตนเองอยู่ เ้าสามารถช่วยวิ่งงานแทนข้า หากข้ามีคำสั่งจะให้พวกเขาทำสิ่งใด ถึงเวลาเ้าก็ช่วยจัดแจงแล้วกัน"
"เมื่อครู่คุณชายบอกให้ข้าช่วยออกแบบตกแต่งห้องให้เขาใหม่ ่สามถึงห้าวันต่อจากนี้ข้าอาจจะยุ่งหน่อย เ้าก็ทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมใหม่ไปก่อน แต่เ้าเป็คนเก่าแก่ของคุณชาย คงจะรู้จักเขาดีพอสมควร อย่างไรก็ให้พ่อบ้านเตือนเ้าอีกที ข้าจะไม่พูดอะไรมาก ส่วนห้องของเ้า... ในเรือนแห่งนี้มีห้องว่างอยู่สองสามห้อง เ้าเลือกเอาเองเถอะ แต่มีเื่หนึ่งที่ต้องบอก ถึงเวลาตื่นข้าตื่นเองได้ ไม่ชอบให้ใครมาปลุก และหากข้าจะนอน ต่อให้นอนถึงเที่ยงวัน เ้าก็ห้ามมารบกวน"
เมื่อหรูเยียนจะติดตามถังชิงหรู ก็ต้องพูดกันให้รู้เื่ก่อน นางชอบชีวิตสงบสุข ไม่ชอบใครมาเ้าชี้มือวาดเท้า สิ่งต้องห้ามเ่าั้ควรแจ้งให้อีกฝ่ายรับรู้ก่อน หรูเยียนเป็คนฉลาด แค่ทำความเข้าใจกับกฎข้อห้ามของตนเอง คิดว่าไม่ใช่เื่ยาก อย่างไรเสียนางก็หาใช่สาวใช้ประเภทอยู่ว่างๆ ก็ทำตัวเป็ของตายให้ผู้อื่นทุบตีเล่น
หรูเยียนตั้งใจฟังความเป็พิเศษ เมื่อครู่สีหน้ายังยิ้มแย้ม แต่พอจริงจังขึ้นมาก็ดูน่ารักไปอีกแบบ
"คารวะพี่หรูเยียน" หลินหลันเซิงเป็ฝ่ายทักทายขึ้นก่อน
หรูเยียนกำลังท่องจำสิ่งที่ถังชิงหรูกล่าวในใจ จู่ๆ หลินหลันเซิงก็มาสนทนากับนางกะทันหัน จึงรู้สึกตระหนกเล็กน้อย อย่างไรเสียน้องชายบุญธรรมของถังชิงหรูก็ถือว่าเป็เ้านายของนางอยู่ครึ่งหนึ่ง ต่อไปหากนาง้าการยอมรับจากถังชิงหรู ก็ต้องเอาอกเอาใจเด็กคนนี้ให้ดี หากได้การยอมรับจากเขา ถึงจะได้ความไว้วางใจจากถังชิงหรู
"คุณชายน้อย อย่าได้เกรงใจเช่นนี้เลย เรียกข้าว่าหรูเยียนก็พอเ้าค่ะ ท่านเรียกหรูเยียนเช่นนี้ หรูเยียนในะเ้าคะ" หรูเยียนทักท้วงด้วยความตื่นตระหนก
"ยังไม่ได้กินข้าวล่ะสิ พวกเราเพิ่งกินอิ่ม ในกระทะยังมีเหลืออยู่นิดหน่อย เ้าไปจัดการเองเถอะ" ถังชิงหรูกล่าวกับหรูเยียนจบ ก็จูงหลินหลันเซิงไปในสวน
นางยังอยากปลูกผักต่อ หากหรูเยียนคิดจะทำสิ่งใดก็ให้นางไปทำเอง ตราบใดที่ไม่มารบกวนการใช้ชีวิตของตนเอง ก็คิดเสียว่ามีสหายร่วมที่พักเพิ่มขึ้นมาอีกคน
สองสามวันต่อมา ถังชิงหรูยุ่งอยู่กับการตกแต่งห้องใหม่ให้เฟิ่งหยาง ชายหนุ่มออกเช้ากลับดึกทุกวันจึงยังไม่เห็นผลงานของนาง ระหว่างที่ตบแต่งสถานที่ใหม่ พ่อบ้านจัดให้เฟิ่งหยางไปพักอยู่ห้องอื่น จึงไม่รบกวนการพักผ่อนของเขา
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาเดียวก็ผ่านไปสองสามเดือน ถังชิงหรูกับหลินหลันเซิงใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย จนบางครั้งนางเกือบลืมบุรุษอีกสองคนที่ตนเองเคยรู้จักไปแล้ว คนหนึ่งคือน่าหลันหลิง ส่วนอีกคนก็คือเฉินิ
จนกระทั่งหวนเอ๋อร์สาวใช้ที่ร้านยามาหานาง นางถึงนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้เขียนจดหมายถึงน่าหลันหลิงนานแล้ว เขาเองก็ไม่ได้ส่งสารมาเช่นกัน
"หวนเอ๋อร์..." ถังชิงหรูอ่านจดหมาย ในนั้นหาได้เขียนสิ่งใดสำคัญนัก เพียงแค่เล่าให้ฟังว่าเขาอยู่ในสำนักศึกษาสุขสบายดี ขณะเดียวกันก็ได้ข่าวเื่ที่เกิดขึ้นกับเฉินิ ่นี้ที่ไม่ได้เขียนจดหมายมา เพราะเป็ห่วงว่านางจะไม่สะดวกรับ หรือหากจดหมายตกไปอยู่ในมือของผู้ไม่หวังดี ก็อาจเป็ภัยต่อตัวนาง หลังจากนั้นก็เป็แค่การถามไถ่เื่ทั่วไปธรรมดา
ถังชิงหรูเก็บจดหมาย กล่าวกับหวนเอ๋อร์ว่า "ข้าไม่สะดวกตอบจดหมาย ยิ่งตอนนี้ถูกเฝ้าจับตามองอย่างเข้มงวด หากพาของที่มีลายลักษณ์อักษรจะทิ้งเบาะแสให้จับได้ง่าย พรุ่งนี้เ้ามาอีกครั้ง วันนี้ข้าเร่งจะตัดอาภรณ์ทั้งวันทั้งคืน พรุ่งนี้ตอนส่งของไปให้เขาเ้าก็อาศัยนามน้องสาวส่งให้พี่สาวก็แล้วกัน"
หวนเอ๋อร์พยักหน้า จดจำคำพูดของถังชิงหรูไว้ในใจก่อนจะจากไปหวนเอ๋อร์ก็มองนางด้วยสายตาวิตกกังวล "แม่นาง อีกนานหรือไม่กว่าท่านจะกลับไป ชาวบ้านเ่าั้ล้วนคิดถึงท่าน ท่านไม่อยู่ พวกเขาเจ็บป่วยไม่มีคนรักษา มีคนเฒ่าคนแก่ป่วยตายไปหลายคนแล้ว"
"หวนเอ๋อร์ เ้าเป็เด็กฉลาดมีไหวพริบ คงมองออกว่าตอนนี้ข้าไม่มีอิสระ แค่เ้าได้เห็นข้ายืนสบายดีอยู่ตรงนี้ก็ดีมากแล้ว ข้าทำอะไรมากไม่ได้จริงๆ " ถังชิงหรูถอนหายใจเบาๆ "ในเมืองยังมีหมออีกมากมาย ให้พวกเขาไปหาหมอท่านอื่นเถอะ ข้าพอมีเงินอยู่บ้าง หลังจากกลับไปเ้าไปหาซื้อสมุนไพร ชาวบ้านเ่าั้แค่ไปหาหมออื่นเพื่อตรวจวินิจฉัยโรค แต่เื่จัดหายาก็ให้มาหาเ้า ถึงเวลาก็ขายให้พวกเขาในราคาทุนแล้วกัน"
"บ่าวไม่เคยเห็นใครจิตใจดีงามเท่าแม่นางมาก่อนเลย" หวนเอ๋อร์ยอบกายคำนับถังชิงหรู "บ่าวอำลาเ้าค่ะ แม่นางโปรดถนอมตัวด้วย"
ถังชิงหรูเห็นหวนเอ๋อร์จากไปไกลแล้ว กำลังเตรียมกลับห้อง พอหันไปก็เห็นเฟิ่งหยางยืนอยู่ตรงนั้น ถังชิงหรูเลิกคิ้วพลางเอ่ยถาม "วันนี้ท่านไม่ออกไปข้างนอกหรือ"
เฟิ่งหยางเดินเข้ามา จ้องนางั้แ่หัวจรดเท้า ก่อนแค่นเสียงเยาะเอ่ยว่า "ไม่เจอกันสองสามวัน มิเห็นเ้าจะมีเนื้อมีหนังเพิ่มขึ้นมาบ้างเลย รูปร่างอย่างเ้ายังเรียกว่าสตรีได้อีกรึ"
ถังชิงหรูยืดอก ตอกกลับไปว่า "ข้าไม่ใช่สตรี หรือท่านใช่?"
กล่าวจบก็ตบไปบนแผงอกของเฟิ่งหยาง "จุ๊ๆ มิน่าเล่าถึงรังเกียจข้านัก ที่แท้ของท่านใหญ่กว่าข้าเสียอีก ชะรอยคงถูกคนลูบคลำมาไม่น้อย"
"เ้าผู้หญิงคนนี้..." เฟิ่งหยางั์ตาดำสนิท อุ้มถังชิงหรูขึ้นมา
"ปล่อยข้าลงนะ" ถังชิงหรูใร้องลั่น สองมือกอดคอเขาไว้แน่น
"เมื่อครู่เ้าว่าข้าถูกคนลูบคลำมาไม่น้อย หากลูบคลำไม่กี่ทีแล้วจะใหญ่ขึ้น ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะช่วยเ้าเอง" เฟิ่งหยางยิ้มเ้าเล่ห์
ถังชิงหรูถลึงตาใส่ พลางเอ่ยท้าทาย "ท่านกล้าหรือ อย่าดีแต่พูด คนพูดแต่ไม่ทำหาใช่ลูกผู้ชาย"
เฟิ่งหยางไม่คิดจะทำอะไรถังชิงหรูจริงๆ ปรกติก็แค่ต่อล้อต่อเถียงกับนางเท่านั้น คราก่อนเข้าห้องนางไปเห็นเรือนร่างของนางตอนอาบน้ำโดยไม่ตั้งใจ ก็ถูกชักสีหน้าบึ้งตึงใส่ ที่จริงเขาเองก็รู้สึกคับข้องยิ่ง รูปร่างของนางมีอะไรน่าดูนัก ไยถึงต้องโมโหโกรธาขนาดนั้น คนที่เสียสายตาคือตนเองต่างหากเล่า!
เฟิ่งหยางอุ้มถังชิงหรูเข้าไปในเรือน ทั้งสองยื้อยุดฉุดกระชากกัน เสียงดังไปไกลมาก สาวใช้กับเหล่าผู้คุ้มกันจวนที่ผ่านไปผ่านมาต่างเห็นกันหมด
เ้านายผู้เข้มงวดของตนเองทะเลาะกับถังชิงหรูอยู่ในสวนราวกับเด็กๆ ทั้งสองค่อนข้างถึงเนื้อถึงตัวกันมาก อะไรคืออายุเจ็ดขวบห้ามนั่งร่วมโต๊ะ อะไรคือข้อต้องห้ามระหว่างชายหญิง สิ่งเ่าั้ล้วนเป็สุนัขผายลมในสายตาของพวกเขาสองคน จุ๊ๆ ๆ ดูสิ ถังชิงหรูถึงขั้นกัดหูของนายท่าน นี่นางยังเป็สตรีอยู่หรือ?
"โอ๊ย... ปล่อยนะ" เฟิ่งหยางคำรามอย่างโกรธจัด "เ้าเป็สุนัขหรือไง รีบปล่อยข้าเดี๋ยวนี้"
ถังชิงหรูโอบรอบคอเฟิ่งหยาง พลางกัดไปบนใบหน้าของเขาไม่ปล่อย ฟันซี่แหลมคมทิ้งรอยลึกบนใบหน้าหล่อเหลา
เฟิ่งหยางโกรธจัด เตรียมจะจัดการกับนางจริงๆ
ร่างกายของถังชิงหรูไวต่อความรู้สึก นางยังเป็สาวบริสุทธิ์ไม่เคยต้องมือชายมาก่อน เขาจะเล่นให้ไฟลุกกันเลยใช่หรือไม่
"ท่าน..." ถังชิงหรูรีบปล่อยมือจากเฟิ่งหยาง เงื้อมือตบตามสัญชาตญาณ
เฟิ่งหยางรู้ว่าตนเองทำเกินไป จึงรีบปล่อยนางลงเอ่ยอย่างหัวเสีย "ใครใช้ให้เ้ากัดข้าก่อน ข้ายังต้องใช้ใบหน้าพบปะผู้คนอยู่นะ"
ถังชิงหรูเห็นรอยบนใบหน้าของเฟิ่งหยาง โทสะในแววตาก็สลายไป นางเบ้ปากแค่นเสียงหึ "สมน้ำหน้า ข้าไม่ยั่วโทสะท่าน แต่ท่านเพียรมายั่วโมโหข้าเอง"
"ข้าก็แค่..." เขาไม่เจอนางนานแล้ว แค่ได้พบก็รู้สึกสบายใจ ส่วนวาจาพล่อยๆ เ่าั้ก็แค่พลั้งปากออกไป
"ช่างก็ได้ ผู้ใหญ่ไม่ถือสาผู้น้อย" ถังชิงหรูจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย พวงแก้มยังแดงซ่าน ไม่แยแสเฟิ่งหยางอีก "ั้แ่ตกแต่งห้องใหม่ก็ไม่ได้พบท่านอีกเลย เมื่อครู่เข้าไปดูมาหรือยัง หากมีตรงไหนไม่พอใจก็รีบบอก ข้าจะได้ทำการแก้ไข"
เฟิ่งหยางเข้าไปดูในห้องมาแล้ว หลังจากเห็นการออกแบบของนางเขาเหมือนถูกสะกดอยู่กับที่ ไม่เคยรู้มาก่อนว่าห้องจะสามารถเปลี่ยนไปในรูปแบบนี้ได้ ที่จริงไม่ว่าเรือนจะกว้างขวางแค่ไหน หรือห้องจะใหญ่เท่าไร ภายในล้วนตกแต่งเหมือนกันหมด ราคาซื้อขายบ้านตัดสินที่ทำเลและขนาดที่ดินเป็หลัก คนรวยซื้อบ้านดีๆ คนจนแม้แต่บ้านยังไม่มี นี่คือความเหลื่อมล้ำโดยพื้นฐาน
ถังชิงหรูทำให้เขารู้ว่าที่แท้สามารถออกแบบห้องให้ดูมีเอกลักษณ์ได้ เตียงหลังนั้น... สามารถเปลี่ยนให้นุ่มขึ้นสบายขึ้น เก้าอี้สามารถปรับเปลี่ยนให้กว้างขึ้น ไม่เพียงแต่นั่งสบาย ยังสามารถนอนพักผ่อนได้เหมือนเตียงขนาดเล็ก ชั้นหนังสือฝังอยู่บนผนัง สามารถเอื้อมมือไปหยิบตำราอ่านเมื่อไรก็ได้ ไม่ยุ่งยากเลยสักนิด
สำคัญที่สุดคือการเปลี่ยนแปลงห้องสุขา ในเรือนมีเขาเพียงคนเดียวที่สามารถใช้ห้องสุขาห้องนั้นได้ แต่แม้ว่าจะทำความสะอาดทุกวันก็ยังส่งกลิ่นเหม็น เหล่าสาวใช้ที่มาทำความสะอาดต้องใช้กำยานไม่น้อยเพื่อกลบกลิ่นเหม็นเ่าั้ ด้วยเหตุนี้พอเห็นห้องสุขาที่ถังชิงหรูออกแบบให้สามารถขึ้นไปนั่ง หรือนั่งยองๆ ขับถ่ายก็ได้ โดยไม่มีกลิ่นประหลาด ทั้งยังมีกลิ่นหอม เขายังเกิดความคิดพิเรนทร์เพียรอยากเข้าแต่ห้องสุขา การมีห้องสุขาแบบนี้ พานให้ไม่นึกอยากออกนอกบ้านไปไหน เพราะข้างนอกมีแต่สกปรกทั้งนั้น
พอเห็นเขามีสายตาเหม่อลอย ถังชิงหรูก็โบกมือไปมาตรงหน้า พลายเอ่ยพึมพำกับตนเองว่า "คงไม่ปัญญาอ่อนไปแล้วกระมัง"
เฟิ่งหยางปัดมือนางออก ก่อนมองนางด้วยสายตาคาดหวัง "เ้ายังมีของเล่นอะไรสนุกๆ อีกหรือไม่ เอาที่น่าสนุกกว่าในห้องสุขานั่น"
ถังชิงหรูทำท่าขนลุก มองเขาด้วยสายตาชอบกล "ห้องสุขาสนุกมากนักหรือ ปรกติท่านเห็นห้องสุขาเป็สถานที่เล่นสนุกหรือไร รสนิยมของท่านช่างประหลาดนัก"
เฟิ่งหยางรู้ว่านางจงใจตีความหมายผิดๆ เขาจึงหยิกแก้มนาง พลางแค่นเสียงหึ "อย่ามาแกล้งโง่ เ้ารู้ว่าข้าหมายความว่าอย่างไร ลองดูว่าในจวนยังมีตรงไหนที่ต้องเปลี่ยนแปลงแก้ไขอีกหรือไม่ สามารถจัดการได้เลย"
"คุณชาย คุณชายเฟิ่ง..." ถังชิงหรูยกมือขึ้นทำท่าร้องขอชีวิต "ที่นี่เป็แค่เรือนรับรองชั่วคราว ช้าหรือเร็วท่านก็ต้องย้ายไปสนุกที่อื่น เมื่อมาอยู่อาศัยไม่นานมาก ไยต้องปรับปรุงเป็การใหญ่โตด้วยเล่า อีกอย่าง ท่านลงแรงเยอะขนาดนี้ อยากให้ทุกคนทราบที่อยู่ของตนเองหรืออย่างไร"