เมื่อหลินรั่วซีเอ่ยเช่นนั้นออกมาซูจื้อหงยังคงมีท่าทีที่เรียบเฉยอยู่เช่นเดิม เขากล่าวขึ้นด้วยใบหน้าขาวซีดเล็กน้อย
"อย่าล้อกันเล่นเลยรั่วซี ดร.กรีนอยู่ในความดูแลของผมเขาจะไปที่ไหนผมย่อมต้องรู้เป็คนแรก"
"ที่เขาไม่ได้แจ้งคุณเพราะคุณเป็คนบอกให้เขาไปเอง ถ้าคุณไม่เชื่อลองโทรไปถาม ดร.กรีนเองเลยสิฉันคิดว่าเขาคงเห็นลายเซ็นของคุณในเอกสารการเลิกจ้างแล้ว" หลินรั่วซีกล่าว
"เป็ไปไม่ได้! ผมไม่เคยเซ็นเอกสารอะไรทั้งนั้น!"ซูจื้อหงส่งเสียงะโขึ้นอย่างบ้าคลั่งและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรออกทันที
ไม่นานนักเสียงชายวัยกลางคนสำเนียงจีนอเมริกันก็ดังขึ้น
"คุณซูไม่คิดเลยว่าคุณจะโทรหาผมในเวลานี้"
หลังจากได้ยินน้ำเสียงเหยียดหยามเล็กน้อยของดร.กรีนซูจื้อหงก็ได้แต่ฝืนยิ้มและถามขึ้นว่า
"ดอกเตอร์ นี่มันเกิดอะไรขึ้นหรือครับ?ผมทำอะไรผิดไปงั้นเหรอ"
"คุณไม่ได้ทำอะไรผิดทั้งนั้นงานของผมไม่อาจสนองความ้าให้คุณได้ ผมรู้สึกเสียใจเป็อย่างมากแต่ในเมื่อคุณ้าให้ผมออกไป ผมก็ได้แต่ก้มหน้ายอมรับการตัดสินใจของคุณและตอนนี้ผมก็ได้ตอบรับคำชวนของ ดร.หลี่กวางซุ่นให้ไปทำงานที่มู่หยุนเรียบร้อยแล้ว"
"อะไรนะ!! ผมให้คุณออกไปเมื่อไหร่กัน!?"ซูจื้อหงกล่าวเสียงดังคล้ายคำรามออกมา!
ดร.กรีนประหลาดใจเล็กน้อย
"ผมเห็นเอกสารที่เขียนไว้ชัดเจนแล้วจากคนที่อ้างว่าเป็ผู้หญิงของคุณ ผู้ช่วยของผมนั้นโดนไล่ออกไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่ชัดเจนแล้วว่าเป็เื่จริง ผมรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยปีที่ผ่านมาผมทุ่มเทให้กับการทำงานอย่างหนัก แต่ในเมื่อคุณไม่้าผมแล้วผมก็เลือกที่จะไปอย่างเงียบๆ ดีกว่า ได้ยินคุณโทรหาผมในตอนนี้ผมก็รู้สึกขอบคุณมากจริงๆ"
เป็แบบนี้ไปได้ยังไงกัน! เกิดเื่อะไรขึ้นกันแน่?
ซูจื้อหงพยายามควบคุมอารมณ์อย่างยากลำบาก
"ดอกเตอร์ คุณฟังผมนะนี่เป็ความเข้าใจผิด ผมถูกใส่ร้าย ผมไม่เคยคิดจะไล่คุณออกเลยแม้แต่นิดเดียว!!"
"ผมขอโทษจริงๆ คุณซูผมไม่เข้าใจว่าทำไมคุณถึงพูดออกมาเช่นนี้ แต่ผมเห็นลายเซ็นของคุณแล้ว อีกอย่างผมตอบรับคำชวนของเพื่อนไปแล้วด้วย ผมคิดว่านี่เป็สิ่งที่ดีที่สุดคุณหลี่ไปพบกับครอบครัวผมที่ฮ่องกงแล้ว เขาไม่เลวเลยทีเดียว มู่หยุนเป็บริษัทที่ยอดเยี่ยม ผมได้ตัดสินใจไปทำงานที่นั่นแล้วถ้าคุณซูคิดว่าคำพูดเหล่านี้ไม่มีความหมายใดๆ ผมก็ต้องขอโทษด้วยวาสนาของพวกเราสิ้นสุดลงตรงนี้ ลาก่อนครับ"
กล่าวจบ ดร.กรีนก็กดวางสายไปในทันที
ซูจื้อหงได้ยินดังนั้นก็ปามือถือระดับไฮเอนด์ทิ้งลงกับพื้นจนแหลกเป็เสี่ยงๆไปในทันที!
"ทำไมกัน? ผมอยากรู้ว่าทำไม?" ซูจื้อหงถามขึ้นด้วยใบหน้าเขียวคล้ำดวงตาแดงก่ำแม้นี่จะเป็หญิงสาวที่เขา้าจะแต่ก็เป็การยากที่เขาจะระงับความโกรธเอาไว้ได้
หลินรั่วซีไม่มีท่าทางหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย
"ง่ายมากฉันแค่้าทำลายความสัมพันธ์ของคุณกับดร.กรีน แต่คุณก็เซ็นเอกสารง่ายเหลือเกิน เื่จึงจะกลายเป็เช่นนี้"
"ผมไม่เคยเซ็นเอกสารมั่วซั่วเอกสารนั่นเป็ของปลอม!" ซูจื้อหงกล่าวขึ้นด้วยเสียงแหบแห้ง
"แน่ใจเหรอ คุณลองนึกย้อนดูให้ดีๆ สิ" หลินรั่วซีหัวเราะขึ้นเล็กน้อย
ซูจื้อหงพยายามเค้นมันสมองนึกคิดอย่างมึนงงเขาจำได้ว่าวันนั้นหลินรั่วซีมาเยี่ยมชมบ้านของเขาและพูดคุยเป็การส่วนตัว จากนั้นจู่ๆ เธอก็พูดถึงเื่ความร่วมมือจัดการกับฉางหลิน
นั่นทำให้ซูจื้อหงยกนิ้วมือที่สั่นระริกชี้ไปที่หลินรั่วซีและกล่าวขึ้นว่า
"เป็กองเอกสารนั่นใช่มั้ย...!?"
วันนั้นเมื่อหลินรั่วซีเสนอข้อตกลงในการร่วมมือกันเพื่อกำราบฉางหลิน ซึ่งในขณะนั้นซูจื้อหงก็เห็นด้วยเป็อย่างยิ่ง
แม้เฉิงซินหลินจะเป็รุ่นพี่ของหลินรั่วซีมาก่อนแต่เธอก็ยังบอกอีกว่าเธอต้องเห็นพนักงานในบริษัทมาก่อนอยู่แล้ว...
หลังจากได้ยินคำพูดเ่าั้ซูจื้อหงก็ตอบตกลงอย่างรวดเร็วนอกจากนี้เขายังมีความกระตือรือร้นในการปราบบริษัทสื่อั์ใหญ่อย่างฉางหลินนั่นจึงเป็ที่มาของความร่วมมือในครั้งนั้น
ในสถานการณ์นั้นดูเหมือนหลินรั่วซีจะระมัดระวังอย่างมากเธอตระเตรียมเอกสารมาหลายชุด เพื่อให้แน่ใจว่าทุกฝ่ายจะไม่ผิดสัญญาจนเปิดเผยความลับนี้ออกไปเวลานั้นซูจื้อหงไม่สงสัยในตัวเอกสารเ่าั้จึงลงมือเซ็นชื่ออย่างรวดเร็วเขาไม่ได้คิดว่ากองเอกสารเ่าั้จะปะปนเนื้อหาพิเศษเช่นนี้อยู่ด้วย...
ซูจื้อหงและเฉิงซินหลินก็เป็เฉกเช่นเดียวกัน เป็แค่หมากตัวหนึ่งของหลินรั่วซีเท่านั้น!
เฉิงซินหลินนั้นประเมินอีกด้านหนึ่งของหลินรั่วซีผิดไป ส่วนซูจื้อหงประมาทไหวพริบและการแสดงของหลินรั่วซีน้อยเกินไป
ไม่มีใครคาดคิดว่าหญิงสาวที่มีใบหน้าเ็าและแทบไม่เข้าร่วมในกิจกรรมสาธารณะใดๆ จะสามารถเล่นละครได้แเีจนทุกคนต่างหลงกล!
ซูจื้อหงรู้สึกว่าถ้าหลินรั่วซีใช้กลยุทธ์นี้มาเล่นพนันเมื่อไหร่แน่นอนว่าเธอจะต้องเป็เซียนโป๊กเกอร์ผู้เก่งกาจอย่างแน่นอน!
"รั่วซี... หมากตานี้ของคุณช่างร้ายกาจจริงๆ"ซูจื้อหงในเวลานี้สามารถควบคุมตัวเองไว้ได้แล้วเขามองไปที่หลินรั่วซีและเผยรอยยิ้มเ็าเล็กน้อย
หลินรั่วซีถอนหายใจพลางกล่าวว่า
"ฉันไม่ชอบทำสิ่งเหล่านี้นักหรอกแต่ฉันคงบอกได้แค่ว่า ขอโทษด้วย ฉันเป็นักธุรกิจ"
"พูดได้ดีคุณบอกว่าคุณเป็นักธุรกิจ ผมก็เป็นักธุรกิจเช่นกันแพ้ชนะเป็เื่ธรรมดาของธุรกิจอยู่แล้ว" ซูจื้อหงแย้มยิ้มพลางส่ายศีรษะ
"ความเ็าและความงดงามของคุณทำให้พวกเราลืมไปว่าคุณเป็นักธุรกิจคนหนึ่งขอแสดงความยินดีด้วยอีกสิบปีข้างหน้าอวี้เหล่ยจะเป็ผู้นำของตลาดอุตสาหกรรมวัสดุอย่างแน่นอน"
"ขอบคุณค่ะ ถ้าหมดเื่แล้วพวกเราขอตัวก่อนนะคะ"
หลินรั่วซีวางแก้วไวน์ไว้ที่โต๊ะด้านข้างแล้วก้าวเดินออกจากงานเลี้ยงด้วยท่าทีสบายๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
หยางเฉินยังคงติดตามหลินรั่วซีและโม่เชี่ยนนีไปที่รถ
เมื่อนั่งอยู่ในรถทั้งสามคนกลับไม่ได้พูดอะไรออกมาโม่เชี่ยนนีตั้งสมาธิขับรถไปเรื่อยๆ หลินรั่วซีก็ทอดสายตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างและหยางเฉินที่ยังคงนั่งแช่อยู่กับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน
ในวันนี้หลินรั่วซีได้ทำสิ่งที่เหนือความคาดหมายอย่างมาก!
หยางเฉินได้เห็นความน่ากลัวของหญิงสาวที่แม้แต่ผู้นำที่ชาญฉลาดอย่างเฉิงซินหลินและซูจื้อหงยังพลาดท่ามาแล้ว
ทุกคนคงคิดไม่ถึงเลยว่าอวี้เหล่ยนั้นกลับกลายเป็ผู้ได้รับผลประโยชน์สูงสุด!
ด้วยหุ้นส่วนถึง 65%!! และในขณะเดียวกันฉางหลินกับตงหัวก็ประสบกับความปราชัยไปพร้อมๆ กัน!
หยางเฉินยังนึกภาพไม่ออกว่าหญิงสาวที่หยิบขนมกินอย่างน่ารักบนเตียงในตอนนั้น กับหญิงสาวผู้เ็าตรงหน้านี้จะเป็คนคนเดียวกัน...
"นายจะไม่ออกความเห็นอะไรหน่อยหรือ?" หลินรั่วซีหันไปถามหยางเฉิน
หยางเฉินยกมือขึ้นแตะหน้าผากก่อนตอบว่า"ผมไม่รู้จะพูดอะไร"
"กำลังคิดว่าฉันเป็ผู้หญิงชั่วร้ายหรือไง?" หลินรั่วซีถามกลับไปอีกครั้ง
"ผมไม่รู้เหมือนกันผมก็รู้สึกต่างออกไปเล็กน้อย"หยางเฉินตอบตามความจริง "แต่ที่แน่ๆ คุณไม่ใช่คนโหดร้ายอย่างแน่นอน"
หลินรั่วซีกล่าวว่า
"แม้นายจะบอกว่าฉันโหดร้ายแต่ยังไงฉันก็จะยังทำเหมือนเดิม คุณย่าสอนฉันไว้ว่า หากไม่สามารถเป็ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จได้ก็จะไม่มีโอกาสรอดในโลกนี้ได้เลย เพื่อความอยู่รอดพวกเราจะต้องเอาชนะศัตรูให้ได้และแม้ว่าจะไม่สามารถเอาชนะได้ ก็ต้องไม่ให้พวกเขามีโอกาสเขมือบเราได้ฉันเพียง้าที่ปกป้องทุกอย่างของคุณย่า ถ้านายยืนอยู่บนตำแหน่งเดียวกันกับฉัน ฉันคิดว่านายก็ต้องทำแบบเดียวกัน"
หยางเฉินจำได้ว่าตอนที่อยู่โรงพยาบาลปู่ของหลินรั่วซี หลินจื้อกั๋วได้กล่าวขอโทษคุณย่าของหลินรั่วซีดูเหมือนคุณย่าของหลินรั่วซีคงจะเป็หญิงสาวที่น่าสงสารทีเดียว
เมื่อจ้องมองสายตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศกของหญิงสาวหยางเฉินก็รู้สึกเจ็บแปลบในหัวใจ
"เชี่ยนนี จอดรถหน่อยได้มั้ย ผมอยากจะออกไปสูดอากาศสักหน่อย"
โม่เชี่ยนนีในเวลานี้ไม่อยากขัดใจหยางเฉินเธอจึงจอดรถแต่โดยดี
หยางเฉินเดินลงจากรถและหยิบบุหรี่ขึ้นมาพร้อมโบกมือลาหญิงสาวทั้งสอง
"ผมจะไปเดินเล่นสักหน่อยไม่ต้องรอผมนะ"
เมื่อเห็นหยางเฉินเดินจากไปแล้วหลินรั่วซีก็เอ่ยถามขึ้นเสียงเบาว่า
"เชี่ยนนีเธอคิดว่าเขาจะเกลียดฉันหรือเปล่า"
"ฉันว่าไม่นะเขาเป็ห่วงเธอมาก ต้องไม่เป็อย่างที่เธอพูดแน่ๆ" โม่เชี่ยนนีซึ่งตอนนี้รู้สึกขมขื่นในหัวใจแต่ก็ยังคงกล่าวปลอบใจเพื่อนสนิทของเธอ
แต่ทันใดนั้นเอง จู่ๆ หลินรั่วซีก็ลูบผมนุ่มสลวยของโม่เชี่ยนนีพร้อมกล่าวว่า
"ฉันดีใจจริงๆ ที่เวลานี้มีเธออยู่เคียงข้าง"
"เราก็เหมือนพี่น้องกันฉันต้องอยู่ข้างเธออยู่แล้ว"โม่เชี่ยนนีกล่าว
"หลังจากนี้เธอจะพาหยางเฉินไปรับคุณป้ามาที่จงไห่ใช่หรือเปล่า?"
ได้ยินเช่นนี้ดวงตาคู่งามของโม่เชี่ยนนีเริ่มมีน้ำเอ่อล้นออกมาเธอเบิกตากว้างพร้อมเอ่ยขึ้นอย่างตะกุกตะกักว่า
"เธอ... รั่วซีเธอรู้ได้ยังไง... ฉันพาหยางเฉินไปรับแม่ด้วยได้หรือเปล่า?"
หลินรั่วซียิ้มให้โม่เชี่ยนนีที่เริ่มสูญเสียการควบคุมไป
"ไม่ต้องห่วง... คุณป้าเป็คนบอกฉันเองว่าท่าน้าให้เธอพาแฟนไปพบท่าน"
"แม่งั้นเหรอ?" โม่เชี่ยนนีปิดปากด้วยความประหลาดใจ
"คุณป้าเป็ห่วงเื่แฟนของเธอมากแต่คนที่คุณป้าสามารถติดต่อได้มีแค่ฉัน..." หลินรั่วซีกล่าว
ทันใดนั้นเองใบหน้าของโม่เชี่ยนนีเกิดแดงก่ำหัวใจของเธอก็เต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง
"นี่... ก่อนหน้านี้เธอพูดว่าหยางเฉินงั้นหรือ?"โม่เชี่ยนนีไม่อาจควบคุมตัวเองได้อีกต่อไปแม้นี่จะเป็ความอัปยศอดสูอย่างที่สุด แต่เธอก็จะถามออกไป!!