“แหล่งพลังงานสรรพสิ่ง?”
ิอวี่ถามขึ้นมาด้วยความสงสัย ในความทรงจำของเขานั้นเหมือนจะไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อนเลย แต่ิอวี่ก็เหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ เขาพูดว่า “ท่านพ่อเคยบอกข้าว่า จากขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่งไปถึงขั้นที่หก อาจมีโอกาสได้รับของวิเศษชิ้นหนึ่ง หรือว่าจะเป็แหล่งพลังงานสรรพสิ่งที่เ้าพูดถึง?”
ตอนที่ิเฉินเหยียนกับิอวี่จะจากกัน เขาเคยบอกข้อมูลเกี่ยวกับขอบเขตอมฤตให้ิอวี่ได้รู้ ถึงแม้ิเฉินเหยียนอาจจะไม่สามารถก้าวหน้าไปมากกว่านี้อีกแล้ว คิดอยากจะไปถึงขอบเขตอมฤตขั้นที่หกมันเป็อะไรที่ยากยิ่งกว่ายาก
แต่ว่า ิเฉินเหยียนก็ฟังต่อมาอีกที เขาเองก็ไม่รู้ว่าไอ้ของลึกลับที่ว่านั่นมันคืออะไรอยู่ที่ไหน
“อือ ของวิเศษที่ว่านั่น ก็คือแหล่งพลังงานสรรพสิ่งนี่แหละ”
เฮยจีพยักหน้าแล้วพูดว่า “แหล่งพลังงานสรรพสิ่ง ความหมายก็ตามชื่อเลย เป็ต้นกำเนิดของทุกสรรพสิ่ง มันเป็ของที่มีจิติญญา แล้วของสิ่งนี้ก็ถูกคนเรียกว่าแหล่งพลังงาน เพราะบนโลกใบนี้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทั้งหลายเหล่านี้ ทุกสรรพสิ่งมาจากแหล่งพลังงานที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น แหล่งพลังงานก็สามารถเปลี่ยนแปลงไปเป็อะไรก็ได้มากมาย”
“ก็เหมือนอสูรบนโลกนี้ อสูรแต่ละประเภทแต่ละตัว พวกมันมีบรรพบุรุษต้นกำเนิดของตัวเอง แรกเริ่มเดิมทีมันอาจจะมีแค้ร้อยหรือพันสายพันธุ์ แต่เมื่อผ่านการขยายสายพันธุ์ สุดท้ายมันก็มีมากกว่าร้อยล้านสายพันธุ์ สรรพสิ่งบนโลกของเรานั้นก็เหมือนพวกอสูร คือมีจำนวนที่น่าทึ่ง แต่บรรพบุรุษต้นกำเนิดของมันอย่างไรก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลง หรือก็คือแหล่งพลังงานนั่นเอง”
คำพูดเหล่านี้ของเฮยจี เหมือนเป็การเปิดประตูโลกใบใหม่ที่ลึกลับอีกใบให้กับิอวี่ มันทำให้เขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
ิอวี่คิดแล้วก็ส่งเสียงด้วยพลังจิตไปว่า “นั่นก็หมายความว่า บนโลกใบนี้นั้นที่จริงก็อาจจะเกิดมาจากแหล่งพลังงานสรรพสิ่งสินะ ทั้งูเา แม่น้ำ หนอน ปลา นก อสูร ฟ้าดินเองก็มี เมฆ ลม สายฟ้า ... ทุกอย่างนี้ ล้วนแต่เป็แหล่งพลังงานสรรพสิ่งใช่ไหม?”
เฮยจีรู้สึกแปลกใจ เมื่อครู่นางแค่อธิบายเื่ของแหล่งพลังงานสรรพสิ่งไปนิดเดียวเอง ิอวี่กลับสามารถคิดลงลึกไปได้มากขนาดนี้ แสดงว่าความคิดของเขาไม่ได้ถูกจำกัด ที่จริงเขากล้าคิดมาก
ในความเป็จริงแล้ว ิอวี่พูดก็ถูกเกือบทั้งหมด
“บนโลกใบนี้สร้างขึ้นมาจากแหล่งพลังงานสรรพสิ่ง แต่ว่าูเา แม่น้ำ หนอน ปลา นก อสูร ของที่เ้าเห็นในเวลาปกติ ที่จริงอาจจะเป็แค่ ‘ของรุ่นหลัง’ ที่เกิดจากการผันแปร แหล่งพลังงานสรรพสิ่งมันเป็อะไรที่บริสุทธิ์มาก และมีจิติญญาที่แข็งแกร่งมากด้วย”
เฮยจีอธิบายอย่างอดทนว่า “ดังนั้น ถึงแม้แหล่งพลังงานสรรพสิ่งจะสร้างโลกใบนี้ขึ้นมา แต่ว่าแหล่งพลังงานสรรพสิ่งที่แท้จริงนั้นมันมีน้อยมาก คนส่วนมากไม่มีทางได้พบแหล่งพลังงานสรรพสิ่งเลย ไม่ว่าจะรูปแบบไหนก็ตาม ก็ไม่เคยได้พบ”
“มีน้อยขนาดนั้นเลยหรือ?”
ิอวี่รู้สึกตะลึงมาก ตามที่เฮยจีว่ามา แหล่งพลังงานสรรพสิ่งนั้นเป็ของที่ล้ำค่ามาก!
แต่ว่า ถึงแม้แหล่งพลังงานสรรพสิ่งจะมีจิติญญาที่แข็งแกร่งอย่างมาก แล้วจะใช้มันอย่างไรล่ะ?
เหมือนจะดูออกว่าิอวี่สงสัย เฮยจีเลยพูดต่อว่า “ของอย่างแหล่งพลังงานสรรพสิ่ง มีเพียงผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่หกเท่านั้นถึงจะดูดซับได้ พลังฝีมือต่ำกว่านั้นไม่ได้เด็ดขาด สูงกว่านั้นก็ไม่ได้เหมือนกัน”
“เพราะเมื่อผู้กล้าขอบเขตอมฤตได้รวบรวมดวงจิตเทวะ ตับเทวะ ม้ามเทวะ ปอดเทวะ ไตเทวะแข็งแล้ว เทวะภายในอวัยวะทั้งหมดจะย้ายไปรวมตัวกันที่จุดตันเถียนและสร้างเทวะที่แท้จริงออกมา ถึงเวลานั้น เทวะที่แท้จริงก็จะถือกำเนิดขึ้น มันเป็่จังหวะที่ดีที่สุดที่จะรับแหล่งพลังงานสรรพสิ่ง และองค์ประกอบของมันก็แข็งแกร่งมาก ผู้กล้าสามารถดึงเอาแหล่งพลังงานสรรพสิ่งจากภายนอกเข้าสู่เทวะ โดยใช้เทวะมาล่อเลี้ยงแหล่งพลังงานนั้น เมื่อแหล่งพลังงานสรรพสิ่งถูกดูดจนหมดแล้ว มันก็จะสามารถเป็แหล่งพลังงานของิญญาเทวะของผู้กล้าคนนั้น”
ิอวี่ฟังอย่างตั้งใจ ระหว่างทางเขาพยักหน้าอยู่เป็ระยะ แต่เหมือนเขาก็ฟังออกว่ามันมีปัญหาเลยถามด้วยความสงสัย “แต่ว่า ทำไมอาณาจักรพลังที่เหนือกว่าขอบเขตอมฤตขั้นที่หก ถึงไม่สามารถดูดซับแหล่งพลังงานสรรพสิ่งล่ะ?”
“ข้ากำลังจะพูดต่อเลย”
เฮยจียิ้มแล้วพูดว่า “เมื่อครู่ข้าพูดว่า เมื่อเทวะที่แท้จริงก่อตัวขึ้น องค์ประกอบของมันจะแข็งแกร่งมาก ในระดับที่เหนือกว่านั้น เทวะจะแข็งและมั่นคงมาก หากจะดึงแหล่งพลังงานสรรพสิ่งเข้ามาหลอมกับเทวะก็จะทำให้เทวะแตกสลาย ร่างกายจะะเิจนตาย ดังนั้น หากอาณาจักรพลังที่เหนือกว่าขอบเขตอมฤตขั้นที่หกคิดอยากจะหลอมแหล่งพลังงานสรรพสิ่งนั้นจึงมีความเสี่ยง แหล่งพลังงานสรรพสิ่งยิ่งมาก หากเทวะไม่อาจรองรับได้ก็อาจจะทำให้ร่างะเิจนตายก็ได้”
เมื่อฟังถึงตรงนี้ิอวี่ก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออก คิดอยากจะสร้างแหล่งพลังงานิญญาเทวะนั้นมันยากลำบากมาก
ก่อนอื่น จะต้องหาแหล่งพลังงานสรรพสิ่งที่มีน้อยจนถึงน้อยมากให้เจอก่อน จากนั้นก็จะต้องฝึกจนมีขอบเขตอมฤตขั้นที่หก และตอนที่หลอมเอาแหล่งพลังงานสรรพสิ่งยังต้องผ่านความพยายามความลำบากอีก ทั้งยังต้องแบกรับความเสี่ยงที่ร่างจะแตกจนตายอีก และยังต้องอดทนต่อความเ็ปที่ถูกฉีก แล้วถึงสามารถถ่ายแหล่งพลังงานสรรพสิ่งเข้าสู่เทวะเพื่อหลอมรวมมันได้ และสุดท้ายถึงจะสามารถสร้างแหล่งพลังงานิญญาเทวะออกมาได้!
ซึ่งในทุกๆ ขั้นตอนนั้นจะละเลยไม่ได้เด็ดขาด ขอแค่ในขั้นตอนไหนที่ทำได้ไม่สมบูรณ์ ที่ผ่านมาทั้งหมดก็ถือว่าสูญเปล่า และอาจจะต้องจ่ายค่าตอบแทนเป็ชีวิตของผู้ฝึกยุทธ์ด้วย!
“ดังนั้นต้องพูดว่า ซ่งหยวนหยวนก็คือผู้กล้าที่มีแหล่งพลังงานิญญาเทวะ ใช่ไหม”
ิอวี่จ้องไปยังสาวผมสั้นสวมชุดกี่เพ้าสีขาวที่อยู่ด้านหน้า สายตาของเขาเริ่มมีความนับถือเพิ่มขึ้นมา
มิน่าซ่งหยวนหยวนถึงสามารถเป็หนึ่งในสามผู้าุโใหญ่ที่แข็งแกร่งที่สุดของสายเลี่ยนเหยียน ไม่ใช่เพราะนางมีพลังฝีมือที่สูงส่ง แต่เพราะนางมีแหล่งพลังงานิญญาเทวะ!
“เฮยจี เ้ามองออกไหมว่าแหล่งพลังงานิญญาเทวะเป็อะไร?” ิอวี่ถาม
เฮยจีส่ายหัว “มองออกไม่ทุกอย่าง แต่ข้ามั่นใจว่ามันน่าจะเป็แหล่งพลังงานิญญาเทวะเกี่ยวกับธาตุ ซึ่งธาตุนั้นน่าจะเป็ไฟ แล้วยังเป็เปลวไฟที่รุนแรงมากด้วย และเพราะเป็แหล่งพลังงานิญญาเทวะ ดังนั้น เปลวเพลิงที่มันผลิตออกมา คุณภาพจึงเหนือกว่าเปลวเพลิงจากหยางสูงสุดของเ้าหลายเท่าตัวเลย”
ิอวี่เข้าใจในทันที มิน่าตอนที่เขาเปิดสถานะหยางสูงส่ง ซ่งหยวนหยวนดูไม่กลัวเปลวไฟของเขาเลย ที่แท้เพราะนางมีเปลวเพลิงที่แข็งแกร่งกว่าเขานี่เอง
แต่ิอวี่เหมือนจะพบอะไรบางอย่าง เขาพูดขึ้นมาด้วยความสงสัยว่า “เ้าว่า แหล่งพลังงานิญญาเทวะประเภทธาตุ มันแตกต่างกับประเภทอื่นอย่างไร? แหล่งพลังงานสรรพสิ่งมันเปลี่ยนแปลงไปได้หลายอย่าง ประเภทอื่นมันก็น่าจะมีอยู่นับไม่ถ้วนสินะ”
“ถึงแม้แหล่งพลังงานสรรพสิ่งมันเปลี่ยนแปลงไปได้หลายอย่าง มีหลากหลายประเภท แต่หลักๆ มันมีแค่สามประเภทเท่านั้น”
เฮยจียื่นมือออกมาชูสามนิ้ว “มันแบ่งออกเป็สายธาตุ สายอสูร และสายอาวุธ ส่วนแหล่งพลังงานสรรพสิ่งโบราณที่หายากและมีน้อยถึงน้อยที่สุด ไม่ได้มีกำหนดชัดเจน ส่วนมากจะเรียกรวมกันว่าแหล่งพลังงานพิเศษ”
ิอวี่พยักหน้า หลังจากเฮยจีอธิบายอย่างละเอียดแล้ว เขาก็เริ่มจะเข้าใจเื่เกี่ยวกับแหล่งพลังงานสรรพสิ่งแล้ว
เขาคิดไม่ถึงเลยว่า ในสายยุทธ์จะมีความลึกลับและความน่าสนใจมากมายขนาดนี้!
แต่ว่าิอวี่เองก็ไม่ได้ตั้งเป้าให้ตัวเองสูงเกินไป การฝึกฝนขั้นสูงของซ่งหยวนหยวนนั้นมันมีมานานหลายปีแล้ว ส่วนิอวี่นั้นเพิ่งเริ่มมาได้ไม่นาน แต่เขาก็มีจิติญญาในการต่อสู้ที่ไร้ขีดจำกัดกับการฝึกฝนที่จะเกิดขึ้นในอีกหนึ่งปีต่อจากนี้!
ในเวลานี้เอง เ้าวิหคเพลิงที่อยู่ด้านล่างของิอวี่ก็ส่งเสียงร้องและเปล่งแสงออกมา จากนั้นมันก็กางปีกบินทะลุเมฆ ด้านหน้าของิอวี่เป็เทือกเขาที่งดงามมาก มันเขียวชอุ่ม อากาศสดชื่นมาก มีเสียงอสูรร้องเต็มไปหมด และที่ตีนเขายังมีแม่น้ำสายหนึ่งที่มีน้ำใสสะอาดอีกด้วย
บนเทือกเขามีควันลอยขึ้นมาเป็จำนวนมาก มันไม่ได้ทรงพลัง แต่มันเป็หมอกควันที่เกิดจากพลังฟ้าดิน เพราะพลังฟ้าดินนั้นหนาแน่นมาก จึงทำให้ต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่ม ทำให้ทุกอย่างมันดูมีชีวิตชีวา
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ูเาสายน้ำที่งดงามแห่งนี้ถือเป็สมบัติอันล้ำค่าอย่างยิ่ง
“ที่นี่หรือ?”
ิอวี่มองไปที่เทือกเขาตรงหน้า เขามองเห็นสิ่งก่อสร้างโบราณที่งดงามตั้งอยู่เป็จำนวนมาก ภาพอาคารใต้หลังคาและกลุ่มควันที่พวยพุ่ง ทำให้ััได้ถึงความลึกลับ
ภายใต้การควบคุมของซ่งหยวนหยวน เ้าวิหคเพลิงก็บินลงมาในเวลาไม่กี่อึดใจตรงบริเวณครึ่งทางขึ้นเขา
ิอวี่เห็นภาพตรงหน้าชัดเจนมากขึ้น ด้านหน้าเป็อาคารแกะสลักสีดำหลังหนึ่ง ด้านหน้ามีป้ายติดเอาไว้ว่า “จิ้งโม่” รอบอาคารกว้างขวางมาก มีดอกไม้ใบหญ้าสวยงาม ที่ด้านซ้ายของประตูใหญ่มีเสาเหล็กสีดำต้นหนึ่ง มันสามารถทนต่อความแข็งแกร่งได้ในระดับสูงสุด เพราะเป็เสาเหล็กฝึกหมัดมวยที่สร้างขึ้นเป็พิเศษสำหรับผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สาม
ด้านหลังทางขวาของอาคารยังมีคอกอสูรขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ที่นั่นมีกิ่งไม้ใบหญ้าทั้งสดและแห้งที่หนาแน่นมาก มันเป็ใบที่ละเอียดอ่อนนุ่มและมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ทำให้หลับสบาย
ที่นี่เป็ที่พักเฉพาะของอสูรสัตว์ปีก
มองจากภาพรวมแล้ว รอบๆ อาคารแห่งนี้นั้นเงียบสงบมาก ไม่มีเสียงเอะอะโวยวาย เป็สถานที่ที่เหมาะมากในการฝึกวิชา
ยิ่งกว่านั้นมันยังถูกล้อมรอบด้วยูเาและแม่น้ำ มีพลังฟ้าดินแข็งแกร่งมาก ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็ดีกว่าหอพักศิษย์ทั่วไปก่อนหน้านี้อย่างเทียบไม่ได้เลย
“หอจิ้งโม่หลังนี้ต่อไปจะเป็ที่พักและที่ฝึกวิชาของเ้า หวังว่าเ้าจะสงบจิตใจแล้วตั้งใจฝึกนะ เมื่ออาณาจักรพลังของเ้าก้าวหน้าขึ้นอีก ที่อยู่สวัสดิการต่างๆ ของเ้าจะดีมากกว่านี้” ซ่งหยวนหยวนพูด
“ขอรับ”
ิอวี่ดีใจมาก ไม่ว่าคนอื่นจะได้รับสวัสดิการที่ดีกว่านี้หรือเปล่า อย่างน้อยตอนนี้เขาก็พอใจกับหอจิ้งโม่นี้มาก
“จริงสิ”
ซ่งหยวนหยวนพูดต่อว่า “พรุ่งนี้เที่ยงตรงมาทำพิธีที่ตำหนักเมฆาเพลิง จากนั้นข้ายังมีเื่สำคัญจะสั่งอีก”
“ขอรับ”
ิอวี่พยักหน้าอย่างนอบน้อม จากนั้นซ่งหยวนหยวนก็กลับขึ้นไปยืนอยู่บนหลังวิหคเพลิง เ้าวิหคเพลิงร้องส่งเสียงแล้วก็บินออกไป มันพาซ่งหยวนหยวนออกไปไกล
“ฮู้ว ... ” ิอวี่สูดอากาศบริสุทธิ์และถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา
ซ่งหยวนหยวนไปแล้ว แรงกดดันในใจของเขาถึงได้ลดน้อยลง เพราะพลังลมปราณของเทพธิดาอกโตมันไม่ได้แข็งแกร่งแบบธรรมดา
“พรุ่งนี้ ข้าจะได้กลายเป็ศิษย์ของซ่งหยวนหยวนอย่างสมบูรณ์แล้วสินะ? ดีจัง”
ดวงตาของิอวี่มีรอยยิ้ม ในใจเต้นอย่างรุนแรง แต่หลังจากนั้นเขาก็เหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ และเริ่มเครียดขึ้นมาอีกครั้ง “เดี๋ยวก่อนนะ แล้วตำหนักเมฆาเพลิงมันอยู่ที่ไหนล่ะ? คงต้องไปถามหาดู ไม่อย่างนั้นถ้าเตรียมตัวไม่ทันแล้วพรุ่งนี้ไปสายต้องแย่แน่”
ระหว่างที่ิอวี่กำลังคิด ปลายตาของเขาก็มองไปเห็นูเาที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ตรงนั้นเหมือนมีอาคารสีแดงอยู่หลังหนึ่ง ตั้งตรงกับหอจิ้งโม่ของเขาพอดี
ิอวี่เปิดััแห่งิญญาขึ้นมาแล้วมองลอดเข้าไปที่อาคาร ร่างของผู้หญิงคนหนึ่งก็ส่องเข้าตาของเขาพอดี
“เิหยูเยียน?”
ิอวี่ส่ายหน้าด้วยความจนใจ คิดไม่ถึงเลยว่าจะมาเจอผู้หญิงลึกลับคนนั้นที่นี่อีก
