หลังจากเสร็จการสวดในคืนสุดท้าย ธาวินเดินทางกลับบ้านด้วยหัวใจอ่อนแรง เขาสูญเสียพี่ชายอย่างกะทันหันด้วยเหตุการณ์ฆ่าตัวตาย ในชีวิตของทิวาไม่มีเื่ใด ที่ทำให้เขาคิดมากถึงขั้นไม่อยากมีชีวิตอยู่ หากไม่ใช่เพราะตกหลุมรักพิชญาจนถอนตัวไม่ขึ้น ธาวินหลับตาลงพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม ก่อนมือถือจะดังขึ้น
“ครับพิมพ์” เขาตอบรับปลายสายด้วยน้ำคำที่ราบเรียบ พร้อมมือหนายกขึ้นเช็ดน้ำตาออก
“ที่รัก ทำงานเป็อย่างไรบ้างคะ” พิมพ์พาถามด้วยน้ำเสียงสดใส เพราะรู้เพียงแค่ว่าเขากลับมาไทยเพื่อทำงานเท่านั้น ก่อนจะได้ยินเสียงถอนหายใจจากคนรักหนึ่งครั้ง
“ทำไมถอนหายใจแบบนั้น มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า”
“ผมอยากกอดคุณจัง” คำพูดอ่อนแรงจากแฟนหนุ่ม ทำให้พิมพ์พาขมวดคิ้วแปลกใจเล็กน้อย หากแต่ในเวลานี้หญิงสาวรู้ว่าเขาควรได้รับกำลังใจ
“พิมพ์มีข่าวดีจะบอก”
“ข่าวดี? อะไรหรือครับ” ธาวินขมวดคิ้วเล็กน้อย
“อาทิตย์หน้าพิมพ์จะไปเมืองไทยค่ะ จะไปให้คุณกอดให้ชื่นใจ ดีไหมคะ”
“ขอบคุณนะพิมพ์” พิมพ์พาทำให้เขาลืมเื่ราวเลวร้ายได้ครู่หนึ่ง ก่อนจะปล่อยยิ้มออกมา
“พิมพ์รักคุณนะคะ” และเสียงหวานนั้นทำให้เขามีแรงขึ้นมาอีกมากโข
“ผมก็รักคุณ” ประโยคสุดท้าย รถคันหรูได้แล่นเข้ามาจอดเทียบหน้าบ้านพอดี บ้านหลังใหญ่ถูกปิดไฟเอาไว้เกือบทุกส่วน ยกเว้นบริเวณห้องโถงเท่านั้น ธาวินยืนมองด้วยความรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก บ้านหลังนี้เคยมีเสียงหัวเราะ รอยยิ้มเต็มเปี่ยมได้ด้วยความรัก บัดนี้กลับว่างเปล่าไม่หลงเหลือสภาพเดิมแม้เพียงนิดเดียว สองเท้าก้าวเข้ามาภายในตัวบ้าน มือหนายกขึ้นปลดกระดุมตรงคอให้หลวมขึ้น
หากแต่ภาพตรงหน้า ทำให้เขาเดือดดาลขึ้นมาอีกครั้ง ธาวินเดินตรงเข้าไปกระชากกรอบรูปใบใหญ่ออกจากอ้อมอกของหญิงสาว ที่นอนหลับไม่ได้สติบนโซฟาตัวใหญ่สีทองอร่ามกลางบ้าน
“กล้าดีอย่างไรมาปลดรูปนี้ออก” หญิงสาวสะลึมสะลือลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว เธอเผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ทั้งที่ตั้งใจแล้วว่าจะไม่ให้เขาเห็นหน้าเธออีก จะต่างคนต่างอยู่
“พี่วิน พิชญ์แค่...” ดวงตาแวววับมองไปยังรูป ที่ถูกมือหนาแย่งไปก่อนที่เขาจะถลาเข้ามากระชากเธอลุกขึ้น
“พี่วาตายก็เพราะคุณ” ธาวินขมึงตาใส่พร้อมกัดฟันแน่น ดวงตาเข้มมองพิชญาด้วยความรังเกลียดเดียดฉันท์อย่างสุดชีวิต
“พิชญ์เจ็บ” หญิงสาวพูดเสียงเครือ มือบางจับเขาไว้หมายให้ปล่อย
“อย่ามาสำออยกับผม คุณคิดว่ามันจะได้ผลเหมือนตอนที่ทำกับพี่วางั้นหรือ” เขากลับยิ่งกระชับแรงแน่นขึ้นมากกว่าเดิม
“พิชญ์แค่บอกว่าพิชญ์เจ็บ พิชญ์บอกในสิ่งที่พิชญ์รู้สึก แปลว่าสำออยงั้นหรือคะ หากเป็เช่นนั้นจะให้พิชญ์บอกว่าอะไรล่ะคะ พิชญ์ไม่เจ็บค่ะ พิชญ์ไม่รู้สึกใดๆ ค่ะ พี่วิน้าแบบนี้ใช่ไหมคะ หรือแท้จริงแล้ว ไม่ว่าพิชญ์จะทำอะไร มันก็ผิดในสายตาพี่วินอยู่ดี” หญิงสาวน้ำไหลอาบแก้ม มองตรงเข้าไปั์ตาของชายหนุ่มด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ
“ยัยตัวประหลาด” ธาวินใช้นิ้วจิ้มไปที่หน้าผากหญิงสาวเช่นเคย จนถลาล้มลงบนโซฟาตัวเดิมพลางมองหญิงสาวั้แ่ศีรษะจรดปลายเท้า แสยะยิ้มมุมปากก่อนจะหันหลังให้
“พิชญ์เกลียดพี่วิน” หญิงสาวหลับตาะโไล่หลังเขา คนได้ยินถึงกับควันออกหู หันกลับมายังโซฟา แล้วเดินตรงดิ่งเข้าไปช้อนคอหญิงสาวขึ้น ดวงตาคมเข้มแสดงออกว่าเขาโกรธอย่างมากมหาศาลเพียงใด
“คุณพูดว่าอะไรนะ”
“พิชญ์เกลียดพี่วิน” มือหนาเลื่อนขึ้นบีบคอเธอช้าๆ อย่างไร้สติควบคุม
“แน่จริงก็พูดอีกที” ธาวินค่อยๆ ลงแรงมากขึ้น ทีละนิด เมื่อคนตัวเล็กกล้าลองดี เขาจะตอบสนองให้ตาม้า
“พิชญ์เกลียดพี่วิน พิชญ์เกลียดพี่วิน ได้ยินไหมคะ ว่าพิชญ์เกลียดพี่วิน” หญิงสาวยังคงหลับตาพูด ในขณะที่มือหนาเพิ่มแรงบีบขึ้นเรื่อยๆ จนเธอหายใจไม่ออก ดวงหน้าสวยหวานแดงก่ำด้วยเพราะกำลังขาดอากาศหายใจ
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ คุณวิน” เสียงป้าสายดังแผดลอดเข้ามา ก่อนที่ชายหนุ่มจะปล่อยมือออกจากหญิงสาวแล้วได้สติกลับมา พร้อมกับหญิงชรารีบวิ่งเข้ามาประคองตัวพิชญาไว้