หลงอวี้ อวี้สุ่ยอวิ๋นและหลู่กวนิ พากันมุ่งหน้ากลับลัทธิสยบฟ้าด้วยความรวดเร็ว
ส่วนเหล่าลูกศิษย์ระดับพิเศษที่เจิ้งอีเจิ้นพามา รวมถึงเมิ่งเช่อที่เป็สมุนของหลัวไท่หลง ได้ตามหลังพวกเขาอยู่ห่างๆ
ส่วนอีกทางหนึ่ง เป็ลูกศิษย์ระดับพิเศษทั้งสี่ที่บังเอิญได้เจอกับหลงอวี้ก่อนหน้านี้และตามหลังมาตลอด
ลูกศิษย์ของลัทธิสยบฟ้าเหล่านี้ต่างได้เห็นหลงอวี้ปะทะกับผู้คุมกฎระดับิญญาแท้สองคน เจิ้งอีเจิ้นกับถานอู๋โจวที่ด้วยตาตัวเองต่างก็ครั่นคร้ามในพลังต่อสู้อันน่าสะพรึงกลัวของหลงอวี้
ทว่าตัวหลงอวี้กลับยังทบทวนจุดอ่อนของตนในการต่อสู้เมื่อครู่นี้
“เวลาต่อกรกับยอดฝีมือระดับิญญาแท้ขั้นหนึ่งนั้น จุดอ่อนใหญ่ของข้าคือพลังพื้นฐานยังอ่อนแอเกินไป”
หลงอวี้คิดในใจ
‘นอกจากนั้น ความเร็วของเขายังตามไม่ทัน ดูท่าต้องยกระดับวิชาิญญาเคลื่อนก่อนเป็อันดับแรก’
ความเร็ว ไม่ว่าอย่างไรก็เป็หนึ่งในพลังต่อสู้สำคัญที่สุดของผู้ฝึกยุทธ
แม้หลงอวี้จะสามารถใช้กระบวนท่าัปรภพทะยานฟ้าได้ แต่ขณะที่ต้องเคลื่อนที่ไปรอบๆ ระหว่างการต่อสู้ กระบวนท่านี้คงไม่ค่อยเหมาะนัก
คนอื่นเห็นแต่จุดแข็งของหลงอวี้ ต่างซุบซิบไปต่างๆ นานา
ส่วนตัวหลงอวี้ กลับกำลังคิดว่าต้องทำอย่างไรจึงจะแข็งแกร่งขึ้น!
เื่นี้เป็ส่วนที่ทำให้หลงอวี้ต่างจากผู้ฝึกยุทธอื่นๆ อย่างใหญ่หลวง ไม่ว่าเมื่อไรเขาก็สามารถรักษาอุดมการณ์ไว้ได้ โดยมีเป้าหมายหลักคือการยกระดับพลังให้สูงขึ้น
นอกจากเื่นี้ เขาก็แทบไม่สนใจเื่อื่น นอกเสียจากจะเป็เื่ของคนใกล้ตัว อย่างเช่น อวี้สุ่ยอวิ๋น เฟิงฉางเกอ และหลิงหาน
‘จะว่าไป นี่ก็ใกล้ถึงเวลาที่หลิงหานนัดให้ข้าเดินทางไปยังูเาตระกูลหลิงแล้ว รอให้จัดการเื่ของผู้าุโอวี้จบ ก็น่าจะได้เวลาแล้วล่ะ’
หลงอวี้คิดเสร็จก็เงยหน้ามองไปด้านหน้า
เขาตามหลังปู้สิงไปติดๆ
หลู่กวนิและอวี้สุ่ยอวิ๋นตามหลังพวกเขามาอีกที ศิษย์อาจารย์คู่นี้ไม่ได้พบกันนาน จึงมีเื่พูดคุยกันไม่น้อย
ทว่าแม้หลู่กวนิจะเคยร่วมมือกับหลงอวี้จัดการกับถานอู๋โจว แต่ตัวเขาในตอนนี้ก็ยังคงไม่เชื่อใจหลงอวี้อยู่ดี อีกทั้งสายตาที่จ้องมองหลงอวี้ยังแฝงความเป็อริอยู่เล็กน้อย
ความจริงยังไม่ถูกเปิดเผย อวี้สุ่ยอวิ๋นก็ยังไม่ได้อธิบายอะไรให้เขาฟัง
แต่อีกไม่นาน ผู้คนทั้งลัทธิก็จะได้รับรู้ความจริง!
“ศิษย์พี่ปู้!”
เพียงไม่นาน พวกเขาทั้งหมดก็กลับไปถึงลัทธิสยบฟ้า มีลูกศิษย์จำนวนไม่น้อยมายืนรอต้อนรับ
ลูกศิษย์เหล่านี้ล้วนมองหลงอวี้ด้วยแววตาดูถูกเหยียดหยาม ในสายตาของพวกเขา หลงอวี้คือโจรชั่วที่ทรยศหักหลังลัทธิสยบฟ้า คิดลงมือสังหารผู้าุโอวี้ที่เป็ผู้มีพระคุณ นับว่าไร้ยางอายถึงขีดสุด!
“ยอดมากเลยศิษย์พี่ปู้ สุดท้ายก็ต้องให้ท่านออกโรงเองจริงๆ ถึงจะจับตัวหลงอวี้ไอ้โจรชั่วนี่ได้!”
“ฮ่าๆ ในที่สุดไอ้คนชั่วนี่ก็ถูกจับได้เสียที ผู้าุโอวี้ก็ถูกช่วยกลับมาได้แล้ว ลัทธิสยบฟ้าเราไม่ใช่ที่ที่สวะที่ไหนจะมาก่อกวนได้หรอกนะ”
กลุ่มคนทั้งหลายพากันเยินยอปู้สิงไปพลางด่าทอหลงอวี้ ราวกับว่ามีความแค้นกับหลงอวี้ใหญ่หลวงจนไม่อาจอยู่ใต้ฟ้าเดียวกันได้
ทว่าหลงอวี้หาได้สนใจคนเหล่านี้
ตราบใดที่มีปู้สิงอยู่ นอกจากอ้าปากพูดแล้วคนพวกนี้จะทำอะไรได้?
หลงอวี้เมินเฉยพวกมันไปโดยสมบูรณ์!
อวี้สุ่ยอวิ๋นเองก็ไม่ได้พูดอะไร แต่ระหว่างทางเขาก็เฝ้าดูท่าทีของหลงอวี้ไปด้วย พบว่าเด็กหนุ่มผู้นี้มีจิตใจเข้มแข็งและเยือกเย็น ไม่ได้สนใจพวกคนที่อยู่รอบๆแม้แต่น้อย
“เ้าหลงอวี้นี่จิตใจหนักแน่นไม่เบา ในสถานการณ์เช่นนี้ก็ยังไม่ได้รับผลกระทบจากภายนอกแม้แต่น้อย ไม่ธรรมดาจริงๆ!”
อวี้สุ่ยอวิ๋นประเมินหลงอวี้สูงขึ้นไปอีกขั้น
เมื่อถึงเวลาต้องลงมือ ก็จะทำโดยไม่ลังเล ส่วนตอนนี้เขากลับสงบเยือกเย็นราวกับน้ำนิ่ง
รวมกับพร์สูงส่งยากจะหาใครเทียบของหลงอวี้ หากต้องเป็ศัตรูกันก็คงเป็ศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวสุดประมาณ!
โชคดีที่อัจฉริยะมากพร์ผู้นี้กลายเป็ลูกศิษย์ของลัทธิสยบฟ้า!
ส่วนปู้สิงที่เดินอยู่ด้านหน้าสุด พอได้ยินเหล่าลูกศิษย์ลัทธิสยบฟ้าที่รวมตัวกันส่งเสียงชื่นชมเขาและด่าทอเหยียดหยามหลงอวี้ ก็สบถด่าในใจว่า
‘ไอ้พวกโง่เขลา’
เพียงแต่ตอนนี้ปู้สิงก็ยังไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน
ขอเพียงยังยืนอยู่ตรงนี้ ก็ย่อมไม่มีใครกล้าเข้ามาขวางแน่ ไม่ต้องพูดถึงว่าจะมีใครลงไม้ลงมือกับหลงอวี้ต่อหน้าเขาเลย
“อาจารย์ข้ากำลังรออยู่ในตำหนักสยบฟ้าพร้อมกับผู้าุโอู่เจี้ยนซิน ศิษย์น้องหลงอวี้ ผู้าุโอวี้ พวกเราเข้าไปด้วยกันเถอะ”
นี่เป็เพียงประโยคเดียวที่ปู้สิงพูดต่อหน้าผู้คน
คนที่มีไหวพริบย่อมฟังความนัยของประโยคนี้ออกอย่างง่ายดายว่า หลงอวี้ไม่มีทางเป็คนร้ายที่ถูกปู้สิงจับกลับมาแน่นอน!
หลังจากปู้สิงพูดประโยคนี้ ผู้คนส่วนใหญ่ที่อยู่รอบๆ ก็เกิดความสงสัย
ฟังจากน้ำเสียงของศิษย์พี่ใหญ่ปู้สิง หรือว่าเ้าหลงอวี้จะไม่ใช่คนผิดอย่างนั้นหรือ?
เกิดอะไรขึ้นกันแน่
แต่ผู้าุโอู่เจี้ยนซินประกาศยืนยันความผิดของหลงอวี้แล้วไม่ใช่หรือ! หรือว่า ครั้งนี้จะเป็ผู้าุโอู่เจี้ยนซินที่ถึงคราวซวย?
ผู้คนไม่น้อยต่างคาดเดาไปต่างๆ นานา พากันเปิดเส้นทางสายหนึ่งให้เขา
หลังจากพวกปู้สิงเดินผ่านเข้าไป พวกเขาก็พากันตามหลังไปทันที เื่น่าสนุกแบบนี้ ใครจะยอมพลาด
ตอนนี้ข่าวลือใหม่ของหลงอวี้เริ่มแพร่ออกไป
“อะไรนะ? ไอ้หลงอวี้นั่นต่อกรกับผู้คุมกฎระดับิญญาแท้สองคนได้ด้วยตัวคนเดียวอย่างนั้นหรือ?”
“เป็ไปได้อย่างไร! เ้าหมอนั่นเพิ่งจะวิถียุทธแค่ขั้นเก้า จะไปต่อกรกับระดับิญญาแท้ได้อย่างไร!”
“ไม่ ข้าได้ยินว่าเ้าหลงอวี้ไม่เพียงแต่ต่อกรกับผู้าุโเจิ้งอีเจิ้นและถานอู๋โจวสองคนเท่านั้น แต่ยังสังหารผู้คุมกฎทั้งสองจนตายคาที่ได้!”
“เหลวไหลทั้งเพ อย่างนั้นก็ยิ่งเป็ไปไม่ได้! เ้าหลงอวี้เป็แค่ลูกศิษย์ระดับพิเศษ หากฆ่าผู้คุมกฎจริงๆ นั่นผิดกฎร้ายแรงเลยหรือ?”
เื่ราวของหลงอวี้ที่ถูกแพร่ออกไปฟังดูน่าเหลือเชื่อเกินไป กลับกลายเป็ว่ามันยิ่งทำให้ผู้คนไม่น้อยยิ่งไม่ยอมเชื่อ
เพราะในความเข้าใจของผู้คนทั้งหมด ผู้ที่อยู่ในขอบเขตวิถียุทธเก้าขั้นย่อมไม่มีทางเอาชนะยอดฝีมือขอบเขติญญาแท้ได้!
ส่วนความจริงจะเป็อย่างไรนั้น ต้องรอดูหลังจากนี้ว่าท่านประมุขจะว่าอย่างไร!
หลังจากที่ลูกศิษย์ลัทธิสยบฟ้ากลุ่มแล้วกลุ่มเล่าเดินทางมา เพียงไม่นานก็มีลูกศิษย์ของลัทธิเดินตามปู้สิงและหลงอวี้มานับร้อยคน แล้วยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้เส้นทางบนูเาเต็มไปด้วยผู้คนนับไม่ถ้วน
ผ่านไปไม่นาน ลานกว้างบนูเาแห่งหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าหลงอวี้
บนลานกว้างนี้ มีตำหนักใหญ่โตโอ่อ่าตั้งอยู่ พอเห็นตำหนักหลังนี้ผู้คนทั้งหมดก็รู้สึกได้ถึงกฎเกณฑ์สยบฟ้าสายหนึ่งกดดันลงมาจากฟากฟ้า ราวกับปกคลุมผู้คนทั้งหมดไว้ภายใน
ตำหนักสยบฟ้า!
ตำหนักสยบฟ้านี้เป็สถานที่หลักของลัทธิสยบฟ้า ประมุขจะเรียกประชุมเหล่าลูกศิษย์และผู้าุโทั้งหมดในลัทธิที่นี่เฉพาะตอนที่เกิดเื่ใหญ่เท่านั้น
ตอนนี้ผู้คนทั้งหมดเดินตามปู้สิงมาถึงตำหนักลัทธิสยบฟ้าแล้ว ใครๆ ต่างก็คาดเดาว่าวันนี้ลัทธิสยบฟ้าจะเกิดเื่ใหญ่!
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่? แค่จะลงโทษเ้าหลงอวี้คนเดียว ไม่เห็นจำเป็ต้องมาถึงตำหนักสยบฟ้าไม่ใช่หรือ?”
ในกลุ่มคนนั้น ชายหนุ่มชุดขาวคนหนึ่งพูดด้วยความประหลาดใจ
ชายหนุ่มผู้นี้คือ หลิ่วซู่เฉิง ลูกสมุนของอี้เหยียนที่ถูกหลงอวี้ข่มขู่จนวิ่งหนีไปก่อนหน้านี้
ข้างๆ หลิ่วซู่เฉิง มีชายหนุ่มร่างกำยำในชุดสีเทายืนอยู่ เป็ลูกศิษย์ระดับพิเศษอันดับเจ็ดที่พ่ายแพ้ให้หลงอวี้ อี้เหยียน
อี้เหยียนและหลิ่วซู่เฉิงล้วนเป็คนที่ตามมาที่หลังทั้งสิ้น จึงไม่ได้ยินสิ่งที่ปู้สิงพูดก่อนหน้านี้ ทั้งสองย่อมไม่รู้ว่าหลงอวี้ไม่ได้มาที่นี่ในฐานะคนร้าย
อี้เหยียนในตอนนี้ ดวงตาสาดประกายอำมหิต จ้องเขม็งหลงอวี้ไม่ละสายตา
หลงอวี้รอดชีวิตกลับมาได้ แถมยังพาอวี้สุ่ยอวิ๋นมาด้วย ทั้งยังตามปู้สิงไปยังตำหนักสยบฟ้าอีก ต่างจากแผนที่อาจารย์เขาวางไว้สิ้นเชิง!
แต่ไม่ว่าอี้เหยียนจะคิดอย่างไร ตัวเขาตอนนี้ก็ไม่มีสิทธิ์พูดได้
ปู้สิงและอวี้สุ่ยอวิ๋นมาถึงหน้าประตูตำหนักสยบฟ้าและหยุดฝีเท้าลง
ส่วนหลงอวี้และหลู่กวนิได้หยุดยืนอยู่หลังทั้งสองคน
รอบตัวของทั้งสี่คนมีลูกศิษย์ลัทธิสยบฟ้าเกือบพันคนมารวมตัวกันต่างชี้นิ้วซุบซิบกันไปต่างๆ นานา และแน่นอนว่าผู้ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดย่อมต้องเป็หลงอวี้
ถึงอย่างไรเหตุการณ์ในครั้งนี้ก็มีหลงอวี้เป็ตัวละครหลักั้แ่แรกอยู่แล้ว!
ไม่ว่าจะในฐานะของคนร้าย หรือคนในข่าวลือที่สามารถฆ่าผู้คุมกฎระดับิญญาแท้ได้ถึงสองคน ก็ล้วนมากพอจะทำให้หลงอวี้ตกเป็จุดสนใจของคนทั้งหมดได้
ผู้คนไม่น้อยต่างคาดเดาว่า เื่ราวที่เกิดขึ้น เกรงว่าคงไม่เรียบง่ายเหมือนที่จินตนาการไว้ เพียงแต่ตอนนี้ ความคิดของผู้คนก็ยังคิดว่าหลงอวี้เป็คนร้าย
เพราะเื่โกหกที่อู่เจี้ยนซินแต่งขึ้นก่อนหน้านี้มันน่าเชื่อถือมากเกินไป
เหตุการณ์ที่หลงอวี้พาตัวผู้าุโอวี้ที่ยังหมดสติหนีไปนั้น มีลูกศิษย์ลัทธิสยบฟ้านับร้อยคนอยู่ในเหตุการณ์ พยานหลักฐานชัดขนาดนี้จะล้างมลทินได้อย่างไร?
อีกไม่นานความจริงก็จะเป็ที่ประจักษ์!
“อาจารย์ ศิษย์กลับมาแล้ว!”
ปู้สิงที่ยืนอยู่หน้าตำหนักสยบฟ้ากล่าวขึ้น
หลังจากพูดจบ ชายวัยกลางคนที่สวมชุดลายทางผู้หนึ่งและชายกำยำร่างเตี้ยผู้หนึ่งก็ก้าวเท้าออกมา
คนแรกเป็ประมุขลัทธิสยบฟ้า ไป๋อวิ๋นจง หนวดเล็กๆ ตรงมุมปากสองฝั่งนั้นเหมือนเป็เอกลักษณ์ประจำตัวของเขา
ส่วนอีกคนคือหนึ่งในสิบสามผู้าุโแห่งหอผู้าุโ อู่เจี้ยนซิน ผู้าุโอู่!
อู่เจี้ยนซินในตอนนี้มีสีหน้าดุร้าย เมื่อเดินออกมาก็จ้องหลงวี้เขม็ง
“หลงอวี้ ไอ้คนชั่วอำมหิต อุตส่าห์หลบหนีไปเสียนาน สุดท้ายก็ไม่พ้นโดนลัทธิจับกุมตัวกลับมาได้อยู่ดี!”
อู่เจี้ยนซินเปิดฉากแผดเสียงตะคอกข่มขวัญอย่างดุร้าย ขณะชี้นิ้วไปทางหลงอวี้!
หลงอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกสงสารอู่เจี้ยนซินขึ้นมาจับใจ จนป่านนี้แล้วยังไม่รู้ตัวเลยว่าอวี้สุ่ยอวิ๋นรู้ความจริงเื่ที่มันร่วมมือกับอูลี่แห่งสำนักดาบสะบั้นแล้ว
ผู้คนส่วนใหญ่ในที่นี้พอได้ยินคำพูดของอู่เจี้ยนซินก็พลันตื่นตะลึง
เ้าหลงอวี้กำลังจะถูกตัดสินโทษแล้วจริงๆ ดูท่าคราวนี้คงรอดยาก!
ผู้คนไม่น้อยเลยที่คิดอยากสนับสนุนอู่เจี้ยนซิน ขณะเดียวกันก็หันไปด่าทอทางหลงอวี้ด้วย ในกลุ่มคนเหล่านี้ ก็มีหลิ่วซู่เฉิงและอี้เหยียนรวมอยู่ด้วย!
“เ้าหลงอวี้มันบังอาจเนรคุณ คิดฆ่าผู้าุโอวี้ที่เป็ผู้มีพระคุณ ช่างน่ารังเกียจจริงๆ”
“ใช่แล้ว ข้าว่าเราสมควรฆ่ามันทิ้งเสียเดี๋ยวนี้ เพื่อเป็การเชือดไก่ให้ลิงดู ไม่อย่างนั้นในอนาคตอาจมีเื่แบบนี้เกิดขึ้นอีกได้!”
“ฆ่าไอ้คนชั่วหลงอวี้ไปเสียเถอะ ข้าว่ามันไม่จำเป็ต้องมีการไต่สวนเลยด้วยซ้ำ!”
ท่ามกลางเสียงโวยวาย สายตาของผู้คนแทบจะทั้งหมดล้วนจับจ้องประมุขลัทธิสยบฟ้า ไป๋อวิ๋นจง เพราะถึงอย่างไรเขาก็เป็ประมุขของลัทธิ ไม่ว่าจะเื่อะไร สุดท้ายผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินมากที่สุดก็ยังเป็เขาอยู่ดี
