“เป็มันนี่เอง มิน่าล่ะ ทำไมมันถึงกล้าโจมตีข้า… และไม่แปลกเลยว่าทำไมพวกน่าหลันไห่จึงถูกฆ่า” ดวงตาของน่าหลันเฟิงเบิกกว้าง ในใจเริ่มรู้สึกตกตะลึงขึ้นมา เดิมทีคนที่นางส่งคนไปฆ่าก็คือ หลินเฟิง
เมื่อน่าหลันเฟิงนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภัตตาคารทิงเฟิง ในใจของนางก็รู้สึกขมขื่น นางมีสิทธิ์อะไรที่อยากจะให้หลินเฟิงเห็นนางอยู่ในสายตา ตอนนี้ในใจของน่าหลันเฟิงเริ่มรู้สึกเสียใจในสิ่งที่ทำลงไป
เมื่อเห็นท่าทางตื่นใของคนตระกูลหลิน ฝูงชนต่างพากันรู้สึกสงสัยว่าคนผู้นี้เป็ใคร และเกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลหลิน
“เป็ไปไม่ได้ มันจะแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร?” หลินเชียนยังคงไม่กล้าเชื่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าเป็ความจริง รุ่นเยาว์ที่ทรงพลังและหยิ่งจองหองคนนี้เป็คนเดียวกันกับที่นางดูถูกมาโดยตลอด ไอ้ขยะหลินเฟิงคนนั้น!!! เมื่อคิดมาถึงตรงนี้หลินเชียนพลันรู้สึกหนักอึ้งอยู่ในใจ ราวกับมีลูกตุ้มมาถ่วงให้จมลงไปในน้ำ เื่นี้มันยากเกินกว่าที่นางจะรับได้
“ไม่มีอะไรที่เป็ไปไม่ได้ ใช่! ข้าเอง หลินเฟิง คนที่พวกเ้าใช้วิธีการสกปรกเพื่อขับไล่ ‘ไอ้ขยะ’ อย่างข้าออกจากตระกูล”
หลินเฟิงกล่าวประโยคนั้นออกมาด้วยน้ำเสียงเ็า แต่กลับทำให้หัวใจของทุกคนในตระกูลหลินหนักอึ้ง การที่หลินเฟิงแข็งแกร่งขนาดนี้มันควรจะเป็เกียรติแก่ตระกูลหลินของพวกเขา พวกเขาสมควรสรรเสริญความแข็งแกร่งของหลินเฟิง แต่เหตุการณ์นี้กลับกลายเป็การประจานความโง่ของพวกเขา ที่พวกเขาไล่อัจฉริยะที่แข็งแกร่งขนาดนี้ออกจากตระกูลไป คงไม่มีใครโง่เขลาเท่าพวกเขาอีกแล้ว
ทันใดนั้นฝูงชนก็เกิดความวุ่นวายขึ้นมา ที่แท้เด็กหนุ่มปริศนาคนนี้ก็คือหลินเฟิง ไอ้ขยะที่ถูกตระกูลหลินขับไล่?!... ไหนในข่าวลือบอกว่าหลินเฟิงเป็ไอ้ขยะที่หาดีไม่ได้ จึงถูกตระกูลหลินรังเกียจและขับไล่ออกไป แล้วทำไมถึงเป็เช่นนี้ได้ล่ะ? หรือว่าข่าวลือทั้งหมดจะเป็เื่โกหก???
ความจริงทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้ได้สร้างความตกตะลึงให้แก่ทุกคน ไม่มีใครคาดคิดว่าชิวหยวนฮ่าวจะปรากฏตัวขึ้นมา และยิ่งไม่มีใครคาดฝันว่าพวกเขาจะได้เป็ประจักษ์พยานในการกำเนิดอัจฉริยะอีกคน แต่อัจฉริยะคนนั้นกลับเป็คนเดียวกับไอ้ขยะที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง
“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงต้องใส่หน้ากาก!”
“หลินเชียน เ้าไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตา ทั้งยังอวดดีและหยิ่งจองหอง แต่เ้าก็เย่อหยิ่งได้แค่ในตระกูลเท่านั้นแหละ หากตัดเื่พร์ของเ้าไป สำหรับข้าแล้วเ้ามันก็เป็ได้แค่คนโง่คนหนึ่ง ส่วนหลินป้าต้าว หึ! ด้วยพลังอันต้อยต่ำของเ้าคงไม่สามารถต้านทานกระบวนท่าของท่านพ่อได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเ้ากับผู้าุโสูงสุดสมรู้ร่วมคิดกัน มีเหรอจะสามารถแย่งชิงตำแหน่งผู้นำตระกูลของท่านพ่อข้า และขับไล่ข้ากับท่านพ่อออกจากตระกูลได้? เ้ากับผู้าุโสูงสุดคิดจะพึ่งพาพร์ของหลินเชียนอยู่ใช่ไหม? คงคิดว่าสักวันหนึ่งหลินเชียนจะนำพาพวกเ้าไปสู่อนาคตที่รุ่งเรือง ดังนั้นจึงไม่เห็นข้าและท่านพ่ออยู่ในสายตา”
“แต่ตอนนี้ทุกคนก็เห็นแล้วว่าเมื่อหลินเชียนเผชิญหน้ากับข้า นางไม่สามารถทำอะไรได้เลย พวกเ้าไม่รู้สึกว่ามันน่าหัวเราะหรืออับอายบ้างเหรอ? อ่อ ยังมี ตอนนี้พวกเ้ารู้สึกเสียใจขึ้นมาแล้วหรือยัง? แน่นอน ข้าเข้าใจ แม้ว่าพวกเ้าจะรู้สึกเสียใจมากแค่ไหน แต่พวกเ้าก็จะไม่ยอมรับมัน อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้มันเป็เพียงการเริ่มต้นเท่านั้น ข้าแค่อยากพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นถึงความโง่เขลา น่าสมเพชและท่าทางที่เลวทรามของพวกเ้า ในอนาคตข้าจะกลับมาที่ตระกูลหลินอีกครั้ง กลับมาพร้อมกับท่านพ่อเพื่อทวงความยุติธรรมให้กับพวกเรา”
หลินเฟิงที่สงวนท่าทีมาโดยตลอดก็เริ่มเปิดปากพูด ทุกประโยคที่กล่าวออกมา ล้วนบาดลึกเข้าไปในจิตใจของคนตระกูลหลิน ทำให้หัวใจของพวกเขาสั่นไหวขึ้นมา
หลินเฟิงพูดถูก ที่ทุกคนในตระกูลหลินกล้าต่อต้านหลินไห่และยกหลินป้าต้าวขึ้นมาเป็ผู้นำตระกูล ไม่ใช่เพราะว่าหลินป้าต้าวแข็งแกร่ง พลังของเขาไม่สามารถเทียบกับหลินไห่ได้ แต่ทั้งหมดเป็เพราะพร์ของหลินเชียน พวกเขาคิดว่าหลินเชียนเป็อัจฉริยะที่มีพร์อันล้ำเลิศ พวกเขาทุกคนล้วนคิดว่าหากพึ่งพาพร์ของหลินเชียน อนาคตของพวกเขาก็จะไร้ขีดจำกัด และตระกูลหลินก็จะพุ่งทะยานขึ้นสู่ฟ้า
แต่พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า การที่พวกเขาประจบประแจงหลินเชียนด้วยการไล่สองพ่อลูกคู่นั้นออกจากตระกูลหลิน จะเป็ขับไล่อัจฉริยะรุ่นเยาว์ที่มีพร์ดีเลิศกว่าหลินเชียนไป... และยิ่งไปกว่านั้นอดีตนายน้อยคนนี้อาจจะกลายเป็ผู้นำตระกูลหลินที่แข็งแกร่งในอนาคตได้
นี่เป็เพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น… ด้วยพร์ของหลินเฟิง ในวันข้างหน้าเขาจะแข็งแกร่งมากขึ้น และหลินเชียนจะตามเขาทันหรือเปล่า?
ทำไมบุคคลอัจฉริยะเช่นนี้ถึงถูกขับไล่ออกจากตระกูล? ทำไมวันนั้นถึงไม่มองผลงานของหลินเฟิงที่สามารถเอาชนะหลินหง และให้โอกาสเขาได้พิสูจน์ตัวเอง ราวกับว่าทุกคนตัดสินไปแล้วว่าเขาไม่มีทางเทียบหลินเชียนได้ จนกระทั่งตอนนี้หลินเฟิงได้ยืนอยู่บนเวทีประลองอย่างสง่าผ่าเผย และประกาศศักดาถึงความเป็อัจฉริยะเหนืออัจฉริยะด้วยกัน!
เสียใจหรือ? แน่นอนว่าคนในตระกูลหลินต่างรู้สึกเสียใจ พวกเขารู้ว่าไม่มีทางเลย ที่จะย้อนเวลากลับไปแก้ไขเื่ราวทั้งหมดได้ พวกเขาพลาดอัจฉริยะที่สั่นะเืเมืองหยางโจวไป แม้แต่คนที่มาจากเมืองหลวงก็ยังเทียบหลินเฟิงไม่ได้ นี่ไม่ได้หมายความว่าความแข็งแกร่งของหลินเฟิงเทียบได้กับคนในเมืองหลวงหรือ?
“ไอ้เดรัจฉาน!!! หุบปากของเ้าไปเสีย!” หลินป้าต้าวตะคอกใส่หลินเฟิงอย่างโกรธเกรี้ยว ไม่รู้ว่าเขาโกรธที่หลินเฟิงทำร้ายลูกสาวหรือว่าโกรธที่หลินเฟิงประจานความชั่วของตัวเองกันแน่
“หลินป้าต้าว เ้ามันคนอกตัญญู เ้าแย่งชิงตำแหน่งผู้นำตระกูลที่ท่านปู่มอบให้ท่านพ่อของข้าอย่างหน้าด้านๆ การกระทำของเ้าเป็บ่อนทำลายตระกูลหลิน เ้าไม่เคยสนใจความสัมพันธ์ฉันพี่น้องและความเป็สายเืเดียวกัน เอาแต่หาทางลอบสังหารข้ากับท่านพ่อ หลินป้าต้าว คนที่เป็เดรัจฉานจริงๆ น่าจะเป็เ้ามากกว่า ข้าล่ะละอายใจจริงๆ ที่มีสายเืเดียวกับเ้า ถึงแม้ว่าตอนนี้จะออกจากตระกูลไปแล้ว แต่ข้าก็ยังรู้สึกอับอายที่มีสายสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับเ้า”
ทุกคำพูดของหลินเฟิงล้วนแหลมคมยิ่งกว่ามีด และแทงลึกเข้าไปในหัวใจของหลินป้าต้าว
หลินเฟิงเป็คนไม่ค่อยพูด แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะพูดไม่เก่ง คำพูดของเขาเหนือชั้นกว่าคำพูดหยาบคายทั่วไปหลายเท่า แน่นอนว่าทักษะการเสียดสีนี้ ใครจะสามารถเทียบเคียงกับคนที่กลับมาเกิดใหม่ได้?!
หน้าอกของหลินป้าต้าวกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าความโกรธกำลังอัดแน่นอยู่ในอก
“ท่านเ้าเมืองน่าหลัน อย่าหาว่าข้าไม่เห็นท่านอยู่ในสายตา แต่วันนี้ข้าจำเป็ที่จะต้องทำความสะอาดสิ่งชั่วร้าย โปรดอย่าตำหนิที่ข้าเข้ามาแทรกแซงการประลองในครั้งนี้” หลินป้าต้าวเงยหน้าขึ้นไปมองน่าหลันซยงขณะกล่าว
“นี่เป็เื่ภายในตระกูลหลิน ข้าไม่อาจยุ่งเกี่ยวได้” น่าหลันซยงกล่าวตอบ
เมื่อเห็นท่าทางคนหนึ่งร้องคนหนึ่งรับ หลินเฟิงก็แสยะยิ้มอย่างเ็า เขาทำร้ายน่าหลันเฟิงและยังสร้างความอับอายให้กับนาง แน่นอนว่าน่าหลันซยงคงจะเจ็บแค้นไม่น้อย หากไม่ใช่เพราะว่าหลินป้าต้าวชิงลงมือก่อน เกรงว่าน่าหลันซยงคงจะลงมือด้วยตัวเอง
“งานชุมนุมเมืองหยางโจว ในสายตาของข้ามันก็แค่เื่ไร้สาระ มีเพียงตระกูลน่าหลันเท่านั้นที่จะต้องชนะ และพวกเ้าจะไม่ยอมสูญเสียตำแหน่งผู้ชนะไปแน่ ข้าว่างานชุมนุมแบบนี้ไม่จัดจะดีเสียกว่า ยิ่งได้เห็นรุ่นเยาว์ของตระกูลอื่นโดดเด่นมากเท่าไร พวกเ้าก็จะยิ่งอิจฉามากขึ้นเท่านั้น และสุดท้ายก็ลงมือลอบสังหารรุ่นเยาว์เ่าั้ทิ้งไป ท่านเ้าเมืองของเมืองหยางโจวอะไรนั่น มันก็แค่ตัวตลกเท่านั้นแหละ”
ั์ตาของหลินเฟิงดูลึกซึ้ง ท่าทางของเขาก็ดูสงบนิ่ง แต่ประโยคที่พูดกลับฝังลึกลงไปในหัวใจของทุกคน งานชุมนุมแบบนี้ในวันข้างหน้าไม่เข้าร่วมจะดีกว่า
“หลินเชียน ไม่ใช่ว่าเ้า้าจะเอาชีวิตของข้าหรอกหรือ? ตอนนี้ข้าก็้าชีวิตของเ้าเหมือนกัน”
หลินเฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นขณะที่ก้าวไปข้างหน้า หลินป้าต้าวพลันตื่นตระหนกขึ้นมา เขารีบทะยานร่างมาขวางหน้าหลินเชียนไว้ พลางมองหลินเฟิงอย่างเ็า
“ตาย!” หลินเฟิงะโขณะชักดาบออกมาจากฝักที่อยู่ด้านหลัง และแทงไปที่หลินเชียน เสียงฟ้าร้องดังกึกก้องขึ้นมา
“เ้าคิดว่ามันจะมีประโยชน์หรือ?” หลินป้าต้าวพ่นลมหายใจอย่างดูแคลน เมื่อเห็นหลินเฟิงแทงดาบเข้ามา จากนั้นเขาก็ปลดปล่อยลมปราณที่ทรงพลังออกมา
“เคล็ดวิชาเคลื่อนไหวดั่งเงา”
ทันใดนั้นร่างของหลินเฟิงก็หายไปจากที่เดิม แต่ไม่ได้พุ่งไปหาหลินป้าต้าวกับหลินเชียน แต่กลับไปไกลกว่านั้น...
“ท่าไม่ดีแล้ว!”
น่าหลันซยงหน้าซีดด้วยความตื่นตระหนกก่อนจะลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นร่างของหลินเฟิงพุ่งตรงดิ่งไปยังทิศทางหนึ่ง ที่แท้เป้าหมายของหลินเฟิงก็คือ น่าหลันเฟิง!
เมื่อน่าหลันเฟิงเห็นหลินเฟิงพุ่งตรงมาที่นาง ดวงตาของนางเบิกกว้างไปชั่วขณะ ก่อนจะปล่อยกำปั้นพระเ้าออกไปโจมตี แต่ทว่าก็ถูกคลื่นดาบของหลินเฟิงทำลายลงอย่างง่ายดาย เงาหมัดอันน่าเกรงขามสลายหายไป และวินาทีต่อมาดาบของหลินเฟิงก็จ่อไปที่คอของนาง ประกายแสงคมดาบที่สะท้อนวิบวับ ทำให้ร่างของน่าหลันเฟิงรู้สึกหนาวสั่นไปถึงกระดูก
“ถ้าเ้ากล้า ข้าจะสังหารเ้าซะ!!!” น่าหลันซยงะโออกมาอย่างโมโห ขณะที่เข้าใกล้ร่างของหลินเฟิง
“ถ้าเ้าก้าวเข้ามาอีกก้าวเดียว ข้าจะฆ่านางซะ” หลินเฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเ็า ราวกับไม่รู้สึกใดๆ แน่นอนว่าไม่มีใครสงสัยในคำพูดของเขา หากน่าหลันซยงก้าวมาอีกก้าวเดียว หลินเฟิงอาจจะลงมือฆ่าน่าหลันเฟิงทันที
น่าหลันเฟิงจ้องมองไปยังั์ตาที่มืดมิดของหลินเฟิง แต่ไหนแต่ไรมานางก็ไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้มาก่อน ในสายตาของหลินเฟิง นางก็คงเป็ได้แค่ขยะที่สามารถจับมาเป็ตัวประกันตอนไหนก็ได้ ตอนนี้น่าหลันเฟิงเริ่มเข้าใจแล้วว่า หลินเฟิงวางแผนจะจับนางเป็ตัวประกันั้แ่แรกแล้ว
ทุกคนมองไปที่หลินเฟิงอย่างอึ้งๆ ชายหนุ่มผู้เป็ที่รักของพระเ้าและห้าวหาญดุดันเหนือใคร ไม่เพียงมีพลังที่แข็งแกร่ง แต่สติปัญญาและไหวพริบยังแหลมคมอีกด้วย
ในตอนแรกทุกคนต่างก็คิดว่าเขานั้นไร้สมอง ที่กล้ายั่วยุตระกูลใหญ่เกือบจะทั้งหมดในเวลาเดียวกัน
บางทีตอนที่หลินเฟิงได้ตัดสินใจเข้าร่วมงานชุมนุมในครั้งนี้ เขาอาจจะคาดการณ์สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้ ถึงแม้ว่าการปรากฏตัวของชิวหยวนฮ่าวจะเกินความคาดหมายไปบ้าง แต่สุดท้ายก็ไม่อาจทำลายแผนการของเขาลงได้ ที่เขากล้ายั่วยุคนเหล่านี้เพราะว่าเขาได้วางแผนหลบหนีไว้ล่วงหน้าแล้ว และทางหนีที่ว่านั่นก็คือน่าหลันเฟิง
ความคิดของเขาดูบ้าบิ่นมาก และคงมีแค่หลินเฟิงที่แข็งแกร่งขนาดนี้เท่านั้นถึงจะสามารถทำได้ ชายหนุ่มที่ดูมุทะลุดุดันแต่กลับวางแผนได้อย่างฉลาดและแยบยลยิ่งนัก
เขาใช้คำพูดที่หยิ่งผยองเพื่อดึงดูดความสนใจของทุกคน เมื่อหลินป้าต้าวตกลงไปในหลุมพรางที่เขาขุดดักรอ ก็ค่อยพลิกไปใช้แผนการที่ใครๆ ก็คาดไม่ถึง ซึ่งรวมไปถึงน่าหลันซยงด้วย
ตอนนี้หลินป้าต้าวและน่าหลันซยง ดูไม่ต่างอะไรไปจากควายที่ถูกรุ่นเยาว์อย่างหลินเฟิงจูงจมูกให้เดินไปตามแผนการที่เขาวางไว้
อัจฉริยะอย่างหลินเฟิง หัวใจห้าวหาญดั่งพยัคฆ์ เยือกเย็นสง่างามดุจกุหลาบ!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้