เย่เฟิงสงสัยว่าไช่เฉ่าหงคือคนเดียวกับคุณชายไช่ขอองค์กรลึกลับ เขาไม่ได้สงสัยโดยไร้เหตุผล ไม่ใช่แค่ทั้งสองคนมีชื่อเหมือนกัน แต่มี่เวลาที่ตรงกันด้วย ไช่เฉ่าหงเรียนที่มหาวิทยาลัยเยี่ยนจิงมาประมาณหนึ่งปี ขณะเดียวกันองค์กรลึกลับก็ปรากฏตัวขึ้นและทำลายสำนักประตู์ใต้ที่เป็หนึ่งในสี่แก๊งขนาดใหญ่ของเมืองเยี่ยนจิงเมื่อหนึ่งปีก่อนเช่นกัน
นอกจากนี้ไช่เฉ่าหงถือสัญชาติอเมริกา พ่อของเขายังเป็ประธานกรรมการบริหารเพ่ยเค่อกรุ๊ปที่ทดลองสารเสพติดชนิดใหม่และวิจัยวิทยาศาสตร์ด้านพันธุศาสตร์อีกด้วย จึงสมเหตุสมผลที่เย่เฟิงเกิดความเคลือบแคลง
ในฐานะผู้ฝึกฝนที่อยู่ในโลกเทวะมานานหลายปี ทักษะการสะกดรอยและการป้องกันการสะกดรอยของเย่เฟิงนับว่าอยู่ในระดับชำนาญ ยิ่งอยู่ในโลกใบใหม่ที่ไม่มีใครมองวิชาอำพรางตาของเขาออก การสะกดรอยวันนี้จึงเป็ไปอย่างราบรื่น
ตลอด่เช้าไช่เฉ่าหงเล่นบาสเกตบอลและรับสายโทรศัพท์จากนั้ไปเปิดร้านกาแฟสภากาชาด อีกทั้งเป็สมาชิกสโมสรนักศึกษาของมหาวิทยาลัยอีก งานของเขาจึงค่อนข้างเยอะและยุ่งมากทีเดียว ตอนเที่ยงชายหนุ่มไปโรงอาหารเพื่อกินอาหารกลางวันกับกลุ่มเพื่อน ดูเหมือนเด็กหนุ่มเรียบง่าย เข้าถึงง่าย หลังมื้อกลางวันผ่านไปไช่เฉ่าหงก็เข้าเรียน่บ่ายกับเพื่อนในกลุ่ม
ระหว่างนี้เย่เฟิงค้นพบว่าไช่เฉ่าหงดูเหมือนสนิทกับชายหนุ่มซึ่งเย่เฟิงบังเอิญเจอที่คาเฟ่ฉีฉี่เมื่อเช้าเป็พิเศษ หลินซือฉิงเรียกชายคนนั้นว่า ‘เสี่ยวจ้าว’ หลังจากเย่เฟิงสะกดรอยตามหนึ่งวันก็รู้ว่าชายคนนี้ชื่อจ้าวิเจ๋อ แม้ท่าทางตุ้งติ้งไปบ้างแต่นับว่าเป็หนุ่มหล่อคนหนึ่ง อีกทั้งน้ำเสียงไพเราะน่าฟัง
ดูเหมือนคุณชายไช่จะไม่เกี่ยวข้องกับองค์กรลึกลับแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตามเย่เฟิงยังไม่ปักใจเชื่ออยู่ดี
ขณะพวกเขากินอาหารเย็น เย่เฟิงใช้วิชาอำพรางตาเปลี่ยนรูปลักษณ์เป็ชายชรา และใช้โอกาสนี้ติดต่อคนผ่านโทรศัพท์สองสาย
สายแรกเป็ของเตาปา หลังจาวางสายเย่เฟิงก็รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย การฟ้องร้องเซี่ยิ่และเซี่ยเฉิงเย่ดำเนินไปอย่างราบรื่น นอกจากนี้เตาปาและคนสนิทที่เชื่อใจได้เช่าอาคารสำนักงานใกล้วิลล่าชิงเฟิงเพื่อดูแลความปลอดภัยของซูเมิ่งหาน ส่วนเหตุการณ์ที่มีคนตายที่คาสิโนเทียนหัวก่อนหน้านี้ หลิวลี่ฮุยจัดการเรียบร้อยแล้ว
อีกเื่คือศพของจ้าวอี้เปยหายไปกะทันหันก่อนจัดงานศพ! ไม่เพียงแค่นั้นหลังจากเตาปาปรึกษาผู้เกี่ยวข้องที่มีอำนาจ พบว่า่นี้เกิดเหตุการณ์ศพสูญหายอย่างไร้ร่องรอยใกล้เมืองเยี่ยนจิง และยังไม่มีใครพบศพจนถึงตอนนี้ บรรดาญาติพี่น้องของคนตายเริ่มกังวลใจเช่นกัน
เย่เฟิงรู้สึกว่าเื่นี้ต้องจัดการให้กระจ่าง อย่างไรจ้าวอี้เปยก็ตายเพราะบังะุให้เขา แต่ใครขโมยศพที่กำลังจะจัดงานไป? เขาไม่มีเบาะแสเกี่ยวกับเื่นี้ จึงทำได้แค่พิจารณาเื่ที่อยู่ตรงหน้าก่อน
จากนั้นเย่เฟิงโทรหาซูเมิ่งหาน เธอขอให้คุณลุงทั้งสามคนเข้าร่วมการพิจารณาคดีที่จะเกิดขึ้น เพราะถึงอย่างไรคุณยายของซูเมิ่งหานก็เป็แม่ของทั้งสามคนนั้น แต่เื่นี้ชายหนุ่มปล่อยให้เธอตัดสินใจด้วยตัวเอง
ทั้งสองคุยกันสักพัก เย่เฟิงบอกกับซูเมิ่งหานว่าคืนนี้เขาจะไม่กลับบ้าน ทำให้หญิงสาวหึงหวง ตอนเช้าออกไปกับสาวงามเช่นหลินซือฉิงจนเธอไม่เห็นแม้แต่เงาของเขา ตอนนี้ยังบอกว่าจะไม่กลับบ้าน?
เย่เฟิงทำตัวไม่ถูก ่เย็นเขาต้องสะกดรอยตามไช่เฉ่าหงทำให้กลับบ้านไม่ได้จริงๆ แต่ก็ไม่ได้อธิบายกับคนปลายสาย ทำเพียงปลอบด้วยคำพูดหวานหูจนอีกฝ่ายใจเย็น
เมื่อเขาวางสาย ไช่เฉ่าหงก็เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง ชายหนุ่มขับรถออดี้ออกจากลานจอดรถคาดว่าจะกลับบ้านหรือไปทำอะไรบางอย่าง!
หัวใจเย่เฟิงเต้นโครมคราม ชายหนุ่มมองรถออดี้จากระยะไกล และใช้ทักษะย่างก้าวไร้เงาตามไปทันที
เมืองเยี่ยนจิงมีหมู่บ้านหรูหราหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็วิลล่าเขตซีชานหรือวิลล่าเขตเอ้าเป่ย แต่วิลล่าเขตเยี่ยนซีเป็หมู่บ้านที่เพิ่งถูกสร้างขึ้น ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็ระบบบริการทางการแพทย์ โรงเรียนชั้นเยี่ยม ทั้งยังมีโรงแรม สนามกอล์ฟ บ่อน้ำร้อน เป็ต้น เป็การใช้ชีวิตภายใต้สิ่งแวดล้อมหรูหราทีเดียว ก่อนหน้านี้ซูซิ่นชางและเซี่ยิ่ก็อาศัยอยู่ที่นี่...
รถออดี้แล่นตามทางก่อนเข้าไปในวิลล่าเขตเยี่ยนซี เย่เฟิงมองทางเข้าวิลล่าที่มีทั้งระบบรักษาความปลอดภัยชั้นเยี่ยมและเ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยืนอยู่ เขาควรเข้าไปอย่างไรดี? แต่เพื่อตามไช่เฉ่าหงให้ทัน ชายหนุ่มจึงตัดสินใจใช้ย่างก้าวไร้เงาะโข้ามกำแพงสูงทันที!
ด้วยระดับพลังบ่มเพาะห้าปี การะโข้ามกำแพงสูงราวสี่ถึงห้าเมตรถือเป็เื่ง่ายมากสำหรับเขา ชายหนุ่มผ่านระบบตรวจจับอินฟราเรดไปอย่างง่ายดาย และลงพื้นอย่างนุ่มนวลในป่าจำลองขนาดเล็กของวิลล่า ด้านข้างเป็ทะเลสาบจำลองขนาดเล็ก มีูเาจำลองอยู่ตรงกลาง เสียงน้ำไหลทำให้รู้สึกเงียบสงบและผ่อนคลายมากทีเดียว
เย่เฟิงไม่ได้สังเกตอย่างอื่นเพิ่มอีก เพราะต้องรีบมองรถออดี้ที่อยู่ไม่ไกลเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่ถูกอีกฝ่ายจับได้ เมื่อเข้ามาในเขตบ้านพัก เย่เฟิงไม่สามารถเปลี่ยนทักษะสะกดรอยได้ตามใจ ไม่เช่นนั้นต้องถูกอีกฝ่ายมองออกแน่นอน เพราะไอคิวของไช่เฉ่าหงไม่ใช่ธรรมดา ชายหนุ่มทำได้เพียงซ่อนตัวอยู่ในป่าจำลอง ไม่นานรถออดี้ก็จอดหน้าบ้านพักหรูหราที่มีบ่อน้ำล้อมทั้งสี่ด้าน ไช่เฉ่าหงในชุดสูทเรียบร้อยก้าวลงจากรถก่อนเดินเข้าบ้านพักโดยไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองถูกสะกดรอย
เย่เฟิงอยากตามเข้าไปข้างใน แต่เหลือบเห็นรถเบนซ์หรูคันหนึ่งขับเข้ามาจอดหน้าบ้านพักอีกหลัง คนที่นั่งฝั่งคนขับคือหูเหมยเหม่ยผู้ช่วยของซูซิ่นชางไม่ใช่หรือ? ตรงที่นั่งอีกฝั่งคือชายร่างอ้วนซึ่งเป็บุคคลในสังคมชนชั้นสูง แต่เย่เฟิงไม่รู้ว่าสถานะของชายคนนั้น หรือจะเป็ลุงคนที่สองของเซี่ยิ่ที่จ้างงานหูเหมยเหม่ยต่อ ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่เก็บมาคิดให้ปวดหัว คนพวกนั้นจะมาทำอะไรที่นี่ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา
ชายหนุ่มเคลื่อนไปด้านข้างของบ้านไช่เฉ่าหงอย่างไร้เสียง เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ขณะเย่เฟิงพิงกรอบหน้าต่างก็ได้ยินเสียงน้ำไหลดังจากบ้านพัก ดูเหมือนไช่เฉ่าหงกลับมาเพื่ออาบน้ำ
“โอกาสนี้แหละ!” เย่เฟิงไม่เสียเวลาคิดไปมากกว่านี้ เขาะโเข้าบ้านทันทีโดยไม่เหลือแม้แต่ร่องรอย! ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังอาบน้ำ เขาก็ตัดสินใจค้นภายในบ้านเพื่อหาเบาะแสน่าสงสัย
บ้านหลังนี้มีทั้งหมดสามชั้น รั้วบ้านก่อด้วยกระเบื้องสไตล์คลาสสิก มีพืชพรรณล้ำค่ามากมายอยู่ในสวน มองเผินๆ ไม่พบสิ่งน่าสงสัย
เย่เฟิงใช้ทักษะย่างก้าวไร้เงาเพื่อตรวจสอบทั่วทั้งบ้าน
“ถ้ามีพลังบ่มเพาะระดับสิบปีคงใช้ทักษะจิตหยั่งรู้ไปแล้วจะได้ไม่ต้องลำบากขนาดนี้ กวาดตามองก็รู้ได้แล้ว...” เย่เฟิงเสียดาย แต่เมื่อมาถึงหน้าประตูชั้นใต้ดินเขากลับััได้ถึงพลังงานบางอย่างจนใจสั่นรัว
ภายในห้องใต้ดินแห่งนี้มีกลิ่นอายพลังฟ้าดินเข้มข้น!
“มีอะไรอยู่ด้านล่างกันแน่?กลิ่นอายพลังฟ้าดินเข้มข้นขนาดนี้ หากมีสมบัติ์จริงคงเพียงพอที่จะเพิ่มระดับวรยุทธ์ของผู้ฝึกวิถีเซียนไปอีกสามถึงสี่ปี!” ความรู้สึกนี้ทำให้เย่เฟิงตกตะลึง!
ขณะนั้นเองเสียงการเคลื่อนไหวดังมาจากห้องโถงของบ้าน ไช่เฉ่าหงคงออกมาจากห้องน้ำแล้ว
เย่เฟิงจึงมีปฏิกิริยาทันที
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้