"น้ำตาลูกผู้ชาย!"
หยางเฉินทำได้เพียงถอนหายใจ เป็ธรรมดาที่จางหู่จะเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับน้องสาวของเขา สิ่งที่เห็นนั้นคือความจริง ถ้าเป็คนธรรมดาทั่วไปได้พบเจอกับสถานการณ์เมื่อครู่ย่อมต้องสูญเสียการควบคุม
จางหู่เงยหน้าขึ้น เช็ดน้ำตา พูดด้วยน้ำเสียงเคารพนับถือว่า
"บอส จากนี้ไปชีวิตจางหู่ผู้นี้เป็ของบอส ผมจะไม่เสียใจแม้แต่น้อยแม้บอสจะใช้ผมเยี่ยงม้าเยี่ยงลา"
หยางเฉินหัวเราะพร้อมกล่าวว่า
"นายกำลังหางานใหม่ใช่ไหม นายรู้ได้อย่างไรว่าฉัน้าเป็บอสของโลกมืด นายรู้ได้อย่างไรว่าฉันยินดีจะเป็บอสของนาย"
"เอ่อ... นี่… นอกจากต่อสู้ ฆ่า ข่มขู่ แย่งอาณาเขตกันแล้ว ผมก็ไม่รู้เื่อย่างอื่นอีก ถ้าหากบอสไม่คัดค้านล่ะก็ ให้ผมเป็บอดี้การ์ดของบอสเถอะ"
"นายคิดว่าฉันจำเป็ต้องมีบอดี้การ์ดงั้นหรือ?"
"เอ่อ" ใบหน้าจางหู่ซีดขาวอีกครั้ง พร้อมก้มหน้ากล่าวเสียงค่อย "...ไม่ครับ"
หยางเฉินเริ่มชอบชายร่างกำยำผู้นี้ขึ้นมา ด้วยบุคลิกที่ตรงไปตรงมา ที่สำคัญคือคนผู้นี้สามารถตัดสินใจได้อย่างรอบคอบ รู้ว่าเมื่อใดควรถอย เมื่อครั้งเหตุการณ์ที่บาร์ มันเห็นทักษะการต่อสู้ที่เหนือธรรมดาของหยางเฉิน มันจึงรีบมาขอโทษและจากไปอย่างรวดเร็ว เวลานี้เพื่อน้องสาวแล้ว บุคลิกที่แท้จริงถูกเปิดเผย มันเชื่อใจหยางเฉิน และพร้อมเดิมพันด้วยชีวิตและความตาย
หลังจากขบคิดเล็กน้อยหยางเฉินก็ลุกขึ้น กล่าวกับจางหู่ว่า
"จางหู่ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับพวกนักเลง แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะให้ใครที่ไหนเข้ามาควบคุม"
"บอส... คุณหมายความว่า" จางหู่เห็นประกายแสงความหวังริบหรี่ มันรีบเงยหน้าขึ้นถาม
"ทันทีที่เฉินเต๋อไห่หายไป พื้นที่นี้สมควรวุ่นวาย อลหม่าน ฉัน้าให้นายเข้าควบคุมตำแหน่งของเฉินเต๋อไห่"
"บอสยึดตำแหน่งไม่ยากครับ ตอนนี้ลูกน้องคนสำคัญของเฉินเต๋อไห่ถูกบอสจัดการหมดแล้ว เหลือผมหัวโด่อยู่คนเดียว ไม่กี่ปีที่ผ่านมาความสัมพันธ์ของคนกับคนอื่นๆ เป็ไปด้วยดี พี่น้องเ่าั้จะต้องยินดีปฏิบัติตามผมแน่นอน แต่... ผมไม่รู้วิธีบริหารจัดการธุรกิจของเฉินเต๋อไห่ ผมไม่เข้าใจเื่พวกนี้น่ะครับ"
"นายไม่ต้องกังวลเื่นี้" หยางเฉินยิ้มกล่าวว่า
"นายแค่ทำให้บริเวณนั้นสงบลง อย่าให้ลูกน้องที่เหลือของเฉินเต๋อไห่เข้ามาขัดขวาง ส่วนเื่อื่นๆ จะมีคนบอกนายอีกทีว่าควรทำอย่างไรต่อไป"
"คนนั้น... ไม่ใช่คุณหรือครับบอส?"
"มีบางคนที่เหมาะสมกว่า และในอนาคตนายต้องทำตามคำสั่งของเขา เอาล่ะ ไม่ต้องถามอะไรอีก สิ่งที่นายต้องทำคือเข้ายึดตำแหน่งของเฉินเต๋อไห่
ไม่รอให้จางหู่ตอบกลับ หยางเฉินฉีกแผ่นกระดาษแผ่นหนึ่ง เขียนเบอร์โทรศัพท์ลงไป
"นี่เบอร์โทรของฉัน ฉันแซ่หยาง แล้วก็ต่อไปห้ามเรียกฉันว่าบอสอีก ฉันไม่้าให้นายมาเป็ลูกน้อง"
จางหู่รีบรับกระดาษนั้นมาอย่างรวดเร็วพร้อมรอยยิ้ม กล่าวว่า
"ครับบอส"
"โอ้ ไม่ใช่... ครับคุณหยาง"
หยางเฉินพยักหน้าพอใจ
"สำหรับเื่ต่อจากนี้ นายต้องตัดสินใจเอง ฉันจะให้คนมาติดต่อกับนายโดยตรง ในการบริหารจัดการพื้นที่ ถ้าเจอปัญหาที่แก้ไม่ได้ นายค่อยโทรหาฉัน ถ้าไม่มีเื่สำคัญห้ามโทรมาเด็ดขาด"
จางหู่ฟังด้วยใบหน้าเคร่งขรึมจริงจัง
หยางเฉินเหลือบมองนาฬิกา การมาคุยธุรกิจในครั้งนี้ เสียเวลาไปเกือบสองชั่วโมง นี่ก็เกือบจะเที่ยงคืนแล้ว เขาสัญญากับเฉียงเวยไว้ นึกได้เช่นนั้นเืภายในกายหยางเฉินก็เดือดพล่าน เขารีบกล่าวกับจางหู่ว่า
"นี่ก็ดึกมากแล้ว ได้เวลาที่ฉันต้องไปสักที น้องสาวของนายยังอยู่ในห้องของเฉินเฟิง เฉินเฟิงสลบไป แต่มันยังไม่ตาย ฉันยกเฉินเฟิงให้นายกับน้องสาวเป็คนจัดการ"
เมื่อได้ยินชื่อ 'เฉินเฟิง' ในดวงตาจางหู่เปลี่ยนเป็เย็นเยียบ พยักหน้ากล่าวว่า
"คุณหยาง ผมกับน้องสาวได้รับชีวิตใหม่จากคุณ ต่อไปในอนาคต ถ้ามีสิ่งที่คุณ้าล่ะก็ เพียงแค่เอ่ยปาก แม้จะต้องบุกน้ำลุยไฟก็จะหามาให้ได้"
"ถ้าหากไม่รู้ว่านายไม่ใช่คนขี้ประจบสอพลอล่ะก็ คำพูดของนายฟังดูเหมือนละครน้ำเน่ายุค 80 จริงๆ" หยางเฉินไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขาเดินไปตบบ่าของจางหู่แล้วเดินออกจากห้องไป
หยางเฉินเดินออกจากบ้านเฉินเต๋อไห่อย่างสบายๆ โดยไม่มีอุปสรรค เขาเดินเหมือนอยู่ในสวนหลังบ้านตัวเอง ลัดเลาะไปตามทางจอดรถ
แต่ทันใดนั้นหยางเฉินก็สังเกตเห็น ตำรวจหลายนายยืนอยู่ที่มุมหนึ่งของสวนสาธารณะ เขาไม่คิดว่าเฉินเต๋อไห่จะโง่พอที่จะเรียกตำรวจ ตำรวจเหล่านี้เหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่
ขบคิดสักพักหยางเฉินตัดสินใจเดินออกห่าง ทำเหมือนไม่เคยเห็นตำรวจ แต่ก่อนที่เขาจะทำอะไร เสียงะโก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง
"หยุด เดี๋ยวนี้"
เป็เสียงไพเราะที่ค่อนข้างคุ้นหู
หยางเฉินหันไปรอบๆ เห็นเงาร่างผู้หนึ่งเดินออกมาข้างหน้าเขา
"โอ้ว... สารวัตรไช่นี่เอง"
สารวัตรสาวที่หยางเฉินได้พบเมื่อครั้งไปเยี่ยมเยียนสถานีตำรวจ ไช่เอี๋ยนเดินเข้ามาใกล้มากขึ้นเผยให้เห็นเครื่องแบบตำรวจ พร้อมส่วนเว้าส่วนโค้งอันสมบูรณ์แบบ ด้วยอายไลเนอร์และลิปสติกสีชมพูอ่อน เธอเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น และนั่นเป็เสน่ห์อย่างหนึ่งของเธอ
ไช่เอี๋ยนมองหยางเฉินด้วยแววตาสงสัย
"นายมาทำอะไรที่นี่?"
"เอ่อ..." หยางเฉินลูบมือด้วยท่าทางอายๆ พร้อมกับหัวเราะ และกล่าวว่า "เื่นี้... มันออกจะเป็เื่ส่วนตัวสักหน่อยนะครับ ผมสามารถพูดได้งั้นหรือ?"
ไช่เอี๋ยนมองไปยังชายอารมณ์ดีที่กำลังหัวเราะคิกคัก ด้วยความขยะแขยง แต่เธอไม่ได้ลดการป้องกันลง เธอยังจำได้ถึงเหตุการณ์ที่หยางเฉินจัดการนายตำรวจสองคนในห้องสืบสวน น้ำเสียงกลายเป็เคร่งเครียดกล่าวว่า
"เมื่อตำรวจถาม คุณจะต้องให้ความร่วมมือ และตอบตามความจริง"
หยางเฉินกล่าวสบายๆ ว่า
"สารวัตรไช่ครับ มันไม่ใช่เื่ใหญ่อะไร ผมอยู่กับเพื่อนผู้หญิงที่ริมน้ำ ประกบปากของเธอ จับหน้าอกเธอ ยกกระโปรงขึ้นบีบต้นขา ถ้าหากจะลงลึกไปอีกล่ะก็ เธอก็ลูบไล้ส่วนนั้นของผม... คุณคงคิดไม่ถึงเชียวล่ะ เธอมีแขนที่แข็งแกร่ง และเธอก็ตื่นเต้นเป็อย่างมาก ของผมนั้นมีขนาดใหญ่กว่าชายอื่นๆ ที่เธอเคยเจอมา ในตอนนั้นผมมีความสุขมากจริงๆ แล้วหลังจากนั้น..."
ได้ยินดังนั้นใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็สีแดงจรดใบหู ก่อนกัดฟันแน่นกล่าวว่า "หุบปาก นายไม่ต้องพูดอีกแล้ว"
ทำไมผู้ชายคนนี้ไร้ยางอายยิ่งนัก เธอรู้สึกอยากจะอาเจียน
"สารวัตรไช่ คุณเป็คนบอกให้ผมพูดความจริงเองนี่ครับ ผมบอกคุณั้แ่แรกแล้วว่ามันค่อนข้างจะเป็เื่ส่วนตัว แต่คุณก็บอกว่าต้องให้ความร่วมมือกับตำรวจ"
ไช่เอี๋ยนรู้สึกอยากพุ่งไปตบคนตรงหน้า แต่เธอกำลังอยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ จึงจำต้องอดทนไว้ แก้แค้นสิบปียังไม่สาย ก่อนจะโบกมือกล่าวว่า
"นายไปได้แล้ว เร็วเข้า ออกไปให้พ้นจากที่นี่"