ในห้องพัก เหล่าสาวใช้ต่างยกน้ำเปล่าส่งเข้ามาอ่างแล้วอ่างเล่า คุณชายรูปร่างสูงใหญ่คว่ำหน้าลงไปในอ่าง ขัดถูใบหน้าครั้งแล้วครั้งเล่าจนผิวเกือบถลอกถึงจะหยุด พ่นน้ำออกมาจากปาก เอ่ยอย่างเดือดดาล "ข้าต้องจัดการยายเด็กโสโครกนั่นให้ได้"
พ่อบ้านกำลังสั่งการสาวใช้อยู่ด้านข้าง ได้ยินคำกล่าวของเฟิ่งหยาง ก็หันไปพูดกับสาวใช้เ่าั้ "พวกเ้าทุกคนออกไปก่อน"
"เ้าค่ะ" เหล่าสาวใช้เดินออกไปจากห้องอย่างเป็ระเบียบเรียบร้อย
พ่อบ้านส่งผ้าสะอาดให้เ้านายของตนเอง
"เด็กสาวคนนั้นทำอะไรอยู่ ไปตามมา" เฟิ่งหยางพลันนึกอะไรได้ จึงสำทับอีกประโยค "จับนางอาบน้ำให้สะอาดก่อนค่อยส่งตัวมา"
"นายท่าน แม่นางน่าจะกลับห้องไปปรุงยาแล้ว นางกำลังเร่งร้อน ไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่เค่อเดียว ่นี้อาหารที่ส่งเข้าไปก็กินอย่างลวกๆ เพียงสองสามคำ เห็นแก่ที่เด็กสาวผู้นั้นอุทิศตนทำงานอย่างให้นายท่านอย่างเต็มที่ อภัยให้นางสักคราเถิดขอรับ รอให้นางปรุงยาสำเร็จ ข้าน้อยจะอบรมสั่งสอนให้ดี ต่อไปนางคงไม่กล้าเสียมารยาทกับท่านอีกแล้ว" พ่อบ้านเอ่ยถึงแต่ทางที่ดี
"นางกรอกน้ำแกงลุ่มหลง[1]อันใดให้เ้า ถึงช่วยพูดให้แต่สิ่งดีๆ นี่ไม่ใช่วิสัยของเ้าเลย" เฟิ่งหยางกล่าวเสียงเย็น
"อาจเป็เพราะเด็กคนนั้นอายุอานามไล่เลี่ยกับบุตรสาวผู้อาภัพของบ่าว หากนางยังมีชีวิตอยู่ก็คงจะโตพอๆ กัน" สีหน้าของพ่อบ้านฉายแววเศร้าสลด
"ช่างเถอะ อย่างไรก็ไม่มีข้อยกเว้น รอให้นางหลอมยาเสร็จเรียบร้อย เ้าหาหมัวมัวมาอบรมจรรยามารยาทให้นางสักคน จะได้รู้จักคุณธรรมพื้นฐานของสตรีสี่ประการ[2]เสียบ้าง" เฟิ่งหยางตัดบท
ขณะที่เฟิ่งหยางกับพ่อบ้านกำลังสนทนาเื่ถังชิงหรู เ้าตัวที่อยู่ห้องติดกันก็ถือโอสถลูกกลอนที่เพิ่งทำเสร็จไว้ในมือ
จากการเคี่ยวกรำทดสอบจนแทบไม่ได้หลับได้นอนมาถึงห้าวัน ในที่สุดนางก็ทำของชิ้นนี้ออกมาได้สำเร็จ โอสถถอนพิษหลอมขึ้นมาด้วยสมุนไพรและวิธีการของยุคโบราณทุกขั้นตอน หาได้ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงแม้แต่น้อย
"นายหญิงยอดเยี่ยมมาก เพียงพริบตาเดียวก็เพิ่มแต้มจิตพิสัยจรรยาแพทย์ให้เสี่ยวอีตั้งเยอะ" เสียงของเสี่ยงอีผุดขึ้นมาในสมองของถังชิงหรู
นางไม่ได้ยินเสี่ยงของเสี่ยวอีมาพักใหญ่ จู่ๆ พอได้ยินก็ไร้การตอบสนองไปชั่วขณะ
"เสี่ยวอี ่นี้นายเป็ยังไงบ้าง ทำไมฉันเรียกแล้วไม่เห็นนายตอบกลับมาเลยล่ะ" ถังชิงหรูถามอย่างตื่นเต้น
"นายหญิง เสี่ยวอีรู้สึกได้ว่าท่านถูกสิ่งแปลกปลอมบุกรุกเข้ามาในร่างกาย คิดจะขับมันออกไป แต่เสี่ยวอีมีพลังงานไม่พอ ไม่เพียงแต่ขับมันออกไปไม่ได้ ยังต้องสูญเสียพลังงานทั้งหมดต้องปิดระบบอัตโนมัติ คราวนี้นายหญิงหาพลังมาให้เสี่ยวอีได้เยอะมาก ก็เลยเปิดระบบได้ครับ" เสี่ยวอีกล่าวชี้แจง "นายหญิงทำอะไรหรือ ทำไมเสี่ยวอีถึงมีพลังงานเพิ่มขึ้นเป็หมื่นเลยล่ะ ต่อไปแค่ใช้อย่างประหยัด อย่าออกกำลังหักโหมเกินไป เสี่ยวอีก็อยู่ได้โดยไม่ต้องปิดระบบเป็เวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือน"
"ข้าไม่ได้ทำอะไรเลย แค่หลอมยาถอนพิษไม่ได้หลับได้นานเท่านั้นเอง หรือว่าการหลอมโอสถก็สามารถเพิ่มแต้มได้เหมือนกัน" ถังชิงหรูคาดคะเน
"คงจะเป็อย่างนั้น" เสี่ยวอีตอบ "นายหญิงลองคิดดูนะครับ ท่านผลิตยาเพื่อช่วยชีวิตคน เมื่อช่วยคนแล้ว ย่อมจะมีแต้มจิตพิสัยจรรยาแพทย์"
"เป็อย่างนี้นี่เอง" ถังชิงหรูพึมพำกับตัวเอง "ในมือเฟิ่งหยางมีตำหนักสังหาร คนเ่าั้ได้รับาเ็อยู่เป็ประจำ หากข้ามอบโอสถรักษาาแให้เขา ด้านหนึ่งคือช่วยให้เขาเกิดความรู้สึกดี และแสดงให้เห็นว่าเป็คนมีประโยชน์ใช้สอยได้ อีกด้านคือสามารถสะสมแต้มจิตพิสัยจรรยาแพทย์ไปพร้อมกัน ขอแค่มีแต้มสะสมมากๆ นายก็ไม่ต้องปิดระบบแล้ว"
"นายหญิงฉลาดมากครับ" เสี่ยวอีกล่าวเยินยอโดยไม่รีรอ
"เอาล่ะ อย่ามัวแต่ตบก้นม้า[3]กันอยู่เลย นายปิดระบบไปครั้งนี้ ฉันเลยหยิบของจากกระเป๋าเป้ออกมาไม่ได้ กระทั่งความสามารถป้องกันตัวยังไม่มี งานนี้ได้รู้เลยว่าตนเองมีข้อบกพร่องอะไรบ้าง" ถังชิงหรูพูดกับเสี่ยวอี "ในร้านค้ามีตำราเคล็ดวิชาพวกศิลปะการต่อสู้ หรือว่ายาเพิ่มกำลังภายในบ้างหรือเปล่า ฉันอยากลองฝึกวรยุทธ์ดูบ้าง จะได้ไม่ต้องอาศัยพลังงานจากนาย"
"นายหญิงไม่้าเสี่ยวอีแล้วหรือ ครั้งนี้เสี่ยวอีช่วยท่านไม่ได้ นายหญิงก็เลยโมโหจะโละเสี่ยวอีทิ้งใช่ไหมครับ" เสี่ยวอีพูดอย่างน่าสงสาร
"เฮ่อ..." ถังชิงหรูหาที่นั่ง จัดการกับสภาพมอมแมมดูไม่ได้ของตนเอง นางทำความสะอาดใบหน้าไปสนทนาไป "เสี่ยวอี ่ที่นายไม่อยู่ ฉันลำบากมาก นี่ก็แสดงว่าฉันขาดนายไม่ได้อยู่แล้ว และฉันก็พบว่าพอไม่มีนาย ฉันก็ไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงธรรมดาทั่วไป นี่เป็ครั้งแรกเลยนะ ที่ฉันได้เข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าความเข้มแข็งของตัวเองสมัยก่อนไม่ใช่ความแข็งแกร่งอย่างแท้จริง แต่เป็ความแข็งแกร่งของนาย เสี่ยวอี นายไม่อยากให้ฉันเปลี่ยนเป็คนเข้มแข็งยิ่งกว่านี้หรือ"
เสี่ยวอีนิ่งงันอยู่เป็เวลานาน จนถังชิงหรูคิดว่ามันคงไม่ตอบแล้ว แต่จู่ๆ เสี่ยวอีก็มีเสียงตอบกลับมา "ั้แ่เสี่ยวอีถือกำเนิด เสี่ยวอีก็อยู่เพื่อนายหญิง และเป็ส่วนหนึ่งของร่างกายท่าน ดังนั้นในสายตาของผม ความแข็งแกร่งของผมก็คือความเข้มแข็งของนายหญิง ไม่มีอะไรต่างกัน แต่หากนายหญิงมีความตั้งมั่นแบบนี้ เสี่ยวอีก็เคารพการตัดสินใจ อย่างไรเสียเสี่ยวอีก็เป็สัตว์เลี้ยงจักรกลของนายหญิงอยู่แล้ว"
"ขอบใจนะ เสี่ยวอี" ถังชิงหรูกล่าวด้วยรอยยิ้ม "นายตรวจสอบในระบบดูหน่อยว่ามีสิ่งของที่เหมาะสมกับฉันบ้างหรือเปล่า ฉันยังต้องพิจารณาแต้มจิตพิสัยจรรยาแพทย์ด้วย จะให้ใช้จนหมดเกลี้ยงไม่ได้อีก ฉันไม่กลัวว่านายจะช่วยฉันไม่ได้หรอกนะ แต่กลัวว่านายจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีก ถึงเวลานั้น ก็คงไม่มีใครในโลกนี้รู้ประวัติที่แท้จริงของฉันอีกแล้ว"
"ครับ" เสี่ยวอีตอบกลับอย่างรวดเร็ว
ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็พูดขึ้นมา "นายหญิงครับ ในร้านค้ามีเคล็ดวิชาจำนวนไม่น้อย ยาเพิ่มพลังวัตรก็มี เพียงแต่ยาเพิ่มพลังเ่าั้มีผลข้างเคียง มันไม่ใช่สิ่งของของท่าน ดังนั้นจึงไม่อาจให้เปล่า แต่มีราคาที่นายหญิงต้องจ่ายถึงจะได้ครับ"
"ต้องจ่ายแบบไหนล่ะ" ถังชิงหรูย้อนถาม
"หากนายหญิงกินยาลูกกลอนเ่าั้เข้าไปแล้ว จะกลายไปเป็เหมือนบุรุษหยาบกระด้าง นอกจากแขนขาจะใหญ่ขึ้นเปี่ยมไปด้วยพลังแข็งแกร่งเหมือนวัว หน้าอกก็จะเปลี่ยนไปเป็กล้ามเนื้อด้วยครับ" เสี่ยวอีตอบ
สมองของถังชิงหรูผุดภาพสตรีที่มีพละกำลังดุจโคถึก หน้าตาหยาบกระด้างแถมยังมีหนวดเครา แค่คิดว่าตนเองต้องเปลี่ยนไปเป็แบบนั้นก็ขนลุกเกรียวแล้ว
"เคล็ดวิชาฝึกยุทธ์ราคาแพงมาก" เสี่ยวอีเอ่ยอย่างน่าสงสาร "แค่หยิบมั่วๆ ออกมาสักเล่มยังต้องใช้ถึงหนึ่งแสนแต้ม นายหญิงยังต้องหาจิตพิสัยจรรยาแพทย์มาเพิ่มอีกเยอะเลยครับ"
"..." ถังชิงหรูขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเอ่ยว่า "ถือว่านายแน่"
"นายหญิง ่นี้เสี่ยวอียังคุ้มครองท่านได้อยู่ ไม่ต้องวิตก เสี่ยวอีจะเติบโตไปพร้อมกับท่าน นายหญิงไม่ต้องเร่งร้อน เพราะยิ่งเร่งก็ยิ่งพลาดพลั้งได้ง่าย"
ในฐานะจิติญญาของจักรกลชั้นสูง เสี่ยวอีรู้วิธีควรคุมอารมณ์ของถังชิงหรู ตราบใดที่สามารถปลอบประโลมจิตใจของเธอได้ การทำงานก็จะราบรื่น
ถังชิงหรูพยักหน้าอย่างไร้อารมณ์ก่อนหยิบยาลูกกลอนที่หลอมเสร็จเดินออกไป
มีเสียงคนสนทนาดังมาจากห้องข้างๆ ฟังดูก็รู้ว่าพ่อบ้านกำลังคุยกับเฟิ่งหยาง นางเคาะประตูเอ่ยว่า "นายท่าน ข้าเข้าไปได้หรือไม่"
เฟิ่งหยางได้ยินเสียงนาง เดิมทีก็รู้สึกโมโห แต่เขาจับสังเกตได้ว่าอารมณ์ของนางไม่ค่อยดีนัก ครั้นแล้วเพลิงโทสะสายนั้นก็เลยดับวูบลงไป
พ่อบ้านมาเปิดประตู กล่าวกับนางอย่างอ่อนโยน "แม่นาง ของทำเสร็จแล้วหรือ"
ถังชิงหรูส่งขวดหยกให้
นางบอกกับเฟิ่งหยางว่า ขวดหยกเป็ภาชนะสำหรับใส่โอสถที่ดีที่สุด ครั้นแล้วบุรุษตระหนี่ถี่เหนียวผู้นั้นก็มอบขวดหยกชั้นเลิศให้นางถึงสิบใบ แต่ใช่ว่าใจกว้างอันใดหรอกนะ เขาแค่จะให้นางหลอมโอสถออกมาเยอะๆ ดีที่สุดคือใส่ให้เต็มทั้งสิบขวด
เฟิ่งหยางเปิดขวดหยก เอามาวางใต้จมูกแล้วลองดมดู
กลิ่นหอมสุคนธ์พุ่งปะทะจมูก สีหน้าเผยความพึงพอใจอย่างอดไม่ได้ ก่อนเทออกมาแล้วส่งเข้าปาก
ถังชิงหรูเห็นเช่นนั้น เดิมทีคิดจะห้ามปราม แต่เห็นผู้อื่นกลืนเข้าไปแล้วก็เลยสงวนวาจา
บุรุษผู้นี้เป็คนขี้ระแวง หากไม่ให้เขาพิสูจน์ด้วยตนเอง เกรงว่าคงไม่เชื่อ ถึงอย่างไรสิ่งที่นางพัฒนาออกมาก็เป็ยาถอนพิษ ซึ่งสามารถช่วยชีวิตได้ในยามจำเป็
"ของให้ท่านไปแล้ว คุณชายก็ควรรักษาสัญญาด้วยเล่า" ถังชิงหรูมองเฟิ่งหยาง
นางไม่ได้หลับได้นอนมาหลายวันจนดวงตาทั้งสองข้างบวมปูดจะกลายเป็ตากระต่ายอยู่แล้ว
ถังชิงหรูทำงานตามที่ได้รับมอบหมายเสร็จสิ้น เฟิ่งหยางจึงไม่ได้สร้างความลำบากให้นางอีก อาจเป็เพราะเห็นสีหน้าของนางดูไม่ดีนัก หรือไม่ก็เห็นแก่โอสถเ่าั้ ในที่สุดเขาก็โบกมือบอกเป็นัยให้ถังชิงหรูรีบๆ ไสหัวไปให้ไกล ไม่ต้องมารบกวนเขาอีก
ยามนี้ถังชิงหรูย่อมอยาก 'ไสหัว' ไปเต็มที ดีที่สุดคือไม่ต้องกลับมาเห็นหน้าเหม็นๆ ของเขาอีกต่อไป ก่อนหน้าที่จะมานางเปลี่ยนอาภรณ์เรียบร้อยแล้ว แค่เฟิ่งหยางมีคำสั่งลงมา นางก็พร้อมออกจากจวนเดี๋ยวนี้เลย
"แม่นาง รถม้าเตรียมพร้อมแล้วขอรับ" ผู้คุ้มกันจวนคนหนึ่งเดินเข้ามา "พ่อบ้านจัดการเรียบร้อยแล้ว รถม้าอยู่ที่หน้าประตู ท่านออกไปก็จะเห็นขอรับ"
ก่อนหน้านี้ถังชิงหรูไม่ค่อยเชื่อในความจริงใจของพ่อบ้าน เขาเป็คนสนิทที่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากเฟิ่งหยาง ในสายตานางเขาจึงเป็เหมือนเขี้ยวเล็บของบุรุษผู้นั้น ทว่านับจากวันนี้เป็ต้นไป นางตัดสินใจจะไม่ชักสีหน้ารำคาญใส่พ่อบ้านผู้นี้อีก ส่วนขาที่มักปวดเมื่อยยามเข้าฤดูเหมันต์ของเขา นางก็ช่วยรักษาให้ ต่อไปไม่ต้องทนทรมานกับความเ็ปอีก ถึงอย่างไรนางก็เป็คนมีน้ำใจและเหตุผล ขอแค่ดีต่อนาง นางก็จะดีกับอีกฝ่ายเป็การตอบแทน เหมือนกับเฉินิ หากเขาไม่ถึงขนาดควักหัวใจมากองให้ นางไหนเลยจะยอมร่วมลุยโคลนไปพร้อมกับเขา
"ขอบใจมาก" ถังชิงหรูขึ้นไปนั่งบนรถม้า "เสี่ยวอี เปิดโหมดสกิลการใช้ชีวิต"
นางบังคับรถม้าไม่เป็ ยิ่งไปกว่านั้น พ่อบ้านอุตส่าห์จัดเตรียมรถม้าอย่างดีให้ เป็ไปไม่ได้ที่จะเตรียมคนบังคับม้าให้ด้วย ที่จริงในจวนแห่งนี้มีเพียงเฟิ่งหยางคนเดียวที่มีคุณสมบัติในการใช้รถม้า พ่อบ้านมีน้ำใจเตรียมรถให้ ก็เสี่ยงต่อการถูกเ้านายตำหนิแล้ว นางเองก็หาใช่คนเปราะบางที่ต้องรอให้ผู้อื่นมาปรนเปรอ
ถังชิงหรูใช้สกิลการใช้ชีวิตบังคับรถม้ามุ่งหน้าไปยังโรงหมอ
ขณะที่ไปถึง เห็นประตูใหญ่ปิดอยู่ ใจนางเริ่มเกิดลางสังหรณ์ไม่ดี
"ท่านป้า ไฉนโรงหมอถึงไม่เปิดเล่า" ถังชิงหรูรั้งหญิงสูงวัยที่อยู่ด้านข้างคนหนึ่งไว้ได้
"ร้านของท่านหมอผู้นี้ถูกคนทุบทำลาย ย่อมเปิดไม่ได้อยู่แล้ว" หญิงสูงวัยมองถังชิงหรูพลางเตือนด้วยความปรารถนาดี "เ้าเปลี่ยนไปตรวจที่โรงหมออื่นดีกว่า"
ถังชิงหรูยังคิดจะถามเพิ่มเติม แต่ท่านป้าผู้นั้นก็รีบเดินไปราวกับกลัวว่าภัยจะมาถึงตัว นางยังคงถามคนอีกสองคน ทว่าพวกเขาล้วนแสดงสีหน้าว่าไม่อยากพูด
มีขอทานน้อยคนหนึ่งเดินมาหัวมุม พูดกับถังชิงหรูว่า "ให้หม่านโถข้าสักลูกสิ แล้วข้าจะบอก"
ถังชิงหรูมองของทานน้อย ดวงตาทอประกายวาว นางใช้กลสับเปลี่ยนของหยิบซาลาเปาออกมาลูกหนึ่ง "หม่านโถไม่มี มีแต่ซาลาเปาหนึ่งลูก จะพูดไหม?"
--------------------------------------------------------------------------------
[1] น้ำแกงลุ่มหลง หมายถึงวาจาอ่อนหวานที่หว่านล้อมให้ผู้ฟังหลงเชื่อโดยขาดสติไตร่ตรอง
[2] คุณธรรมพื้นฐานสี่ประการ ได้แก่ จริยธรรม มโนธรรม สุจริตธรรม และความละอายต่อความชั่ว เป็สี่ในแปดข้อของคุณธรรมแปดประการของขงจื่อ ปราชญ์เมธีโบราณของประเทศจีน
[3] ตบก้นม้าหมายถึงการสรรเสริญเยินยอ