สตรีสองคนที่้าไปทักทายไม่สำเร็จ จึงกลับเข้ามาในห้องอีกครา
กู่ซือฝานเดินบ่นตลอดทาง เพลานี้ท่าทียิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ
“ท่านพี่สะใภ้! เขาหยิ่งตรงที่ใดกันเพคะ? เขาผยองตนอย่างไรกัน?”
“ดูเขาเมื่อครู่สิเพคะ ทีท่าเขาก็ดีนี่! เขาสุภาพและใจดีกับเรามากด้วย!”
“ท่านพี่จำคนผิดไปแน่ๆ!”
นางจำไม่ผิดหรอก ชาตินี้มิมีทางจำผิด
จะโทษก็ต้องโทษเขาที่แสดงเก่งเกินไป แต่รอก่อนเถิด วันหนึ่งนางจะต้องจับจุดอ่อนของเขาให้ได้ ทำให้เขาแสดงสีหน้าที่แท้จริง!
อวิ๋นอี้รู้ดีว่ากู่ซือฝานเชื่อในสิ่งที่เห็นเท่านั้น เพลานี้จะไปพูดกระไรกับนาง นางคงไม่ฟัง อย่างไรเสียสตรีผู้นั้นให้ความสำคัญกับบุรุษมากกว่าเพื่อน ลึกๆ ในใจนางยังสงสัยกับความสัมพันธ์ของพวกนางทั้งคู่นัก
หลังจากฟังนางพูดอยู่นานกู่ซือฝานก็พ่นลมหายใจออกมาและพูดอย่างไม่แน่ใจ “ข้าเห็นที่เขาเดินเมื่อครู่ ขาของเขามีปัญหาใช่หรือไม่เพคะ?”
อวิ๋นอี้พยักหน้า นิ่งๆ “ดูเหมือนว่าขาขวาของเขาจะไม่ดี"
"อ๊า!" กู่ซือฝานเม้มปาก "แล้วจะทำอย่างไรเล่าเพคะ! พี่สะใภ้ช่วยคิดหนทางหน่อยสิเพคะ!"
"เขามิใช่คนที่เ้าชอบหรือไร? ขอให้ข้าช่วยเหตุใดกัน หรงซิวของข้าเป็เ้าพ่อขี้หึง หากข้าพูดแทนบุรุษผู้อื่น ดูสิว่าเขาจะฆ่าข้าหรือไม่” อวิ๋นอี้พูดปฏิเสธ
กู่ซือฝานเถียง "กระไรคือบุรุษที่ข้าชอบกัน ข้าเพียงแค่ชื่นชม! อีกอย่างนะเพคะ ท่านพี่ชายเจ็ดมิได้รับผิดชอบการสอบเดือนวสันต์หรือเพคะ? หลี่ซูซวนเป็ผู้มีความสามารถระดับชาติ หากมีปัญหาเขาน่าจะยินดีช่วยนะเพคะ”
"เ้าคิดว่าเขาใจดีเช่นนั้นเชียวหรือ?” อวิ๋นอี้หัวเราะ "เขาเป็ผู้รับผิดชอบ มิใช่ทำงานการกุศลเสียหน่อย"
"ไม่แน่นะเพคะ" กู่ซือฝานส่ายหน้า นางชันแก้มแล้วครุ่นคิด ทันใดนั้นก็ผลักอวิ๋นอี้ “ท่านพี่ หากข้าดูไม่ผิดล่ะก็ หลี่ซูซวนเขาขึ้นไปที่ชั้นสามใช่หรือไม่เพคะ?”
ชั้นสาม!
อวิ๋นอี้อึ้ง คิดว่าเป็ชั้นสามจริงๆ!
นางรู้ดีที่สุดเกี่ยวกับการออกแบบพื้นที่ของโรงเตี๊ยมเกาเซิ่ง ยิ่งชั้นสูงขึ้นราคาต่อคืนจะยิ่งแพงขึ้น ทว่าในทางเดียวกัน การตกแต่งและการบริการก็จะดีขึ้นด้วย
ชั้นสามเป็ห้องเฉพาะ ใช้สำหรับจัดเลี้ยงแขกและมีราคาแพงมาก
มีเงินอย่างเดียวไม่พอ ผู้มีสิทธิ์ใช้ห้องในชั้นสามจะต้องเป็คนจากตระกูลชื่อดังด้วย
ตัวอย่างเช่น หรงซิว
“ท่านพี่คิดว่าเป็ไปได้หรือไม่เพคะว่าท่านพี่ชายเจ็ดอยากจะพบเขา! เพราะอย่างไรการแข่งขันรอบสุดท้ายท่านพี่ชายเจ็ดก็ออกหัวข้อ แล้วเขาชนะ!” กู่ซือฝานยิ่งพูดยิ่งตื่นเต้น พูดพร้อมถูมือ “ในความคิดของข้า เขาจะต้องได้รับการชื่นชมอย่างแน่นอน บางทีเขาอาจจะได้รับการเชิญเป็แขกของท่านพี่ชายเจ็ดก็เป็ได้!"
เช่นนั้นก็น่ากลัวมากจริงๆ
อวิ๋นอี้ส่ายหัวซ้ำๆ หลังจากครุ่นคิด หากทั้งสองพบกันจะต้องตีกันแน่
นางรู้สึกไม่สบายใจ นั่งอยู่ในห้อง กังวลไปต่างๆ นานา
กู่ซือฝานยังไม่ไปเช่นกัน นางบอกว่าจะรอกลับบ้านกับหรงหลิน
“ยังจำได้หรือว่าบุรุษของเ้าคือหรงหลิน?” อวิ๋นอี้หยอกล้อนาง ทำให้นางหน้าแดง
ทั้งสองอยู่ในห้องไม่นาน ประตูก็ถูกเคาะ เมื่อเดินออกไปก็เห็นคนกลุ่มหนึ่ง
นอกจากคนที่เห็นั้แ่แรกคือหรงซิวและหรงหลิน มีองค์ชายทั้งสองที่มาพักที่จวน ยังมีอีกหนึ่งคน...
คือหลี่ซูซวน
อวิ๋นอี้มองหรงซิวด้วยรอยยิ้มอึดอัด “มีกระไรเพคะ?”
“พาเ้ากลับบ้าน” เขากอดนางไว้ในอ้อมแขนแล้วเงยหน้าไปหากู่ซือฝาน “พวกเ้าไปทานข้าวด้วยกันที่จวนเถิด”
แม้ว่าจะอยากรู้อยากเห็นเื่หลี่ซูซวนที่เพิ่มเข้ามา แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ อวิ๋นอี้รู้กาลเทศะ ไม่ถามคำถามที่ไม่ควรถาม
นางยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ทุกคน และเข้าไปในอ้อมแขนของเขาอย่างเชื่อฟัง
กลุ่มคนจากไปอย่างยิ่งใหญ่ เผยยวนอี้รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับอวิ๋นอี้ หลังจากออกจากโรงเตี๊ยมก็แปลกใจและพูดว่า "เอ๋? พระชายาเจ็ด วันที่ร้อนเยี่ยงนี้ เ้าสวมผ้าพันคอ ไม่ร้อนหรือ?”
อวิ๋นอี้มุมปากกระตุก พูดในใจว่าหม้อไหนน้ำไม่เดือดเปิดหม้อนั้น[1] เสียจริงนะ
นางยิ้มและพูดไร้สาระว่า "ไม่ร้อนเพคะ ข้าขี้หนาว คิมหันต์ทุกปีจะสวมชุดหนาๆ ตลอด"
"เช่นนี้นี่เอง!" เผยหลางเย่ที่ซื่อบื้อ เชื่อในทันที "แต่เ้าใส่ผ้าพันคอก็งามดีนะ"
อวิ๋นอี้จะทำกระไรได้อีก ทำได้เพียงยิ้มตอบไป
หรงซิวเห็นว่าตลกก็ยิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นสาวน้อยจ้องมา เขาจึงรีบเอาหน้าเข้าไปถูแก้มนางอย่างสนิทสนม
ทั้งเจ็ดคนถูกแบ่งออกเป็สามรถม้า
หรงหลินและกู่ซือฝานหนึ่งคัน องค์ชายแห่งเป่ยิหนึ่งคัน อวิ๋นอี้ หรงซิวและหลี่ซูซวนหนึ่งคัน
รถม้ามีพื้นที่กว้างขวาง ไม่สามารถยับยั้งบรรยากาศที่น่าเบื่อได้
อวิ๋นอี้ขึ้นรถแล้วนั่งตัวตรงราวกับสมณะ ตาดูหูฟัง หรงซิวและหลี่ซูซวนคุยเื่ไร้สาระกัน
อย่างไรนางก็ไม่ขัดจังหวะอยู่แล้ว นางกลัวโดนดุ
หลังจากฟังไปสักพักนางพลันเพลิดเพลินขึ้นมา
ต้องบอกเลยว่าตอนที่ปากของหลี่ซูซวนไม่ดุร้าย ยังพาให้คนชอบได้ สังเกตได้จากคำพูดของเขาว่ามีตรรกะชัดเจนพูดจาสอดคล้องกัน
พูดได้คำเดียวว่าเป็ผู้ที่มีความสามารถ
ไม่เพียงแต่มีความสามารถเท่านั้น ความปราดเปรื่องด้านสติปัญญาและอารมณ์ยังสูงด้วย
อวิ๋นอี้สงสัยขึ้นมาแล้วว่าเหตุใดหลี่ซูซวนถึงใจดีกับผู้อื่น ทว่าทำตัวแย่กับนางคนเดียว?
คำว่าร้ายของนางปะปนไปกับเสียงล้อวิ่ง คิดจนหัวจะแตก มาถึงที่จวน ทว่าก็คิดไม่ออก สุดท้ายจึงสรุปว่าบุรุษผู้นี้เ้าเล่ห์มาก
กลับมาที่จวน หรงซิวมีเื่ที่จะต้องคุยกับพวกเขา ส่วนสตรีจึงไปคุยที่ห้องโถงด้านข้าง
เมื่อพ่อบ้านเตรียมอาหารเย็นเสร็จ คนกลุ่มหนึ่งรับประทานอาหารกันอย่างเต็มที่ และแน่นอนว่าเป็การพูดคุยของบุรุษเป็หลัก
เมื่อทานกันได้ที่แล้ว หรงหลินพากู่ซือฝานกลับจวน ก่อนกลับกู่ซือฝานพูดกับอวิ๋นอี้อย่างไม่อยากจาก “ท่านพี่เพคะ วันพรุ่งข้าจะมาหานะเพคะ”
มาหานางหรือ ไม่จริง มาดูหลี่ซูซวนเสียมากกว่า
ที่โต๊ะอาหารเย็นวันนี้ หรงซิวประกาศว่าหลี่ซูซวนจะเป็แขกของที่จวนและจะอยู่จนกว่าจะสิ้นสุดการทดสอบเดือนวสันต์
กลัวสิ่งใดมาพลันได้เช่นนั้นจริงเชียว
อวิ๋นอี้มิได้รู้สึกตื้นตันนัก ปรบมืออย่างจริงจัง แล้วส่งนางออกไปอย่างกระตือรือร้น "รีบกลับเถิด!"
มืดแล้ว องค์ชายทั้งสองที่ออกไปซื้อของข้างนอกมาทั้งวัน ดูเหนื่อยล้านัก
หรงซิวมิได้ยื้อพวกเขาไว้นานมากนัก หลังจากพูดกันอย่างสุภาพสองสามคำ พลันให้คนไปส่งพวกเขาที่เรือน และในที่สุดก็เริ่มจัดการกับเื่ของหลี่ซูซวน
หลี่ซูซวนบอกว่าเขาชอบความสงบสุข หรงซิวตัดสินใจให้เขาไปอยู่เรือนทางประจิม
หลังจากที่พ่อบ้านพาหลี่ซูซวนออกไปด้วยความเป็มิตร อวิ๋นอี้จึงได้คลายความกังวลหลังจากที่ผ่านไปนาน
นางนวดขมับ มองหรงซิว “เหตุใดให้เขาเข้ามาเพคะ? ดูเหมือนฝ่าาจะชอบเขามาก”
“เขาเป็พร์ที่หายากจริงๆ” หรงซิวยิ้ม “ทั้งยัง ครอบครัวของเขายากจน ั้แ่เข้าเมืองหลวงมาก็อาศัยอยู่กับขอทาน ไม่รู้ยังดี ในเมื่อรู้แล้ว ข้าจะเพิกเฉยได้อย่างไร?”
อวิ๋นอี้รู้สึกใเล็กน้อย คิดไม่ถึงเลยว่าคนอารมณ์ร้ายเช่นนี้ จะมีความเป็มาเช่นนี้
นางชะงักไป ทำให้หรงซิวรู้สึกขบขัน จึงเอื้อมมือไปจิ้มจมูกนาง “คิดกระไรอยู่? สนใจเขาอีกหรืออย่างไร?”
“ข้าเปล่าสักหน่อย” อวิ๋นอี้พูดอย่างทื่อๆ
หรงซิวหัวเราะ แล้วอุ้มนางขึ้นมา แล้วแสดงความคิดเห็นช้าๆ ว่า "คำตอบน่าพอใจมาก คืนนี้เราพักผ่อนเร็วๆ กันเถิด ทำเพียงคราเดียว ถึงเ้าจะขอมากกว่านี้ ข้าก็ไม่ให้"
"......" อวิ๋นอี้หยิกเขา เมื่อครู่ยังพูดเื่จริงจังอยู่เลย เพลานี้ทะลึ่งเสียแล้ว นางถามว่า "วันพรุ่งจะมีกระไรเพคะ?"
"ถึงพรุ่งนี้เ้าก็รู้แล้ว" หรงซิวขยิบตาทำตัวลึกลับ จงใจอุบไว้ก่อน
เชิงอรรถ
[1] หม้อไหนน้ำไม่เดือดเปิดหม้อนั้น 哪壶不开提哪壶 หมายถึง พูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ ค่
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้