อะไรนะ?
คิดไม่ถึงว่าจะมีคนนำถังเช่าเจ็ดดวงดารามาแลกเปลี่ยนกับยาเซิงเสวี่ยตาน? ทั้งยังมาเร็วกว่าพวกเขาด้วย
หลงเฟยเยี่ยและหานอวิ๋นซีมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ เดิมทีคิดว่าเื่นี้จะได้ชัยชนะมาอยู่ในมือแล้ว แต่คาดไม่ถึงว่าจะเกิดเื่ไม่คาดคิดเช่นนี้
ทว่าก็โชคดีที่กู่ชีชายังไม่ได้แลกเปลี่ยนยาเซิงเสวี่ยตาน มิฉะนั้นการมาที่นี่ของพวกเขาก็คงเสียเที่ยว
“ใต้เท้าเหยากุ่ยคิดจะเลือกอย่างไร?” หลงเฟยเยี่ยถามอย่างเ็า
“เฮ้อ...ฉินอ๋อง คิดว่าข้าควรทำอย่างไรดีล่ะ?” กู่ชีชาถอนหายใจเบาๆ ทว่ากลับทำให้ขนลุกโดยไม่มีเหตุผล ราวกับว่าเสียงนั้นแว่วอยู่ในหู
“ง่ายมาก แลกเปลี่ยนกับข้า” หลงเฟยเยี่ยพูดอย่างเ็า และนำจินตานงูเหลือมั์พิษออกมาทันที โดยไม่ได้สนใจถั่งเช่าเจ็ดดวงดารา
ขณะเดียวกัน ใบหน้าที่เรียบเฉยของใต้เท้าเหยากุ่ยก็แสดงความเย็นะเื พร้อมกับดวงตาที่เรียวยาวและมีเสน่ห์ จ้องมองตรงไปที่เหยื่อในมือของหลงเฟยเยี่ย
จิ้งจอก!
นี่เป็ความคิดแรกในใจของหานอวิ๋นซี เห็นได้ชัดว่าเป็ดวงตาที่เ้าเล่ห์! ใต้เท้าเหยากุ่ยผู้นี้แก่มากแล้วไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงยังมีสายตาที่แปลกประหลาดเช่นนี้อีก?
ในขณะเดียวกัน เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งก็ดังมาจากด้านข้าง “ฉินอ๋อง ท่านไม่ถามข้าสักคำหรือไรว่าจะตอบตกลงหรือไม่?”
เมื่อมองไปตามเสียง ก็เห็นชายฉกรรจ์ผู้ยิ่งใหญ่ที่มีรูปร่างสูงใหญ่สง่างามและทรงพลังเดินเข้ามา เขาสวมชุดคลุมสีดำขอบทองหรูหรา ซึ่งแสดงถึงความมีเกียรติและความลึกลับของเขา
เขาเดินเข้ามาอย่างไม่เร่งรีบ กวาดสายตาที่เ็าและเย่อหยิ่งมองหลงเฟยเยี่ย แล้วมองไปที่หานอวิ๋นซีอย่างอวดดีราวกับว่าเขารู้จักตัวตนของนางดี แม้ว่าดวงตาของเขาจะมีความประหลาดใจอยู่บ้าง แต่มันก็หายไปอย่างรวดเร็ว
หานอวิ๋นซีเกลียดการดูถูกเหยียดหยามและหยาบคายแบบนี้ที่สุด นางมองเขาอย่างเ็า รู้แค่เพียงว่าเขาเป็ไท่จื่อ แต่กลับไม่รู้ว่าเขามาจากที่ใด
“หรือเย่ไท่จื่อตอบตกลงไม่ได้หรือ?” หลงเฟยเยี่ยเอ่ยปากถาม
สำหรับน้ำเสียงที่ไม่แยแสของหลงเฟยเยี่ย คำว่า “เย่ไท่จื่อ” ดูเหมือนจะจงใจพูดกับหานอวิ๋นซี เพื่อบอกนางว่าชายผู้นี้คือใคร
ที่แท้ก็เป็เขานี่เอง!
หานอวิ๋นซีเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน นี่คือตวนมู่ไป๋เย่ ไท่จื่อแห่งอาณาจักรซีโจว หรือที่รู้จักกันในชื่อเย่ไท่จื่อ
ซึ่งแตกต่างจากไท่จื่อแห่งอาณาจักรเทียนหนิง เย่ไท่จื่อแห่งอาณาจักรซีโจวผู้นี้มีชื่อเสียงในด้านความหยิ่งยโส ร้ายกาจ และโหดร้ายในแผ่นดินใหญ่หยุนคง
อาณาจักรซีโจวตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของอาณาจักรเทียนหนิงและเป็พันธมิตรของอาณาจักรเทียนหนิง เช่นนี้ความสัมพันธ์ระหว่างตวนมู่ไป๋เย่และหลงเฟยเยี่ยก็น่าจะดี แต่เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบันดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยดีสักเท่าไร
ตวนมู่ไป๋เย่สูงเกือบจะเท่ากับหลงเฟยเยี่ย เขาเดินเข้าไปใกล้หลงเฟยเยี่ย กดไหล่ของหลงเฟยเยี่ยเบาๆ พร้อมกับจงใจพูดให้ช้าลง เน้นย้ำทีละคำ “ไม่ ตก ลง!”
โดยไม่คาดคิด ทันทีที่พูดจบ พลังอันทรงพลังก็ปะทุออกมาจากไหล่ของหลงเฟยเยี่ย เขย่ามือของตวนมู่ไป๋เย่ออกไปอย่างรุนแรง ในเวลาเดียวกันตวนมู่ไป๋เย่ที่ไม่ทันตั้งตัว ก็เซถอยหลังไปสองก้าว
เขาหรี่ตาลงทันทีและพูดอย่างเ็าว่า “หลงเฟยเยี่ย เ้าเข้าใจสิ่งที่เรียกว่ามาก่อนมาหลังหรือไม่?”
“ข้าไม่เข้าใจ!” น้ำเสียงของหลงเฟยเยี่ยดุดันมากกว่าเขา ขณะที่พูด เขาก็คว้าถังเช่าเจ็ดดวงดาราจากมือตวนมู่ไป๋เย่ไปในทันที
เมื่อเห็นเช่นนี้ หานอวิ๋นซีก็ตกตะลึง จากนั้นก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมา หลงเฟยเยี่ยผู้นี้ช่างโเี้และหยิ่งยโสเหลือเกิน นางชอบ!
หลังจากคว้าถังเช่าเจ็ดดวงดารามาแล้ว ดูสิว่าตวนมู่ไป๋เย่จะเอาอะไรมาแลกเปลี่ยนกับใต้เท้าเหยากุ่ยได้บ้าง?
ด้วยไหล่ที่สั่นเมื่อครู่นั้น เพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ว่าตวนมู่ไป๋เย่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลงเฟยเยี่ย เขาถอยกลับทันที ในขณะที่หลบเขาพูดเสียงดังว่า “หลงเฟยเยี่ย เ้ามันต่ำต้อย!”
ผู้ชนะเป็เ้า ผู้แพ้เป็โจร ผู้ชนะเท่านั้นที่มีสิทธิ์กำหนดความต่ำต้อยและความสูงศักดิ์
หลงเฟยเยี่ยไม่เพียงไม่หยุดนิ่ง การเคลื่อนไหวแต่ละครั้งนั้นยังโหดร้ายยิ่งกว่า ความเร็วเองก็เร็วมากจนตวนมู่ไป๋เย่ไม่มีเวลาแม้แต่จะพูดเื่ไร้สาระ
หานอวิ๋นซีมองจากด้านข้างอย่างหวาดกลัว ครั้งแล้วครั้งเล่าที่นางเห็นว่าหลงเฟยเยี่ยกำลังจะคว้าบางอย่าง แต่น่าเสียดายที่อีกฝ่ายหลบได้ทัน
ใต้เท้าเหยากุ่ยที่อยู่ห่างๆ นั่งอย่างเกียจคร้านบนที่นั่ง หรี่ตาที่เรียวยาวดูอย่างเพลิดเพลิน
ทันใดนั้น หลงเฟยเยี่ยก็จับข้อมือของตวนมู่ไป๋เย่ด้วยมือข้างหนึ่ง และอีกข้างก็คว้ากล่องผ้าในมือของเขา แต่ใครจะรู้ ใน่เวลาสำคัญนี้ ใต้เท้าเหยากุ่ยกลับะโว่า “หยุด...” เขาจงใจทำเสียงให้ยืดยาน เหมือนกับเบื่อหน่ายอย่างมาก
หลงเฟยเยี่ยเบนความสนใจไปหาเขา ตวนมู่ไป๋เย่เองก็หลบหลีก แล้วพูดเสียงดังว่า “ใต้เท้าเหยากุ่ย เ้าปล่อยให้คนนอกมาทำอะไรตามอำเภอใจที่นี่ได้ั้แ่เมื่อไรกัน?”
หุบเขายาผีก็มีกฎของหุบเขายาผีอยู่ คือการไม่อนุญาตให้คนนอกทำอะไรตามอำเภอใจ
“ฮ่าฮ่า ข้าแค่อยากจะเห็นวิทยายุทธ์ของพวกท่านทั้งสองเท่านั้นเอง เย่ไท่จื่อ ท่านทำให้ข้าผิดหวังนิดหน่อย” ใต้เท้าเหยากุ่ยถอนหายใจ
“เ้า!” ตวนมู่ไป๋เย่ที่กำลังจะก้าวไปข้างหน้าด้วยความโกรธ แต่ใต้เท้าเหยากุ่ยกลับค่อยๆ ยื่นมือที่ผอมจนเห็นกระดูกออกมาจากเสื้อคลุมสีดำของเขา ราวกับมือของปีศาจอายุพันปี ในมือก็เล่นกับลูกดอกผีเสื้อสีทองสองสามดอก
ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือคำเตือน
พลังัก็ไม่อาจสยบคนพาลได้ ตวนมู่ไป๋เย่ทำได้เพียงระงับความโกรธ ทว่าแววตาของเฟยเยี่ยยังฉายแววไม่พอใจ เก็บมือและถามอย่างเ็าว่า “เหยากุ่ย เ้า้าแลกเปลี่ยนกับใคร?”
“ใต้เท้าเหยากุ่ย งูเหลือมั์พิษมีมากกว่าหนึ่งตัวในโลก แต่ถังเช่าเจ็ดดวงดารามีเพียงหนึ่งเดียว แม้จะดูเหมือนหญ้าเหมือนแมลง แต่ก็ไม่ใช่หญ้าไม่ใช่แมลง เ้าลองคิดดูให้ดีๆ อีกอย่างข้าก็มาถึงก่อน” ตวนมู่ไป๋เย่รีบพูดเตือนขึ้นมา
“มีงูเหลือมั์พิษอยู่มากมาย แต่นี่เป็เพียงตัวเดียวที่มีอายุห้าร้อยปี” หลงเฟยเยี่ยก็พูดเตือนขึ้นมาเช่นกัน
“เฮ้อ...”
ใต้เท้าเหยากุ่ยถอนหายใจออกมาเบาๆ อีกครั้ง เป็เสียงลมหายใจที่ราวกับขึ้นมาจากส่วนลึกของนรก หานอวิ๋นซีก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเทาอีกครั้ง นางมองไปที่มือของใต้เท้าเหยากุ่ย ไม่ว่าอย่างไรก็ดูไม่เข้ากับดวงตาที่เรียวยาวของเขาเลย
ปล่อยให้ใต้เท้าเหยากุ่ยถอนหายใจไป หลงเฟยเยี่ยและตวนมู่ไป๋เย่เองก็ไม่พูดอะไร หานอวิ๋นซีที่มองอยู่ด้านข้างก็เดาไม่ออกจริงๆ ว่าเขาจะเลือกของใคร
โดยไม่คาดคิด ใต้เท้าเหยากุ่ยหัวเราะแปลกๆ ออกมา “ฮ่าฮ่า ข้าเองก็้าทั้งสองอย่าง ทำไมพวกเ้าไม่สู้ต่อกันสักยกล่ะ?”
ในขณะที่เขาพูด จู่ๆ ก็บอกกับหลงเฟยเยี่ยว่า “ฉินอ๋อง ข้าอนุญาตให้เ้าเอาไปได้ แต่ของที่เ้าเอาไปนั้นต้องส่งคืนกลับมาให้ข้าทั้งหมด ได้หรือไม่?”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา หานอวิ๋นซีก็อารมณ์เสียขึ้นมาทันที ตาเฒ่าคนนี้ไม่มีศีลธรรม ทั้งโลภทั้งเ้าเล่ห์เกินไป! อย่างไรก็ตาม นางก็ชอบ กลับกันมันทำให้หลงเฟยเยี่ยต้องใช้ความพยายามเพิ่มขึ้นเล็กน้อย พวกเขาไม่แพ้อยู่แล้ว
สีหน้าของตวนมู่ไป๋เย่ซีดเซียวในทันที เขากำหมัดแน่นและพูดด้วยความโกรธว่า “กู่ชีชา เ้าคิดจะฝ่าฝืนกฎของหุบเขางั้นหรือ?”
ใต้เท้าเหยากุ่ยที่ทำท่าทางนึกขึ้นได้ “ถ้าไม่สามารถฝ่าฝืนกฎได้ เช่นนั้นทำไมพวกท่านไม่ต่อสู้กันนอกหุบเขาล่ะ?”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ตวนมู่ไป๋เย่แทบจะกระอักเื ส่วนหลงเฟยเยี่ยแค่ยักไหล่ “ได้สิ”
แต่ใครจะรู้ว่า ในขณะเดียวกันก็มีเสียงที่คมชัดเสียงหนึ่งดังขึ้น “ท่านพี่ ท่านอยู่ข้างในหรือไม่?”
เรียกหาพี่ชาย? น้องสาวคนไหนตามหาพี่ชายกัน?
หานอวิ๋นซีที่กำลังสงสัย ก็เห็นสตรีในชุดขาวเดินมาอย่างกระฉับกระเฉง นางเกิดมาสวยราวกับเทพธิดา ลักยิ้มคู่เล็กๆ ที่มุมปากก็ไม่แพ้ความสดใสของสาวน้อยเลย ความสวยและความสดใสของเทพธิดาได้รับการตีความอย่างสมบูรณ์แบบในตัวนาง
หานอวิ๋นซีรู้ได้ทันทีว่านางเป็ใคร นางคือน้องสาวของตวนมู่ไป๋เย่ ตวนมู่เหยา องค์หญิงที่เป็ที่ชื่นชอบของทุกคนและเป็ผู้ที่มีวิทยายุทธ์เป็เลิศในซีโจว
ว่ากันว่าั้แ่องค์หญิงท่านนี้โตเป็ผู้ใหญ่ ทายาทของตระกูลสูงศักดิ์จากอาณาจักรต่างๆ เดินทางมายังพระราชวังซีโจวเพื่อขอนางอภิเษกมากขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละปี และองค์หญิงองค์นี้มีสายตาที่สูงส่ง จนถึงตอนนี้นางไม่เคยมองใครอยู่ในสายตาเลย
หานอวิ๋นซีจำได้ว่านางไม่เคยเห็นองค์หญิงองค์นี้มาก่อน แต่ทำไมรูปร่างของนางถึงดูคุ้นเคยนัก?
ทันทีที่ตวนมู่เหยาเข้ามา นางก็ถึงกับตกตะลึงเมื่อเห็นหลงเฟยเยี่ยกับหานอวิ๋นซี และไม่คาดคิดว่าพี่ชายของนางจะมาที่นี่ และหานอวิ๋นซีก็ถูกพามาด้วย!
ความหึงหวงฉายวาบในดวงตาของตวนมู่เหยา แสร้งทำเป็ว่าเื่ที่ไม่พอใจกับหลงเฟยเยี่ยก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เดินไปข้างหน้าและชนหานอวิ๋นซีโดยเจตนา นั่งลงข้างหลงเฟยเยี่ยและพูดอย่างสดใสว่า “ศิษย์พี่ ทำไมท่านถึงมาที่นี่ด้วยล่ะ?”
ตอนนี้ หานอวิ๋นซีรู้แล้วว่า สตรีในชุดขาวที่รนหาที่ตายในหุบเขางูก็คือนาง!
ที่แท้นางก็เป็ศิษย์น้องของหลงเฟยเยี่ย นางเข้าไปหาพิษของงูเหลือมั์พิษในหุบเขางูเพื่อรนหาที่ตาย หรือว่านางกำลังหาเื่กับศิษย์พี่งั้นหรือ ดูเหมือนว่าความอิจฉาของศิษย์น้องจะมีไม่น้อยเลยทีเดียว!
ทันทีที่ตวนมู่เหยามาถึง แววตาของตวนมู่ไป๋เย่ก็ฉายแววความชั่วร้ายออกมา และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เหยาเหยา ศิษย์พี่ของเ้ากำลังจะเอายาเซิงเสวี่ยตานไปจากพวกเรา เช่นนั้นเ้าไปสู้กับเขาสักหน่อยดีหรือไม่?”
ตวนมู่เหยาตกตะลึงและขมวดคิ้ว “ศิษย์พี่ นี่เป็เื่จริงหรือ? ท่านจะเอายาเซิงเสวี่ยตานไปทำไมกัน?”
ดวงตาของหลงเฟยเยี่ยฉายแววหมดความอดทน ขณะที่กำลังจะอ้าปากพูด หานอวิ๋นซีกลับเข้ามายุ่งเสียก่อน นางยืนอยู่ข้างๆ หลงเฟยเยี่ย เลิกคิ้วและมองไปที่ตวนมู่เหยาและพูดอย่างจริงจังว่า “ท่านอ๋อง หม่อมฉัน้ายาเซิงเสวี่ยตานมากๆ เลยนะ!”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ตวนมู่เหยาก็ใอีกครั้ง เป็ไปได้อย่างไร ศิษย์พี่้าสิ่งนี้ให้สตรีผู้หนึ่งอย่างนั้นหรือ? ทั้งยังพานางมาเอามันอีก
ไม่ นางไม่อนุญาตโดยเด็ดขาด
ยิ่งไปกว่านั้น นางทนไม่ได้ที่หานอวิ๋นซีเรียกตัวเองว่า “หม่อมฉัน” ต่อหน้าศิษย์พี่ของนาง
“ศิษย์พี่ ยาเซิงเสวี่ยตานเป็ของข้า! กว่าที่ข้าจะหาถังเช่าเจ็ดดวงดารามาแลกได้มันไม่ง่ายเลยนะ ท่านเอามันไปจากข้าไม่ได้หรอก!” น้ำเสียงของตวนมู่เหยาพูดอย่างเด็ดขาด ทั้งเย่อหยิ่งทั้งเอาแต่ใจ
อย่างไรก็ตาม หลงเฟยเยี่ยแสร้งทำเป็ว่าไม่ได้ยิน ไม่สนใจทั้งหานอวิ๋นซีและตวนมู่เหยา เขามองไปที่ตวนมู่ไป๋เย่อย่างเ็า “เย่ไท่จื่อ ในเมื่อใต้เท้าเหยากุ่ยพูดเช่นนี้ ทำไมเราไม่ออกไปสู้กันล่ะ?”
หากเป็ก่อนหน้านี้ ตวนมู่ไป๋เย่คงตกปากรับคำไปแล้ว แต่หลังจากเมื่อครู่ที่ใช้เล่ห์เหลี่ยมเล็กน้อย ตวนมู่ไป๋เย่ก็รู้ดีว่าเขาไม่สามารถใช้วิธีนั้นได้
แววตาของตวนมู่ไป๋เย่ฉายแววชั่วร้ายออกมา เขายิ้มและพูดว่า “ในเมื่อเหยาเหยาก็อยู่ที่นี่ ศิษย์พี่ศิษย์น้องก็ควรแลกเปลี่ยนวิทยายุทธ์กัน ในความคิดของข้า มันเป็แค่การแลกเปลี่ยน เช่นนั้นก็ไม่จำเป็ต้องออกไปข้างนอก”
ขณะที่เขาพูด ก็มองไปที่ใต้เท้าเหยากุ่ย “ใต้เท้าเหยากุ่ย เ้าคิดว่าอย่างไร?”
ใต้เท้าเหยากุ่ยหัวเราะคิกคักขึ้นมา “ศิษย์พี่ศิษย์น้องแข่งขันกัน ฮ่าฮ่า ข้าชอบเหลือเกิน!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ตวนมู่ไป๋เย่รีบเอาถังเช่าเจ็ดดวงดาราให้กับตวนมู่เหยาทันที และบอกเงื่อนไขของใต้เท้าเหยากุ่ย ตวนมู่เหยาใ รีบกำถังเช่าเจ็ดดวงดาราไว้แน่นทันที
“ใต้เท้าเหยากุ่ย...” หลงเฟยเยี่ยที่กำลังจะโต้กลับ
ทว่าใต้เท้าเหยากุ่ยกลับหัวเราะเสียงดังขึ้นมา “ท่านอ๋อง ข้ากำลังรออยู่นะ” ขณะที่เขาพูด ก็สั่งให้คนรับใช้นำชามาให้และตัดสินใจที่จะเพลิดเพลินกับการแสดงที่ดีฉากนี้
หลงเฟยเยี่ยมองด้วยสายตาดุร้าย หานอวิ๋นซีเองก็สาปแช่งในใจ เมื่อตวนมู่เหยาออกมาข้างหน้า มันยากที่จะพูดได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับศิษย์พี่ศิษย์น้อง การดวลของศิษย์พี่ศิษย์น้อง เมื่อพูดถึงผลลัพธ์แล้วก็เป็สิ่งที่คาดเดาได้ยาก
เมื่อเห็นท่าทางของตวนมู่เหยาแล้ว ดูเหมือนว่านางตั้งใจที่จะปกป้องถังเช่าเจ็ดดวงดาราด้วยพลังทั้งหมดของนาง หลงเฟยเยี่ยจะปล่อยตวนมู่เหยาไปหรือไม่นะ?
แม้ว่าท่าทางของเขาที่มีต่อตวนมู่เหยาจะเ็ามาก แต่การแสดงออกของเขาในหุบเขางูมันก็ดีมาก เขากังวลมากจนเห็นได้ชัด กลัวว่าตวนมู่เหยาจะได้รับาเ็ ถึงขั้นที่ว่าทิ้งนางไว้ข้างๆ และปล่อยให้ตาย
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ หานอวิ๋นซีก็รู้สึกเศร้าอยู่ในใจ ดังนั้นนางจึงออกมา กลับกันนางมีหน้าที่เพียงรักษาโรคและช่วยชีวิตคน ไม่ว่าจะได้ยาเซิงเสวี่ยตานหรือไม่ ก็ไม่ได้อยู่ในขอบเขตความรับผิดชอบของนาง