การที่หานรั่วซีสวมชุดราตรีแบบเดียวกันกับูเี่อันมาเข้าร่วมงานในครั้งนี้ทำให้ทุกคนต่างฮือฮาและเื่นี้ได้กลายเป็หัวข้อหลักที่ทุกคนต่างพูดถึงั้แ่เกิดเืู่เี่อันก็ััได้ถึงสายตาประเมินอย่างจับผิด ที่พยายามเปรียบเทียบเธอกับหานรั่วซีของคนทั่วทั้งงาน
มาเลย เธอไม่สนใครทั้งนั้น
หานรั่วซีเองก็ไม่ได้มีทีท่าไยดีอะไรเธอยืนคุยกับเพื่อนๆ ในวงการ ชนแก้วกับบรรดานักธุรกิจอย่างเป็มืออาชีพทำให้คนรอบกายไม่กล้าที่จะเอ่ยปากถามเื่ชุดของเธอกับูเี่อันที่เหมือนกันอย่างกับแกะ
เพียงแต่ยามที่มีโอกาสเธอก็มักจะลอบมองูเี่อันอย่างอดใจไม่ได้
ูเี่อันกำลังควงแขนลู่เป๋าเหยียนพลางยิ้มอย่างมีความสุขเธอทำตัวปกติราวกับไม่ใส่ใจเื่ที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย
ทีู่เี่อันมั่นใจได้ขนาดนี้คงเป็เพราะเธอมีลู่เป๋าเหยียนคอยปกป้อง
หานรั่วซีกำหมัดแน่นจนเล็บจิกเข้าไปไหนมือตัวเองโดยไม่รู้ตัว
อีกด้านชายวัยกลางคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาหาลู่เป๋าเหยียนูเี่อันเห็นดังนั้นก็รู้ทันทีว่าพวกเขาคงคุยกันอีกกว่าครึ่งชั่วโมงเธอจึงกระซิบลู่เป๋าเหยียนเสียงเบา
“ฉันไปห้องน้ำก่อนนะ”
“อืม”ลู่เป๋าเหยียนปล่อยมือเธอ “รีบกลับมาล่ะ”
ูเี่อันพยักหน้ายิ้มๆและเดินเข้าห้องน้ำไป ขณะกำลังล้างมืออยู่นั้นหานรั่วซีก็เดินเข้ามาก่อนจะปิดประตูห้องน้ำตามหลัง
“ฉันตั้งใจมาหาเธอ”เธอพูดอย่างไม่อ้อมค้อม
เซนเซอร์อัตโนมัติตรงอ่างล้างมือหยุดทำงานทันทีที่สิ้นเสียงของหานรั่วซีทั้งห้องน้ำเงียบกริบจนได้ยินแค่เพียงเสียงพัดลมระบายอากาศ
ูเี่อันไม่แปลกใจเธอดึงกระดาษออกมาเช็ดมือ
“เธออยากจะพูดอะไร”
“ฉันตั้งใจ”หานรั่วซีพูดพลางเอนพิงอ่างล้างมือ ก่อนจะหยิบบุหรี่มวนยาวสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะออกมาจุดกลิ่นบุหรี่ที่มีกลิ่นมิ้นท์จางๆ ลอยไปทั่วห้องน้ำ เธอถามอย่างนึกขึ้นได้
“คงไม่เป็ไรใช่ไหมถ้าฉันจะสูบบุหรี่”
ูเี่อันไม่ตอบเธอแค่ถามกลับไป
“วันนั้นหลังจากฉันกลับเธอเห็นชุดของฉัน?”
“ใช่”หานรั่วซีตอบก่อนจะพ่นควันบุหรี่ออกมาด้วยท่าทางเซ็กซี่เย้ายวน“หลังจากเห็นชุดของเธอ ฉันก็ให้คนแก้ชุดของฉัน ูเี่อันเราคงตัดสินกันไม่ได้ในเร็ววันว่าใครจะได้ลู่เป๋าเหยียนไปถ้ายังไงวันนี้เรามาหาผู้ชนะกันก่อนดีไหม”
หานรั่วซีเป็ฝ่ายได้เปรียบเธอเป็นางแบบที่อยู่ในวงการมานานหลายปี ไม่ว่าจะเป็แฟชั่นสนามบิน สตรีทแฟชั่นหรือการเลือกชุดเวลาออกงาน เธอไม่เคยแพ้ใครและมักถูกนำไปเป็แบบอย่างด้านแฟชั่นเสมอมาไหนจะยังท่าทางการเดินที่โดดเด่นสะดุดตาเธอคือคนที่สามารถพรีเซนต์เสื้อผ้าออกมาได้ดีอย่างมั่นใจ ในตอนนี้เธอกำลังเอาจุดแข็งของตัวเองออกมาท้าทายูเี่อัน
แตู่เี่อันเองก็ไม่เกรงกลัวสักนิด
“ได้สิรอดูหน้าหนึ่งของนิตยสารกอสซิบวันพรุ่งนี้เป็ไง?”
หานรั่วซีเหยียดยิ้มก่อนจะดับบุหรี่ในมือ
“เธอดูมั่นใจดีนะคิดว่าตัวเองจะชนะฉันหรือยังไง”
“อือฮึ”ูเี่อันจงใจพูดแทงใจดำหานรั่วซี “ไม่งั้นฉันจะได้แต่งงานกับลู่เป๋าเหยียนและได้เป็คุณนายลู่แบบนี้เหรอ”
“อย่าดีใจให้มันเร็วไปนักเลย!”หานรั่วซีมองไปยังแหวนเพชรบนนิ้วของูเี่อัน ั์ตาของเธอลุกโชนด้วยเพลิงริษยา
ูเี่อันขยับสร้อยคอเพชรของตัวเองเล็กน้อย
“ฉันดีใจเร็วไปงั้นเหรอ? เขาสั่งทำเครื่องเพชรชุดนี้ให้ฉันั้แ่ตอนที่เราตกลงแต่งงานกันแต่เธอกลับพยายามทำให้พวกสื่อเข้าใจผิดว่า เขาประมูลเพชรชิ้นนี้มาให้เธอ คุณหานคะฉันว่าคนที่ดีใจเร็วเกินไป...น่าจะเป็คุณมากกว่า”
ตอนนั้นคนทั้งโลกต่างเห็นพ้องกันว่าลู่เป๋าเหยียนซื้อมันมาให้เธอเธอจึงแอบดีใจอยู่ลึกๆ มาตั้งนาน แถมยังเอาเื่นี้ไปขูู่เี่อันอีก
ทั้งที่จริงๆ แล้วเขาซื้อมันมาใหู้เี่อันแถมยังบอกกับสื่ออีกว่าเพชรชิ้นนี้เหมาะสมกับูเี่อันอย่างมาก
“ฉันไม่มีทางยอมแพ้แน่”หานรั่วซีพูดก่อนจะปิดล็อกกระเป๋า “ูเี่อัน ฉันไม่ได้ด้อยกว่าเธอสักอย่างลู่เป๋าเหยียนไม่ควรเป็ของเธอ รอดูแล้วกัน!”
พูดจบเธอก็ผลักประตูออกไปูเี่อันค่อยๆ หยิบกระดาษทิชชู่ที่เธอนำมาเช็ดมือไปทิ้งลงถังขยะก่อนจะสำรวจความเรียบร้อยของตัวเอง และเดินออกจากห้องน้ำ
แต่ก็ต้องแปลกใจเพราะที่หน้าห้องน้ำ เฉินเสวียนเสวียนกำลังยืนรอเธออยู่
ภาพของคุณหนูไฮโซผู้แสนเย่อหยิ่งไม่รู้หายไปไหนหมดเฉินเสวียนเสวียนในวันนี้แต่งตัวเรียบง่าย ดวงตาของเธอแดงก่ำเมื่อเห็นูเี่อันเดินออกมา เธอก็รีบพุ่งตัวเข้ามาหา
“ูเี่อัน ไม่สิคุณนายลู่ ฉันขอโทษ ฉันขอโทษเธอจริงๆ เธอปล่อยฉันไปเถอะนะ”
เธอพูดอย่างกับคนไร้สติ“ฉันรู้ตัวแล้วว่าทำผิดไป ฉันไม่ควรทำตัวไร้มารยาทกับเธอ ไม่ควรขับรถชนเธอแต่ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ยกโทษให้ฉันด้วยขอแค่เธอยอมรับปากว่าจะปล่อยครอบครัวของฉันไป ฉันจะไม่มาโผล่หน้าให้เธอเห็นอีก”
ถึงเธอจะพูดอย่างนั้นูเี่อันก็ไม่คิดจะใจอ่อน เฉินเสวียนเสวียนกำลังรับผลกรรมที่ตัวเองก่อคนเราต้องรับผิดชอบในการกระทำของตัวเอง
เธอดึงมือของเฉินเสวียนเสวียนออกก่อนจะเอ่ย
“เื่ร้านอาหารของครอบครัวเธอที่ไม่ผ่านมาตรฐานด้านความสะอาดเป็เื่จริงซึ่งมันไม่เกี่ยวกับฉัน ฉันคงช่วยเธอไม่ได้”
“ฉันผิดไปแล้ว”เฉินเสวียนเสวียนร้องไห้โฮ “เธอช่วยฉันไม่ได้ แต่คุณลู่ช่วยได้นี่ ขอแค่เขาเอ่ยปากบ้านฉันก็จะรอดจากวิกฤตนี้ไปได้ เธอช่วยบอกเขาหน่อยได้ไหม เขาต้องฟังเธอแน่ขอร้องล่ะ ช่วยฉันที”
“เื่งานของเขาฉันไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งเธอมาหาคนผิดแล้ว”
พูดจบเธอก็เดินอ้อมตัวเฉินเสวียนเสวียนกลับไปยังห้องจัดงานเฉินเสวียนเสวียนยืนนิ่งอยู่ที่ปลายทางเดิน เธอมองตามแผ่นหลังูเี่อันไปสายตาที่สิ้นหวังโศกเศร้าเมื่อครู่ วินาทีนี้ได้แปรเปลี่ยนเป็สายตาเยือกเย็นและโเี้
เธอจะไม่ยอมให้ตระกูลเฉินต้องถึงจุดจบแบบนี้
และจะไม่ยอมปล่อยูเี่อันไปง่ายๆแบบนี้
...
ูเี่อันเดินกลับเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงที่เต็มไปด้วยผู้คนแสนคึกคักต่างจากตรงทางเดินเมื่อครู่ราวกับคนละโลก เธอกำลังมองหาลู่เป๋าเหยียน
แขกเกรื่อมากมายเดินไปเดินมาทำให้ยากที่จะหาเขาเจอ เธอกำลังจะถามบริกรว่าเขาอยู่ไหนตอนนั้นเองเสียงอันคุ้นเคยก็ดังขึ้นจากไกลๆ
“เจี่ยนอัน”
เธอหันตามไปเสียงก็เห็นลู่เป๋าเหยียนกำลังยืนคุยอยู่กับแขกอีกหลายคนด้านหลังเธอมิน่าล่ะเธอถึงหาเขาไม่เจอ
เธอยิ้มอย่างสดใสก่อนจะเดินไปหาเขา
คนที่ลู่เป๋าเหยียนยืนอยู่ด้วยคือมู่ซือเจวี๋ยและพวกผู้ชายอีกหลายคนที่อายุไล่เลี่ยกัน ดูท่าพวกเขาจะสนิทกันดีหนึ่งในนั้นพูดขึ้นว่า
“ฉันได้ยินชื่อคุณหนูรองของตระกูลซูจากน้องชายไม่เอาไหนที่อยู่อเมริกามานานแล้ว สวยสมคำร่ำลือจริงๆ ซะด้วยมิน่าน้องชายฉันได้เจอแค่ครั้งเดียวดีใจไปหลายวัน”
ชายคนหนึ่งตบบ่าลู่เป๋าเหยียนเบาๆ
“ก่อนจะแต่งงานนี่ปิดข่าวเงียบเชียวนะคงไม่อยากให้พวกฉันเห็นเธอล่ะสิ เลยแอบไว้ซะมิดเลย”
ปกติคำพูดเย้าแหย่แบบนี้ลู่เป็เหยียนไม่เคยคิดจะใส่ใจแต่ว่าครั้งนี้...พวกเขาพูดถูกแล้ว
ูเี่อันมักจะอยู่ในชุดลำลองลากรองเท้าส้นเตี้ยไปไหนมาไหนแค่ภาพอันแสนเป็ธรรมดาเ่าั้ก็ทำให้หัวใจเขาสั่นไหวมานับครั้งไม่ถ้วนมาวันนี้เธอแต่งหน้าแต่งตัวอย่างพิถีพิถัน ยิ่งทำให้เธอดูงดงามจนคนมองแทบหยุดหายใจ
ใบหน้าเรียวรูปไข่โครงหน้าได้รูป ผิวขาวนวลเนียน ดวงตากลมโตที่สุดสกาวราวลูกกวางน้อยในขณะเดียวกันก็ดูใสบริสุทธิ์ไร้สิ่งเจือปน
ชุดราตรีของเธอในวันนี้ขับความเป็เอกลักษณ์ของเธอให้โดดเด่นเธอดูเหมือนคุณหนูผู้สูงศักดิ์ ในขณะเดียวกันก็ดูสง่าสมฐานะแค่เธอเดินมาพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ ลู่เป๋าเหยียนก็ไม่อาจละสายตาไปจากเธอได้
ไม่ใช่ว่าไม่มีคนสงสัยเื้ัการแต่งงานของลู่เป๋าเหยียนในครั้งนี้แต่เมื่อได้เห็นแววตาที่เขามองูเี่อัน ทุกคนก็เข้าใจในทันทีว่าแล้วจึงพากันสลายตัวปล่อยให้สองสามีภรรยาอยู่กันตามลำพัง
ูเี่อันเดินมาถึงก็คล้องแขนเขาอย่างออดอ้อนลู่เป๋าเหยียนโอบตัวเธอไว้ก่อนถาม
“ทำไมไปตั้งนาน”
ูเี่อันถอนหายใจ“ฉันจะไม่ไปไหนแล้ว อยู่กับนายปลอดภัยที่สุด”
ลู่เป๋าเหยียนขมวดคิ้ว“เธอไปเจอใครมา”
“เฉินเสวียนเสวียน”ูเี่อันไม่ได้บอกเื่ที่เธอเจอหานรั่วซีนั่นเป็การแข่งขันระหว่างพวกเธอสองคนเท่านั้น “เธออยากให้ฉันปล่อยครอบครัวของเธอไป”
ลู่เป๋าเหยียนยิ่งขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะเรียกเสิ่นเยว่ชวน
“เฉินเสวียนเสวียนเข้ามาได้ยังไง”
“อาจจะมาพร้อมหานรั่วซี”เสิ่นเยว่ชวนเดาได้ทันทีว่าเฉินเสวียนเสวียนคงมาหาูเี่อันแล้ว จึงรีบเอ่ย
“ฉันจะรีบไปจัดการให้เรียบร้อย”
เสิ่นเยว่ชวนเป็คนทำงานคล่องแคล่วมีประสิทธิภาพไม่ช้าเฉินเสวียนเสวียนก็ถูกพาออกไปทางประตูหลังลู่เป๋าเหยียนจึงหันมาพูดกับูเี่อัน
“ไม่ต้องไปสนใจเธอ”
“ฉันก็ไม่ได้อยากสนใจเธอหรอก”ูเี่อันมองเวลา “เอ๋? จะสองทุ่มครึ่งแล้วนี่นา”
สองทุ่มครึ่งคือเวลาที่การเต้นรำจะเริ่มต้นขึ้น
เห็นเธอดูตื่นเต้นลู่เป๋าเหยียนจึงเอ่ยปากถาม
“เธอกำลังรอมันอยู่?”
“แน่สิ!”พูดจบเธอก็นึกขึ้นได้ว่าลู่เป๋าเหยียนอาจจะเข้าใจผิด จึงพูดเสริม
“ฉันอุตส่าห์ฝึกซ้อมกับนายตั้งสองคืนก็เพื่องานนี้โดยเฉพาะเลยนะ”
ตอนนั้นเองพิธีกรหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่ได้รับการขนานนามว่าเป็คู่พิธีกรที่ดีที่สุดของประเทศก็เดินขึ้นไปบนเวที พิธีกรหนุ่มมาดนุ่มกับพิธีกรสาวผู้แสนสดใส ทั้งสองคนดึงความสนใจจากแขกในงานได้ในชั่วพริบตาลู่เป๋าเหยียนเองก็พาูเี่อันเดินไปด้านหน้าเวที
“นายเชิญพวกเขามาได้อีกแล้วเหรอเนี่ย”พิธีกรหนุ่มคนนี้เป็พิธีกรที่เธอชอบมากที่สุด เธอจึงรู้สึกตื่นเต้นเป็พิเศษ“ฉันได้ยินมาว่าตารางงานของพวกเขาแน่นมากนอกจากรายการทีวีที่เป็พิธีกรร่วมกันแล้วการจะเชิญทั้งสองคนมาพร้อมกันได้นั้นลำบากมาก”
ลู่เป๋าเหยียนสะดุดกับคำว่า“อีกแล้ว” ของูเี่อัน
จึงถามอย่างสงสัย“เธอรู้ว่างานครั้งก่อนๆ พิธีกรก็เป็พวกเขา?”
จะไม่รู้ได้อย่างไรล่ะ
หลายปีมานี้งานครบรอบของเครือลู่เป็งานใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของคนในโลกธุรกิจ ทั้งนักลงทุนดาราดังต่างพากันมารวมตัวที่นี่ นอกจากการประกาศรางวัลต่างๆ ในประเทศก็มีงานนี้แหละที่ภาพของลู่เป๋าเหยียนจะออกมาตามสื่อเยอะที่สุดภาพของเขาเวลาคุยงาน ภาพของเขาเวลาพูดบนเวทีภาพรอยยิ้มของเขาที่ถูกช่างกล้องถ่ายเอาไว้ในหลายๆ มุมนั้นทำใหู้เี่อันถึงกับซื้อหนังสือพิมพ์ทุกฉบับมาเก็บสะสมไว้
แต่เื่นี้จะให้ลู่เป๋าเหยียนรู้ไม่ได้เด็ดขาด
เธอยิ้มพลางตอบ“งานเลี้ยงปีที่แล้วยิ่งใหญ่มาก ฉันเห็นในข่าวน่ะ”
ลู่เป๋าเหยียนถามอย่างสนใจ“แล้วเธอเห็นฉันบ้างไหม”
เขาเริ่มสนใจถามเื่ไร้สาระพวกนี้ั้แ่เมื่อไหร่กัน?
ูเี่อันนิ่งไปชั่วอึดใจก่อนจะพยักหน้า
“จะไม่เห็นนายได้ยังไงคนที่ถูกพวกนักข่าวถ่ายรูปเยอะที่สุดก็นายนี่แหละ โดยเฉพาะตอนที่นายขึ้นไปบนเวที”
ลู่เป๋าเหยียนแย้มยิ้มอย่างพอใจ“ต่อไปเธอคงไม่ต้องรอหนังสือพิมพ์ในวันรุ่งขึ้นเพื่อที่จะเห็นหน้าฉันอีกแล้ว”
ูเี่อันพยักหน้าอย่างเห็นด้วย“ต่อให้นายเอาหนังสือพิมพ์มาให้ฉัน ฉันก็ไม่ดูแล้วล่ะ เจอหน้านายทุกวันแบบนี้”
เดิมทีลู่เป๋าเหยียนไม่ค่อยชอบใจคำพูดของเธอสักเท่าไรแต่หลังพูดจบเธอก็เดินมายืนตรงหน้าเขาก่อนจะช่วยจัดปกเสื้อและเนกไทให้เรียบร้อย ราวกับภรรยาผู้เอาใจใส่สามีเวลาเธอตั้งใจทำอะไรบางอย่าง ขนตางอนยาวของเธอมักจะหลุบขึ้นลงช้าๆ ราวกับผีเสื้อที่กำลังโบยบิน
ที่จริงแล้วปกเสื้อกับเนกไทของเขาไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอกเื่ภาพลักษณ์ของเขาสมบูรณ์แบบอยู่แล้วูเี่อันก็แค่อยากจะทำเื่ที่ภรรยาควรทำเท่านั้น
เธอตบปกเสื้อเบาๆก่อนจะเงยหน้าส่งยิ้มให้เขา
“เรียบร้อยแล้ว”
ตอนนั้นเองพิธีกรก็เชิญให้ลู่เป๋าเหยียนขึ้นไปบนเวทีเสียงปรบมือดังกึกก้อง แต่ลู่เป๋าเหยียนกลับไม่ยอมขยับไปไหน
ูเี่อันจึงเรียกเตือนเขา
“นายควรขึ้นเวทีได้แล้ว”
แต่แล้วจู่ๆ เขาก็รั้งท้ายทอยของเธอให้เข้ามาใกล้ก่อนจะประทับจุมพิตลงบนหน้าผากของเธออย่างแ่เบา
