พอกลับมาถึงบ้าน ถังชิงหรูทิ้งตัวนั่งพลางทอดถอนใจ
น่าหลันหลิงเดินเข้ามาจากด้านนอก เห็นสีหน้าระทมทุกข์ของนาง ความรู้สึกปวดร้าวก็วาบผ่านแววตา
ั้แ่กลับมาจากจวนชิ่งอ๋อง นางก็เอาแต่นั่งอยู่ตรงนั้นไม่ขยับก้นไปไหน แท้จริงแล้วเขาเองก็เข้าใจความวิตกของนางดี ภายใต้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ หากชิ่งอ๋องมิหมดแรงสลบไปเสียก่อน เขากับถังชิงหรูก็คงไม่อาจปลีกตัวหนีกลับมาได้ หากรอจนเขาฟื้นคืนสติ และยังราวีไม่เลิก ต่อไปพวกตนก็อย่าหมายจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกเลย
โบราณว่าไว้ หญิงสาวแสนดีมักพ่ายบุรุษจอมตื๊อ อีกไม่กี่วันตนเองก็ต้องย้ายไปยังสำนักศึกษาส่วนตัวอีกแห่งหนึ่ง หากชิ่งอ๋องยังตามตอแยอยู่แบบนี้ หัวใจนางจะไม่สั่นคลอนแน่หรือ
"หรูเอ๋อร์ ข้ามาใคร่ครวญดูแล้ว เ้าตามข้าไปดีกว่า" น่าหลันหลิงเอ่ยกับถังชิงหรู "มีเพียงวิธีนี้ เ้าถึงจะหลุดพ้นจากการตามรังควานของชิ่งอ๋องได้ มิเช่นนั้น..."
"จะไปอยู่แล้ว เพิ่งมารู้จักเป็ห่วงข้า? ปัญหาก็คือข้าไปได้ด้วยหรือ หากข้าไป เขาต้องตามมาแน่" ถังชิงหรูมองน่าหลันหลิงด้วยสายตาตัดพ้อ พลางเอ่ยกับเขาอย่างอับจนหนทาง
ใช่ว่าถังชิงหรูมั่นใจในเสน่ห์ของตนเองนักหนา แต่จนถึงตอนนี้เฉินิก็ถึงเนื้อถึงตัวนางได้เพียงคนเดียว หากไม่อยากเป็หนุ่มพรหมจรรย์ไปชั่วชีวิต ก็มีแต่ต้องตามเกี้ยวพาราสีนางให้สำเร็จ
"เ้าไม่ยินดีติดตามเขาจริงๆ หรือ" น่าหลันหลิงสบตานางด้วยอยากจะเห็นความรู้สึกแท้จริงจากใจ ยังไม่เคยมีสตรีใดปฏิเสธบุรุษเพียบพร้อมเช่นนั้นมาก่อน เฉินิหน้าตาหล่อเหลา สถานะสูงส่ง ที่สำคัญโรคประจำตัวที่เขาเป็สำหรับผู้อื่นอาจเป็เื่ร้าย แต่กลับดีสำหรับถังชิงหรู เพราะหมายความว่าชั่วชีวิตนี้เฉินิจะไม่มีวันทอดทิ้งนางไปไหน และนางจะเป็สตรีของเขาแต่เพียงผู้เดียว
เนื่องจากสถานะของนางต่ำต้อยเกินไป ไม่มีทางได้เป็ชายาเอก แต่หากฮ่องเต้ทรงมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้นางเป็ชายาของเฉินิ ก็ไม่รู้ว่าจะมีคนอีกมากมายแค่ไหนนึกริษยาในวาสนาของนาง
"ข้าพูดไปชัดเจนแล้ว หากข้ายินดีก็คงไม่ปฏิเสธเขาหรอก ลูกไม้แสร้งปล่อยเพื่อจับจะมีความหมายอันใด เมื่อครู่ท่านมิเห็นหรือว่าเขาบันดาลโทสะแค่ไหน" ถังชิงหรูแค่นเสียงเยาะ "แต่ถ้าหากไร้หนทางแล้วจริงๆ ก็คงต้องติดตามท่านไป พวกเราไปกันเงียบๆ อย่าให้เขาค้นพบ พอเวลานานไป เขาก็คงจะลืมข้าไปเอง"
น่าหลันหลิงไม่อยากพูดทำลายความเชื่อมั่นของนาง ผู้อื่นอาจลืมได้ แต่สำหรับชิ่งอ๋อง ถังชิงหรูคือความทรงจำที่ฝังลึก เกรงว่าชั่วชีวิตคงมิอาจลืมเลือน
"แม่นาง..." จิ่นเอ๋อร์เดินเข้ามาจากด้านนอก ในมือถือกล่องมาด้วยใบหนึ่ง นางประคองกล่องใบนั้นด้วยสองมือ เอ่ยว่า "ผู้ดูแลจวนชิ่งอ๋องส่งมาให้เ้าค่ะ"
ถังชิงหรูมองกล่องใบนั้น ท่าทางลังเลอยู่นานแต่ไม่กล้ารับไว้ สุดท้ายก็รั้งมือกลับ "เ้าส่งมันคืนไป"
จิ่นเอ๋อร์ทำสีหน้าลำบากใจ "แม่นาง นี่คือของจากจวนชิ่งอ๋อง บ่าวไหนเลยจะกล้าออกหน้า"
"นี่คือการตัดสินใจของข้า ใครให้เ้าออกหน้ากันเล่า ข้าตัดสินใจส่งของคืน เ้าแค่จัดการตามคำสั่งก็พอ" ถังชิงหรูปฏิเสธที่จะดูของในนั้น
น่าหลันหลิงรับกล่องใบนั้นมาจากจิ่นเอ๋อร์ แล้วเปิดดูด้านใน
"เป็กำไลหยกคู่" น่าหลันหลิงหยิบออกมาวางไว้ต่อหน้าถังชิงหรู "ดูจากสีและเนื้อหยกน่าจะเป็ของเก่าแก่ อาจเป็กำไลโบราณที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ"
"นี่เป็กำไลสำหรับมอบให้สะใภ้หรือไม่ก็บุตรีมิใช่หรือ" ถังชิงหรูแค่นเสียงอย่างไม่พอใจ "เ้านั่นสมองเสื่อมไปแล้วหรือไง ใครตอบตกลงกับเขากัน"
"หรูเอ๋อร์ การหลบเลี่ยงหาใช่ทางออกที่ดี เ้าควรไปพูดคุยกับเขาให้รู้เื่ ผู้อื่นเป็ถึงชิ่งอ๋อง หากไปท้าทายไม่รู้กาลเทศะ พวกเราสองคนคงต้องเกิดปัญหาใหญ่แน่" น่าหลันหลิงออกความเห็น "เดิมทีคิดว่าแค่พาเ้าไปก็สิ้นเื่ แต่กำไลคู่นี้เป็เครื่องพิสูจน์ว่าชิ่งอ๋องจริงจังกับเ้ามาก และแสดงให้เห็นว่าเขาใคร่ครวญถึงความสุขชั่วชีวิตของเ้า หาใช่เพียง้าอนุมาปรนนิบัติส่วนตัว ดังนั้นเ้าเองก็ควรปฏิบัติกลับไปด้วยความจริงใจเช่นเดียวกัน"
"ข้ารู้แล้ว" ถังชิงหรูรับกำไลมาก่อนวางกลับเข้าไปในกล่อง "ข้ากำลังจะออกไปติดตามอาการของเขาอยู่พอดี ของสิ่งนี้ให้ข้าเป็คนเอาไปคืนด้วยตนเองเถิด"
ในจวนชิ่งอ๋อง เฉินินั่งอยู่ริมหน้าต่าง มองหมู่มวลวิหคโบยบินอยู่ด้านนอก หลายปีมานี้ เขาถูกขังอยู่ในกรงที่มีชื่อว่าจวนชิ่งอ๋อง ได้แต่มองเวิ้งฟ้ากว้างไกลอยู่ในกรงหรูหราใบนี้ ชีวิตของเขามีท้องนภาอยู่ผืนหนึ่ง แต่สตรีที่ตนเองอยากเป็ท้องนภาให้นางกลับดูเหมือนจะไม่้า ตนเองไม่ดีตรงไหน? เหตุใดนางจึงยินดีใช้ชีวิตลำเค็ญอยู่ข้างนอกมากกว่าที่จะเป็ผู้หญิงของเขา
"กำไลของท่านล้ำค่าเกินไป" ถังชิงหรูวางกล่องใบนั้นบนโต๊ะ "ข้าไม่อาจรับไว้ได้"
เฉินิหันกลับมาเห็นหญิงสาวที่ตนเองกำลังนึกถึงอยู่ปรากฏตัวตรงหน้า ยามนางสงวนวาจาก็น่ารักดีอยู่ แต่พอเอ่ยปากทีไรเป็ต้องทำให้เดือดดาลทุกทีสิน่า...
"ถังชิงหรู" เฉินิหยิบกล่องมาถือเล่น "เ้าเคยเห็นการฉุดคร่าหญิงชาวบ้านหรือไม่"
ถังชิงหรูกำลังเตรียมยาให้เขา พอได้ยินคำกล่าวเช่นนั้น มือพลันหยุดชะงัก เงยหน้าขึ้นมองด้วยสีหน้าประหลาดใจแกมสงสัย
"ภายใต้การปกครองของชิ่งอ๋อง เมืองชิ่งนับได้ว่าสงบเรียบร้อยดี จนถึงตอนนี้ข้ายังไม่เคยเห็นเื่อย่างว่า เหตุใดจึงถามเช่นนี้เล่า"
"แล้วถ้าอ๋องของเมืองชิ่งเช่นเปิ่นหวางถูกหญิงชาวบ้านฉุดคร่าเล่า เ้าว่าจะเป็อย่างไร" เฉินิมองถังชิงหรูด้วยสีหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม "ยกตัวอย่างเช่นการทำข้าวสารกลายเป็ข้าวสุก หรือทำตัวเป็ป้าอ๋องขึ้นสายธนู[1] จำได้ว่าเมื่อคราก่อนมีสตรีคนหนึ่งยั่วยวนเปิ่นหวาง นั่นคงนับว่าเป็ป้าอ๋องขึ้นสายธนูแล้วกระมัง"
ถังชิงหรูมือสั่นระริก เบือนหน้าหลบไปอีกทางพลางหลับตาลง สีหน้าเต็มไปด้วยความหงุดหงิด ผ่านไปครู่หนึ่ง นางก็ยกน้ำชาจากด้านข้างเดินเข้ามาวางต่อหน้าเขา แล้วกล่าวกับเฉินิด้วยสีหน้าจริงจัง "พวกเรามาทำข้อตกลงกันเถอะ"
"หืม?" เฉินิเลิกคิ้ว รอฟังต่อจากนั้น
"หากท่านสามารถทำให้ข้ารักท่านได้ภายในครึ่งปี ข้าจะยอมแต่งให้ท่านด้วยความเต็มใจ จะชายารอง ชายาเอก หรือแค่อนุชายาก็ดี ขอแค่ใจข้ายินยอม เื่สถานะมิสำคัญ แต่ก่อนหน้านั้น ท่านห้ามเอ่ยถึงเื่นี้เป็อันขาด ถึงอย่างไรเวลาครึ่งปีก็สั้นมาก ท่านรอมาได้ตั้งหลายปี เพียงแค่ครึ่งปีคงมิถึงกับรอไม่ไหวกระมัง" ถังชิงหรูจ้องตาปริบๆ มองเขาด้วยสีหน้าเ้าเล่ห์แสนกล "ท่านลองคิดดู หากต้องฝืนอยู่ด้วยกันโดยที่ไม่มีความรัก ไม่ว่าฝ่ายไหนก็คงไม่มีความสุข หรือท่านอยากให้คนข้างหมอนกลายเป็คู่แค้นที่คอยแต่จะชักสีหน้าใส่อยู่ทุกวันคืนเล่า"
"ใครช่วยเ้าออกความคิด?" เฉินิมองนางด้วยสีหน้าล้ำลึก "เป็แผนถ่วงเวลาที่ดี ครึ่งปีจะว่าไปก็ไม่นานจริงๆ นั่นแหละ แต่กลับเปลี่ยนแปลงอะไรได้หลายอย่าง เ้าคงคิดว่าบางทีครึ่งปีนี้ข้าอาจหายป่วยจากโรคประหลาด สามารถแตะต้องสตรีอื่นได้ ถึงเวลานั้นข้าอาจไม่มาตามตอแยกับเ้าอีก เ้าก็จะสามารถสลัดข้าทิ้งได้อย่างสมบูรณ์ใช่หรือไม่"
"ข้าอุตส่าห์ปรึกษากับท่านด้วยความจริงใจ ท่านกลับระแวงว่าข้ามีความคิดเป็อื่นเสียนี่ หรือท่านมิปรารถนาให้คนข้างหมอนมีหัวใจเป็หนึ่งเดียวกับท่านเล่า ถ้าอยู่ด้วยกันโดยปราศจากความรักจะแตกต่างอันใดกับสัตว์เดรัจฉาน" ถังชิงหรูกล่าว "ท่านตกลงหรือไม่ หากตกลงพวกเราก็ลงนามสัญญาสามฉบับ หากไม่ตกลง ข้าก็ไม่มีสิ่งใดจะพูด เพราะถึงอย่างไรข้าก็ไม่ยอมเป็สตรีของท่าน"
"เปิ่นหวางรับปากเ้าก็ได้ แต่ว่า... ภายในครึ่งปีนี้เ้าต้องอยู่กับข้า ไม่ว่าเปิ่นหวางเรียกหาเ้าเมื่อไร เ้าก็ต้องให้ความร่วมมือ" เฉินิหาใช่คนเบาปัญญา เขาเป็ผู้รอดชีวิตจากในวัง ได้ที่ดินศักดินาของตนเอง ก็แสดงว่ามีประสบการณ์ชีวิตมากโขอยู่ "หากผิดสัญญา ก็จงมาเป็สตรีในอ้อมอกของเปิ่นหวางเสียโดยดี เปิ่นหวางมิใช่คนมีปัญหาเยอะเหมือนเ้า จะรักก็ดี ไม่รักก็ช่าง ได้คนมาก่อนค่อยว่ากัน อยู่กันไปนานๆ เดี๋ยวเ้าก็โอนอ่อนผ่อนตามตามเปิ่นหวางเอง"
"ฮึ! ฝันไปเถอะ สตรีกับบุรุษไม่เหมือนกัน บุรุษสามารถขึ้นเตียงกับใครก็ได้ แต่สตรีไม่ใช่ ดังนั้น ท่านอย่าฝืนบังคับข้าเป็ดีที่สุด มิเช่นนั้นข้าจะฝังเข็มท่านจนมองหน้าใครไม่ได้อีกชั่วชีวิตเลย"
"เ้ายังไม่รับปากเงื่อนไขของเปิ่นหวางเลย" เฉินิไม่ยอมให้นางตีมึนแล้วปล่อยผ่านไป เขา้าได้ยินคำสัญญาจากนาง ความคิดอันแยบยลของนางหาได้รอดพ้นไปจากสายตาของเขา
ถังชิงหรูนึกในใจแผนการของน่าหลันหลิงล้มเหลวอีกแล้ว เดิมทีเขาคิดจะพานางไปด้วย ซึ่งเฉินิไม่มีทางยอม และหากนางรับปากเงื่อนไขนี้ ก็ต้องรั้งอยู่เมืองชิ่งต่อไป
"ข้าอยากตามคุณชายไปด้วยนี่นา" ถังชิงหรูยู่ปากบ่นพึมพำ "่นี้ที่นี่มีแต่เื่น่าเบื่อ ข้าอยากออกไปเที่ยวเล่นที่อื่นบ้าง"
"เปิ่นหวางพาเ้าไปหาเขาได้ แต่ยังมิอาจตามไปตอนนี้" เฉินิเชื่อว่าน่าหลันหลิงต้องมีความคิดไม่บริสุทธิ์กับถังชิงหรู ดังนั้นจะให้พวกเขาอยู่ร่วมกันไม่ได้เป็อันขาด ต้องให้แยกกันสัก่เวลาหนึ่ง ส่วนต่อไปจะให้พบหน้ากันหรือไม่ ก็ต้องรอดูอารมณ์ของตนเองก่อน แต่ไม่ว่าอย่างไรตอนนี้เขาก็ไม่อนุญาต
ถังชิงหรูคาดเดาได้นานแล้วว่าต้องออกมาในรูปแบบนี้ นางเป็ดาวช่วยชีวิตของเฉินิ ทั้งยังสามารถยับยั้งอาการป่วยของเขา ดังนั้นย่อมไปจากที่นี่ไม่ได้ เมื่อความ้าถูกจำกัด นางจึงรู้สึกเหมือนถูกจองจำไร้อิสรภาพ
ยามถังชิงหรูกลับมาถึงบ้าน น่าหลันหลิงกำลังรดน้ำผักอยู่ในสวน พอเห็นนางกลับมาก็ยืนยิ้ม กล่าวกับนาง "เป็อย่างไรบ้าง คุยกันรู้เื่หรือไม่"
ถังชิงหรูเดินเข้าไปหา แล้วหยุดตรงข้างกายเขา พลางยกมือขึ้นนวดต้นคอกล่าวว่า "คุยกันรู้เื่แล้ว เพียงแต่ข้าตามท่านไปมิได้ หากดึงดันจะไป เขาจะรับข้าเข้าจวนอ๋องเดี๋ยวนี้เลย"
"นึกแล้วว่าต้องออกมาเป็แบบนี้ คนผู้นั้นไม่ให้เ้าติดตามข้าไปหรอก แต่ก็มีเหตุผลเข้าใจได้ เพราะเ้าสำคัญสำหรับพวกเขามาก" น่าหลันหลิงมองนางด้วยแววตาอ่อนโยน "เพียงแต่หากพวกเราต้องแยกจากกัน หรูเอ๋อร์จะลืมข้าหรือไม่"
"พวกท่านทำเหมือนว่าข้าเป็โรคความจำเสื่อมอย่างนั้นแหละ แต่ละคนล้วนเป็ห่วงว่าข้าจะลืมเลือน ขอตอบอย่างจริงจังเลย ต่อให้ท่านจากไปห้าสิบปี ข้าก็ไม่มีวันลืม" ถังชิงหรูทอยิ้มอ่อน "แต่ข้าจะไปหาท่าน เขารับปากว่าจะพาข้าไปหาท่าน ถึงเวลาก็อย่ารำคาญข้าแล้วกัน"
น่าหลันหลินลูบเรือนผมของนาง มองใบหน้าที่แต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มดวงนั้นด้วยความรักใคร่เอ็นดู ใครเล่าจะรู้ว่าหัวใจของเขาเพลานี้รู้สึกอาลัยอาวรณ์แค่ไหน
ปัง! มีคนผลักประตูเข้ามา
เงาเล็กสองร่างพุ่งเข้าหาน่าหลันหลิงปานสายฟ้าแลบ ถังชิงหรูเห็นท่าไม่ดี รีบถอยไปยืนหลบด้านข้าง น่าหลันหลิงวางของในมือ พูดกับสองคนนั้นว่า "พวกเ้ามาได้อย่างไร"
"อาจารย์ เหตุใดท่านถึงจะไปจากพวกเรา เพราะพวกเราซุกซนเกินไปใช่หรือไม่ ท่านก็เลยโมโหแล้ว" หลี่จื้อกับหลีหย่วนเกาะน่าหลันหลิงไม่ปล่อย
ถังชิงหรูให้เวลาศิษย์อาจารย์สามคนได้อยู่ร่วมกัน ส่วนนางก็เข้าไปในครัว เตรียมของอร่อยบำรุงสุขภาพให้น่าหลันหลิง ถึงอย่างไรเขาก็จะไปแล้ว คงไม่ได้กินกับข้าวฝีมือนางไปอีกแสนนาน
สิบวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว แม้ว่าพวกเขาต่างรู้สึกอาลัยอาวรณ์ฝ่ายตรงข้าม แต่วันเวลาที่ต้องจากกันก็ยังมาถึงอยู่ดี
ถังชิงหรูเตรียมของกินของใช้ไว้ให้น่าหลันหลิงมากมาย นางตรวจสอบทุกวันจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีสิ่งใดขาดเหลือ
ในลานสวน ถังชิงหรูนั่งเหม่อลอยอยู่ตรงนั้น จิ่นเอ๋อร์กับหวนเอ๋อร์เดินเข้ามา จิ่นเอ๋อร์กล่าวว่า "คุณชายจะไปแล้วเ้าค่ะ"
"ข้ารู้แล้ว" ถังชิงหรูพยักหน้า
"ที่จริงสำนักศึกษาที่คุณชายไปร่ำเรียนใช้เวลาเดินทางจากที่นี่ไปเพียงไม่กี่วัน หากแม่นางคิดถึงก็สามารถไปหาได้ทุกเมื่อ" จิ่นเอ๋อร์เห็นนางดูหมองเศร้า ก็เข้ามาปลอบประโลม
"เ้าไม่รู้อะไร" ครานี้น่าหลันหลิงหาได้เพียงไปศึกษาธรรมดา แต่เขาทำสัญญากับสองพี่น้องสกุลเฉินเอาไว้ ตอนนี้พวกเขาคงจะเริ่มแผนการบางอย่างกันแล้ว น่าหลันหลิงฝังจำกับความแค้นของตระกูลอยู่ทุกวันคืน ต่อไปไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับอันตรายมากน้อยแค่ไหน ศัตรูของเขาแข็งแกร่งและทรงอำนาจ เขาในตอนนี้เพิ่งเริ่มจากศูนย์ การต้องทำากับผู้มีอำนาจเหนือกว่าคือเื่อันตรายอย่างยิ่ง
"หรูเอ๋อร์..." น่าหลันหลิงหิ้วสัมภาระเดินเข้ามา "ข้ามีถ้อยคำสองสามประโยคอยากคุยกับเ้า"
หวนเอ๋อร์กับจิ่นเอ๋อร์ยอบกายคำนับให้พวกเขาสองคน ก่อนถอยออกไปจากลานสวน
น่าหลันหลิงนั่งลงข้างกาย พลางทอดมองใบหน้าจิ้มลิ้มซีกข้างของนาง "เ้ากับท่านอ๋องมีเวลาครึ่งปี แล้วเ้าจะให้สัญญากับข้าโดยใช้เวลาครึ่งปีเหมือนกันได้หรือไม่"
ถังชิงหรูหันไปมองด้วยสีหน้างุนงง "ข้าไม่เข้าใจ"
น่าหลันหลิงทอยิ้มอย่างจนใจ เอื้อมมือมาลูบดวงหน้าน้อยของนาง "เ้ารู้หรือไม่ว่าตนเองแสนดีแค่ไหน ในโลกนี้หาได้มีเพียงแค่เฉินิที่ต้องพิษของเ้า ยังมีข้าอีกคน ั้แ่เมื่อไรมิอาจรู้ได้ ความรู้สึกของข้าที่มีต่อเ้าหาได้บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนเดิมอีกต่อไป ข้าไม่ชอบที่เ้าใกล้ชิดกับเฉินิเกินไป ยิ่งไม่อยากให้คนมากมายหมายปองเ้า หากเป็ไปได้ ข้าอยากซ่อนเ้าไว้ให้มิดชิด มีเพียงข้าคนเดียวที่ได้เห็น ถังชิงหรู ข้า... ชอบเ้า หากไม่พูดออกมา จากไปครานี้อาจไม่มีโอกาสอีกแล้ว ดังนั้นแม้ว่าจะถูกรังเกียจ ข้าก็อยากบอกให้เ้ารับรู้ ดังนั้น เ้าจะรอข้าอีกครึ่งปีได้หรือไม่ ในครึ่งปีนี้เ้าจะไม่รักใคร จะรอข้ากลับมา ให้ข้าได้มีโอกาสต่อสู้อย่างยุติธรรม"
ถังชิงหรูย้อนกลับไปนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ใน่หลายวันมานี้ นางมัวแต่ยุ่งอยู่กับการสะสมจิตพิสัยจรรยาแพทย์ทั้งวัน แต่ไรมามิเคยนึกถึงเื่ความรักชายหญิง ดังนั้นพอได้ยินคำกล่าวของเขา ก็เกิดความว้าวุ่นเล็กน้อย
"ข้า... ไม่เคยคิดเื่นี้มาก่อนเลย แต่ข้ารับปากท่าน ว่าภายในครึ่งปีนี้จะไม่รักใครอื่น" เพราะนางไม่คิดจะหาบุรุษที่นี่ คิดแต่ว่าจะได้กลับบ้านหรือไม่เท่านั้น
--------------------------------------------------------------------------------
[1] ป้าอ๋องขึ้นสายธนู หมายถึงการใช้กำลังหักหาญ ปัจจุบันใช้ในความหมายของการบังคับขืนใจ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้