“ฉันเคยช่วยชีวิตคนไว้เมื่อไรคะ ที่ไหน”
เมื่อสงสัยก็ควรถาม อีกทั้งซูอินรู้สึกว่าชายหนุ่มตรงหน้าไม่ใช่คนเลวร้าย เธอจึงถามออกไปตรงๆ
ฉินหล่างแทบสำลัก
ที่แท้…เธอก็ไม่ได้ใส่ใจเื่นี้เลยสินะ
เขาจำคำที่พูดออกมาตามประสาเด็กของเสี่ยวหรุยได้ “ผมถามชื่อของพี่สาวคนสวยแล้ว แต่พี่เขาไม่สนใจผม พอเห็นพนักงานของสระว่ายน้ำก็ส่งผมให้เขาก่อนที่จะว่ายน้ำไป”
เป็เด็กสาวที่สวยจริงๆ
ฉินหล่างมองหน้าซูอิน หลานชายของเขาสายตาแหลมคมจริงๆ
“เมื่อวันพฤหัสบดีของสัปดาห์ก่อนนู้น ที่สระว่ายน้ำเมืองผิง คงจะเป็่เย็นราวๆ ตอนนี้ เธอได้ช่วยเด็กผู้ชายที่สูงประมาณหนึ่งร้อยเิเกว่าๆ ลักษณะคล้ายกับฉัน”
มีเื่แบบนี้เกิดขึ้นด้วยหรือ
เธอพยายามทบทวนความจำ
จากเบาะแสมากมาย และการฟื้นความทรงจำที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจง ได้พัดฝุ่นหนาที่ปกคลุมความทรงจำออกไป ความทรงจำที่เลือนรางก็ค่อยๆ ชัดขึ้น
เมื่อวันอังคารของสัปดาห์ก่อนนู้น เป็วันที่ผลตรวจดีเอ็นเอออก ในที่สุดดาบแห่งดาโมเคิลส์ที่ลอยอยู่บนหัวก็ร่วงลงมาตัดภาพจินตนาการสุดท้ายของเธอ
อู๋อู๋ตะคอกอย่างแรง ไล่เธอออกจากตระกูลหลิง
เช้าวันพฤหัสบดีเธอยังคงไปโรงเรียนตามปกติ ตลอดทั้งวันจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว หลังเลิกเรียนเธอกลัวที่จะกลับไปที่บ้านหลังนั้น เผชิญหน้ากับพ่อแม่ที่เปลี่ยนไปและ้าไล่เธอออกจากบ้าน
เธอจึงไปที่สระว่ายน้ำในเมือง
สระว่ายน้ำนี้เพิ่งเปิดใหม่ ยังไม่ค่อยมีพนักงาน ในฝั่งของน้ำลึกมีแค่เธอคนเดียว
เธอแช่ตัวอยู่ในสระน้ำอุ่น การออกกำลังกายอย่างหนักช่วยให้เธอได้ระบายความหดหู่ใจ ต่อมาเธอเห็นน้ำกระเซ็นอยู่ข้างๆ
และต่อมา…
เหมือนกับว่าเธอจะช่วยเด็กคนนั้น ถ้าเช่นนั้น
มือที่มีสายน้ำเกลือติดอยู่ยกขึ้นทำท่าเหมือนอยู่ในสระว่ายน้ำ แล้วกางออกประมาณหนึ่ง “ก้อนกลมๆ ขนาดนี้ใช่มั้ยคะ”
ฉินหล่างรู้สึกคำว่า “ก้อน” ที่นำมาใช้เปรียบเปรยนี้ค่อนข้างใกล้เคียง เสี่ยวหรุยผิวขาว อ่อนนุ่ม ตัวเล็กเหมือนกับก้อนไดฟุกุ
“รูปร่างค่อนข้างใกล้เคียงกับที่เธอบอก”
เมื่อความทรงจำกลับมา รายละเอียดต่างๆ ก็ชัดเจนขึ้น เธอจ้องดวงตาสีนิลราวกับหินออบซิเดียนของชายหนุ่มตรงหน้า “ฉันนึกออกแล้ว เด็กคนนั้นมีดวงตาเหมือนกับคุณเลยค่ะ”
ฉินหล่างพยักหน้า
ไม่ผิด ทุกคนในตระกูลฉินต่างก็มีดวงตาเหมือนกัน
“จำได้แล้วใช่ไหม”
“อื้อ”
ฉินหล่างเปลี่ยนบทสนทนา “เธอช่วยเสี่ยวหรุย ครอบครัวของฉันขอบคุณเธอมาก”
“เท่าที่ฉันรู้ สถานการณ์ของเธอในตอนนี้…ไม่ค่อยดีนัก ขอถามสักหน่อย ตอนนี้เธอ้าความช่วยเหลืออะไรไหม”
เมื่อได้พูดจุดประสงค์ของตนเองออกไป ฉินหล่างก็รู้สึกโล่งใจ
ซูอินตกตะลึงก่อนหลุดปากถาม “คุณหมายถึง จะตอบแทนฉันหรือคะ”
ฉินหล่างรู้สึกถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของเธอ
ทั้งที่เมื่อกี้เธอมีท่าทีดีใจ แต่พอเขาบอกว่าจะชดเชยให้ จู่ๆ อารมณ์ของเธอก็ขุ่นมัว ชั่วขณะหนึ่งฉินหล่างรู้สึกถึงลมเหนือที่พัดผ่านมาจากไซบีเรีย เป็ลมเย็นที่เข้าถึงกระดูก
แน่นอนว่าซูอินโกรธมาก
ตอนนี้เธอเข้าใจต้นสายปลายเหตุทั้งหมดอย่างชัดเจนแล้ว
เด็กคนที่เธอช่วยชีวิตมีฐานะไม่ธรรมดา ครอบครัวของอีกฝ่าย้าตอบแทนเธอ จึงช่วยให้อู๋อู๋ได้รับโควตา และยังช่วยให้โรงแรมของหลิงจื้อเฉิงผ่านการยื่นขอเป็โรงแรมห้าดาว
นี่คือประเด็นหลัก แต่เมื่อมันหักเหมาทางเธอ สถานการณ์จึงเปลี่ยนไปเป็อีกแบบ
เป็เพราะผลประโยชน์ที่น่าอัศจรรย์เ่าั้ ตระกูลหลิงจึงทำทุกทางเพื่อรับเลี้ยงเธอ แต่หลังจากได้รับผลประโยชน์ ก็นึกขึ้นได้ว่าเธอไม่ใช่บุตรสาวแท้ๆ จึงปฏิบัติต่อเธออย่างเ็า
เมื่อเข้าใจเื่นี้แล้ว ซูอินก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า พวกเรามีความแค้นอะไรกันหรือ!
ใบหน้าหล่อเหลานั้น ตอนนี้ในสายตาเธอกลับเปลี่ยนเป็จืดชืดและน่ารังเกียจ
เพราะ “การตอบแทนที่หวังดี” ของเขา ทำให้เธอต้องทุกข์ทรมานเป็เวลากว่าสิบปีในชาติก่อน
่เวลาที่ยาวนานนั้น ความขุ่นเคืองในใจพุ่งสูงดังภูผา จนเธออดไม่ได้ที่จะโพล่งออกไป “ก่อนหน้านี้คุณให้โควตากับอู๋อู๋และช่วยเหลือโรงแรมของหลิงจื้อเฉิงให้ได้ยื่นเื่เป็โรงแรมห้าดาวด้วยใช่ไหมคะ”
เวลาอยู่บ้านอู๋อู๋ไม่ค่อยพูดถึงเื่งานจนกระทั่งหยางอวี้หลานบอกเธอโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งเธอไม่เคยรู้เื่นี้มาก่อน
ทว่าหลิงจื้อเฉิงเป็คนใส่ใจครอบครัวมาก เขาชอบพูดเื่งานกับคนในครอบครัว บนโต๊ะอาหารค่ำใน่สัปดาห์ก่อน เขาพูดเื่ที่กำลังยื่นเื่ขอเป็โรงแรมห้าดาว ซึ่งใกล้จะสำเร็จในเร็วๆ นี้
ตอนที่ฟังเื่โรงแรมห้าดาว ซูอินไม่ได้คิดถึงเื่นี้ แต่วันนี้เมื่อเธอเดาเื่ได้แล้ว ก็เชื่อมโยงสองเื่นี้เข้าด้วยกันอย่างมั่นใจ
“ใช่ไหมคะ”
แววตาเปล่งประกายของเธอมองเขา แต่รูม่านตาที่มืดมิดกลับมีเปลวไฟลุกโชน
ฉินหล่างเข้าใจแล้วว่าเหตุใดอารมณ์ของเธอถึงเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้
“เื่ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เพื่อความสะดวกฉันจึงไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด ขอโทษด้วย เป็ความเลินเล่อของฉันเอง”
เขาโค้งตัวเล็กน้อย คำขอโทษบนหน้าของเขาแสดงออกถึงความจริงใจ
ในเมื่อพลาดแล้วก็ช่างมันเถอะ เมื่อพบว่าผิดพลาดก็รีบแก้ไข แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ได้ทำผิด และเมื่อทำผิดก็ต้องรับผิดชอบ ไม่จำเป็ต้องอธิบาย
เขายอมรับผิดแล้ว
รูม่านตาของซูอินหดลง เธอควรต้องโกรธมากกว่านี้ แต่ไม่รู้ทำไมเธอกลับรู้สึกโล่งใจ
เธอไม่ได้เป็ไข้รุนแรง เมื่อน้ำเกลือและยาปฏิชีวนะถูกฉีดเข้าเส้นเื น้ำเกลือช่วยให้ไข้ลด แม้แต่อาการเวียนศีรษะก็ค่อยๆ หาย จิตใจเธอสดใสขึ้น
หากพูดด้วยเหตุผล เื่นี้ไม่ควรโทษฉินหล่าง
พอจะเข้าใจแล้ว เธอเป็เพียงเด็กมัธยมต้น แต่ละวันใช้ชีวิตอยู่แค่ที่โรงเรียนและที่บ้าน ต่อให้อีกฝ่าย้าตอบแทนก็ไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากตรงไหน สถานการณ์เช่นนี้ การตอบแทนบุญคุณโดยมอบแก่บิดามารดาที่เลี้ยงดูเธอมาอาจถือได้ว่าเป็ความคิดปกติของคนทั่วไป
หากเป็คนอื่น แต่มีสติสัมปชัญญะสักหน่อย การได้รับสิ่งดีๆ จากเธอ ไม่ว่าอย่างไรก็ควรปฏิบัติต่อเธอให้ดีสักหน่อยไม่ใช่หรือ
แต่สองสามีภรรยาตระกูลหลิงเป็คู่ที่แปลกประหลาด
แม้ว่าจะผ่านประสบการณ์มากมาย แต่ซูอินยังคงรักษาความเมตตาที่มีมาั้แ่แรกไว้
เธอไม่ควรโกรธ
หลังจากต่อสู้กับความคิดของตัวเองอย่างดุเดือด อีกทั้งเห็นใบหน้าที่จริงใจนี้ เธอก็เลือกที่จะใจเย็นลง แม้จะยังแอบรู้สึกไม่พอใจ แต่สักพักเหตุการณ์ที่หน้าประตูโรงเรียนก็ปรากฏขึ้นในความทรงจำอีกครั้ง สีหน้าของสองสามีภรรยาตระกูลหลิงเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า ดวงตาที่มองเธอเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
ท่าทีเช่นนั้นไม่เหมือนคนที่มีจิตใจกระฉับกระเฉงจากการได้รับผลประโยชน์อย่างราบรื่นเลยสักนิด
เมื่อรวมกับเหตุการณ์ที่หลิงจื้อเฉิงรีบกลับบ้านตอนเช้าเมื่อวาน แสดงให้เห็นว่าธุรกิจของพวกเขาน่าจะเกิดปัญหา
เธอมองคนตรงหน้าอีกครั้ง การให้โควตากับอู๋อู๋อาจใช้เส้นสายได้ ทว่าการที่โรงแรมของหลิงจื้อเฉิงยื่นเื่ขอเป็โรงแรมห้าดาวไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะสามารถเข้าแทรกแซงได้ง่ายๆ เื่นี้สามารถอธิบายได้คือ อาจเป็ฝีมือของเขา
การที่รู้เื่นี้ทำให้เธอมีความสุข แม้จะโกรธ แต่สุดท้ายก็ค่อยๆ หายไป
“ช่างเถอะ เพราะคุณก็ไม่ได้รู้เื่นี้”
เมื่อคิดอย่างถี่ถ้วน เธอก็เริ่มนึกถึงสิ่งตอบแทนที่อีกฝ่ายเสนอให้