“กระบี่บินของข้าเป็ของมือสอง! เ้าคิดว่าเซียนบ้านอื่นจะยอมขายกระบี่บินให้ข้ารึไง? ก็เป็เพราะว่ากำลังจะเสื่อมสภาพนี่แหละมันถึงได้ยอมทำการแลกเปลี่ยนน่ะ! เมื่อกี้ข้าอุตส่าห์ขู่ขวัญเนี่ยเทียนป้าไปได้ แต่เ้าดันเรียกมันกลับมา เ้าเป็ไส้ศึกที่เนี่ยเทียนป้าส่งมาหรือยังไง?” หวังเค่อแทบกระอักเืออกมาด้วยความรันทดใจ
กระบี่บินมือสองที่กำลังจะเสื่อมสภาพ? กระบี่บินเสื่อมสภาพได้ด้วย?
องค์หญิงโยวเยว่ จางเจิ้งเต้ามองดูกระบี่บินที่มีแต่รอยแตก ส่งเสียงปริร้าวและมีควันดำลอยขโมงแล้วก็แทบลมจับ
ยิ่งถูกลูกเตะเทพวายุของเนี่ยเทียนป้าเข้าไป รอยแตกบนตัวกระบี่ก็ยิ่งถี่ยิบขึ้นเป็เท่าตัว กระบี่บินสั่นเป็เ้าเข้า ทำท่าจะแตกกระจายได้ทุกชั่วขณะจิต
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า กระบี่บิน? นี่น่ะหรือกระบี่บิน? ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” จู่ๆ เนี่ยเทียนป้าก็หัวเราะลั่นออกมา
เดิมมันนึกว่าจะต้องตายแน่แล้ว เนี่ยเทียนป้ากระทั่งเตรียมใจลากคออีกฝ่ายลงเหวไปด้วยกันเลยด้วยซ้ำ แต่ใครจะไปคิด กระบี่บินเล่มนี้กลับดีแต่เปลือกนอกเสียอย่างนั้น? ขอเพียงใช้ลูกเตะเท้าเทพวายุของตนออกไปอีกสักครั้ง เชื่อว่ากระบี่ผุเล่มนี้จะต้องแตกกระจายไม่มีชิ้นดีอย่างแน่นอน
“ระ เร่งมือเข้า!” องค์หญิงโยวเยว่อุทานอย่างหวาดผวา
องค์หญิงโยวเยว่นึกอยากตบหน้าตัวเองสักฉาด เมื่อกี้ปล่อยให้เนี่ยเทียนป้าไปก็ดีอยู่แล้วมิใช่หรือ? ทำไมตนเองถึงต้องปากไม่มีหูรูดด้วย แล้วก็ หวังเค่อ! กระบี่บินที่กำลังจะเสื่อมสภาพของเ้าน่ะ ทำไมถึงไม่บอกกันแต่เนิ่นๆ เล่า!
องค์หญิงโยวเยว่กับจางเจิ้งเต้าสะกดอาการาเ็ก่อนโถมตัวเข้ามา
“ตูม ตูม!”
เนี่ยเทียนป้าพลิกฝ่ามือทั้งสองเป็กำปั้นแล้วต่อยออก องค์หญิงโยวเยว่ จางเจิ้งเต้าต่างก็ปลิวออกไปอีกครั้ง
“ไม่ต้องห่วง ไว้ข้าทำลายกระบี่บินนี่ได้เมื่อไหร่ค่อยไปเก็บกวาดพวกเ้าทีหลัง ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” เนี่ยเทียนป้าะเิหัวร่อ
ขณะกำลังหัวร่อมันก็ออกแรงไปที่เท้ามากขึ้นกว่าเดิม รอยแตกบนตัวกระบี่บินจึงยิ่งมายิ่งมาก ควันดำที่ลอยออกมายิ่งมายิ่งหนาทึบ ทำท่าจะพังมิพังแหล่อยู่แล้ว
“เนี่ยเทียนป้า หากเ้าไปเสียตอนนี้ ข้าจะให้โอกาสเ้า!” หวังเค่อเอ่ยเสียงต่ำ
“ไป? ฮ่าฮ่า หวังเค่อ เ้ากำลังฝันกลางวันอยู่รึไง? จะให้ข้าถอยไปตอนนี้ได้ยังไงไหว? วางใจเถอะ ประเดี๋ยวเ้าก็จะได้รู้ซึ้งถึงคำว่ามีชีวิตอยู่มิสู้ตกตายแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า ให้ไปตอนนี้เนี่ยนะ? ต่อให้ต้องตาย ข้าก็ไม่มีทางไปจากที่นี่แน่!” ขณะเนี่ยเทียนป้ากำลังหัวเราะชอบใจมันก็ลงน้ำหนักไปที่เท้ามากขึ้นอีก
“งั้นก็ตายเสียเถอะ!” หวังเค่อตวาดเสียงเย็น
แล้วจู่ๆ ก็มีเส้นแสงสีดำหลากหลายสายสาดวาบออกมาจากตัวกระบี่
“เ้าจะทำอะไร? เ้ากำลังทำอะไรของเ้า? เ้าจะให้กระบี่บินะเิตัวเองรึ? ไม่ ไม่ไม่ไม่ อย่า!” เนี่ยเทียนป้าร้องเสียงหลง
“ตูมม~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
กระบี่บินะเิออกอย่างกะทันหัน
แม้กระบี่บินเล่มนี้จะเป็ของมือสองที่กำลังจะเสื่อมสภาพ แต่ก็เป็เพราะความเสถียรของข่ายปราณที่อยู่ในกระบี่เกิดปัญหารวมไปถึงชิ้นส่วนวัสดุเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมา ต่อให้ภายในมีพลังน้อยกว่าที่ควรจะเป็อยู่มาก แต่ถึงอย่างไรก็ยังคงเป็กระบี่บิน! การะเิตัวเองในครั้งนี้จะมีอานุภาพน่าขนลุกเพียงใดแก่เนี่ยเทียนป้าที่อยู่ในระยะเผาขนเสียปานนั้น
เสียงะเิกึกก้องกัมปนาทปานอสนี์ฟาดผ่าลงสู่พื้นพิภพ เปลวเพลิงลามเลียท้องฟ้า วัดโบราณเก่าผุส่งเสียงดังคราหนึ่งก่อนจะถล่มลงมาทั้งแถบ องค์พระพุทธรูปเก่าผุแตกกระจาย
ที่สุดขอบการะเิ จางเจิ้งเต้าและองค์หญิงโยวเยว่ร้องโหยหวน พวกมันถูกแรงอัดอากาศกระแทกจนลอยละลิ่ว ทั้งสองแม้จะกระอักเืออกมาแต่สุดท้ายก็ยังมีลมหายใจอยู่
ฝุ่นควันตลบอบอวลไปรอบทิศทาง วัดเก่าพังครืน เนี่ยเทียนป้าผู้อยู่ตรงจุดศูนย์กลางของการะเิเป็คนแรกที่รับแรงปะทะ พื้นตรงหน้าะเิออกเป็แอ่งกระทะขนาดใหญ่รายล้อมด้วยพื้นที่ไหม้เกรียม เนี่ยเทียนป้าไหม้เป็ตอตะโกไปทั้งตัว เืเนื้อแหลกเละเลอะเทอะ ไม่เหลือลมหายใจอีก
อีกฟากหนึ่ง ตรงหน้าของหวังเค่อกลับมีโล่วิเศษขนาดใหญ่ตั้งขวางไว้ คุ้มกันหวังเค่ออย่างสมบูรณ์
เมื่อฝุ่นควันจางหาย หวังเค่อก็เก็บโล่ลงไป จากนั้นก็เข้าไปตรวจดูศพของเนี่ยเทียนป้าทันที หลังจากที่ยืนยันอยู่หลายครั้งจนแน่ใจว่าอีกฝ่ายตายไปแล้วจริงๆ จึงค่อยวางใจในที่สุด
“บอกให้ไปเ้าก็ดื้อด้านไม่ยอมไปเอง ดึงดันจะอวดกร่างให้ได้ แล้วเป็อย่างไรล่ะ ตัวเ้ากลายเป็ปุ๋ยนั้นช่างปะไร แต่ข้าต้องมาเสียกระบี่บินไปเพราะเ้าด้วยนี่สิ บิดาใช้ศิลาิญญาแปดพันชั่งซื้อหามาเชียวนะ ศิลาิญญาแปดพันชั่ง! เ้าลูกตัวบัดซบเอ๊ย ถุ้ย!” หวังเค่อที่ยังแค้นใจไม่หายถ่มน้ำลายใส่เนี่ยเทียนป้าไปทีหนึ่ง
เสร็จแล้วถึงค่อยหันมาทางองค์หญิงโยวเยว่
“องค์หญิง ท่านไม่เป็ไรนะ?” หวังเค่อมององค์หญิงโยวเยว่ที่อยู่ไม่ห่างออกไปเท่าใด
องค์หญิงโยวเยว่ตะเกียกตะกายขึ้นมายืนแล้ว นางปาดเช็ดเืที่ติดอยู่ตรงมุมปากก่อนเอ่ยอย่างหัวเสีย “หวังเค่อ เ้าจะะเิกระบี่บินทั้งทีทำไมถึงไม่บอกกันสักคำ! ทำไมถึงไม่บอกกันบ้า-พรวด!”
“ก่อนอื่นท่านใช้ผ้าของข้าเช็ดเืก่อนเถอะ ท่านยังโมโหได้เช่นนี้ แสดงว่าอาการาเ็ของท่านไม่ได้ร้ายแรงอะไร เมื่อกี้ท่านเองก็เห็นอยู่ว่าหากข้าเตือนท่านก่อน เกิดเนี่ยเทียนป้าไหวตัวทันขึ้นมาจนไม่ตายไปพร้อมกับการะเิ พวกเรามีหวังได้จบเห่กันพอดี!” หวังเค่ออธิบาย
องค์หญิงโยว่เยว่นิ่งไป ที่ว่ามามันก็จริง
“ฮึ่ม! ครั้งนี้ถือว่าแล้วไป!” องค์หญิงโยวเยว่เช็ดเืตรงมุมปากอย่างหดหู่
“องค์หญิงโยวเยว่ เป็เพราะข้าช่วยชีวิตท่านในครั้งนี้ข้าก็เลยต้องขาดทุนป่นปี้ กระบี่บินของข้ามีราคาถึงแปดพันชั่ง เพราะฉะนั้นท่านจะต้องปลดผนึกบนกำไลมิติแล้วชดใช้คืนให้ข้าด้วย!” หวังเค่อยิ้มกล่าว
องค์หญิงโยวเยว่ “…!”
องค์หญิงโยวเยว่เคยเป็ถึงองค์หญิง เคยพบเห็นเงินกองเป็พะเนินมาแล้ว ดังนั้นเงินแค่แปดพันชั่งย่อมไม่อยู่ในสายตานาง แต่นี่เป็ครั้งแรกที่นางโดนหวังเค่อทวงหนี้กันโต้งๆ
“พี่หวัง ไอ๊หยา ข้าเจ็บจะตายอยู่แล้ว!” เสียงร้องโหยหวนของจางเจิ้งเต้าดังขึ้นไม่ไกลออกไป
หวังเค่อเดินเข้าไปตรวจดูเห็นจางเจิ้งเต้ากำลังนอนคลุกฝุ่น สารรูปน่าอดสูนัก
“ไม่ต้องมาเล่นละคร ถุงมิติของเนี่ยเทียนป้าเมื่อกี้นี้หายไปไหนแล้ว? ไหนจะมีดเล่มนั้นของมันอีก รีบส่งมาให้ข้าเดี๋ยวนี้!” หวังเค่อยื่นมือรอ
“พี่หวัง นี่ท่านยังมีจิตสำนึกอยู่หรือไม่! ทั้งที่ก็เห็นอยู่แล้วว่าข้าเจ็บหนักแต่ท่านก็ยังไม่ละเว้น?” จางเจิ้งเต้าเอ่ยอย่างชอกช้ำ
องค์หญิงโยวเยว่ที่อยู่ไม่ไกลออกไปมีสีหน้าเห็นใจ ตั้งท่าจะเปิดปากวิจารณ์ถึงความใจจืดใจดำของหวังเค่อ
“จะให้ข้าลงมือเองว่างั้น? ถึงตอนนั้นของทุกอย่างที่ข้าหาเจอจะตกเป็ของข้าทั้งหมด ตกลงนะ?” หวังเค่อเอ่ยเสียงต่ำ
ใบหน้าของจางเจิ้งเต้าเปลี่ยนเป็แข็งทื่อ รีบยื่นถุงมิติที่ซ่อนอยู่ในอกให้หวังเค่อ ทั้งยังลุกขึ้นปัดฝุ่นตามตัวอย่างคล่องแคล่วว่องไว ราวกับว่าไม่ได้าเ็อะไรเลยสักนิด
จางเจิ้งเต้าแค่แสร้งทำตัวน่าสงสาร?
องค์หญิงโยวเยว่ที่ยืนไม่ไกลออกไปหน้าแข็งค้าง เกือบต้องกระอักเืออกมาอีกรอบเพราะความหดหู่ระทดใจ นางช่างน่าสงสารเหลือเกิน ทำไมเมื่อกี้ถึงต้องไปเห็นใจเ้าคนที่เล่นละครเรียกน้ำตานั่นด้วย! จางเจิ้งเต้าผู้นี้หน้าไม่อายเกินไปแล้ว!
หวังเค่อไม่เก็บมาใส่ใจ มันตรวจดูถุงมิติของเนี่ยเทียนป้าอย่างละเอียด
“พี่หวัง นี่ท่านไม่เชื่อข้าบ้างเลยรึ?” จางเจิ้งเต้าถามอย่างหดหู่
“มือเท้าเ้าไม่เคยสะอาด เพราะงั้นข้าก็ต้องตรวจดูอยู่แล้ว!” หวังเค่อไม่ไว้หน้ากันเลยสักนิด
จางเจิ้งเต้า “…!”
หวังเค่อรื้อค้นถุงเก็บของอยู่นาน เมื่อนั้นจึงจะสาแก่ใจ ส่วนที่ว่าด้านในมีของวิเศษอะไรอยู่บ้าง หวังเค่อย่อมไม่นำออกมาให้ใครดู เพียงแต่เก็บถุงมิติเข้าอกเสื้อไปอย่างเร็วจี๋ จากนั้นก็นำแค่ป้ายคำสั่งสีทองออกมาแผ่นหนึ่ง
“หือ? ในถุงมิติของเนี่ยเทียนป้ามีป้ายคำสั่งอีกาทองคำอยู่ด้วย? นี่มันเื่อะไรกัน?” จางเจิ้งเต้าอุทาน
“ป้ายคำสั่งอีกาทองคำ?” หวังเค่อถามอย่างเคลือบแคลง
“ป้ายคำสั่งอีกาทองคำ เห็นป้ายนี้ก็เหมือนเห็นประมุขพรรคอีกาทองคำ แม้จะไม่สามารถถ่ายทอดคำสั่งในนามของพรรค แต่ศิษย์พรรคอีกาทองคำคนไหนก็ไม่อาจสร้างความลำบากแก่ผู้ถือป้ายโดยเด็ดขาด! เนี่ยเทียนป้ามีสิ่งนี้อยู่ได้อย่างไร?” จางเจิ้งเต้าถามอย่างแปลกใจ
“ศิษย์พรรคอีกาทองคำจะต้องเป็ผู้ที่มอบให้มันเพื่ออำนวยความสะดวกในการค้นหาตัวพวกเรา!” หวังเค่อวิเคราะห์ออกมาได้ในทันที
“เพื่อที่จะจับตัวองค์หญิงโยวเยว่ แม้แต่ป้ายคำสั่งอีกาทองคำก็ยังยกให้คนอื่นได้ตามใจชอบ?” จางเจิ้งเต้าอุทาน
“ป้ายคำสั่งอีกาทองคำ? มีป้ายอีกาทองคำก็ประเสริฐ! ตอนนี้พวกเราไม่จำเป็ต้องหลบซ่อนตัวกันอีกแล้ว เรามาเดินอาดๆ ไปยังพรรคเทพหมาป่า์กันเลยเถอะ!” หวังเค่อตาลุกวาว
“โอ้?” สีหน้าของคนทั้งสองผ่องใสขึ้นมาทันที
“การแปลงโฉมของพวกเรานับว่าประสบความสำเร็จ หากไม่ใช่เป็เพราะว่าการร่วมมืออันแสนสมบูรณ์แบบของพวกเ้าทั้งสองคนเมื่อครู่ แม้แต่เนี่ยเทียนป้าก็ยังจำพวกเราไม่ได้เลย ดังนั้นคนที่เหลือเองก็ยากจะจำพวกเราได้ อีกอย่างหนึ่ง ต่อให้ศิษย์พรรคอีกาทองคำและผู้ฝึกฌานจากเมืองจูเซียนปิดเส้นทางไปพรรคเทพหมาป่า์ไว้ แต่เป็เพราะพวกเรามีป้ายอีกาทองคำ ดังนั้นนับว่าผ่านฉลุย!” หวังเค่อหัวเราะอย่างร่าเริง
“จริงด้วย!” ทั้งสองตาลุกวาวกันทันใด
“ไป รีบไปกันดีกว่า!” องค์หญิงโยวเยว่เอ่ยอย่างคาดหวัง
“ช้าก่อน!” จู่ๆ หวังเค่อก็รั้งคนทั้งสองไว้
“ยังต้องทำอะไรอีกงั้นหรือ?” องค์หญิงโยวเยว่ถามอย่างไม่เข้าใจ
“องค์หญิงโยวเยว่ ท่านรักษาาแก่อนเถิด จางเจิ้งเต้า เ้าไปฝังศพเนี่ยเทียนป้าซะ! ก่อนอื่นต้องเช็ดล้างบั้นท้ายให้สะอาดเสียก่อน!” หวังเค่อสั่งการ
“อะไรนะ? ทำไมข้าต้องทำด้วย?” จางเจิ้งเต้าเผยสีหน้าไม่ยินยอมพร้อมใจ
หวังเค่อหน้าดำทะมึน “เมื่อกี้เป็เพราะพวกเ้าสองคนทำพลาด ข้าก็เลยต้องสละกระบี่บินของข้าไป กระบี่บินที่มีราคาค่างวดถึงแปดพันชั่ง เดิมข้าตั้งใจจะให้องค์หญิงโยวเยว่ใช้เงินคืนข้ามาคนเดียว หรือว่าเ้าอยากจะช่วยนางดีล่ะ?”
ใบหน้าของจางเจิ้งเต้าแข็งทื่อไปในทันใด “พี่หวัง อย่ามาคุยเื่เงินทองกับข้าจะดีกว่า ข้าล่ะทนไม่ได้จริงๆ เวลาที่มีคนมาคุยเื่เงินทองกับข้า! ตัวข้านั้นชอบการขุดหลุมฝังศพเป็ชีวิตจิตใจ! ท่านมาหาข้า นับว่ามาหาได้ถูกคนแล้ว!”
เพื่อที่จะไม่คืนเงิน จางเจิ้งเต้าพูดไปก็เดินไปขุดหลุมฝังศพให้เนี่ยเทียนป้าอย่างหน้าด้าน
องค์หญิงโยวเยว่ “…!”
ไม่นานศพของเนี่ยเทียนป้าก็ถูกฝังกลบอยู่ข้างเศษซากที่เคยเป็วัดเก่ามาก่อน
คณะของคนทั้งสามจัดการเก็บกวาดพื้นที่โดยรอบอย่างรวบรัด เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีร่องรอยเบาะแสอันใดเหลืออยู่ก็จัดแต่งรูปลักษณ์ให้เข้าที่เข้าทาง จากนั้นก็ออกเดินทางกันอีกครั้ง
เมื่อมีป้ายคำสั่งอีกาทองคำ คนทั้งสามก็เร่งความเร็วมุ่งหน้าตรงไปทางพรรคเทพหมาป่า์ แน่นอนว่าครั้งนี้หวังเค่อไม่มีทางปล่อยให้องค์หญิงโยวเยว่เป็ผู้นำทางอีก มันจึงเป็คนนำคนทั้งสองมุ่งหน้าเดินทางกันอย่างเต็มกำลัง
วันที่สองนับแต่ที่คนทั้งสามผละไป จู่ๆ ก็มีแสงสีโลหิตลุกวาวออกมาจากภายในซากสถานของวัดสะกดมาร ราวกับมีเืเจ่อนองผุดออกมาจากใต้ดิน ไหลซึมเข้าสู่จุดที่กลบฝังร่างของเนี่ยเทียนป้าเอาไว้
“ฟุ่บ!”
มือข้างหนึ่งแทงทะลุผิวดินออกมาอย่างกะทันหัน จากนั้นก็มีศพคลานตามออกมา เป็คนผู้หนึ่ง ซึ่งนั่นก็คือเนี่ยเทียนป้า
ไม่ใช่ว่าเนี่ยเทียนป้าตายไปแล้วหรือ?
เนี่ยเทียนป้าในตอนนี้นั่งอยู่บนแอ่งโคลน ตรงหว่างคิ้วมีเืติดอยู่แต้มหนึ่ง ดูไปคล้ายหนอนแมลงบางอย่างที่กำลังค่อยๆ มุดตัวเข้าไปในหว่างคิ้วของเนี่ยเทียนป้าจนท้ายที่สุดก็หายลับไป
ร่างของเนี่ยเทียนป้าสะท้านขึ้นมาเฮือกหนึ่ง จากนั้นมันค่อยดูคล้ายได้สติกลับคืนก่อนกวาดสายตามองไปรอบๆ อย่างเหม่อลอย
“ข้า? ข้าเนี่ยเทียนป้ายังมีชีวิตอยู่? แรงะเิจากกระบี่บินของหวังเค่อไม่ได้คร่าชีวิตข้าไปหรอกหรือนี่?” เนี่ยเทียนป้าปีนออกมาจากหลุมอย่างเหม่อๆ
เนี่ยเทียนป้าที่ปีนออกมาจากหลุมเนื้อตัวดำเมี่ยม ดูอ่อนแรงอย่างถึงที่สุด มันสอดส่ายสายตาไปรอบตัว คนยืนยังแทบยืนไม่อยู่ หลังจากเดินเอนไปเอียงมาอยู่สักพักไม่นานร่างของมันก็กลืนหายไปในป่าเขา
อีกสามวันถัดมาก็มีหลวงจีนอายุน้อยรูปหนึ่งห่มจีวรสีแดงเดินตรงมายังซากสถานแห่งนี้ ในมือของหลวงจีนรวบกำลูกปะคำสีแดงสดเอาไว้แถวหนึ่ง มันจ้องมองวัดสะกดมารตรงหน้าที่เหลือแต่ซากอยู่นานก่อนที่กล้ามเนื้อบนหน้าจะกระตุกขึ้น
“อมิตาภพุทธ! พระสงฆ์องค์เ้า ข้าออกไปได้ไม่ถึงเดือนก็มีคนมาะเิวัดที่ข้ากำลังพิทักษ์อยู่เสียแล้ว? ใคร? มันเป็ใคร? เป็พวกปัญญาทึบเหล่าไหนกันแน่? แน่จริงก็ทิ้งชื่อเอาไว้ซี! วัดเก่าๆ ที่แม้แต่มุสิกแก่หง่อมยังต้องหิ้วท้องกลับออกไปเ้าก็ยังไม่ละเว้น? เ้าคิดว่านี่เป็บ้านของเ้าหรืออย่างไร? ใจของเ้ายังมีศีลธรรมอยู่บ้างไหม? แล้วจากนี้ไปข้าจะไปซุกหัวนอนอยู่ที่ใด? อมิตาภพุทธ จงอย่ามีโทสะ จงอย่าละเมิดพระธรรมคำสอน ตะ แต่ มารดามันเถอะ ใครทนได้ก็บ้าแล้ว! เ้าพังวัดเก่าหลังนี้ คนที่ต้องรับโทษกลับเป็ข้า! องค์พระพุทธรูปพังแล้ว มารโลหิตที่ถูกสะกดไว้หลบหนีออกมาแล้ว สิบหมื่นมหาบรรพตกำลังจะเกิดเื่ร้ายแรง! ข้าจะกลับไปอธิบายต่อท่านเ้าคณะอย่างไรดี? นี่ นี่เป็การบีบคั้นให้ข้าหอบหิ้วปลาบักฮื้อหนีไปแท้ๆ เชียว!” หลวงจีนชุดแดงแทบจะเต้นผางอยู่รอมร่อ
