“อืม ใช่” ไป๋ชิงไม่แม้แต่จะมองฟางจื้อิเธอยิ้มและโบกมือให้เพื่อนสมัยเรียนที่อยู่ริมหาด
ทันใดนั้นฟางจื้อิก็รู้สึกหดหู่เขาเ็ปเหมือนกับถูกลูกธนูปักอกเป็หมื่นดอก
เขาใช้เวลาสามเดือนเล่นกล้ามอย่างหนักเพื่อเอามาโชว์ไป๋ชิงในงานเลี้ยงรุ่นแต่ผลที่ได้คือไป๋ชิงไม่ตอบสนองอะไรเลย ทำให้ฟางจื้อิช้ำใจอย่างหนัก
เขาหดหู่และสงสัยว่าควรจะโชว์พวกกล้ามเนื้อสะโพกกล้ามเนื้อหลัง และกล้ามเนื้อน้องชายให้ไป๋ชิงดูดีหรือเปล่ามันอาจจะดึงความสนใจเธอก็ได้ ทันใดนั้นถังน้ำเย็นทะลุกระดูกก็สาดเข้ามาที่เขามันระทึกเหมือนกับไอซ์บักเกตชาเลนจ์ ฟางจื้อิไม่ได้ตั้งตัวจึงใมากจนะโร้องโหยหวนอย่างต่อเนื่อง
“แว้ก...ฉินเฟิง แกบ้าหรือเปล่า? เอาน้ำเย็นมาสาดทำไมวะ?”ปอดของฟางจื้อิเกือบจะะเิด้วยความโกรธเขาเห็นฉินเฟิงกำลังหัวเราะร่ามีความสุข “ฮ่าๆๆ โดนเล่นเข้าแล้วไงล่ะโดนเล่นเข้าแล้ว หืม? นายเอาอะไรมาทาตัวเนี่ย? ทำไมต้องทาน้ำมัน? ขยะแขยงออก”
ฟางจื้อิรีบดูที่ตัวและพบว่าน้ำมันที่ทามาอย่างดีถูกน้ำล้างหายไปแล้วมันผ่านส่วนต่างๆ ของร่างกายแบบไม่สม่ำเสมอรูปร่างที่แท้จริงของเขาก่อนที่จะทาถูกเปิดเผยออกมาทันทีและเปลี่ยนจากนักกล้ามเป็คนอกไก่
“ว้าย! ดูสิ! กล้ามบนตัวของฟางจื้อิไปไหนแล้ว? ตอนแรกเขาเต็มไปด้วยกล้ามกับซิกแพคอยู่เลยทำไมมันไม่เด่นแล้วล่ะ?”
“ว้าว...ดูแฟนของไป๋ชิงสิ เขาก็ดีเหมือนกันนะไม่สงสัยเลยว่าทำไมไป๋ชิงถึงตกหลุมรักไอ้ขี้แพ้นั่น ดูๆแล้วเขาเรียกว่าลูกผู้ชายได้เลยนะเนี่ย เธอต้องอยู่กับเขาเพราะเขาถึกทนนานแน่เลย”
เนื่องจากฉินเฟิงยืนอยู่กับไป๋ชิงก่อนหน้านี้ทุกคนมองแต่ไป๋ชิงและไม่ได้สนใจฉินเฟิงตอนนี้สายตาของพวกเขาจ้องไปที่ร่างของฉินเฟิงพวกเขาพบว่ากล้ามบนร่างของเขานั้นงดงามมาก
กล้ามอกของเขานั้นแน่นปึ้กกว่าหน้าอกของพวกผู้หญิงบนชายหาดไปกว่าครึ่งแม้ว่าแขนของเขาจะปล่อยไว้สบายๆ ตรงต้นขา แต่กล้ามของเขาก็ยังแน่นเปรี๊ยะท้องของเขาเต็มไปด้วยมัดกล้าม และเห็นได้ว่ามี 12 แพคกล้ามขาและน่องก็แข็งตึง
แม้ว่าฉินเฟิงจะมีกล้ามแต่มันก็ไม่ได้ปูดออกมาไม่เหมือนอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ที่มีกล้ามไม่เสมอกันจากการฉีดฮอร์โมนกล้ามของฉินเฟิงเข้ากันอย่างมากและมีลายเส้นที่สมบูรณ์แบบเนื่องจากกล้ามของเขาได้มาจากการฝึกและออกกำลังกายขณะที่ฟางจื้อิมีไว้เพื่อโชว์ กล้ามของฟางจื้อิทำจนนาทีสุดท้ายจึงเทียบไม่ได้กับฉินเฟิง
และตอนนี้ฉินเฟิงกำลังใส่เกราะับินอยู่เขาทำให้มันล่องหนอยู่จึงมองไม่เห็น แต่ว่าน้ำหนัก 300 ชั่งก็ยังกดทับบนตัวของฉินเฟิงทำให้แม้ว่าจะยืนเฉยๆ กล้ามทุกสัดส่วนบนร่างกายก็ยังแน่นเปรี๊ยะอย่างเป็ธรรมชาติ
ทุกคนที่มางานเลี้ยงรุ่นมองฉินเฟิงเมื่อฉินเฟิงกับฟางจื้อิยืนอยู่ข้างกัน คนหนึ่งสูงล่ำตัวตรงขณะที่อีกคนตัวงอหลังถูกสาดน้ำและมีพุงหน่อยๆ
เห็นได้ว่าฟางจื้อิกลายเป็หมาตกน้ำไปแล้วต่างจากท่าทีโอ่อ่าฮึกเหิมในตอนแรกไปหลายขุม
“ฉินเฟิงรอก่อนเถอะ มันไม่จบง่ายๆ แน่!” ฟางจื้อิไม่มีหน้าจะอยู่ต่อเขาวิ่งออกไปหลังพูดเสียงต่ำด้วยท่าทีโมโห
“ฮะ? ทำไมจู่ๆ มันถึงออกไปล่ะ? ไม่บ่อยนะที่จะได้อยู่ด้วยกันในวันหยุดทำไมถึงไม่อยู่สนุกกับทุกคนกันนะ? แปลกจริงๆ”ฉินเฟิงส่ายหัวให้กับหลังของฟางจื้อิด้วยความผิดหวัง
สายตาของไป๋ชิงจับจ้องไปที่ร่างของฉินเฟิงที่เธอไม่สนใจกล้ามของฟางจื้อิก็เพราะกล้ามของฉินเฟิงที่อยู่ในสายตาทำให้เธอมีภูมิคุ้มกันกับกล้ามของคนอื่น“ฉินเฟิง คุณนี่เหลือร้ายจริงๆ”
“ขอบคุณที่ชม!” ฉินเฟิงโอบไป๋ชิงด้วยรอยยิ้มและเดินไปที่ริมหาด
หลังจากเล่นน้ำอยู่ริมหาดกับไป๋ชิงและเพื่อนสมัยเรียนของเธอสักพักฉินเฟิงก็เริ่มเบื่อ เขาพาไป๋ชิงไปเล่นเวคบอร์ดด้วยกัน
แต่ก่อนฉินเฟิงใช้เวลาเดือนกว่าในบ้านพักตากอากาศทุกฤดูร้อนเขาชอบเล่นเวคบอร์ดมากจนเป็ปรมาจารย์
“ไม่ ฉันไม่ไป ฉันเล่นไม่เป็ มันดูน่ากลัว” แค่ได้มองคนหลายคนที่กำลังเล่นเวคบอร์ดบริเวณทะเลลึกก็ทำให้ไป๋ชิงใแล้ว
ฉินเฟิงอุ้มไป๋ชิงเหมือนเ้าหญิงและพาเธอไปที่เรือ“กลัวอะไรล่ะ? ตราบใดที่ยังมีผมคอยปกป้องก็ไม่มีอะไรต้องกลัว”
“เถ้าแก่ ไปไหม?”
มีชายสองคนนั่งอยู่ในเรือยอชท์พวกเขาใส่หมวกฟางที่ปิดหน้าเกือบทั้งหมด ไม่ได้เงยหัวขึ้นเลยกลับเอาแต่ก้มหน้าตลอด หนึ่งในนั้นพูดเสียงต่ำ “ไป!”
เรือแล่นออกไปไวขึ้นและไวขึ้น!
เนื่องจากไป๋ชิงกลัวเกินที่จะขึ้นเวคบอร์ดด้วยตัวเองฉินเฟิงจึงขึ้นบอร์ดกับเธอ มือหนึ่งของเขาจับเชือกที่ผูกติดกับหลังเรือส่วนอีกมือหนึ่งกอดไป๋ชิงเพื่อไม่ให้เธอตกลงไปถึงอย่างนั้นไป๋ชิงก็ยังรู้สึกถึงลมทะเลที่หวีดผ่านหูและน้ำทะเลเย็นๆที่กระเด็นเข้ามา เธอยังใจนกรีดร้องออกมาโดยที่ไม่กล้าแม้แต่จะลืมตา
ครั้งนี้ฉินเฟิงแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย!
เขายืนกรานที่จะพาไป๋ชิงไปเล่นเวคบอร์ดด้วยเหตุผลง่ายๆคืออยากอยู่ใกล้ชิดกับไป๋ชิงและรู้สึกถึงความอ่อนนุ่มของตัวเธอนั่นเอง
“เถ้าแก่ เร็วอีก!” ฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม
“ได้” ชายสองคนในเรือไม่เคยเงยหน้าขึ้นมา พวกเขาเร่งเครื่องอีกครั้ง
เรือเหมือนกับลูกศรที่พุ่งออกจากคันธนูมันไวมากจนเกือบจะบิน ไป๋ชิงที่ยืนอยู่บนเวคบอร์ดรู้สึกสั่นไปทั่วร่างมันตื่นเต้นกว่ารถไฟเหาะตั้งสิบกว่าเท่า
“ฉินเฟิง ไม่ไหวแล้ว ฉันทนไม่ไหวแล้ว” ฉินเฟิงไม่ได้พูดอะไรครั้งนี้ไป๋ชิงเป็เหมือนกับปลาหมึกเกาะติดเขาแน่น
หนึ่งในแขนของฉินเฟิงประคองไป๋ชิงโดยการดันก้นของเธอ“ไม่เป็ไรน่า ไม่เป็ไร ถ้าคุณทนไม่ไหวก็แค่ร้องออกมาเลย”
หลังจากนั้นไป๋ชิงก็กรีดร้องเหมือนกับโลมาใส่หูของฉินเฟิงเขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าถ้าไป๋ชิงขึ้นเตียงกับเขาคืนนี้ มันคงจะดีไม่น้อยถ้าเธอเสียงดังแบบนี้บนเตียงด้วยเหมือนกัน
“พี่เพลิง ดูสาวสวยชุดบิกินีนั่นสิ” มีกลุ่มคนที่กำลังเล่นเวคบอร์ดไม่ไกลจากฉินเฟิงเมื่อพวกเขาเห็นฉินเฟิงและไป๋ชิงเข้าร่วมด้วย บางคนก็ะโด้วยความประหลาดใจ
พวกเขามีสิบกว่าคนมีสามคนกำลังเล่นเวคบอร์ด ขณะที่คนอื่นๆ กำลังนั่งในเรือตอนนี้พวกเขาทุกคนมองไปข้างหลังเมื่อพวกเขาเห็นไป๋ชิงที่อยู่ในอ้อมแขนของฉินเฟิงต่างก็อิจฉาตาร้อน