มือปราบหลี่ให้ลูกน้องสามคน จับตัวสตรีร่างท้วมไปที่ศาลาว่าการ พร้อมกับเด็กสองคนที่แทบจะไม่มีแรงเดินไปพร้อมกัน “ไปได้แล้วคำพูดของเ้า ไว้พูดต่อหน้าท่านเ้าเมืองก็แล้วกัน”
“มะ มะ ไม่ไป ข้าไม่อยากไปปล่อยข้านะท่านมือปราบ ข้าไม่ได้ทำอะไรผิดพวกเด็กนั่นเป็หลานของข้าจริง ๆ”
“หึ คิดจะกลับคำตอนนี้ มันสายเกินไปแล้วนางป้าสารเลว” อวี้จิ่นยังะโตามหลังไม่หยุด
“เอาล่ะ ๆ จิ่นเอ๋อร์ ตอนนี้มือปราบก็พาตัวนางไปแล้ว พวกเราก็ตามไปที่ว่าการเถิด จะได้พิสูจน์ว่านางทำผิดจริง รอฟังผลการขุดดินด้านหลังจวนของเศรษฐีเย่านั่นด้วย วันนี้คนทำผิดไม่มีทางหนีรอดโทษทัณฑ์ไปได้แน่” ฟู่หลงเหยียนต้องรีบห้ามอวี้จิ่นอีกครั้ง เมื่อนาง
ยังโมโหสตรีร่างท้วมนั่น
“เ้าค่ะ แต่ว่าจากนี้ไปข้าคงต้องบำรุงร่างกายให้มากกว่านี้ จะได้มีเรี่ยวแรงยามต้องทะเลาะ เอ๊ย!! ไม่ใช่ ๆ ต้องเป็ยามที่ปกป้องคนดีเ้าค่ะ ดูสิเ้าคะตีไปแค่ไม่กี่ทีก็แดงไปหมด เฮ้อ” อวี้จิ่นบ่นเรื่อยเปื่อยแต่คนที่ยังไม่ยอมปล่อยมือกลับคิดต่างออกไป
“พี่เห็นด้วย เ้าต้องบำรุงให้น้ำหนักตัวเพิ่มอีกหลายจินเชียวล่ะ แต่ต่อไปอย่าลงมือทุบตีเองเช่นนี้อีก สั่งให้เฉินอิ่นหรือสองคนนั่นลงมือแทน หากครั้งหน้าจิ่นเอ๋อร์ยังทำให้ตนเองต้องเจ็บตัวอีกละก็พี่จะลงโทษเ้า” ฟู่หลงเหยียนทั้งเตือนและคาดโทษกับอวี้จิ่นไว้ล่วงหน้า จะจริงหรือไม่จริงยังไม่อาจรู้ได้
“...!!??”
‘ฮึ พี่ชายฟู่ ท่านจะมีเวลาว่างมาลงโทษข้าได้อย่างไร นอกเสียจากว่าท่านจะส่งคนคอยติดตามจับตาดูข้าเท่านั้น’
ฟู่หลงเหยียนแอบมองร่างบาง ที่เขาจับมือเอาไว้ให้เดินตามนางกำลังใช้ความคิดอะไรบางอย่าง เมื่อได้ยินว่าเขาจะลงโทษในครั้งหน้า แต่สีหน้าเ้าเล่ห์นั่นจะรอดพ้นสายตาอันคมกริบดั่งพญาอินทรีไปได้อย่างไร เพราะฟู่หลงเหยียนเตรียมแผนไว้เรียบร้อยแล้ว
เมื่อทั้งสองมาถึงศาลาว่าการ ใต้เท้าตันฮุ่ยได้ออกมารับเื่ และกำลังเริ่มไต่สวนสตรีผู้นั้น โดยด้านข้างมีท่านหมอประจำของที่นี่ ช่วยตรวจร่างกายให้กับเด็กสองคนพี่น้องใกล้จะเสร็จแล้ว
“คารวะใต้เท้าฟู่ เชิญนั่ง” เ้าเมืองตันฮุ่ยทำความเคารพฟู่หลงเหยียนด้วยความนอบน้อม
“เชิญท่านเ้าเมืองไต่สวนต่อเถิด ข้าแค่พาคนที่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำผิด ของสตรีที่นั่งคุกเข่าอยู่มาส่ง ท่านลองสอบถามนางดูก็แล้วกันว่าเื่ราวเป็มาอย่างไร ข้าจะนั่งชมอยู่เฉย ๆ ไม่ยุ่งกับการตัดสินของท่านแน่นอน” ถึงจะแค่นั่งอยู่ในห้องไต่สวน ใต้เท้าตันฮุ่ยก็รู้ว่าอย่าได้ทำงานผิดพลาดเป็อันขาด
“ใต้เท้า! เป็นางเ้าค่ะ นางใส่ทั้งร้ายและทุบตีข้าจนมีสภาพเช่นนี้ ท่านต้องลงโทษนางให้หนักนะเ้าคะใต้เท้า ฮือ ๆ ๆ”
“ปัง!! หุบปาก!! ข้ายังไม่อนุญาตให้เ้าพูด เ้าหน้าที่ตบปากนางห้าครั้ง” ใต้เท้าตันฮุ่ยกำลังจะถามอวี้จิ่นแต่ถูกขัดเสียก่อน
“ขอรับใต้เท้า”
“เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! โอ๊ย เพี๊ยะ! ข้าผิดไปแล้วใต้แล้ว เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!”
“ไม่ทราบว่าแม่นางผู้นี้ชื่อแซ่อันใด และเ้ารู้ได้อย่างไรว่าสตรีนางนี้ กำลังจะนำเด็กสองคนไปขายให้กับเศรษฐีเย่า เพื่อใช้เป็ที่รองรับอารมณ์วิปริตวิตถาร และยังพูดอีกว่าก่อนหน้านั้นมีเด็กตายไปหลายคน เ้าคงรู้นะว่าการใส่ร้ายผู้อื่น โดยไม่มีหลักฐานย่อมถูกลงโทษ”
“ข้าไม่มีแซ่นามว่าอวี้จิ่น และแน่นอนเื่การกล่าวหาโดยไร้หลักฐานต้องถูกทำโทษ หลักฐานของข้าเกี่ยวกับความผิดของนาง นอกจากเด็กสองคนนี้แล้ว ยังมีกระดูกและร่างของคนตายอีกหลายคนในหลุมฝังศพนั่น เมื่อมือปราบที่ไปค้นหาหลักฐานกลับมา ใต้เท้าจะได้รู้ว่าที่ข้าพูดเป็ความจริงหรือไม่
ส่วนเื่ที่ว่ารู้ได้อย่างไรเกี่ยวกับความผิดของนาง หากข้าบอกใต้เท้าว่าคนที่ถูกชาวบ้านพูดถึงคือข้า ผู้ที่ฟื้นขึ้นมาจากความตายทำให้ข้ามีญาณวิเศษ เพียงแค่ถูกข้าััและเปิดดวงจิต ก็สามารถล่วงรู้สิ่งที่คนผู้นั้นกระทำ ั้แ่อดีตจนถึงปัจจุบันรวมถึงอนาคต พอฟังแล้วใต้เท้าเชื่อหรือไม่เชื่อล่ะเ้าคะ” อวี้จิ่นยังคงทำตัวเป็คนไร้แซ่ และลองพูดเื่พลังวิเศษดูว่าใต้เท้าตันฮุ่ยจะคิดอย่างไร
“แม่นางมันจะเป็ไปได้อย่างไร เื่ที่เ้าพูดมามันก็แค่นิทานหลอกเด็ก ข้าไม่อาจเชื่อสิ่งที่เ้าพูดมาได้นะแม่นาง” เื่นี้เขาเคยได้ยินเมื่อตอนเด็กแต่ไม่เคยเห็น นั่นเพราะใต้เท้าตันฮุ่ยก็มีชนักติดหลังเช่นกัน
“ใต้เท้าท่านเชื่อข้าหรือยังเล่าว่านางใส่ร้ายข้าจริง ๆ”
“หึ ถ้าใต้เท้าไม่เชื่อ ท่านยินดีมาพิสูจน์กับข้าหรือไม่เล่า หากเื่ของท่านที่ข้าพูดออกมา มีการกระทำที่ผิดกฎหมาย ตัวใต้เท้าเองก็ต้องยอมรับการลงโทษจากใต้เท้าฟู่ด้วยเช่นกัน ว่าอย่างไรเ้าคะ” ช่างกล้าดูถูกความสามารถพิเศษของนางยิ่งนัก
“เอ่อ เื่นี้...” ใต้เท้าฮุ่ยสองจิตสองใจว่า จะลองพิสูจน์ดีหรือไม่ เพราะความผิดของเขามิได้มีเพียงเื่เดียวเสียด้วย
“หรือท่านเ้าเมืองไม่กล้าพิสูจน์ด้วยตนเอง เพราะกลัวว่านางจะพูดความผิดของท่านออกมา จนต้องถูกลงโทษตามกฎหมายแคว้นจ้าวงั้นหรือ?” ฟู่หลงเหยียนมองท่าทางไม่มั่นใจของเ้าเมือง จึงเพิ่มแรงกระตุ้นเข้าไปอีก
“ได้! ข้าจะพิสูจน์ความจริงเองว่า เ้าคือคนที่ฟื้นจากความตาย และได้รับพรให้มีพลังวิเศษติดตัวเมื่อลืมตาอีกครั้ง เชิญ!”
“หึ ๆ ๆ ยินดีเป็อย่างยิ่ง รบกวนใต้เท้ายื่นมือวางไว้บนโต๊ะด้วยเ้าค่ะ” เ้าเสร็จข้าแน่ตาแก่หัวหมออวี้จิ่นเดินขึ้นไปใช้มือััปลายนิ้วของใต้เท้าตันฮุ่ยบนโต๊ะ
ฟู่หลงเหยียนที่เห็นเช่นนั้นจึงลุกเดินไปยืนดูอยู่ใกล้ ๆ เพราะเขาไม่ไว้ใจและเป็ห่วงอวี้จิ่น ใต้เท้าตันฮุ่ยมั่นใจว่าอวี้จิ่นไม่มีพลังวิเศษอย่างที่นางพูดแน่ เนื่องจากเื่เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เขายื่นมือออกไปโดยไร้ความกังวล แต่เมื่อปลายนิ้วของอวี้จิ่นแตะลงไปไม่ถึงหนึ่งลมหายใจ เื่ราวทุกอย่างที่ใต้เท้าฮุ่ยเคยทำ ล้วนปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน
อวี้จิ่นเปลี่ยนจากแค่ใช้นิ้วแตะเป็ตะปบมือของใต้เท้าฮุ่ยไว้แน่น และเริ่มพูดถึงความผิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จนคนที่มั่นใจก่อนหน้านี้ถึงกับหน้าถอดสี และพยายามดึงมือออก แต่ฟู่หลงเหยียนกดเอาไว้ เพื่อ้าฟังสิ่งที่ขุนนางท้องถิ่นผู้นี้ ซุกซ่อนความผิดไว้ใต้พรมเช็ดเท้า
“สารเลว!! ทำชั่วถึงเพียงนี้ยังหน้าด้านทำตัวปกติได้อีก ทั้งรับเงินสินบน บังคับบัณฑิตที่สอบผ่านเปลี่ยนเป็ชื่อบุตรหลานเศรษฐี แบ่งเสบียงหลวงออกไปขายนำเงินมาเป็ของตนเอง เลี้ยงดูสตรีไว้นอกบ้านอีกนับสิบและที่เลวร้ายที่สุด เ้าก็เป็พวกเดียวกันกับเศรษฐีเย่าจิตใจวิปริต เห็นเด็กนอนดิ้นทุรนทุรายขาดใจตายต่อหน้ายังยืนหัวเราะชอบใจ พวกเ้าสมควรถูกปะาให้ตายตกตามพวกเขาไปเ้าขุนนางชาติชั่ว!!” อวี้จิ่นร่ายสิ่งที่เ้าเมืองผู้นี้ได้ทำไว้ จนหมดไส้หมดพุงชาวบ้านที่มุงดู ยังไม่อยากเชื่อหูตนเอง ว่าเ้าเมืองที่ทำตัวน่านับถือ จะทำลายชีวิตเด็กตัวเล็ก ๆ ได้ลงคอเช่นนี้
“จะ จะ เ้าเห็น!! ขะ ขะ ข้า..” ใต้เท้าฮุ่ยได้ยินสิ่งที่อวี้จิ่นพูดออกมา ก็พูดอะไรไม่ออกจะหาคำแก้ตัวก็นึกไม่ทัน เมื่อทุกสิ่งที่นางพูดมานั้นล้วนเป็สิ่งที่เขาได้กระทำร่วมกับเศรษฐีเย่าทั้งสิ้น
ยังไม่ทันที่ฟู่หลงเหยียนจะจัดการเื่ตรงหน้าของตน เฉินอิ่นและมือปราบหลี่ได้นำตัวเศรษฐีเย่าเข้ามาคุกเข่าด้วยอีกคน ด้านหลังยังมีผ้าผืนใหญ่ห่อกองกระดูกและศพ ที่ยังไม่ทันเน่าเปื่อยเข้ามาในห้องไต่สวน เพียงเท่านี้ก็ยืนยันได้แล้วว่า สิ่งที่อวี้จิ่นพูดมาคือเื่จริง แม้แต่ชาวบ้านที่ตามมาดูการตัดสินคดีนี้ ยังเกิดเสียงฮือฮาเมื่อเื่เล่าในตำนานได้เกิดขึ้นต่อหน้าพวกเขา
“เข้าไปคุกเข่ายอมรับผิดซะตาแก่มักมาก” เฉินอิ่นโยนตัวเศรษฐีเย่าเข้ามาอย่างไม่ปราณี
“ตุบ โอ๊ย!!”
“ทะ ทะ ท่านเศรษฐีเย่า” สตรีร่างท้วมอยากกัดลิ้นตายเสียแล้ว
“เรียนนายน้อย บ่าวกับมือปราบหลี่ทำตามที่คุณหนูบอก และพบกับโครงกระดูกมากมาย รวมถึงศพพวกนี้คล้ายกับว่าเพิ่งตายได้ไม่นาน จึงนำร่างมาที่นี่ทั้งหมดขอรับ” เฉินอิ่นแทบไม่เชื่อสายตาเมื่อขุดเจอตามที่อวี้จิ่นบอกเอาไว้
“เรียนใต้เท้าฟู่ สิ่งนี้เป็ไปตามที่คนของท่านพูดไว้ขอรับ โครงกระดูกยังเหลืออีกบางส่วน ข้าน้อยกำลังให้เ้าหน้าที่เก็บรวบรวมอยู่ คาดว่าอีกครึ่งชั่วยามคงจัดการเสร็จสิ้นขอรับ” มือปราบหลี่ยังไม่อยากเชื่อเช่นกันว่าอวี้จิ่นจะพูดเื่จริง ตัวเขาไม่คิดว่าจะเกิดเื่ร้ายแรง
ถึงเพียงนี้ และยังมีคนเป็เ้าเมืองเข้าไปมีส่วนกระทำความผิดด้วยอีกคน
“หึ บังอาจทำลายชีวิตผู้อื่นไม่พอ ยังเบียดบังเสบียงหลวงไปขาย มือปราบหลี่!! นำตัวสามคนนี้ไปปะาทันที ยึดทรัพย์ทั้งหมด คนในครอบครัวเนรเทศไปเป็ทาสใช้แรงงาน แบ่งเงินส่วนหนึ่งหาซื้อเสบียงเติมคลังของเมืองซวนเหอให้เต็ม และนำอีกส่วนหนึ่งชดเชยให้กับครอบครัวคนตายคนละห้าสิบตำลึงทอง
ส่วนเด็กสองคนนี้ให้รักษาตัวจนหายดี และพาไปส่งคืนครอบครัวพร้อมเงินชดเชย ท่านจงกำชับชาวบ้านให้ดีอย่าขายบุตรหลานกินเช่นนี้อีก ข้าจะนำเื่นี้ถวายฎีกาต่อฮ่องเต้ เพื่อกำหนดให้มีกฎหมายเกี่ยวกับการขายบุตรหลาน หากผู้ใดคิดขายบุตรหลานมีโทษหนักทันที
และมอบหน้าที่ดูแลเมืองซวนเหอ ไว้ที่มือปราบหลี่ชั่วคราว” ฟูหลงเหยียนสั่งการอย่างเฉียบขาด อวี้จิ่นที่โมโหใต้เท้าตันฮุ่ยยังอดจะยกนิ้วชื่นชมไม่ได้
“รับทราบขอรับใต้เท้าฟู่”
“ไม่นะ! ข้าไม่ได้ทำข้าถูกใส่ร้าย ข้าไม่ได้ฆ่าใครตายปล่อยข้า!” เ้าเมืองตันฮุ่ยไม่ยอมรับความผิดนี้ พยายามดิ้นจากการจับกุมตัวของเ้าหน้าที่ แต่สุดท้ายก็ไม่รอดโทษปะาอยู่ดี
เมื่อตัดสินโทษคนทำความผิดเสร็จสิ้น ฟู่หลงเหยียนรีบจับมือบางของอวี้จิ่นขึ้นมา และหยิบเอาผ้าเช็ดหน้าของตน เช็ดไปที่มือของอวี้จิ่น แม้แต่เ้าของมือยังมีอาการงงกับสิ่งที่ฟู่หลงเหยียนทำ แต่คำตอบที่นางได้ยินนั้น ทั้งอวี้จิ่นและเฉินอิ่นถึงกับไม่รู้จะพูดคำไหนดี
“เ้าใช้มือจับมือที่สกปรกของขุนนางชั่วนั่นมิใช่หรือ ไว้พี่จะสั่งทำถุงมือให้เ้าพกติดตัวไว้สักคู่สองคู่ก็แล้วกัน หากจะทำเช่นเมื่อกี้อีกเ้าต้องสวมถุงมือก่อนทุกครั้งเข้าใจหรือไม่” ฟู่หลงเหยียนพูดโดยไม่ยอมเงยหน้าจากมือที่กำลังเช็ดมือบางของอวี้จิ่น
“เ้าค๊ะ!?
“...!?”
อวี้จิ่นและเฉินอู่หันมามองหน้ากัน แต่ก็ไม่รู้พูดสิ่งใดจนร่างสูงเก็บผ้าเช็ดหน้าไว้ที่เดิม จึงพาอวี้จิ่นกลับไปยังที่พักนอกเมืองซวนเหอ เพื่อเตรียมตัวออกเดินทางต่อในวันรุ่งขึ้นอีกครั้ง เหลืออีกเพียงสามหัวเมืองพวกเขาจะถึงเมืองหลวงอยู่แล้ว ซึ่งที่นั่นอวี้จิ่นจะได้พบพี่ชายอย่างเจียงหยวนเป็ครั้งแรกก็จริง แต่กลับกลายเป็ว่ายังมีกลุ่มมือสังหารติดตามมา เพื่อสังหารพี่ชายของนางไม่ให้เขาได้กลับไปเมืองหลวงได้อีก
