ในห้องครัวเล็ก ๆ ที่มืดสลัวของบ้านซอมซ่อหลังหนึ่ง เสียงมีดกระทบเขียงดังเป็จังหวะสลับกับเสียงลมหายใจหนัก ๆ ของเด็กหนุ่มผู้หนึ่ง อี้เหวิน ชายหนุ่มอายุสิบแปดปี ดวงตาเขาแน่วแน่ ร่างกายผอมแห้งแต่เต็มไปด้วยรอยแผลจากการฝึกฝนอย่างไม่หยุดหย่อน เขาไม่ใช่เพียงเด็กหนุ่มธรรมดา แต่เป็ผู้แบกความแค้นไว้ในใจ แค้นที่เงียบงันแต่ลุกไหม้ไม่หยุดในทุกลมหายใจ
กวนไห่ พ่อบุญธรรม ที่เลี้ยงดู อี้เหวิน จนเติบใหญ่ เดินเข้ามาในครัวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“อี้เหวิน...เ้าต้องอดทน ความแค้นนั้นหนักหนา แต่หากใจไม่มั่นคง มันจะกลืนเ้าก่อนที่เ้าจะได้ชำระมัน” กวนไห่ พูดขึ้น
อี้เหวินเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ เขารู้ดีว่าเส้นทางที่เขาเลือกนั้นเต็มไปด้วยเืและความสูญเสีย แต่เขาจะไม่มีวันหันหลังกลับ
คืนนั้น ใต้แสงจันทร์ที่เย็นเยียบ เขาแอบออกจากบ้าน มุ่งหน้าไปยังเนินเขา เพื่อพบกับชายผู้เปลี่ยนชะตาชีวิตของเขา เนินเขาเงียบสงบใต้แสงจันทร์สลัว ลมพัดผ่านใบไม้แ่เบา เงาร่างหนึ่งยืนอยู่บนโขดหินสูง ร่างนั้นสวมชุดคลุมสีหม่น ผมยาวประบ่าแซมขาว ดวงตาคมลึกดั่งผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวมานับไม่ถ้วน
เขาคือ กวนจิง อาจารย์ที่แอบสอนวิชายุทธให้กับ อี้เหวิน ชายผู้มีอดีต ที่เป็เพียงเงาในยุทธภพ
เมื่ออี้เหวินปรากฏตัว กวนจิง จึงเข้าทดสอบฝีมือ อี้เหวิน
หลังจากผ่านไปหลายกระบวนท่า กวนจิง ก็หยุดหันหลังให้ แล้ว หันมาช้า ๆ ดวงตาเขามองทะลุจิตใจของศิษย์หนุ่มราวกับรู้ทุกความคิด
“วิชายุทธของเ้าก้าวหน้าไปมาก เ้าจำได้มั๊ยว่า เ้ามีความแค้นต้องชำระ ใครเป็คนฆ่าพ่อแม่เ้า” กวนจิงเอ่ยถาม
เสียงของเขาไม่ดังนัก แต่แฝงด้วยแรงกดดันที่ทำให้อี้เหวินต้องกำหมัดแน่น และเอ่ยตอบ
“ข้าจำได้ดี ข้าไม่มีวันลืม เป็อ๋องแปด แห่งเจียนเฉิง (剑城) “หว่านเหยียนจง”
“ข้าตามหาเ้ามานาน จนเมื่อสามปีก่อน ข้าก็ได้พบเ้า และเฝ้าสอนวรยุทธให้เ้า เพื่อให้เ้าไปล้างแค้น” กวนจิงกล่าวอยากหนักแน่น
“ต้องขอบคุณอาจารย์เป็อย่างยิ่ง ศิษย์ไม่เคยลืมบุญคุณ” อี้เหวิน กล่าวพร้อมยกมือคารวะ
“แต่ด้วยวรยุทธของเ้าตอนนี้ ก็คงไม่สามารถเข้าใกล้ตัวของ หว่านเหยียนจง ได้แน่ เพราะรอบกาย เค้ามีแต่ยอดฝีมือ เ้าจะต้องอดทนฝึกฝนต่อไป เข้าใจมั๊ย อย่าให้ความแค้นนำพาไปสู่ความตาย เ้าเข้าใจมั๊ย?” กวนจิงเย้นย้ำ
“เข้าใจครับ! ศิษย์จะตั้งใจฝึกฝน” อี้เหวินตอบรับอย่างหนักแน่น
“แล้วอาการเ้าเป็อย่างไรบ้าง ยังรู้สึกหนาวๆ กลางดึกอีกมั๊ย” กวนจิงเอ่ยถามด้วยความเป็ห่วง
“ดีขึ้นมากแล้วครับ แต่ยังมีอาการอยู่บ้าง” อี้เหวินตอบ
“เมื่อตอนยังเด็ก เ้าถูกพวกโจรชั่ว ลูกน้องของหว่านเยี่ยนจง ทำร้าย แต่ถ้าเ้าขยันฝึกฝน อาการเ้าก็จะไม่กำเริบ และจะค่อยๆดีขึ้น” กวนจิงกล่าว
“ขอบคุณอาจารย์ที่เป็ห่วง ศิษย์จะตั้งใจฝึกฝน” อี้เหวินกล่าวขอบคุณ
ลมหนาวพัดแรงขึ้น เสียงใบไม้สั่นสะท้านดังคล้ายคำเตือนว่า ความแค้นที่ถูกซ่อนเร้นกำลังจะเผยตัว และมันจะเปลี่ยนชะตาชีวิตของอี้เหวินไปตลอดกาล
