เสียงโครมครามดังออกมาจากห้องหนังสือ หลังจากนั้นทุกคนในจวนตระกูลเหยาก็เห็นคุณหนูสามที่เพิ่งกลับมาถึงจวนหนีพรึ่บออกมา ในมือนางยังถือไม้หวายที่หักครึ่งท่อนเอาไว้
“วาจาดีขัดหูยิ่งนักท่านพ่อ” เหยาเชียนเชียนวิ่งไปะโไปพลาง “เหตุใดท่านจึงผูกคอตายใต้ต้นไม้ต้นเดิมเล่า หากเปลี่ยนไปผูกคอตายอีกต้นไม่แน่ว่าอาจจะสำเร็จก็ได้”
“จับตัวนางมาให้ข้า!”
เหยาซื่อเฟิงวิ่งไล่ตามหลังเหยาเชียนเชียนไปติดๆ ไม่รู้ว่าเป็เพราะความโกรธหรือว่าตระหนก เขาสั่งให้ทุกคนจับตัวนางไว้พลางหายใจหอบ
เหยาเชียนเชียนหลบซ้ายเลี่ยงขวา ปะทะกับคนที่พุ่งเข้ามา หลายคนกระโจนเข้าไปโดยที่ไม่ได้มองให้ชัดเจน เสียงกรีดร้องและก่นด่าดังวุ่นวายอลหม่าน ทว่าเมื่อสบโอกาสคนรับใช้ก็พากันกรูเข้าไปจับตัวนางไว้
เหยาอวี้เอ๋อร์ซึ่งถูกกดไว้อยู่ล่างสุดถูกใครบางคนััเข้า นางกรีดร้องะเืฟ้าะเืดิน พยายามจะพลิกเหยาเชียนเชียนที่อยู่บนตัวออกไป แต่ก็จนปัญญาเมื่อนางไม่สามารถงัดแรงออกมาได้เลย มวยผมถูกกดทับจนแบน แม้กระทั่งเครื่องประทินโฉมที่บรรจงแต่งมาก็เลือนหายไปหมดสิ้น
“ขายขี้หน้านัก รีบจับตัวนางมาให้ข้า!”
เหยาซื่อเฟิงกระทืบเท้าอย่างโมโห รอจนคนรับใช้แหวกวงความอลหม่านออกมาได้ในที่สุด สายตาเห็นเพียงเหยาอวี้เอ๋อร์ที่อาภรณ์ยับยุ่งและนอนอยู่บนพื้นในสภาพน่าอับอาย ข้างๆ กันคือเหยาเชียนเชียนที่ยืนกลั้นหัวเราะอยู่
“นางสารเลว!” เหยาอวี้เอ๋อร์เห็นแววความยินดีในความโชคร้ายของคนอื่นฉายชัดอยู่ในตาของเหยาเชียนเชียนจึงเงื้อมือตบไปฉาดหนึ่งโดยไม่คำนึงถึงการอบรมมารยาทใดๆ ทั้งสิ้น
นางถูกรังแกที่จวนชิงผิงอ๋องก็เกินทนแล้ว กลับจวนตระกูลเหยามานางยังต้องกล้ำกลืนด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจอีกหรือ?
ยิ่งไปกว่านั้น แม้ยามนี้จะไม่เป็ที่โปรดปราน ทว่าฐานะของนางก็อยู่ในระดับนั้น พวกคนตระกูลเหยาคงไม่กล้าทำอะไรหวังเฟยอย่างนางหรอกกระมัง
เมื่อคิดได้แน่ชัดแล้วเหยาเชียนเชียนจึงเตะเข้าที่ท้องของเหยาอวี้เอ๋อร์ หญิงสาวร้องอย่างน่าเวทนาและล้มลงไปทั้งที่หน้ายังคงแหงนอยู่ เหมือนกับเต่าที่ถูกหงายกระดองขึ้น
“มัดตัวไว้!”
เห็นนางยังกล้ากำเริบเสิบสานเช่นนี้ เหยาซื่อเฟิงจึงดึงเชือกมาไว้กับตัว และใช้เชือกมัดแขนเหยาเชียนเชียนไพล่หลังไว้อย่างแ่า
“ท่านพ่อ ข้าขอแนะนำท่านว่าไตร่ตรองให้ดีก่อนลงมือจะดีกว่า ข้าคือชายาของชิงผิงอ๋อง ที่มัดข้าไว้ เห็นแก่ความสัมพันธ์พ่อลูกก็ยังพอรับได้ แต่หากจะทำอะไรข้าจริงๆ แม้ผมขาดไปเพียงเส้นเดียว ท่านอ๋องต้องไม่ไว้ชีวิตท่านแน่”
ชิงผิงอ๋องไม่ได้อยู่ตรงนี้ เพราะฉะนั้นก็ปล่อยให้เหยาเชียนเชียนคุยโวจนพอใจไปเถิด ยามนี้วิธีการป้องกันตัวเองที่ดีที่สุดของนางคือการอ้างชื่อนี้ นางจะต้องไม่อ้างชื่อเขาโดยเปล่าประโยชน์
เหยาซื่อเฟิงดูท่าจะเป็คนขององค์ชายสาม แม้เขาจะไม่ฟังคำสั่งของชิงผิงอ๋อง แต่อย่างไรอีกฝ่ายก็มีฐานันดรศักดิ์เป็ถึงอ๋อง ในเวลาสำคัญย่อมสามารถยกขึ้นมาข่มขู่พวกเขาได้
“ดูท่าเ้าจะพึงพอใจกับฐานะหวังเฟยยิ่งนัก” เหยาซื่อเฟิงกล่าว “ไม่รู้ว่าชิงผิงอ๋องยื่นข้อเสนอใดให้เ้าหรือ เ้าถึงได้ทรยศไปอยู่ข้างศัตรูเร็วขนาดนี้”
เหยาเชียนเชียนลอบกลอกตาในใจเงียบๆ แอบพูดว่าแท้จริงแล้วชิงผิงอ๋องผู้นั้นก็ไม่ได้ดีไปกว่าเขามากนัก นางไม่อยากคลุกคลีตีโมงกับตระกูลเหยาเพราะเห็นแก่อาเหยียนทั้งสิ้น
หากต้องพูดว่ามีผลประโยชน์ต่อตนเอง ก็คงจะเป็เื่ที่ชิงผิงอ๋องยินยอมให้นางเป็แม่ของอาเหยียนกระมัง
“องค์ชายสามทรงไว้วางใจเ้าถึงเพียงนี้ กระทั่งปฏิบัติต่อเ้าด้วยความรัก แต่เ้ากลับเนรคุณท่าน” เหยาซื่อเฟิงมองนางอย่างผิดหวัง “นับจากนี้ไป ตระกูลเหยาของเราไม่มีลูกสาวเช่นเ้าอีกต่อไป”
เช่นนั้นก็ดี เหยาเชียนเชียนหัวเราะเสียงเย็น “ในเมื่อเป็เช่นนี้ วันหน้าก็ต่างคนต่างอยู่ เื่ของตระกูลเหยาข้าไม่แทรกแซงอีก”
คิดว่ากำลังขู่ผู้ใดอยู่กัน เ้าของร่างเดิมน่าจะไม่ได้รับการอบรมศีลธรรมจริงๆ สมรู้ร่วมคิดกันฆ่าเด็กคนหนึ่ง พอไม่สำเร็จก็แตกคอกัน ครอบครัวนี้ช่างน่าสะอิดสะเอียนจนนางอยากจะอาเจียนออกมา
“ดี เ้าคิดจริงๆ หรือว่าตระกูลเหยาหากไม่มีเ้าสักคนแล้วจะไปไม่รอด อย่าลืมว่าเป็เ้าเองที่ร้องห่มร้องไห้อ้อนวอนอยากอุทิศตนรับใช้องค์ชายสาม และเป็คนดึงตระกูลเหยาให้ลงเรือลำนี้ แต่เ้ากลับอยากสละเรือเสียเอง ฝันไปเถิด!”
เหยาซื่อเฟิงสะบัดมือตบอย่างแรง และแผดเสียงข้างหูเหยาเชียนเชียนว่า “หากกล้าทรยศองค์ชายสาม ข้าจะโปรยอัฐิแม่เ้า ต่อให้นางตายไปแล้วก็จะไม่ให้อยู่อย่างสงบ!”
แรงตบนั้นทำให้เหยาเชียนเชียนมึนงง ในปากเจือกลิ่นคาวเื นางอยากจะหัวเราะ เพิ่งรู้ตัวว่ามุมปากของตนแตกเป็แผล
“ท่านแม่ของข้าตายไปแล้ว ท่านยังจะพูดถึงเื่สงบหรือไม่สงบอันใดอีก แค่แต่งงานกับคนเช่นท่าน คิดดูแล้วชั่วชีวิตของท่านแม่คงไม่เคยได้สบายใจเลยสักครั้ง หากท่านอยากโปรยก็โปรย ไม่แน่ว่าการได้ลอยล่องไปตามสายลมอาจเป็อิสระมากกว่า รั้งอยู่ที่จวนนี้ก็ไม่รู้ว่าน่าขยะแขยงเพียงใด ถุย!”
เืคำหนึ่งถูกถ่มใส่ใบหน้าของเหยาซื่อเฟิง เขาใราวกับถูกส่องด้วยกระจกจ้าวเหยา [1] ที่สะท้อนให้เห็นร่างจริงของภูติผี หลังจากเขาเช็ดออกอย่างรีบร้อนก็คว้าท่อนไม้ในมือของคนรับใช้หมายจะหวดลงไป
“ท่านตีสิ!” เหยาเชียนเชียนคำรามด้วยเสียงสูง
“หากวันนี้ข้าไม่ได้กลับไปตรงเวลา ชิงผิงอ๋องต้องมาตามแน่ เพิ่งแต่งงานกันไม่กี่วันก็มาตายที่บ้านแม่ ถ้าเขาได้เห็นแผลบนตัวข้า ท่านจะเลี่ยงบอกว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องได้หรือ?”
เหยาซื่อเฟิงชะงัก หากฆ่านางในวันนี้จริงๆ เขาคงไม่สามารถอธิบายต่อชิงผิงอ๋องและฮ่องเต้ได้ ครั้งนี้เป็สมรสพระราชทานจากโอรส์ บัดนี้กลับมาตายอยู่ที่จวนตระกูลเหยาใน่กลับมาเยี่ยมครอบครัว ฮ่องเต้ต้องสอบสวนอย่างละเอียดแน่ ถึงเวลานั้น าแบนร่างกายของเหยาเชียนเชียนก็มิอาจปกปิดได้แล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังมีองค์ชายสาม ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วคนผู้นั้นรู้สึกต่อเหยาเชียนเชียนอย่างไร หากทั้งสองมีใจให้กันจริง เช่นนั้นก็ไม่เท่ากับว่าเขาปิดหนทางรอดของตัวเองไปทั้งหมดหรือ?
“ท่านพ่อ ไม่ต้องไปฟังนางเ้าค่ะ” เหยาอวี้เอ๋อร์คว้าท่อนไม้มาไว้กับตัวอย่างคับแค้นใจ ก่อนจะหวดตีเหยาเชียนเชียนอย่างรุนแรง “วันนี้นางกลับมาด้วยตัวเอง นั่นแสดงว่าชิงผิงอ๋องไม่ได้สนใจนางอยู่แล้ว ตายก็ตายไป ยังจะช่วยนางสืบหาตัวคนร้ายไปเพื่ออันใด”
ท่อนไม้หวดลงไปโดยพุ่งเป้าไปที่ศีรษะของนางคนชั้นต่ำผู้นั้น ตีตรงๆ จนหัวแตกสมองไหลได้ถึงจะดี!
เหยาอวี้เอ๋อร์ขยับเข้าไปอยู่ข้างๆ เหยาซื่อเฟิง พลางเอ่ยโน้มน้าวเสียงแ่ว่า “ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลเหยาของเราไม่ได้มีนางเป็ลูกสาวเพียงคนเดียวเสียหน่อย คนนี้ตายไปแล้ว เปลี่ยนเป็อีกคนก็สามารถเป็หวังเฟยได้ตามเดิมมิใช่หรือ?”
เหยาเชียนเชียนหัวเราะเสียงเย็น ต่อให้ไม่ได้ยินนางก็คาดเดาความคิดของเหยาอวี้เอ๋อร์ได้ คนตายไปแล้วจะมีที่ว่างให้นางหรือ? ไม่ดูสภาพตัวเองเอาเสียเลย
“เ้าคิดว่านี่เป็การซื้อหัวไชเท้าในตลาดหรือ? หัวนี้ไม่ดีก็เปลี่ยนเป็อีกหัวหนึ่ง เ้าคิดว่าผู้ใดก็สามารถได้รับสมรสพระราชทานจากโอรส์ได้ ผู้ใดก็สามารถถูกชิงผิงอ๋องอ้อนวอนสู่ขอเข้าจวนได้หรือ? หากเ้าสามารถทำได้ทั้งหมด จะเป็ตาสีตาสาที่ใดก็ทำได้เช่นกัน”
“เ้า!” เหยาอวี้เอ๋อร์โกรธจัดจนพุ่งเข้าไปหมายจะตบอีกฉาด “ปากดีนักนะ พูดจาน่าฟังเช่นนี้ แต่ยามนี้เ้าถูกมัดไว้อยู่ที่นี่ เห็นชิงผิงอ๋องมาช่วยเ้าหรือไม่เล่า?”
ไม่ทันขาดคำก็เห็นเด็กรับใช้คนหนึ่งรีบเข้ามาอย่างร้อนรน โซซัดโซเซคุกเข่าลงตรงหน้าเหยาซื่อเฟิงและรายงานว่า “นายท่าน ชิงผิงอ๋องเสด็จขอรับ”
อะไรนะ!
เหยาซื่อเฟิงหันกลับไปมองเหยาเชียนเชียนตามสัญชาตญาณ อีกฝ่ายยกมุมปากขึ้นช้าๆ แม้ว่าจะเวียนหัวและตาพร่า แต่ดวงตาคู่นั้นยังคงเปล่งประกายเมื่อมองมา
“ดูไม่ออกเลยว่าเ้ามีความสามารถนี้” นางหัวเราะเยาะเหยาอวี้เอ๋อร์ “สมพรปากท่านพี่แล้ว ท่านอ๋องของข้าเสด็จมาแล้วจริงๆ”
เหยาอวี้เอ๋อร์ในยามนี้ไม่มีแก่ใจจะปะทะฝีปากกับเหยาเชียนเชียน นางไม่สามารถไปพบชิงผิงอ๋องในสภาพนี้ได้ จึงรีบยกกระโปรงกลับเรือนไปแต่งองค์ทรงเครื่องใหม่ เหลือเพียงเหยาซื่อเฟิงที่มองไปยังเหยาเชียนเชียนในสภาพไร้ิญญา เขาทำได้เพียงกัดฟันสั่งคนให้แก้เชือกออก หมายจะลากตัวกลับไปจัดการต่อที่ห้องเดิม
“ท่านพ่อ” เหยาเชียนเชียนยิ้มอย่างผ่อนคลาย “หันไปดูข้างหลังท่านสิเ้าคะ”
เชิงอรรถ
[1] กระจกจ้าวเหยา หมายถึง กระจกวิเศษที่สามารถส่องภูตผีปิศาจให้ปรากฏร่างเดิมได้