“อย่านะ นั่นคือของรักของหวงของข้า หวังเค่อ เ้าห้ามทำลายมันเด็ดขาด! ข้าไม่ได้หลอกเ้าจริงๆ!” จางเจิ้งเต้าร้องเสียงหลง
“ไม่ได้หลอกข้า? องค์หญิงโยวเยว่รับประกันให้ข้าไม่ได้ด้วยซ้ำว่าข้าจะได้เข้าร่วมพรรคเทพหมาป่า์ แล้วเ้าไปเอาความมั่นใจมาจากไหน” หวังเค่อนิ่วหน้าถามเสียงต่ำ
“ให้ข้าถามนางเอง!” จางเจิ้งเต้าพูดขึ้นทันที
หวังเค่อกุมพัดสีดำเอาไว้พร้อมรออีกฝ่าย
“องค์หญิงโยวเยว่ ก่อนที่เสด็จแม่ของท่านจะล่วงลับไปได้ฝากคำพูดอะไรไว้กับท่านบ้างหรือไม่” จางเจิ้งเต้ามององค์หญิงโยวเยว่อย่างลุ้นระทึก
“เสด็จแม่ยังไม่ตายเสียหน่อย ก็แค่ไปจากราชวงศ์ชือกุ่ยเท่านั้น! เ้าอย่ามาแช่งแม่ข้านะ!” องค์หญิงโยวเยว่นิ่วหน้ากล่าว
“ยังไม่ตาย? จักรพรรดินีชือกุ่ยยังไม่ตาย? งั้นทำไมราชวงศ์ชือกุ่ยถึงพินาศได้?” จางเจิ้งเต้าเองก็ตะลึงไปเหมือนกัน
“ฮึ่ม!” ชัดเจนว่าองค์หญิงโยวเยว่ไม่คิดจะบอกมัน
“เป็ไปไม่ได้! หากกษัตริย์ยังไม่สิ้น ราชวงศ์ก็ไม่ดับสูญ! ข้าได้ยินว่าราชวงศ์ชือกุ่ยสิ้นแคว้นไปแล้ว ไม่งั้นองค์หญิงจากราชวงศ์ชือกุ่ยผู้เกรียงไกรเช่นท่านจะตกอับถึงขนาดนี้ได้ยังไง!” จางเจิ้งเต้าอุทานอย่างตื่นตะลึง
“ล้วนเป็ฝีมือของขุนนางกังฉินพวกนั้น! พวกมันฉวยจังหวะที่เสด็จแม่ของข้าไม่อยู่ก่อการฏ่ชิงแผ่นดินของข้า!” องค์หญิงโยวเยว่เอ่ยอย่างเจ็บแค้น
“ช้าก่อน ่ชิงแผ่นดินของท่านอย่างนั้นรึ? ท่านเป็แค่องค์หญิง ราชวงศ์ชือกุ่ยน่าจะเป็ของเสด็จแม่ของท่านจึงจะถูกต้อง เื่นี้มาเกี่ยวอะไรกับท่านด้วย?” จางเจิ้งเต้าถามอย่างสงสัย
“ก่อนที่เสด็จแม่จะจากไปท่านได้ฝากฝังราชวงศ์ชือกุ่ยไว้กับข้า หากไม่ใช่เพราะขุนนางกังฉินพวกนั้น ตอนนี้ข้าก็คงจะเป็จักรพรรดินีองค์ใหม่ไปแล้ว! ไม่ต้องมาหนีหัวซุกหัวซุนหมดสารรูปอยู่แบบนี้หรอก!”
“เดี๋ยวนะ จักรพรรดินียกตำแหน่งให้ท่าน? ทำไมข้าถึงไม่เคยได้ยินมาก่อน แถมดูเหมือนว่าคนทั่วหล้าเองก็ด้วย?” จางเจิ้งเต้าถามอย่างสงสัย
“ข้าไม่ทันได้บอกน่ะสิ ่หลายวันนั้นข้ากำลังสร้างอาวุธชิ้นหนึ่งอยู่ ดังนั้นข้าก็เลยเลื่อนพิธีสถาปนาตนออกไปก่อน แต่ข้านึกไม่ถึงว่า่เวลานั้นเ้าพวกขุนนางกังฉินใจคดจะกล้าฉวยโอกาสตอนเสด็จแม่ไม่อยู่ก่อฏขึ้นมา ข้า...!” องค์หญิงโยวเยว่กล่าวด้วยความเป็เดือดเป็แค้น
หวังเค่อและจางเจิ้งเต้ามองหน้ากัน
“สร้างอาวุธ? ตัวท่านมีศักดิ์เป็ถึงยุพราช แต่ถึงกระนั้นก็ยังลงมือหลอมสร้างอาวุธด้วยตัวเอง? แถมยังเลื่อนพิธีสถาปนาตนอันแสนสำคัญออกไปอีก?” หวังเค่อมองนางด้วยสีหน้าแปลกประหลาด
องค์หญิงโยวเยว่ผู้นี้ดูจะพึ่งไม่ได้เลยนะนี่ ราชวงศ์ชือกุ่ยแม้จะอยู่นอกสิบหมื่นมหาบรรพตแต่หวังเค่อก็ยังเคยได้ยินได้ฟังชื่อเสียงมา ขุมกำลังของมันไม่ได้ด้อยไปกว่าสำนักเซียนระดับแถวหน้าของสิบหมื่นมหาบรรพตเลยด้วยซ้ำ! แผ่นดินอันยิ่งใหญ่เช่นนี้เ้ากลับไม่รีบก้าวขึ้นบัลลังก์เพื่อชิงศักดิ์ฐานะมาครอง ตรงกันข้ามกลับสาละวนอยู่กับการสร้างอาวุธเนี่ยนะ? ไม่แปลกที่จะถูกขุนนางใจหยาบ่ชิงแผ่นดินไป
“อาวุธที่ท่านถึงกับยอมเลื่อนพิธีสำคัญขนาดนั้นออกไปจะต้องเป็อาวุธที่ทรงพลังยิ่งถูกไหม?” จางเจิ้งเต้าถามอย่างสงสัยใคร่รู้
“นี่ไง คือสิ่งนี้!” องค์หญิงโยวเยว่ว่า
ขณะที่พูดก็ล้วงวัตถุทรงกลมสีดำขนาดเท่าผลแตงโมออกมาจากถุงมิติในอกเสื้อ
“นี่คือ...?” หวังเค่อและจางเจิ้งเต้าถามด้วยความฉงนสงสัย
“ของสิ่งนี้เรียกว่า ‘แสงมหาพิธี’ ข้าเป็คนคิดค้นเองแหละ!” องค์หญิงโยวเยว่เอ่ยอย่างภาคภูมิใจ
“แสงมหาพิธี ของสิ่งนี้ทำอะไรได้งั้นหรือ” หวังเค่อถามอย่างสงสัย
“ช่วยชูบรรยากาศของงานพิธีสำคัญอย่างไรล่ะ! เพื่อเป็การปรับบรรยากาศของมหาพิธีในวันนั้นให้ดูขึงขังกว่าเดิม ข้าก็เลยยอมอดหลับอดนอนค้นคว้าศึกษาอยู่สิบวันสิบคืน ใครจะรู้ว่าขุนนางกังฉินพวกนั้นจะชุบมือเปิบก่อการฏขึ้นมา ‘แสงมหาพิธี’ ของข้าเพิ่งจะเสร็จสมบูรณ์ พวกมันก็ก่อฏมาแล้ว ข้าตั้งตัวไม่ทันเลยสักนิด...!” องค์หญิงโยวเยว่เข้าถึงอารมณ์อย่างเต็มที่
หวังเค่อ “…!”
จางเจิ้งเต้า “…!”
ชูบรรยากาศ? ไม่อาจใช้ในการฝึกปรือ ไม่อาจใช้รับมือกับศัตรู แต่ทำได้แค่ชูบรรยากาศเท่านั้นเอง? เ้าเลื่อนมหาพิธีขึ้นครองราชย์ออกไปก็เพื่อสร้างของเล่นปาหี่ชิ้นนี้น่ะหรือ?
นี่แหละคือแบบอย่างของประโยคที่ว่าหลงระเริงจนเสียการใหญ่ ไม่สิ แม้แต่แผ่นดินเ้ายังเสียไปแล้วเลย!
“เช่นนั้นแล้วทำไมเ้าถึงมาที่สิบหมื่นมหาบรรพตได้” จางเจิ้งเต้าถามอย่างคาดหวัง
“ก่อนที่เสด็จแม่จะจากไปได้บอกไว้ว่าหากเกิดเื่อันตรายขึ้นมา ให้ข้าไปหาประมุขพรรคเทพหมาป่า์ แล้วมันจะช่วยข้าเอง! ดังนั้นข้าก็เลยออกเดินทางไปยังพรรคเทพหมาป่า์ แต่ใครจะรู้ว่าพรรคอีกาทองคำกลับออกรางวัลนำจับข้าเสียได้ ข้าก็เลยถูกเนี่ยเทียนป้าจับตัวไป!” องค์หญิงโยวเยว่เอ่ยอย่างสลดหดหู่
“ประมุขพรรคเทพหมาป่า์?” หวังเค่อตาลุกวาว
“ข้าไม่เคยพบประมุขพรรคเทพหมาป่า์มาก่อน แต่ข้าเดาว่าคงเป็ศิษย์พี่ใหญ่ของพรรคเทพหมาป่า์ที่จะเป็คนคุ้มครองข้า!” ประกายความคาดหวังฉายผ่านดวงตาขององค์หญิงโยวเยว่
“ศิษย์พี่ใหญ่พรรคเทพหมาป่า์?” หวังเค่อถามอย่างใจจดใจจ่อ
“อืม ศิษย์พี่ใหญ่เคยเป็แม่ทัพใหญ่ของราชวงศ์ชือกุ่ย แต่เป็เพราะว่ามันคอยเกี้ยวพาราสีข้า เสด็จแม่ก็เลยไม่ให้ข้าคบค้าสมาคมกับมัน แต่ครั้งนี้เสด็จแม่อนุญาตให้ข้าใช้เวลากับศิษย์พี่ใหญ่ได้แล้ว!” ดวงตาขององค์หญิงโยวเยว่ฉายแววคาดหวัง
หวังเค่อเกาหัว ถามอย่างหดหู่ใจ “แปลว่าการที่ข้าจะได้เข้าร่วมพรรคเทพหมาป่า์ก็คือต้องพึ่งใบบุญจากศิษย์พี่ใหญ่คนนี้? มันชมชอบเ้า และเป็เพราะว่าข้าช่วยชีวิตเ้าไว้ มันก็เลยจะให้ข้าได้เข้าร่วมพรรคเทพหมาป่า์อย่างนั้นสินะ?”
“หากข้าเอ่ยปาก ศิษย์พี่ใหญ่จะต้องช่วยข้าอย่างแน่นอน!” องค์หญิงโยวเยว่ว่า
หวังเค่อยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้นกว่าเดิม “เงื่อนไขการรับศิษย์เข้าสู่พรรคเทพหมาป่า์แต่ไรมาก็มีแค่การรับเอาปุถุชนจากตระกูลที่มีประวัติขาวสะอาดเท่านั้น บรรลุขอบเขตเซียนเทียน นำทักษะวิชาเข้าพรรค ไม่มีการรับเข้าทางอื่นไม่ว่าจะในกรณีใด นี่คือกฎของพรรคเทพหมาป่า์ เว้นแต่ประมุขพรรคจะเอ่ยปากเอง มิเช่นนั้นใครก็เข้าไม่ได้ทั้งสิ้น! ศิษย์พี่ใหญ่พรรคเทพหมาป่า์อะไรนั่นของเ้าเกรงว่าคงจะไม่สามารถกระมัง?”
“ดังนั้นข้าถึงได้ไม่กล้ารับประกันอย่างไรเล่า!” องค์หญิงโยวเยว่ว่า
หวังเค่อมองไปทางจางเจิ้งเต้าด้วยใบหน้าดำทะมึน เ้าคนหน้าไม่อาย เ้าหลอกข้า? หวังเค่อตั้งท่าจะบดขยี้พัดกระดาษสีดำให้แหลกคามือเสียเดี๋ยวนั้น
“อย่า อย่าเชียวนะ ฟังข้าก่อน ฟังข้าพูดก่อน!” จางเจิ้งเต้ายิ้มเจื่อน
“อืม?” หวังเค่อจ้องจางเจิ้งเต้าไม่วางตา
“เ้าเชื่อข้า หากพรรคเทพหมาป่า์รู้ว่าเ้าช่วยชีวิตองค์หญิงโยวเยว่เอาไว้ พวกมันจะต้องรับเ้าเข้าเป็ศิษย์อย่างแน่นอน!” จางเจิ้งเต้ารีบอธิบาย
“เมื่อกี้องค์หญิงเป็คนบอกเองว่าตัวนางเองไม่เคยเห็นประมุขพรรคเทพหมาป่า์อะไรนั่นมาก่อน! แล้วมันจะมาสนใจหรือว่านางจะอยู่หรือตาย? เพราะถ้ามันสนใจจริงละก็ ตอนที่พรรคอีกาทองคำออกรางวัลนำจับเหตุใดมันถึงไม่มาช่วยนาง?” หวังเค่อถามเสียงต่ำ
“ก็ ก็อาจจะเป็เพราะว่าประมุขพรรคเทพหมาป่า์กำลังกักตนอยู่ก็ได้ หรือไม่มันก็ไม่ได้อยู่ที่สิบหมื่นมหาบรรพต! เ้าทำใจให้สบายเถอะ หากประมุขพรรคเทพหมาป่า์ล่วงรู้ความจริง มันจะต้องคุ้มครององค์หญิงโยวเยว่อย่างแน่นอน แล้วก็จะรับเ้าเข้าเป็ศิษย์พรรคเทพหมาป่า์อีกด้วย ข้ารับรองได้เลย ข้ารับรองได้!” จางเจิ้งเต้าสาบาน
“เพราะเหตุใดหรือ?” องค์หญิงโยวเยว่ถามอย่างสงสัยใคร่รู้
“เพราะเสด็จพ่อของท่านอย่างไรล่ะ!” จางเจิ้งเต้ายิ้มเฝื่อน
“เสด็จพ่อของข้า? นับั้แ่ข้าลืมตาดูโลก ข้าก็ไม่เคยพบเห็นเสด็จพ่อเลยสักครั้ง ข้าเคยถามเสด็จแม่แต่นางเองก็ไม่ยอมปริปาก เ้ารู้หรือว่าเสด็จพ่อของข้าเป็ใคร? อย่าบอกนะว่าเขาก็คือประมุขพรรคเทพหมาป่า์น่ะ?” องค์หญิงโยวเยว่ถามอย่างตื่นใ
“เปล่าๆ ข้าบอกไม่ได้ เื่นี้เป็ความลับ ต่อไปท่านก็จะรู้เอง ท่านเชื่อข้า รอจนไปถึงพรรคเทพหมาป่า์เมื่อไหร่ท่านก็จะปลอดภัยหายห่วง จากนั้นหวังเค่อที่เป็คนช่วยท่านไว้ก็จะได้เข้าร่วมพรรคเทพหมาป่า์!” จางเจิ้งเต้าลั่นวาจา
หวังเค่อหรี่ตามองจางเจิ้งเต้าอย่างพินิจพิเคราะห์
“พี่หวัง ข้าเคยไปหลอกท่านั้แ่เมื่อไหร่กัน!” จางเจิ้งเต้ายิ้มเจื่อนออกมาทันที
“เฮอะ!” หวังเค่อแค่นเสียงเย็นคราหนึ่ง
จางเจิ้งเต้าแอบซ่อนเื่ราวมากมายจากตน ถึงแม้ว่าตนจะมีสัมพันธ์ที่ดีงามกับมัน ทว่าแต่ไหนแต่ไรมาเ้าคนไร้ยางอายนี้พ่นคำไหนออกมาก็ล้วนแต่เป็คำโกหกทุกคำอยู่แล้ว
“ช่างเถอะ ถึงอย่างไรของรักของหวงเ้าก็อยู่ในกำมือข้า ข้าจะยอมเชื่อเ้าสักครั้งแล้วกัน!” หวังเค่อเอ่ยเสียงต่ำ
“ยังคงเป็พี่หวังที่ยึดมั่นในคุณธรรมน้ำใจ ฮ่าฮ่า เช่นนั้นแล้วพวกเราจะออกเดินทางไปพรรคเทพหมาป่า์กันเมื่อไหร่ดี?” จางเจิ้งเต้าถาม
“ออกเดินทาง? ข้ายังไม่มีแผนที่จะเดินทางหรอก!” หวังเค่อว่า
องค์หญิงโยวเยว่และจางเจิ้งเต้าต่างก็มองหวังเค่อด้วยสีหน้าตกตะลึง
“ตอนนี้ด้านนอกมีแต่ความวุ่นวาย เ้าจะออกไปหาที่ตายรึยังไง? ด้านนอกมีของวิเศษที่ข้าหาซื้อมาได้ในราคาสูงลิ่วช่วยปิดบังอำพรางถ้ำแห่งนี้ไว้อยู่ ขอบเขตเซียนเทียนอย่าหวังว่าจะหาที่นี่เจอ อีกอย่าง ตลอดสิบปีมานี้ข้าถูกสิ่งอัปมงคลเกาะติดอยู่ตลอด ยังคงไม่ออกไปเสี่ยงโชคจึงจะดีที่สุด ข้าลองค้นคว้ามาแล้วว่าขอเพียงข้าปักหลักอยู่ในที่ใดที่หนึ่งโดยไม่เคลื่อนไหว ภัยร้ายก็จะยังไม่กล้ำกราย แต่ทันทีที่ข้าออกโลดแล่นพเนจรก็คงจะต้อง...!” หวังเค่อส่ายหน้า
“ให้รอ? งั้นต้องรอกันถึงเมื่อไหร่?” องค์หญิงถามอย่างสงสัย
“จนกว่าพวกมันจะเลิกทำการค้นหา!” หวังเค่ออธิบาย
“แล้วเ้าจะรู้ได้ยังไงว่าพวกมันจะเลิกทำการค้นหาเมื่อไหร่?” จางเจิ้งเต้าถามอย่างใคร่รู้
“คนของข้าจะบอกให้เรารู้เอง ดังนั้น พวกเ้าสองคนก็รออยู่ที่นี่กันไปก่อนนั่นแหละ!” หวังเค่อว่า
องค์หญิงโยวเยว่นิ่วหน้า จางเจิ้งเต้าขยับปากแต่สุดท้ายก็คิดหาทางที่ดีกว่านี้ออกมาไม่ได้
“องค์หญิงโยวเยว่ ลูกบอลสีดำของท่านตกอยู่บนพื้นแน่ะ ข้าว่าท่านเก็บลงไปดีกว่า!” หวังเค่อก้มตัวเก็บของวิเศษที่องค์หญิงโยวเยว่ละเลยขึ้นมา
“เมื่อกี้ข้าเพิ่งจะปลดผนึกเอาไว้ เ้าจะแตะมันไม่ได้เด็ดขาด นอกจากข้าแล้วใครก็ห้ามแตะถูกมัน ไม่งั้นมันจะทำงาน!” องค์หญิงโยวเยว่ร้องออกมา
“ทำงาน? ลูกบอลสีดำนี่น่ะหรือ?” หวังเค่อทำหน้าพิกล
“นี่ไม่ใช่ลูกบอลสีดำธรรมดาๆ มันเรียกว่าแสงมหาพิธี ในหมู่ของวิเศษที่ข้าคิดค้นขึ้นนี่คือผลงานที่ถูกใจข้ามากที่สุด เ้าห้ามสบประมาทมันเชียว ลองได้ะเิขึ้นมา ถึงจะไม่ได้มีอานุภาพทำลายล้างอะไร แต่ก็ยังสามารถพ่นกระแสลมมงคลกับลำแสงขนาดหมื่นจั้ง[1] ออกมาได้!” องค์หญิงโยวเยว่เอ่ยอย่างขึงขัง
“ลำแสงหมื่นจั้ง? ปล่อยกระแสลมมงคลออกมาพันสาย? ฮ่าๆ แล้วจะมีประโยชน์อะไร? ช้าก่อน เ้าว่าอะไรนะ มันจะะเิงั้นรึ?” หวังเค่อพูดไปได้ครึ่งทางสีหน้าก็ต้องแปรเปลี่ยนอย่างร้ายแรง
องค์หญิงโยวเยว่พยักหน้าอย่างเคร่งขรึม
“ตูมมมม~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ในเวลาเดียวกันนั้น ศิษย์จากตระกูลต่างๆ กำลังพลิกแผ่นดินหาที่กบดานขององค์หญิงโยวเยว่กันอยู่นอกเมืองจูเซียน แต่น่าเสียดายที่หวังเค่อซ่อนคนได้ล้ำเลิศเกินไป พวกมันทุกคนต่างก็แห้วรับประทานกันหมด
ในขณะที่ศิษย์จากตระกูลต่างๆ กำลังกังวลและไม่รู้จะทำอย่างไรดีนั้นเอง
จู่ๆ ก็มีเสียงกึกก้องกัมปนาทดังมาจากทางป่าเขาที่อยู่ไม่ห่างจากเมืองจูเซียนนัก
“ตูม~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”
ประดุจอสนีบาตจากเก้าชั้นฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาที่ป่าเขาแถบนั้น จากนั้นทุกคนก็เห็นเส้นแสงมงคลพวยพุ่งขึ้นฟ้าไปอย่างงดงามตระการตา ก่อนที่ลำแสงหมื่นจั้งจะผุดวาบออกมาจากหุบเขาทางฝั่งนั้น ฟ้าดินสว่างไสวไปทั้งแถบ ใต้แสงอันน่าตื่นตาตื่นใจเสมือนมีนิมิตหมายอันเป็มงคลเคลื่อนตัวลงมาจาก์ ทำเอาผู้รับชมต้องนิ่งอึ้งกันไปตามๆ กัน
“เป็สมบัติแบบไหนกันที่ถือกำเนิดขึ้น?” ท่ามกลางความประหลาดใจ ผู้คนนับไม่ถ้วนก็แห่แหนกันไปทางหุบเขานั้น
ภายในหุบเขาแห่งนั้น หวังเค่อ องค์หญิงโยวเยว่ และจางเจิ้งเต้าอยู่ ณ ใจกลางจุดะเิด้วยสีหน้าเหม่อลอย
การะเิไม่ได้มีพลังทำลายล้างอะไร ด้วยเหตุนี้เสื้อผ้าหน้าผมของพวกมันจึงไม่ได้รับความเสียหาย แต่เสียงที่ดังสนั่นฟ้า ลำแสงขนาดหมื่นจั้ง รวมถึงไอมงคลพันสายนั่นต่างหากที่เป็เหมือนพลุส่องสว่างกลางราตรีมืดสนิท เจิดจ้าหาใดเปรียบ ทิ่มแทงดวงตาจนแทบบอด
ทั้งสามถูกเปิดโปงเสียแล้ว!
หวังเค่อเหลือบมององค์หญิงโยวเยว่ องค์หญิงโยวเยว่ผู้นี้ทำพิษให้พวกมันแล้วไหมล่ะ คิดยังไงถึงได้คิดค้นของเส็งเคร็งพึ่งพาไม่ได้แบบนี้ออกมา? สูญเสียแผ่นดินนั้นช่างปะไร แต่ถึงขั้นเผื่อแผ่ให้โทษมาถึงพวกตนด้วย? เดิมทีบิดาก็ถูกโชคร้ายตามราวีมาพออยู่แล้ว เ้ายังอยากจะให้ข้าได้เป็ดาวค้างฟ้าประจำเทือกเขาแห่งนี้อีกหรือ?
“วิ่ง!”
หวังเค่อลากตัวองค์หญิงโยวเยว่เผ่นออกจากถ้ำอย่างอิดหนาระอาใจ
“รอข้าด้วยซี่!” จางเจิ้งเต้าเร่งเท้าตาม
เมืองจูเซียน จวนตระกูลเนี่ย!
ศิษย์พรรคอีกาทองคำจางเสินซวีบัดนี้นั่งอยู่บนเก้าอี้จีนโบราณ ในมือขยับพัดกระดาษสีขาวไหวๆ ตรงหน้ามันคือเหล่าประมุขจากเมืองจูเซียนที่ยืนอยู่อย่างเคารพนบนอบ ส่วนเนี่ยเทียนป้านั้นมีสารรูปน่าดูชมเป็ที่สุด มันกำลังยืนอธิบายถึงเื่ราวทั้งหมดั้แ่ตอนที่ตนจับตัวองค์หญิงโยวเยว่มาได้ให้จางเสินซวีฟังอยู่หน้าสุดของแถว
จางเสินซวีปิดตาใช้ความคิดอยู่พักหนึ่งพลางขยับพัดกระดาษสีขาวเบาๆ
“ข้าจะให้พวกเ้ารักษาหัวบนบ่าเอาไว้ก่อน ให้โอกาสพวกเ้าได้ชดใช้ความผิดที่ทำองค์หญิงโยวเยว่หลุดมือไป!” จางเสินซวีเอ่ยอย่างเคร่งขรึม
“ขอบคุณท่านเซียน!” เนี่ยเทียนป้ากล่าวอย่างตื้นตัน
“จงตามหาองค์หญิงโยวเยว่ต่อไป หากหาตัวนางมาไม่ได้ ข้าจะนำศีรษะของพวกเ้าทุกคนไปแทน!” จางเสินซวีเอ่ยเสียงเยียบเย็นจับจิต
“ท่านเซียน ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากลงทุนลงแรง แต่ แต่สองวันแล้วที่เราส่งคนออกไป กระนั้นก็ยังไม่มีข่าวคราวกลับมาเลย ถ้าเกิด ถ้าเกิดว่า...!” เนี่ยเทียนป้าละล่ำละลักด้วยความกลัว
คนที่เหลือเองก็ด้วย หากหาไม่เจอ พวกมันจะต้องตายกันหมด? แต่ถ้าเกิดว่าหาไม่เจอขึ้นมาจริงๆ จะทำยังไง?
“หากข้าเดาไม่ผิด เป้าหมายการเดินทางในครั้งนี้ขององค์หญิงโยวเยว่คงจะเป็พรรคเทพหมาป่า์ เดิมทีข้าได้จัดวางคนเอาไว้รอบๆ พรรคเทพหมาป่า์ รอให้นางเดินเข้ามาติดกับ แต่ไม่นึกว่าองค์หญิงโยวเยว่จะหนีมาที่เมืองจูเซียนแทน ฮึ่ม ดูเหมือนว่าข่าวลือนั้นจะถูกต้อง องค์หญิงโยวเยว่ผู้นี้เป็พวกหลงทิศ ถึงกับหนีไปผิดทางเสียได้!” จางเสินซวีเอ่ยเสียงเย็น
“อ๋า? พวกหลงทิศ?” เนี่ยเทียนป้าผงะไป
“ในละแวกสิบหมื่นมหาบรรพตมีเพียงพรรคเทพหมาป่า์ที่เคยคบค้าสมาคมกับนาง นางจะต้องหนีไปที่นั่นแน่ พวกเ้าก็ไล่ตามนางไปตามเส้นทางนั้น จัดวางจุดตรวจ ปิดกั้นเส้นทาง พวกเ้าเองก็น่าจะรู้ว่าต้องทำยังไง ขอเพียงจับตัวนางกลับมาได้ ตำแหน่งที่ว่างห้าที่ของพรรคอีกาทองคำจะตกเป็ของพวกเ้าทันที แต่ถ้าจับมาไม่ได้ละก็ ฮึ่ม!” จางเสินซวีแค่นเสียงเย็น
“ทราบแล้ว! ขอบคุณเซียนแซ่จาง!” ทุกคนเอ่ยอย่างตื่นเต้นยินดี
เมื่อมีเบาะแสทิศทาง พวกมันทุกคนย่อมตามหานางเจอได้ไม่ยาก องค์หญิงโยวเยว่จะต้องมุ่งหน้าไปที่พรรคเทพหมาป่า์ ฉะนั้นแล้วขอแค่พวกมันปิดเส้นทางไว้ก็พอแล้วนี่? ตำแหน่งที่ว่างห้าที่ของพรรคอีกาทองคำ? ขอเพียงตามหาองค์หญิงโยวเยว่เจอ พวกมันก็จะได้ผลกำไรเป็กอบเป็กำ!
ทุกคนหมายมั่นปั้นมือ หวังจะจับตัวองค์หญิงโยวเยว่มาให้ได้โดยเร็วที่สุด
จางเสินซวีขยับพัดกระดาษในมือ ใบหน้าคลี่เป็รอยยิ้มเย็น สำแดงทั้งพระเดชและพระคุณให้เป็ที่ประจักษ์ มันจึงไม่ห่วงว่าคนกลุ่มนี้จะไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งตน
“เซียนแซ่จาง ท่านบอกว่าทางไปพรรคเทพหมาป่า์มีศิษย์ของพรรคอีกาทองคำเฝ้าระวังอยู่ หากพวกเราไล่ตามองค์หญิงโยวเยว่ไป เกิดมีข้อบาดหมางกับพวกมันขึ้นมาจะทำยังไง” เนี่ยเทียนป้าถามอย่างกังวล
จางเสินซวีครุ่นคิด จากนั้นพลิกฝ่ามือนำป้ายคำสั่งสีทองออกมาแผ่นหนึ่ง บนแผ่นป้ายมีรูปอีกาทองคำสามขาอยู่ตัวหนึ่ง
“นี่คือป้ายอีกาทองคำของพรรคอีกาทองคำ ข้าให้เ้าไว้ก่อน หากเจอศิษย์พรรคอีกาทองคำขอเพียงเ้าแสดงแผ่นป้ายนี้ออกมาจะไม่มีใครสร้างความลำบากแก่พวกเ้าแน่!” จางเสินซวีโยนป้ายอีกาทองคำให้เนี่ยเทียนป้า
“ขอบคุณเซียนแซ่จาง ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟ ข้าก็จะต้องจับตัวองค์หญิงโยวเยว่กลับมาให้ได้!” เนี่ยเทียนป้าเอ่ยอย่างตื่นเต้นยินดี
“อืม!” จางเสินซวีพยักหน้า
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังสนั่นไหวดังมาจากทางยอดเขานอกเมืองจูเซียน
“ตูม~~~~~~~~~~~~~~!”
เสียงนี้ดังไปถึง์เก้าชั้นฟ้า ตามด้วยไอมงคลพันสายที่พุ่งขึ้นไปบนฟ้า ลำแสงขนาดหมื่นจั้งเปลี่ยนฟากฟ้าให้กลายเป็แสงมงคลอันเจิดจ้าบาดตา
ความเคลื่อนไหวอันใหญ่โตส่งผลให้ทุกคนนิ่งอึ้งกันไป พวกมันต่างหันหน้าไปทางต้นเสียง
“มีสมบัติถือกำเนิดขึ้นหรือนี่?” จางเสินซวีอุทานอย่างแปลกใจ
[1] จั้ง เป็หน่วยวัดความยาวของจีน เทียบเท่า 3.33 เมตร
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้