Always Winner รักที่ถูกใจ

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

ครืด กึก กึก ครืด ~ เสียงล้อกระเป๋าเดินทางครูดไปกับพื้นตามแรงดึงของแขนเรียวที่กำลังเดินมุ่งหน้าตรงไปยังลิฟต์ก่อนที่จะเดินไปยังเคาน์เตอร์เพื่อเช็กเอาต์ออกจากที่พัก

“เรียบร้อยค่ะคุณผู้หญิง ขอบพระคุณนะคะ”

“ขอบคุณค่ะ”

เสียงพนักงานสาวเอ่ยขึ้นก่อนที่เมจิจะเอ่ยขอบคุณตอบกลับแล้วเดินลากกระเป๋าออกมาตรงไปยังรถของตัวเองที่จอดอยู่ภายในอาคารจอดรถของโรงแรม

“ฮึบ! โอเคเรียบร้อย…ออกเดินทางกันดีกว่า”

ร่างบางพูดขึ้นหลังจากยกกระเป๋าเดินทางและสัมภาระของตัวเองขึ้นท้ายรถเป็๞ที่เรียบร้อยก่อนจะก้าวขาเข้าไปนั่งบนรถโดยไม่ลืมที่จะส่งข้อความบอกที่บ้าน ยัยไลลา และพี่วินว่าเธอกำลังออกเดินทาง

รถคันสีขาวคู่ใจขับเคลื่อนออกไปจากตัวอาคารมุ่งหน้าไปยังบ้านอันแสนอบอุ่นของเธอ…

14:40 น.

ณ บ้านสวนเคียงดาว

รถคันสีขาวที่คุ้นเคยขับเข้ามาจอดยังที่จอดรถประจำ ไม่นานนักคนตัวเล็กก็ลงมาจากรถก่อนจะยืดแขนบิดตัวไปมาพร้อมกับสูดลมหายใจเอาอากาศสดชื่นเข้าไปเต็มปอด…อากาศบริสุทธิ์แบบนี้หาในเมืองไม่ได้จริงๆ

“เฮ้อออ ต้องแบบนี้สิ” เมจิหลับตาพริ้ม ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาเล็กน้อยหลังจากได้ยืดเส้นยืดสายเพราะโดยปกติถ้าเธอเดินทางคนเดียวจะชอบขับรถยิงยาวแบบไม่แวะพักเลยล่ะ

Rrrrrrr ~ ติ๊ด! มือเรียวกดรับสายก่อนจะยกขึ้นแนบใบหู

“สวัสดีค่ะ” เสียงหวานของเมจิเอ่ยทักขึ้นก่อน

(สวัสดีค่ะ…พี่ฝนนะคะจากบริษัทออลเดย์)

“เอ่อ…อ๋อ ค่ะ!” บริษัทออลเดย์งั้นหรอ…มือบางยกโทรศัพท์ที่แนบหูอยู่ออกมาดูเบอร์แปลกที่โทรเข้ามาอีกครั้งก่อนจะแนบมันกลับเข้าที่เดิม

(ไม่ทราบว่าตอนนี้พูดสายอยู่กับคุณเมจิไหมคะ)

“ใช่ค่ะ”

(พอดีพี่เพิ่งเปิดดูเรซูเม่ของเราที่ส่งเข้ามาเมื่อวาน…ดูแล้วน่าสนใจดีค่ะเลยอยากนัดสัมภาษณ์กับเราไม่ว่าพอจะสะดวกไหมเอ่ย?)

เสียงผู้หญิงวัยกลางคนถามกลับมาพร้อมกับรอคำตอบ

“สะดวกค่ะ! พี่ฝนแจ้งเวลาและวันที่ที่สะดวกมาได้เลยค่ะ” เมจิตอบทันทีอย่างไม่ลังเล

(อืม…วันนี้ห้าโมงเย็นทันไหมจ๊ะ)

เมจิดึงโทรศัพท์ออกจากข้างใบหูอีกครั้งแล้วเหลือบตามองดูเวลาที่โชว์อยู่บนหน้าจอ…มีเวลาประมาณสองชั่วโมงงั้นหรอ…ทันอยู่นะ!

“ได้เลยค่ะ! เมต้องเตรียมตัวยังไงบ้างคะ”

(เดี๋ยวพี่ส่งลิงก์สัมภาษณ์งานให้เราทางอีเมลอีกที พอถึงเวลาที่นัดไว้ก็กดเข้ามานะ…อีกอย่างขอแต่งตัวแต่งหน้าทำผมให้ดูดีนิดนึงนะจ๊ะเราต้องเปิดกล้อง…เพราะตำแหน่งที่เราสมัครเข้ามาจะต้องพบเจอกับลูกค้าของบริษัทซึ่งปฏิเสธไม่ได้ที่จะต้องดูรูปลักษณ์ภายนอกระดับนึง)

ปลายสายเอ่ยบอกกับเธออย่างตรงไปตรงมา

“เมเข้าใจค่ะ รับทราบค่ะ”

“ได้จ้ะ ไว้คุยกันตอนเย็นนะ”

“ค่ะ สวัสดีค่ะ”

พอปลายสายตัดไปเมจิก็ไม่รอช้ารีบขนสัมภาระของตัวเองลงจากรถก่อนจะวิ่งไปบอกที่บ้านว่ามีสัมภาษณ์งานด่วน แล้วก็ติดสปีดใส่เกียร์หมาเข้าห้องอาบน้ำแต่งตัวด้วยความเร็วแสงชนิดที่ว่าพ่อกับแม่และพี่สาวต้องงงไปตามๆ กัน…

16:45 น.

“ฟู่ววว ใจเย็นๆ แกทำได้อยู่แล้วสบายมาก!”

นิ้วเรียวที่ตอนนี้กำลังพิมพ์ยุกยิกอยู่บนคีย์บอร์ด๞ั๶๞์ตาสวยก็เพ่งอยู่บนหน้าจอที่กำลังค้นหาประวัติบริษัทออลเดย์และรายละเอียดยิบย่อยที่สำคัญเพื่ออ่านผ่านๆ ตาสักเล็กน้อยและก็กำลังปลอบใจตัวเองไปพลางๆ เพื่อไม่ให้ตื่นเต้นไปมากกว่านี้ ด้วยเวลาที่กระชั้นชิดประกอบกับมีเวลาเตรียมตัวน้อยเลยทำให้คนตัวเล็กค่อนข้างประหม่าอยู่เหมือนกัน

“โอเค น่าจะเพียงพออยู่…แกทำได้อยู่แล้วเมจิ!”

เสียงหวานเอ่ยขึ้นอีกครั้งหลังจากมั่นใจว่าอ่านเนื้อหาสำคัญได้อย่างครบถ้วนก่อนจะสำรวจใบหน้า ผม และการแต่งกายของตนเองแล้วกดเข้าลิงก์ที่พี่ฝนส่งให้เธอทางอีเมลสำหรับนัดสัมภาษณ์ในครั้งนี้

คลิก! เธอเลือกเข้ามาก่อนเวลาประมาณห้านาทีทำให้ตอนนี้กล้องของฝั่งตรงข้ามก็เลยยังปิดมืดอยู่…

17:00 น. ตรงเป๊ะ! ฟึบ! กล้องจากฝั่งตรงข้ามก็เปิดขึ้น

(อ้าว! มารออยู่ก่อนแล้วหรอเรา) คนนี้พี่ฝนที่เป็๲คนโทรหาเธอ๰่๥๹บ่ายสินะ…

“สวัสดีค่ะ ใช่ค่ะ พอดีตื่นเต้นนิดหน่อยค่ะ” เมจิยกมือขึ้นไหว้หญิงวัยกลางคนในจอเพราะเท่าที่ดูอายุน่าจะห่างกับเธอไม่น่าต่ำกว่าสิบห้าปีเห็นจะได้

(โอ๊ย อย่าไหว้ๆ พี่รู้สึกแก่เลย 5555 มาๆ เริ่มสัมภาษณ์กันดีกว่าไม่ต้องเกร็งนะชิลๆ)

15 นาทีผ่านไป…

(55555 พี่ชอบเราๆ ฉลาดไหวพริบดีแต่ก็อ่อนน้อมถ่อมตัวแบบนี้น่าจะรับมือกับลูกค้าของบริษัทเราได้อย่างดีเลยล่ะ)

“แหะๆ ขอบคุณค่ะ” ร่างบางตอบก่อนจะยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณอีกครั้งกับคำชมที่ได้รับจากพี่ฝน

คำถามที่ใช้ในการสัมภาษณ์ตอนเริ่มต้นก็เหมือนกับการสัมภาษณ์งานทั่วๆ ไปเพราะเท่าที่เธอสังเกตพี่ฝนน่าจะอยากวัดไหวพริบและการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของตัวเธอมากกว่ารวมไปถึงความสามาถในการรับมือกับแรงกดดันต่างๆ เนื่องด้วยลักษณะงานที่ต้องเจอแขกคนสำคัญของบริษัทอยู่บ่อยครั้ง…

(เราพร้อมเริ่มงานเมื่อไหร่…ถ้าวันพุธที่จะถึงนี้สะดวกไหมจ๊ะ)

“อะ อันนี้คือเมได้งานแล้วหรอคะ!?”

(ใช่จ้ะ…ว่ายังไงเมจิ?) พี่ฝนถามย้ำก่อนจะยิ้มเอ็นดูกับใบหน้าของเมจิที่ตอนนี้เหมือนคนกำลังสันสบงุนงงกับตัวเอง

วันพุธที่จะถึงนี้งั้นหรอ… นี่วันจันทร์แปลว่าก็มีเวลาเตรียมตัวพรุ่งนี้แค่วันเดียวทันไหมนะ? แต่นี่บริษัทอันดับหนึ่งของประเทศที่มีคู่แข่งเป็๲แสนคนแต่เขาเลือกเธอเลยนะเมจิ…จะมัวแต่คิดอะไรอยู่ล่ะ!

“ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา!” เสียงหวานตอบพี่ฝนไปด้วยความหนักแน่น

(หึ ต้องแบบนี้ยังไงเดี๋ยวพี่ส่งรายละเอียดให้เราอีกทีนะแล้วเจอกันวันพุธนะจ๊ะ)

“ได้เลยค่ะ ขอบคุณพี่ฝนมากๆ เลยนะคะ”

“จ้า”

หลังจากที่กล้องของอีกฝ่ายปิดลงร่างแบบบางของเมจิก็ยังคงนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้น

นี่ฉันต้องทำอะไรก่อน…ควรเริ่มจากตรงไหนดี?

โครก คราก ~ โครก คราก ~ เสียงคำรามดังมาจากท้องของหญิงสาว มันกำลังโวยวายเรียกหาอาหาร

“กินข้าวก่อนแล้วกัน!”

 

ห้องทานอาหาร

“แอ้…อ้อ อู๋อ้ายอานแอ้วอ้ะ”

“นี่ แกช่วยเคี้ยวข้าวให้เสร็จก่อนแล้วค่อยพูดได้ไหม” เมจิทำหน้ามุ่ยเพราะโดนแม่ทำเสียงดุใส่ ก็คนมันหิวนี่แต่ก็อยากบอกเ๱ื่๵๹สำคัญเธอจึงรีบกลืนข้าวลงคอไปเพื่อจะได้พูดได้ชัดๆ

“เมจะบอกว่า…เมได้งานทำแล้วนะ”

“บริษัทอะไร? / ที่ไหน? / เริ่มงานเมื่อไหร่?” เสียงพ่อแม่และพี่สาวของเธอถามขึ้นมาพร้อมกัน

“บริษัทออลเดย์ ที่กรุงเทพฯ เริ่มงานวันพุธนี้”

“หา! ทำไมกะทันหันแบบนั้นล่ะ” เป็๲เสียงแม่ที่ดังขึ้นมาคนแรก

“เมว่าเขาน่าจะ๻้๪๫๷า๹คนด่วนนะเหมือนขาดอยู่ตำแหน่งนึง”

“นี่มันบริษัทระดับประเทศเลยนะ เห็นเขาว่าให้เงินเดือนดีมากด้วย… ดีแล้วล่ะคว้าไว้ก่อนโอกาสทองไม่ได้หาได้ง่ายๆ” เสียงพี่โมนาพูดเสริมอธิบายขึ้นมา

“อืม ถ้าเป็๞งั้น ทำไรเสร็จเราก็ไปเตรียมตัวได้แล้ว ไม่ต้องห่วงงานที่บ้านยังไงพี่เราเขาก็กลับมาช่วยดูอีกคน” พ่อพูดบอกลูกสาวคนเล็กของบ้าน

“โอเชชช งั้นเมขึ้นไปจัดของก่อนนะ” เมจิเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินไปหอมแก้มทั้งสามคนอย่างที่เธอทำเป็๲ประจำแล้วเดินกลับขึ้นไปยังห้องของตัวเอง

 

ห้องนอนเมจิ

กริ๊ก! เสียงล็อกประตูห้องดังขึ้นหลังจากที่ร่างบางเพิ่งเดินกลับเข้ามา ขาเรียวสวยเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือของตนเองที่วางอยู่ขึ้นพร้อมกับส่งข้อความบอกไลลากับพี่วินว่าเธอได้งานแล้ว ก่อนจะวางมือถือลงกลับที่เดิมแล้วไปเก็บของใช้ส่วนตัวที่จำเป็๞ทั้งหมดลงกระเป๋า…

21:30 น.

“เฮ้อออ กว่าจะหมดเอาเ๹ื่๪๫อยู่นะ” ริมฝีปากอวบอิ่มบ่นพึมพำออกมาหลังจากเก็บของใช้จำเป็๞ทั้งหมดลงกระเป๋าเป็๞ที่เรียบร้อย ส่วนที่เหลือบางอย่างค่อยไปซื้อเอาละกัน

ติ๊ง! ติ๊ง! เสียงแจ้งเตือนข้อความเข้าดังขึ้น

พี่วิน : เก็บของเรียบร้อยหรือยัง?

พี่วิน : ทำอะไรเสร็จแล้วบอกนะครับ เดี๋ยวพี่โทรไป

เมจิ : เพิ่งเสร็จเลย งั้นเดี๋ยวเมอาบน้ำก่อนนะ

“คิกคิก” เสียงหวานใสหัวเราะคิกคักกับตัวเองอย่างไร้สาเหตุแล้วรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไป

 

ผ่านไปยี่สิบนาทีคนตัวเล็กที่อยู่ในชุดนอนก็ปีนขึ้นเตียงโดยไม่ลืมที่จะหยิบไอแพดคู่ใจขึ้นมาแล้วกดโทรออกไปหาชายหนุ่มใส่แว่นที่กำลังยิ้มให้เธอผ่านรูปโปรไฟล์

ตื่อดือดึ๊ง ตื่อดือดึ๊ง ~

(ไง โทรมาเองคิดถึงพี่หรอครับ) แค่เสียงก็ยังต้องหล่อขนาดนี้เลยหรอเนี่ย…

“ช่ายยย ใจแทบขาด! 55555” เมจิตอบกลับกึ่งเล่นกึ่งกวน

(หึ ตัวแสบ…ไหนยังไงได้งานแล้วหรอ)

“ใช่แล้วของบริษัทออลเดย์ที่พี่บอกเมเลย…ต้องขอบคุณพี่วินเลยนะเนี่ย”

(เปลี่ยนคำขอบคุณเป็๲มากินข้าวกับพี่ทุกเย็นแทนแล้วกันนะครับ)

“โหหห พี่อยู่แถวไหนก่อนเกิดไกลกับเมทำไง” เธอบ่นทำเสียงงึมงำในลำคอ

(ก็แล้วเราพักแถวไหนล่ะ)

เออนั่นสิ!! นี่ฉันนอนไหนล่ะพรุ่งนี้!!!!

“เมยังไม่รู้เลย…ลืม” เมจิตอบเสียงอ่อย

(อืม จริงๆ พี่มีคนรู้จักเขาหาคนเช่าห้องอยู่ คอนโดเดียวกับพี่เลยไม่ห่างจากบริษัทมากด้วย)

“ราคาสูงมากไหมอะ” คนตัวเล็กถามออกไปตามตรง

(ไม่หรอกเดี๋ยวพี่คุยกับเขาให้…หรือถ้าอยากประหยัดกว่านั้นก็มานอนห้องพี่)

“ขอปฏิเสธขอเสนอค่ะ!”

(5555 ไม่สนใจหน่อยหรอ ฟรีก็ได้) เสียงทุ้มเข้มขำออกมาแต่ก็ยังไม่ลดความพยายามที่จะโน้มน้าวต่อ

“ยืนยันคำตอบเดิมค่ะพี่ ~”

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้