ูเี่อันทำสีหน้าราวกับว่า‘ต่อให้ฉันเจอนาย ฉันก็จำไม่ได้’ ลู่เป๋าเหยียนเห็นดังนั้นก็ไม่ได้ว่าอะไรเขาโน้มตัวลงมาก่อนพูดว่า
“พี่ชายเธอบอกฉันหมดแล้วฉันรู้ว่าเธอตั้งใจไปหาฉัน”
ูเี่อันตาเบิกกว้างอย่างใหน้าเธอแดงขึ้นมาในพริบตา
เธออยากจะเถียงแต่วินาทีนี้คงไม่มีประโยชน์อีกต่อไปจึงได้แต่นิ่งเงียบอย่างคนมีชนักติดหลังพลางเบือนหน้าหนี
“พี่ฉันบอกนายเื่อะไรอีก?” เธอกลัวว่าพี่จะบอกความลับสุดยอดของเธอกับเขา ถ้าเป็แบบนั้นล่ะก็...เธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกันล่ะเนี่ย
ลู่เป๋าเหยียนยิ้มมุมปากก่อนจะถามย้อน“เธอยังมีเื่ปิดบังฉันอีกเหรอ”
ได้ยินดังนั้นความยินดีก็ฉายชัดบนรอยยิ้มของูเี่อัน“หมายความว่าพี่บอกนายแค่เื่นี้สินะ!” พูดจบเธอก็ใที่หลุดปากออกไป “ไม่มีแล้ว!ฉันไม่ใช่นายนะ จะได้มีเื่ปิดบังชาวบ้านเยอะขนาดนั้น”
ตอนนี้รอยยิ้มของลู่เป๋าเหยียนยิ่งดูยากที่จะคาดเดาเข้าไปใหญ่
ที่เขาไม่พูดออกมาก็เพราะอยากได้ยินคำนั้นจากปากเธอเองแต่ตามนิสัยของูเี่อัน เธอคงไม่ยอมพูดง่ายๆแน่ ดังนั้น เขาว่าจะปล่อยให้เธอได้ใจแบบนี้ไปก่อนสักระยะถ้าไม่ไหวจริงๆ เขาค่อยใช้ไม้แข็งตามที่ซูอี้เฉิงบอก...
เสิ่นเยว่ชวนกับซูอี้เฉิงจะกลับเมือง A ไฟล์ทสองทุ่มครึ่งก่อนออกเดินทางพวกเขาจึงมากินข้าวเป็เพื่อนูเี่อันแล้วค่อยไปสนามบินแต่ทีู่เี่อันนึกไม่ถึงก็คือลู่เป๋าเหยียนก็กำลังจะกลับเหมือนกัน
“ฉันต้องกลับไปประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ที่โรงแรม”ลู่เป๋าเหยียนอธิบาย “เธอจะอยู่ที่นี่หรือจะไปกับฉัน?”
“ฉันแอดมิทอยู่นะ”ูเี่อันตอบช้าไปหนึ่งจังหวะ “หมอคงไม่ยอมให้ฉันออกไปไหนแน่”
ลู่เป๋าเหยียนเลิกคิ้วเล็กน้อย“เธอเป็เมียฉัน ฉันจะพาเธอไปไหนทำไมต้องรอให้คนอื่นอนุญาต?”
“.......”ูเี่อันกะพริบตาปริบๆ แก้มใสของเธอค่อยๆแดงก่ำขึ้นมา
เมื่อก่อนเวลาอยู่ในที่สาธารณะลู่เป๋าเหยียนมักจะเรียกเธอว่าภรรยาถึงจะไม่ได้ดูเหินห่าง แต่ก็เป็สุภาพบุรุษ แม้จะไม่ได้ดูสวีทมากก็ตาม แต่คราวนี้เขาพูดคำว่า‘เมีย’ ออกมาเต็มปากอย่างวางอำนาจ
เธอเชื่อว่าเขาสามารถพาเธอออกไปได้จริงอย่างที่พูด
แต่...ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าเื่นี้มันดูแปลกๆ?
ูเี่อันเริ่มรู้ตัวจึงเอนนอนลงบนเตียง“ใครจะไปกับนายกัน? ฉันจะอยู่ที่โรงพยาบาล!”
ลู่เป๋าเหยียนตามใจเธอ“งั้นรอฉันกลับมานะ” พูดจบเขาก็ออกไปทันที
ูเี่อันเบ้ปากเล็กน้อยก่อนจะหยิบแท็บเล็ตที่เสิ่นเยว่ชวนทิ้งไว้ให้มาเปิดหนังดู
สี่ทุ่มกว่าขาขวาของเธอก็เริ่มปวด ตามมาด้วยอาการปวดที่เอว ตอนแรกเธอก็พอกัดฟันทนได้แต่ตอนหลังขนาดหนังที่กำลังสนุกก็ไม่อาจเบนความสนใจของเธอได้อีก
เธอเปลี่ยนแผ่นยาที่เอวแต่ก็ไม่ดีขึ้นเท่าไรสุดท้ายจึงต้องเรียกคุณหมอ
“อาการปวดแผลถือเป็เื่ปกติค่ะ”แพทย์หญิงกล่าว “ดิฉันจัดยาแก้ปวดไว้แล้ว หลังทานยาก็คงดีขึ้นค่ะ”
“จริงสิต้องโทรหาคุณลู่นี่หน่า!” พยาบาลสาวที่ยืนอยู่ข้างๆพูดขึ้นมา“ก่อนคุณลู่จะออกไปเขาสั่งไว้ค่ะ ว่าถ้ามีอะไรให้รีบโทรหาเขาทันที”
ูเี่อันไม่รู้ว่าลู่เป๋าเหยียนประชุมเสร็จหรือยังจึงไม่อยากรบกวนแต่พยาบาลสาวคนนั้นวิ่งออกไปแล้ว เธอจึงรั้งไว้ไม่ทัน
ไม่นานหลังจากนั้นนางพยาบาลอีกคนก็เอายามาใหู้เี่อัน ต่อให้กินยาแล้วก็ใช่ว่ายาจะออกฤทธิ์ทันทีูเี่อันยังคงปวดแผลเกินทานทน แต่เพราะนิสัยที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆเธอจึงกัดฟันไม่ร้องโอดโอยออกมา
เมื่อลู่เป๋าเหยียนกลับมาที่โรงพยาบาลบนหน้าผากของูเี่อันก็ชื้นเหงื่อไปหมด
เขาช่วยซับเหงื่อให้เธอพลางถาม“ปวดมากเลยเหรอ”
ูเี่อันกัดฟันพยักหน้าตอบรับจากนั้นก็เงียบไปนานก่อนพูดขึ้นว่า “นายไม่ต้องประชุมแล้วเหรอ”
“การประชุมเลื่อนไปพรุ่งนี้ก็ได้”หลังเงียบอยู่ชั่วอึดใจ ลู่เป๋าเหยียนก็จับมือูเี่อันขึ้นมา
“เจี่ยนอันพวกเรากลับเมือง A กันดีไหม?ต่อให้เธอโกรธฉัน แต่ก็ไม่ควรให้มันมากระทบการรักษาของเธอนะ โรงพยาบาลที่เมืองA ดีกว่าที่นี่ อีกอย่าง ถ้าเธอยังไม่หายดีแล้วจะมีแรงมาโกรธฉันงั้นเหรอ?”
เดิมทีูเี่อันกำลังทำหน้าบูดเบี้ยวเพราะความเ็ปแต่เมื่อได้ยินคำพูดของลู่เป่าเหยียนเธอถึงกับหลุดยิ้มออกมา
“ทำไมฉันถึงคิดไม่ถึงเลยเนี่ย”
“เดี๋ยวฉันบอกให้วังหยางไปเดินเื่ให้พรุ่งนี้เธอจะได้ย้ายไปโรงพยาบาลที่เมือง A”
“เดี๋ยวก่อน”ูเี่อันพูดออกมาพลางฝืนความเ็ป “ฉันยังไม่ได้ตอบตกลงเลยนะนายกำลังปรึกษากับฉันอยู่ไม่ใช่เหรอ”
“ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว”ลู่เป๋าเหยียนช่วยห่มผ้าให้เธอ “เชื่อฟังฉัน นอนซะตื่นขึ้นมาก็ไม่ปวดแล้วนะเด็กดี”
นี่มันคำพูดกล่อมเด็กชัดๆแต่ถึงอย่างนั้นูเี่อันก็หลับตาลงอย่างว่าง่าย
ไม่รู้ว่ายาแก้ปวดผสมยานอนหลับอยู่ด้วยหรือเพราะยาออกฤทธิ์เธอเลยไม่รู้สึกปวดแผลอีกแล้ว ความง่วงจึงเริ่มครอบงำเธอแต่ก่อนที่จะหลับไปูเี่อันก็นึกเื่หนึ่งขึ้นมาได้ทั้งๆที่ยังสะลึมสะลือ
“ลู่เป๋าเหยียนนายจะอยู่เป็เพื่อนฉันที่นี่หรือเปล่า” เธอถาม
“อยู่สิ”ลู่เป๋าเหยียนตอบ “นอนเถอะ ฉันไม่ไปไหนหรอก”
“ฉันไม่ได้กลัวว่านายจะหนีไปไหนสักหน่อย”เสียงของเธอเริ่มแหบไปตามความง่วงงุน “ฉันจะบอกว่าอย่านอนที่โซฟาอีกเลยมานอนบนเตียงก็ได้...”เธอแค่รู้สึกว่าคนตัวสูงอย่างเขาไปนอนโซฟามันดูจะ...น่าสงสารเกินไปถ้าจะให้ฟุบนอนกับข้างเตียง ก็คงปวดคอ...
ลู่เป๋าเหยียนลูบผมเธอเล็กน้อยก่อนจะขึ้นมานอนบนเตียง
เตียงไซด์เล็กแบบนี้นอนสองคนก็เต็มทำให้ทั้งคู่ตัวติดกันไร้ซึ่งช่องว่างใดๆ
ลู่เป๋าเหยียนนอนตะแคงก่อนจะยื่นมือมารั้งูเี่อันเข้าสู่อ้อมกอด
“นอนเถอะนะ”เขาตบไหลู่เี่อันเบาๆราวกับกำลังกล่อมเด็กแรกเกิด
ูเี่อันรู้สึกสบายใจขึ้นมาอย่างประหลาดความเ็ปที่เอวและขาขวาค่อยๆจางหาย เธอจึงเข้าสู่นิทราในไม่ช้า
ตีสามกว่าฤทธิ์ยาก็เริ่มหมด ูเี่อันปวดแผลอีกครั้งจนตื่นขึ้นมา
เมื่อเธอลืมตาก็พบว่าลู่เป๋าเหยียนยังคงนอนอยู่ท่าเดิมเธออยู่ในอ้อมกอดของเขา ส่วนเขากำลังขมวดคิ้วมุ่น
มีใครขมวดคิ้วแบบนี้ตอนนอนกันบ้าง? สงสัยลู่เป๋าเหยียนคงกำลังฝัน
ูเี่อันยังจำตอนที่ลู่เป๋าเหยียนนอนฝันร้ายได้ตอนนั้นเขาก็ทำหน้าแบบนี้ แถมยังละเมอเรียกหาพ่ออีกด้วย
ดูท่าการตายของพ่อจะส่งผลกระทบต่อเขามากแต่เขาไม่เคยเอ่ยเื่นี้กับเธอเลยสักครั้ง
เธอพยายามข่มความเ็ปและพลิกตัวมากอดเขาไว้เหมือนครั้งนั้นมือเล็กของเธอตบหลังเขาเบาๆอย่างปลอบโยน ทั้งสองคนดูราวกับนกยวนยางที่รักใคร่กันไม่มีผิด
ลู่เป๋าเหยียนไม่ได้ตื่นขึ้นมาแต่ปมที่คิ้วของเขาเริ่มคลายตัวและหลับได้อย่างเป็สุข
ูเี่อันมองเขาอยู่อย่างนั้นสักพักก่อนจะยกมือเขาออกจากตัวเธอ ขณะที่กำลังจะลุกออกจากเตียง เธอก็ถูกรั้งตัวไว้เสียงของลู่เป๋าเหยียนดังขึ้นในความมืด
“เธอจะไปไหน”
ูเี่อันหันกลับไปมองจึงเห็นสีหน้ากังวลใจของเขา
เขาไม่ได้โกรธแค่กลัวว่าเธอจะจากไป กลัวว่าเธอจะหายไปเหมือนกับพ่อของเขาโดยไม่บอกกล่าว
“ฉันปวดแผลว่าจะลุกไปกินยา นาย...เป็อะไรหรือเปล่า?”ูเี่อันตอบ
ลู่เป๋าเหยียนเริ่มรู้ตัวว่าตัวเองกำลังทำตัวแปลกจากเดิมจึงลุกออกจากเตียงก่อนเอ่ย
“เธอนอนเถอะเดี๋ยวฉันหยิบให้”
“อื้อ”ูเี่อันตอบและเอื้อมมือไปเปิดไฟ เธอรับยาและแก้วน้ำมาจากลู่เป๋าเหยียน
เมื่อกินยาเสร็จเธอก็มองลู่เป๋าเหยียนก่อนจะถามออกไปว่า
“เมื่อกี้เหมือนนายกำลังฝันร้ายนายฝันเื่อะไรเหรอ”
ลู่เป๋าเหยียนนิ่งไปอย่างเห็นได้ชัด“ไม่มีอะไร นอนต่อเถอะ”
ูเี่อันมองลู่เป๋าเหยียนอย่างพิจารณาไม่ใช่ไม่มีอะไร แต่เขายังไม่อยากบอกเธอ
“เลิกคิดได้แล้ว”ลู่เป๋าเหยียนกดปิดไฟ ก่อนจะดึงมือูเี่อันให้นอนลงบนเตียงพลางกอดเธอเอาไวู้เี่อันเริ่มดิ้นอย่างประท้วง แต่เขารีบเอ่ยเตือนเสียงเบา
“อย่าดิ้นล่ะ!”
ูเี่อันรู้ดีว่าผลลัพธ์ของ‘การดิ้น’ คืออะไร เธอจึงไม่กล้าขยับตัวอีก หลังหาจุดที่นอนได้อย่างสบาย เธอก็หลับไปอย่างว่าง่าย
ลู่เป๋าเหยียนกำลังปิดบังบางอย่างเธอยอมรับว่ารู้สึกผิดหวังแต่ก็ไม่อยากจะถามเซ้าซี้ สักวันหนึ่งเขาคงบอกเธอเอง เหมือนกับที่เขาสารภาพความรู้สึกกับเธอวันนี้
“ยังปวดอยู่หรือเปล่า”ลู่เป๋าเหยียนเอ่ยถาม
“นิดหน่อยเดี๋ยวก็คงดีขึ้นแล้วล่ะ” ูเี่อันตอบพลางหาวหลังนิ่งอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดเสริม “ลู่เป๋าเหยียน พรุ่งนี้... พวกเรากลับกันเถอะ”
ถึงจะรู้ว่ายังไงพรุ่งนี้ลู่เป๋าเหยียนก็คงพาเธอกลับแต่เธอก็อยากบอกด้วยตัวเองอยู่ดีว่าเธอยอมกลับไปกับเขาแล้ว
ลู่เป๋าเหยียนจูบหน้าผากเธออย่างแ่เบา“อืม”
ูเี่อันเม้มปากเล็กน้อยก่อนจะหลับตาลง
ทั้งสองคนเข้าสู่นินทราจนกระทั่งเจ็ดโมงกว่าของเช้าวันรุ่งขึ้น
เมื่อลู่เป๋าเหยียนตื่นขึ้นมาก็พบว่าูเี่อันยังคงหลับอยู่เธอนอนอยู่ในอ้อมแขนของเขาราวกับสัตว์เลี้ยงตัวน้อย ลมหายใจผ่อนเป็จังหวะดูนิ่งสงบจนคนมองไม่กล้ารบกวน
เขาปล่อยตัวเธอและลุกจากเตียงอย่างเงียบเชียบเพื่อออกไปโทรศัพท์สั่งวังหยางให้ทำเื่ย้ายโรงพยาบาลและเตรียมเดินทางกลับเมือง A
เมื่อวานก่อนที่เสิ่นเยว่ชวนจะเดินทางกลับเขาได้เตือนวังหยางไว้ว่า ูเี่อันอาจจะไม่ยอมกลับไม่แน่ลู่เป๋าเหยียนอาจจะอารมณ์ไม่ดี ฉะนั้นเขาควรทำอะไรอย่างระมัดระวังไม่นึกเลยว่าเื่จะไม่ได้เป็อย่างที่คาด
ลู่เป๋าเหยียนก็ยังคงเป็ลู่เป๋าเหยียน!วังหยางคิดอย่างนับถือก่อนจะไปจัดการงานที่ได้รับมอบหมายอย่างอารมณ์ดี
หลังตื่นขึ้นมาูเี่อันก็กินอาหารเช้าเมื่อกินเสร็จเรียบร้อยลู่เป๋าเหยียนก็ยื่นเสื้อผ้ามาให้เธอ
“เปลี่ยนชุดก่อนพวกเราจะกลับกันแล้ว”
เมื่อคืนูเี่อันเป็คนรับปากกับลู่เป๋าเหยียนว่าวันนี้จะเดินทางกลับเมืองAเธอจึงยอมให้ลู่เป๋าเหยียนอุ้มเข้าห้องน้ำไปโดยไม่อิดออด
“เสร็จแล้วเรียกนะ”
พูดจบลู่เป๋าเหยียนก็เดินออกไปและช่วยปิดประตูห้องน้ำให้
เพราะาเ็หลายที่ทำใหู้เี่อันเปลี่ยนชุดค่อนข้างช้าแต่เธอไม่นึกเลยว่าจะเจอกับปัญหาใหญ่ที่น่าอายแบบนี้...
เพราะาแที่เอวทำให้เธอเอื้อมมือไปด้านหลังได้อย่างยากลำบากหากจะให้ติดตะขอชุดชั้นในยิ่งไม่ต้องพูดถึง พอฝืนเอื้อมมากเข้าเธอก็ปวดแผลจนแทบทรุดเธอพยายามอยู่นานจนเหงื่อออก แต่ก็ยังไม่สำเร็จ
“เจี่ยนอัน?” เสียงของลู่เป๋าเหยียนดังขึ้นเมื่อเริ่มรู้สึกถึงความผิดปติ“เปลี่ยนชุดเสร็จหรือยัง?”
“กะใกล้แล้ว” ูเี่อันอยากจะร้องไห้ “นายรออีกแป๊บนึง”
ลู่เป๋าเหยียนรอต่ออีก6-7 นาทีก็เริ่มหมดความอดทน เขาเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปและพบว่าูเี่อันกำลังหันหลังให้เขาภาพของแผ่นหลังขาวนวลเนียนและเอวบางจึงปรากฎเข้าสู่สายตา
“กรี๊ด!”ูเี่อันกรีดร้องอย่างใ “นายจะเข้าทำไมเนี่ย! ออกไปนะ! คนโรคจิต!”
ลู่เป๋าเหยียนขมวดคิ้วก่อนจะปิดประตูและเดินตรงมาหาูเี่อัน
ูเี่อันเบิกตากว้างอย่างใ“ลู่เป๋าเหยียน!”
ทว่าลู่เป๋าเหยียนกลับพูดอย่างใจเย็น“ถ้าฉันออกไป เธอคงเปลี่ยนชุดจนตัวช้ำไปหมดแน่”
เขาช่วยูเี่อันติดตะขอให้เรียบร้อยก่อนจะหยิบเสื้อแขนยาวมาสวมให้เธอ และเดินออกจากห้องน้ำไปอย่างสบายใจ
ูเี่อันยืนอึ้งอยู่สักพักเมื่อหันไปมองตัวเองในกระจกก็เห็นพวงแก้มทั้งสองข้างแดงก่ำเป็ลูกตำลึงลมหายใจของเธอเริ่มติดขัดอย่างเสียสูญ
เธอยกมือขึ้นทาบทรวงอกของตัวเองจึงััได้ว่าหัวใจกำลังเต้นแรงจนแทบะเิ ลู่เป๋าเหยียนแตะโดนแผ่นหลังของเธอััจากปลายนิ้วอุ่นร้อนของเขายังคงรับรู้ได้จนถึงตอนนี้
กรี๊ดๆ ๆ
ูเี่อันกรีดร้องอยู่ในใจอย่างบ้าคลั่ง
