“หืม?”
ครั้งนี้เปลี่ยนเป็เย่เทียนหลง เย่ชิงหนิว และเย่ไป๋หู่ที่รู้สึกแปลกใจขึ้น ดูท่านางจะมีความมั่นใจมากเลยทีเดียว ถ้าหากไม่ให้นางได้เรียนรู้อะไรจริงๆ เสียบ้างคงไม่รู้ว่าอะไรเป็อะไรอย่างแท้จริง
“ก็ได้ ชิงหนิวเ้าปรับลดระดับพลังลงมาอยู่ที่ระดับขั้นที่สองขอบเขตาาจักรพรรดิ การโจมตีด้านพลังกฎเกณฑ์ก็ปรับลดลงมาด้วย เ้าไปทำให้นางหนูคนนี้เรียนรู้ความเป็จริงเสียหน่อย!” เย่เทียนหลงในที่สุดก็พูดขึ้น เขาตัดสินใจที่จะให้เย่ชิงอวี่ได้เข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างนางและผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตาาจักรพรรดิที่แท้จริง
“ตกลง!” เย่ชิงอวี่พยักหน้าราบเรียบออกมา ส่งสายตามองไปยังเย่ชิงหนิว
“แหะๆ นางหนูระวังตัวด้วย ถ้าหากทนไม่ไหวรีบร้องบอกออกมาล่ะ!” เย่ชิงหนิวพยักหน้าแล้วมองไปยังเย่ชิงอวี่ มองเห็นเย่ชิงอวี่เตรียมตัวพร้อมแล้วจึงปล่อยพลังปราณรบออกไปง่ายๆ สายหนึ่ง แน่นอนว่าเขาใช้พลังเพียงแค่ส่วนเดียวเพียงเท่านั้น พลังกฎเกณฑ์แห่งการทำลายล้างของเขาก็ไม่ได้ใช้ออกมาเลยแม้แต่น้อย เขากลัวว่าเย่ชิงอวี่จะตื่นเต้นลนลานเกินไปจนถูกโจมตีเข้าจริงๆ หากเป็เช่นนั้นหมายถึงหายนะเลยก็ว่าได้
มองดูพลังปราณรบของเย่ชิงหนิวที่พุ่งตรงเข้ามาหาร่างกายตนเองแต่นางกลับไม่ได้ขยับเขยื้อนแต่อย่างใด เย่เทียนหลงและเย่ชิงหนิวเข้าใจว่าเย่ชิงอวี่เจอการต่อสู้จริงครั้งแรกจึงใกลัวทำอะไรไม่ถูก ครั้นแล้วจึงเตรียมที่จะยื่นมือเข้าช่วยป้องกันแทนนาง แต่ไม่คาดคิดว่าทันใดนั้นเองร่างกายของนางพลันปรากฏแสงสีน้ำเงินออกมาปกคลุมทั่วทั้งร่างกายของนางเอาไว้ ส่วนพลังโจมตีของเย่ชิงหนิวเมื่อพุ่งเข้ามากระทบกับม่านพลังสีน้ำเงินที่ครอบร่างกายของนาง ม่านพลังผิวด้านนอกเกิดการเคลื่อนไหวไปตามร่างกายของนางอย่างรวดเร็วราวกับสายน้ำไหลฉันนั้น มองดูแล้วแปลกประหลาดเป็อย่างมาก จากนั้นพลังปราณรบของเย่ชิงหนิวที่โจมตีเข้ามาถูกม่านพลังที่ห่อหุ้มร่างกายของนางอยู่นั้นถ่ายโอนพลังออกไปทางด้านหลังอย่างง่ายดาย
ปัง! พลังปราณรบของเย่ชิงหนิวถูกโอนย้ายตกกระแทกลงไปยังพื้นด้านหลังของเย่ชิงอวี่จนบังเกิดเสียงดังอย่างรุนแรงขึ้น แรงะเิทำให้พื้นเกิดเป็หลุมลึกออกมาให้เห็น
หืม?
มันคืออะไร? จะว่าสนามพลังก็ไม่ใช่ ม่านพลังครอบที่ใช้ป้องกันก็ไม่เหมือน แถมยังสามารถถ่ายโอนการโจมตีของศัตรูออกไปได้?
เย่ชิงหนิว เย่เทียนหลง และเย่ไป๋หู่ขยี้ตาไปมาไม่อยากที่จะเชื่อในสิ่งที่ได้เห็น ต่างมองดูม่านพลังครอบสีน้ำเงินที่อยู่บนร่างของเย่ชิงอวี่ ของสิ่งนี้แปลกประหลาดเป็อย่างมาก พวกเขาทั้งสามคนมีอายุมาเกือบจะร้อยปีแล้วยังไม่เคยได้เห็นยินได้ฟังเกี่ยวกับของสิ่งนี้มาก่อน
“มาข้าเอง!”
เย่เทียนหลงไม่เชื่อ ร้องบอกออกมาให้นางรู้ว่าเขาจะโจมตี จากนั้นสะบัดพลังปราณรบที่รุนแรงกว่าของเย่ชิงหนิวหน่อยหนึ่งโจมตีใส่ไปยังเย่ชิงอวี่
ผลที่ออกมาคือ เมื่อพลังปราณรบกระทบเข้ากับม่านพลังสีน้ำเงินที่ห่อหุ้มอยู่บนร่างของเย่ชิงอวี่ ม่านพลังสีน้ำเงินเปล่งประกายแสงเคลื่อนที่ไหลเวียนขึ้นอย่างรวดเร็วในทันทีพร้อมกับพลังปราณรบของเย่เทียนหลงที่โจมตีเข้ามาก็ถูกถ่ายโอนออกไปอีกเช่นกัน จากนั้นพลังปราณรบถูกโอนย้ายส่งไปทางด้านหลังของนางแล้วกระแทกลงไปที่พื้นอีกครั้งจนทำให้หลุมที่ถูกกระแทกทีแรกลึกลงไปอีกอย่างเห็นได้ชัด
“หืม? เด็กน้อย มันคือเคล็ดวิชาอะไร? ทำไมถึงสามารถโยกย้ายถ่ายโอนการโจมตีของพลังปราณรบได้?” พวกเย่เทียนหลงทั้งสามในตอนนี้แน่ใจแล้ว ภายในดวงตาเต็มไปด้วยความแปลกประหลาดใจ เย่เทียนหลงไม่ได้ทำการทดสอบอีกต่อไป แต่รีบเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ข้อมูลทั้งหมดโดยรวมข้าก็ไม่รู้แน่ชัดเหมือนกัน ข้ารู้แต่เพียงว่าเคล็ดวิชาชนิดนี้เรียกว่าความกลัดกลุ้มสีน้ำเงิน สามารถทำการโอนย้ายการโจมตีที่เป็วัตถุสสารทุกอย่างของผู้มีพลังฝีมือในระดับเดียวกันได้ แน่นอนว่าตอนนี้ข้าเรียนรู้ได้ยังไม่สมบูรณ์คาดว่าคงทำได้แค่ต้านทานการโจมตีจากผู้มีพลังฝีมือระดับขั้นสูงสุดขอบเขตาาจักรพรรดิได้เพียงสามครั้งเท่านั้น!” เย่ชิงอวี่นิ่งเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะพูดขึ้น
“ความกลัดกลุ้มสีน้ำเงิน? โอนย้ายการโจมตีที่เป็วัตถุสสารของผู้มีพลังฝีมือในระดับเดียวกันได้ทั้งหมด?”
พวกเย่เทียนหลงทั้งสามมองตากันไปมาพร้อมกับอึ้งตาค้างกันขึ้นมาทุกคน ของสิ่งนี้มันจะสุดยอดเกินไปแล้ว! ทำไม? ทำไมเย่ชิงอวี่ถึงสามารถเรียนรู้ความสามารถที่แหกกฎ์เช่นนี้ได้? โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขาไม่เคยได้ยินเคล็ดวิชาต่อสู้ที่แหกกฎ์เช่นนี้มาก่อน? ยังมีสิ่งที่เรียกว่าการโจมตีที่เป็วัตถุสสารอะไรนั้นอีก?
“เป็เคล็ดวิชาที่แข็งแกร่งเกินความคาดหมายจริงๆ! ดูท่าความสัมพันธ์ของเย่ชิงหานกับท่านซื่อผู้ยิ่งใหญ่คงไม่ธรรมดามากแน่ๆ...”
ในขณะที่ทุกคนกำลังมองหน้ากันเลิ่กลั่กอยู่นั้น ด้านหลังของพวกเขาพลันบังเกิดเสียงพูดสรรเสริญออกมาประโยคหนึ่งที่ฟังดูแปลกประหลาด
“คำนับท่านปรมาจารย์บรรพบุรุษ!”
“คำนับท่านปรมาจารย์บรรพบุรุษ!”
ทุกคนตกตะลึงอยู่ชั่วครู่จากนั้นพลันได้สติกลับคืนมา สีหน้าพลันเปลี่ยนเป็เคารพนอบน้อมบูชาออกมา ต่างหมุนตัวกันกลับไปประสานมือคำนับลงแก่บุคคลที่มาด้านหลังซึ่งก็คือเย่รั่วสุ่ย
“อืม!” เย่รั่วสุ่ยยิ้มออกมาเล็กน้อยจากนั้นเคลื่อนตัวไปยังเบื้องหน้าเย่ชิงอวี่ สายตามองดูม่านพลังแสงสีน้ำเงินที่อยู่บนร่างของนางแล้วพยักหน้าออกมาด้วยความพอใจ “ทำได้ดีมากเด็กน้อย ฝึกฝนพลังกฎเกณฑ์แห่งน้ำได้ไม่เลวเลย จงตั้งใจฝึกฝนต่อไปให้ดีๆ! ต่อไปเ้าจะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นกว่านี้แน่นอน มีเพียงเ้าแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้นถึงจะช่วยพี่ชายของเ้าได้มากยิ่งขึ้น!”
“ท่านปรมาจารย์บรรพบุรุษ ข้าอยากจะไปทีู่เาสุสานทวยเทพ ท่านให้ข้าไปได้ไหม? ข้ารับปากว่าจะตั้งใจฝึกฝนเป็อย่างดี!” เย่ชิงอวี่ไม่ได้สนใจแต่คำชมเชยของเย่รั่วสุ่ย แต่กลับมองด้วยดวงตากลมโตไปยังเย่รั่วสุ่ย สายตาเต็มไปด้วยความปรารถนาและอ้อนวอนอย่างเต็มที่
“ตกลง ข้ารับปากเ้า แต่เ้าต้องไม่เข้าไปภายในูเาสุสานทวยเทพเป็อันขาด เ้าต้องรออยู่ภายนอกเพียงเท่านั้น! เพราะไม่ว่าอย่างไรเ้าเข้าไปก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี!” เยารั่วสุ่ยนิ่งครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้าตอบตกลง
“ได้! ข้าจะรอยู่ด้านนอก!” เย่ชิงอวี่เมื่อได้ฟังรีบสลายม่านพลังสีน้ำเงินออกไปโดยทันที ใบหน้าปรากฏแววของความยินดีออกมา รอยยิ้มที่ใสซื่อของนางมองดูแล้วช่างบริสุทธิ์ไร้เดียงสาเป็อย่างยิ่ง
“เอ่ออ...ท่านปรมาจารย์บรรพบุรุษ คือ...” เย่เทียนหลงเมื่อได้ฟังร้อนรนขึ้นทันที แต่เมื่อนึกได้ว่าในเมื่อท่านปรมาจารย์บรรพบุรุษรับปากถึงเพียงนี้คงต้องทำการดูแลเย่ชิงอวี่อยู่อย่างลับๆ ด้วยอย่างแน่นอนดังนั้นจึงวางใจลงได้ ในขณะเดียวกันก็นึกถึงม่านพลังครอบสีน้ำเงินที่แปลกประหลาดนั้นจึงได้เอ่ยปากถามขึ้นด้วยความสงสัย “ท่านปรมาจารย์บรรพบุรุษ ทำไมเคล็ดวิชาต่อสู้ที่นางหนูคนนี้ใช้ถึงได้แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ สามารถโยกย้ายถ่ายโอนการโจมตีที่เป็วัตถุสสารทั้งหมดของผู้มีพลังฝีมือในระดับขอบเขตเดียวกันได้? แล้วการโจมตีแบบวัตถุสสารคือสิ่งใดกัน?”
เย่ชิงหนิวและเย่ไป๋หู่เบิกตากว้างมองไปยังเย่รั่วสุ่ยอย่างอยากรู้อยากเห็น เนื่องจากว่าพลังที่สุดยอดเช่นนี้พวกเขาต่างไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน แม้วิชาต่อสู้ร่างอสูรของเย่ชิงหานจะแหกกฎ์ไม่แพ้กัน แต่นั่นก็เพราะเย่ชิงหานมีสัตว์อสูรถึงได้มีเคล็ดวิชาต่อสู้เกิดขึ้นมาได้จึงไม่ยากที่จะเข้าใจ แต่เย่ชิงอวี่อะไรก็ไม่มีและเพิ่งเริ่มฝึกยุทธ์ได้เพียงไม่กี่ปีเท่านั้นเอง
“แน่นอนว่าเคล็ดวิชาต่อสู้นี้จะต้องแข็งแกร่ง! ก็เพราะว่าเป็เคล็ดวิชาที่ผสานรวมกันระหว่างความลึกล้ำมหัศจรรย์ของพลังกฎเกณฑ์! เป็การผสานรวมกันระหว่างความลึกล้ำมหัศจรรย์ของพลังธาตุน้ำและคุณสมบัติความยืดหยุ่นของพลังธาตุน้ำ วิชาที่ทั้งสองพลังความลึกล้ำมหัศจรรย์ผสานรวมเข้าด้วยกันพวกเ้าคิดว่าจะสุดยอดมากขนาดไหน? การโจมตีประเภทวัตถุสสารก็คือพลังการโจมตีทั้งหมดที่ทำให้เกิดอันตรายทางกายภาพทั้งหมดล้วนถูกเรียกว่าการโจมตีประเภทวัตถุสสาร! ส่วนการโจมตีของเ้าหนูหานจากวิชาต่อสู้ร่างอสูรและการโจมตีโดยภาพลวงตาของตระกูลเยว่ล้วนเน้นไปที่การโจมตีทางิญญาจึงถูกเรียกว่า การโจมตีทางิญญา!” เย่รั่วสุ่ยอารมณ์ดีเป็อย่างมาก ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มพร้อมกับพูดอธิบายออกมาให้ทั้งสามคนฟัง
“หืม? การผสานรวมพลังลึกล้ำมหัศจรรย์ของพลังกฎเกณฑ์? พลังความลึกล้ำมหัศจรรย์ของพลังกฎเกณฑ์สามารถนำมาผสานรวมเข้าด้วยกันได้? ทำไมพวกข้าไม่เคยได้ยินว่าพลังความลึกล้ำของพลังกฎเกณฑ์สามารถผสานรวมเข้าด้วยกันได้?” พวกเย่เทียนหลงทั้งสามตกตะลึงขึ้น เย่ชิงหนิวอดทนต่อไปไม่ไหวจึงเอ่ยถามขึ้นเป็คนแรก
“สิ่งที่พวกเ้าไม่รู้ยังมีอีกมาก!” เย่รั่วสุ่ยยิ้มราบเรียบออกมา “การผสานรวมพลังความลึกล้ำมหัศจรรย์...รอพวกเ้ากลายเป็เทพเมื่อไหร่ถึงจะฝึกฝนได้ อย่าว่าแต่พลังความลึกล้ำมหัศจรรย์ที่อยู่ภายในพลังกฎเกณฑ์ประเภทเดียวกันเลย ต่อให้ต่างประเภทกันก็สามารถผสานรวมเข้าด้วยกันได้ ยกตัวอย่างเช่น พลังกฎเกณฑ์แห่งสายฟ้าและพลังกฎเกณฑ์แห่งปฐีล้วนสามารถนำมาผสานรวมเข้าด้วยกันได้ เมื่อผสานรวมกันทั้งพลังโจมตีและป้องกันจะทรงอานุภาพขึ้นอีกหลายเท่าตัว...แน่นอนว่าเื่ราวเหล่านี้ตอนนี้พวกเ้าไม่จำเป็จะต้องรู้ สิ่งที่พวกเ้าควรทำในตอนนี้คือฝึกฝนให้เข้าใจพลังความลึกล้ำมหัศจรรย์ทั้งหมดที่อยู่ภายในพลังกฎเกณฑ์หลักที่พวกเ้าเลือกเพื่อกลายเป็เทพให้ได้ก่อน!”
พลังความลึกล้ำมหัศจรรย์ภายในพลังกฎเกณฑ์ประเภทเดียวกันสามารถทำการผสานรวมกันได้? พลังกฎเกณฑ์ที่ต่างประชนิดประเภทกันก็สามารถผสานรวมเข้าด้วยกันได้? หลังจากผสานรวมกันแล้วทั้งพลังโจมตีและพลังป้องกันจะเพิ่มสูงขึ้นอีกหลายเท่าตัว?
คำพูดของเย่รั่วสุ่ยดึงความคิดของพวกเย่เทียนหลงเข้าไปสู่อีกโลกของการฝึกยุทธ์ที่ทั้งล้ำลึกและสูงส่งยิ่งขึ้นไปอีก พวกเขาต่างสูดลมเย็นเข้าปากไปตามๆ กัน ในเวลาเดียวกันความปรารถนาที่อยากจะกลายเป็เทพก็รุนแรงเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ผ่านไปสักพักเย่ไป๋หู่คล้ายกับคิดอะไรขึ้นมาได้จึงเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าคิ้วขมวดด้วยความสงสัย “ท่านปรมาจารย์บรรพบุรุษ ไม่ใช่ท่านพูดว่าพลังความลึกล้ำมหัศจรรย์หลังจากกลายเป็เทพถึงจะสามารถทำการผสานรวมกันได้มิใช่รึ? แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นกับเย่ชิงอวี่ในตอนนี้หมายความว่าอย่างไร?”
จริงด้วย!
เย่เทียนหลงและเย่ชิงหนิวเมื่อได้ฟังก็นึกขึ้นมาได้ในทันที พลังฝีมือของเย่ชิงอวี่เพิ่งจะอยู่แค่ในระดับขั้นที่สองขอบเขตาาจักรพรรดิเพียงเท่านั้น และเพิ่งจะฝึกฝนเข้าใจในพลังกฎเกณฑ์ได้เพียงไม่นาน แล้วทำไมถึงได้เรียนรู้การผสานรวมพลังความลึกล้ำมหัศจรรย์ของพลังกฎเกณฑ์เป็แล้วละ? เป็เื่ที่แทบจะเป็ไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!
เย่รั่วสุ่ยหยุดนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะหัวเราะเหอะๆ พร้อมกับพูดบอกออกมา “เหอะๆ จะให้นางผสานรวมพลังความลึกล้ำมหัศจรรย์แน่นอนว่านางไม่สามารถที่จะทำได้ ความจริงแล้วพลังความลึกล้ำมหัศจรรย์นี้ไม่ใช่นางเป็คนผสานรวมเอง เคล็ดวิชานั้นก็ไม่ใช่นางที่คิดค้นขึ้นมา รวมไปถึงพลังกฎเกณฑ์แห่งน้ำที่นางฝึกฝนอยู่ก็ไม่ใช่นางที่ััรับรู้ได้เอง!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้