“ทำการแลกเปลี่ยนกับข้า?”
าามารตะวันตกมองเสิ่นเสวียนอย่างพิจารณา ผู้ฝึกตนทั่วไปมิอาจยืนนิ่งเช่นนี้ต่อหน้าเขาได้ หากคิดจะอยู่ในระดับเดียวกับเขาอย่างน้อยต้องมีพลังยุทธ์ขั้นราชันเสียก่อน มิเช่นนั้นก็มิอาจรับมือกับแรงกดดันได้เลย
แต่เด็กหนุ่มเบื้องหน้าเขาคนนี้ เห็นได้ชัดว่ามีพลังเพียงขั้นบรรพบุรุษเท่านั้น กลับสามารถสงบนิ่งได้แม้จะอยู่ต่อหน้าเขา
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าสิ่งที่ช่วยให้เขารอดชีวิตมาได้คือของล้ำค่าชิ้นหนึ่ง ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่เป็เช่นนั้นแล้ว
เขาครุ่นคิดเล็กน้อย แล้วหันไปกล่าวกับเสิ่นเสวียน
“แลกเปลี่ยนอย่างไร”
เสิ่นเสวียนมองอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มบางๆ
“ข้าช่วยให้ผู้าุโรอดมาได้ ผู้าุโรับปากคำขอร้องของข้าหนึ่งอย่าง”
“เ้าจะขออะไร”
“ข้ายังไม่ได้คิด”
เสิ่นเสวียนส่ายหัว ตอนนี้เขายังไม่รู้จริงๆ แต่การทำให้ผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งติดหนี้ชีวิต ไม่ว่าอย่างไรก็ได้กำไร เพราะตอนนี้พลังของเขาอ่อนแอมากเกินไป หากต้องทิ้งผังเมืองซานเหอไปดูเหมือนว่าเขาจะไม่เหลือไม้ตายอีกเลย
“เ้ากำลังขู่ข้าอย่างนั้นหรือ”
าามารตะวันตกสังเกตคำขอร้องที่ไม่สมเหตุสมผลของเสิ่นเสวียน สีหน้าพลันเย็นะเืขึ้นมาทันที เขาเกลียดการคุกคามที่สุดแล้วในชีวิตนี้ หากต้องเป็เช่นนี้จริงๆ เขายอมตายดีกว่า
“ผู้าุโเข้าใจผิดแล้ว ข้าช่วยผู้าุโสังหารพวกเขาคนหนึ่งเป็อย่างไร”
เสิ่นเสวียนเห็นอีกฝ่ายเริ่มโมโหจึงกล่าวเสริมไปทันที
“สังหารคนหนึ่ง”
เมื่อได้ยินคำของเสิ่นเสวียน าามารตะวันตกจึงควบคุมความโกรธเอาไว้ เขาเกลียดคนเ่าั้เข้ากระดูก เป็ความคิดที่ดีหากได้สังหารอีกสักคนหนึ่งเพื่อยุติความแค้นของเขา
“ใช่แล้ว แน่นอนว่ายังต้องให้าามารตะวันตกช่วยด้วย”
“ได้ ข้ารับปากเ้า”
าามารตะวันตกพยักหน้า เอ่ยรับปากเสิ่นเสวียน
ข้างๆ กัน เสิ่นเสี่ยวเม่ยและเสิ่นเลี่ยนในตอนนี้รู้สึกหายใจลำบาก พวกเขาหน้าซีดลงเพราะแรงกดดันจากาามารตะวันตก เมื่อเทียบกันแล้ว พลังของเสิ่นเสวียนแข็งแกร่งกว่าพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
ที่ด้านนอก พวกนักปราชญ์ตามหาหลายรอบแล้วแต่ยังไม่เจอร่องรอยใดๆ อีกฝ่ายเหมือนละลายหายไปในอากาศ พวกเขาตามหากันอยู่นานก็ยังไม่มีเบาะแส ทำให้พวกเขาทั้งสามคนเริ่มมีความคิดที่จะล้มเลิกการตามหา
“สังหารแม่นางผู้นั้นแล้วเก็บพรมวิเศษมา”
นักปราชญ์หันมองพรมวิเศษที่อยู่ไม่ไกลนัก บุรุษไว้หนวดผู้นั้นถือขวานโจมตีใส่ม่านพลังอย่างต่อเนื่อง ไม่กล่าวไม่ได้เลยว่าม่านพลังนี้แข็งแกร่งมากจริงๆ โดนโจมตีไปหลายครั้งแล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะพังทลายลงเลย
นักปราชญ์หมุนตัวกระโจนไปยังพรมวิเศษ
“ตาแก่าามาร เ้าไม่ใช่คนรักพวกพ้องหรอกหรือ ข้าจะนับแค่สาม หากเ้ายังไม่ออกมา ข้าจะทำให้นางกลายเป็ร่างไร้ิญญาที่เหี่ยวเฉา”
นักปราชญ์มองสตรีที่หมดสติอยู่บนพรมวิเศษด้วยแววตากระหายเื นี่คือวิธีการที่เขาชื่นชอบมาก
ภายในมิติ าามารตะวันตกมุมปากกระตุกเล็กน้อย เขาอยากกระโจนออกไปอยู่หลายครั้งแต่เสิ่นเสวียนห้ามไว้
“อยากสังหารให้ได้คนหนึ่งต้องทำตามวิธีของข้า”
“ข้า้าฆ่าเขา”
าามารตะวันตกชี้ไปยังนักปราชญ์ที่อยู่ด้านนอกพลางกล่าว
“ท่านสังหารเขาไม่ได้หรอก พลังของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าท่านเลย หากสังหารเขาพวกเราจะตายกันหมด”
เสิ่นเสวียนส่ายหัวปฏิเสธ เขาจะเลือกเป้าหมายในการสังหารที่เหมาะสมที่สุด น่าเสียดายที่ตอนนี้พลังของเสิ่นเลี่ยนยังต่ำมาก หากเสิ่นเลี่ยนมีพลังยุทธ์ขั้นราชัน รวมเข้ากับวิธีการสังหารของเขา ก็เพียงพอที่จะสังหารพวกเขาเ่าั้ทั้งหมด
พวกของนักปราชญ์เหาะเข้าหาพรมวิเศษ บุรุษไว้หนวดผู้นั้นหรี่ตามองสตรีที่อยู่ภายในม่านพลัง ไม่อยากลงมือกับหญิงงามอย่างโเี้เลยจริงๆ
“แม้ค่ายกลของเ้าจะแข็งแกร่ง แต่ยังมิอาจทนต่อการโจมตีด้วยพลังทั้งหมดของพวกข้าได้หรอก ข้าจะนับแค่สาม”
นักปราชญ์กล่าวอีกครั้ง าแบนร่างของเขาหายสนิทั้แ่เมื่อไรก็ไม่รู้ เหมือนว่าเขาไม่เคยได้รับาเ็มาก่อน
เขากล่าวจบแล้ว แต่ภายในมิติยังคงสงบนิ่งอยู่
ยิ่งเป็แบบนี้ยิ่งทำให้สีหน้าของนักปราชญ์ดูแย่ลงกว่าเดิม
ั้แ่แรกเริ่มเขาอยู่ในที่ลับ ส่วนอีกฝ่ายอยู่ในที่แจ้งมาตลอด ทว่าตอนนี้อีกฝ่ายอยู่ในที่ลับ และเขากำลังอยู่ในที่แจ้ง
ความแตกต่างของทั้งสองสิ่งนี้ แสดงให้เห็นถึงข้อได้เปรียบที่ต่างกัน
“สาม”
เสียงของเขาดังก้องอยู่เหนือแอ่งเถียนซือ
ทว่าไร้การเคลื่อนไหว
นักปราชญ์และพวกยกอาวุธขึ้นแล้ว
“สอง”
เสียงของเขาดังขึ้นอีกครั้ง ยังคงกึกก้องเช่นเดิม
ยังคงเงียบ ไร้การเคลื่อนไหวใดๆ
กระบี่และขวานของพวกเขาเริ่มมีคลื่นพลังก่อตัวจนถึงขีดสุดแล้ว และพวกเขาต่างเล็งไปยังดวงตาค่ายกลเหนือพรมวิเศษ ตอนนี้พวกเขายังไม่อยากทำลาย ยังอยากใช้พรมวิเศษผืนนี้ล่อาามารตะวันตกออกมา หากพรมวิเศษนี้ถูกทำลายไป พวกเขาคงมิอาจล่อาามารตะวันตกออกมาได้อีก
แม้พวกเขาจะทำถึงขนาดนี้แล้ว าามารตะวันตกยังไม่มีทีท่าจะปรากฏตัวออกมาเลย หากไม่ออกมาจริงๆ พวกเขาคงทำได้เพียงลงมือกับหญิงงามอย่างโเี้เท่านั้น
ทุกอย่างยังคงเงียบกริบ!
นักปราชญ์รู้สึกเหมือนได้ตัดสินใจครั้งใหญ่ออกไปแล้ว เขาค่อยๆ เปล่งเสียงะโออกไปเป็ครั้งที่สาม
“หนึ่ง”
เสียงดังก้อง พลังของพวกเขาปะทุขึ้นถึงจุดสูงสุดในพริบตา ส่งพลังทั้งหมดเข้าไปในศาสตราวุธของตนเอง ทำให้ทั้งขวานและกระบี่เปล่งประกายสว่างไสว
เมื่อเทียบกันแล้ว แสงของม่านพลังเหนือพรมวิเศษดูจางกว่ามากเลยทีเดียว สตรีภายในนั้นเป็เหมือนปลาบนเขียงที่ถูกสังหารได้ทุกเมื่อ
“ฆ่า!”
นักปราชญ์เห็นว่าาามารตะวันตกไม่ออกมาจึงออกคำสั่งในทันที ศาสตราวุธของพวกเขาจึงพุ่งโจมตีใส่พรมวิเศษโดยพร้อมเพรียงกัน
แผนการของนักปราชญ์ไม่เลวเลยทีเดียว พลังของพวกเขาสามารถทำลายค่ายกลของพรมวิเศษได้ ทว่าหากมีคนน้อยกว่านี้สักหนึ่งคนคงเป็เื่ยาก
ฉึก!
บุรุษไว้หนวดโยนขวานทิ้งไปทันที พลันยกมือขึ้นกุมคอตนเอง
เมื่อครู่นี้ พริบตาที่บุรุษไว้หนวดโจมตีใส่พรมวิเศษ พลันมีกริชเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นจ่อที่คอของเขา และเฉือนลงไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด
กริชเล่มนี้คือศาสตราวิเศษขั้นปฐี สามารถสังหารผู้ฝึกตนขั้นราชันได้ ก่อนหน้านี้าามารตะวันตกรวบรวมพลังทั้งหมดเอาไว้ในกริชนานแล้ว เขา้าเอาชีวิตอีกฝ่ายด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ทว่านั่นทำให้าามารตะวันตกหมดพลังไปถึงเก้าส่วน มิอาจต่อสู้ได้อีก
“อยู่ตรงนั้น ตามข้ามา”
ในพริบตาที่กริชปรากฏขึ้น นักปราชญ์สังเกตเห็นถึงร่องรอยการเคลื่อนไหวของเสิ่นเสวียน จึงเหาะไล่ตามไปทันทีเพื่อขวางทางเสิ่นเสวียนเอาไว้
อีกสองคนก็ตามมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน และล้อมเสิ่นเสวียนเอาไว้สามทาง
ตุบ!
บุรุษไว้หนวดผู้นั้นอยากจะส่งเสียงร้องออกมาแต่เขาไม่มีโอกาส คอของเขาถูกกรีด เืไหลทะลักเป็สายน้ำ ดวงตาเบิกโพลง ร่วงหล่นลงไปในแอ่งเถียนซือเบื้องล่างทันที
หลังจากเสียงร่วงหล่น ราชันคนหนึ่งได้สิ้นไป
นักปราชญ์ไม่ได้รู้สึกเสียดายต่อการตายของบุรุษไว้หนวดสักเท่าไร สำหรับเขาแล้ว ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าได้เจอร่องรอยของพวกเสิ่นเสวียน
“ออกมาเถอะ ข้ารู้ว่าเ้าอยู่ตรงนี้ และเ้าไม่เหลือพลังต่อสู้อีกแล้วด้วย”
นักปราชญ์มองมิติว่างเปล่าตรงหน้าพลางกล่าวเสียงเรียบ เขามั่นใจว่าาามารตะวันตกอยู่ตรงนี้ พลังของเขาผนึกที่นี่เอาไว้หมดแล้ว และการผนึกของเขารวมไปถึงผนึกมิติด้วย ไม่มีทางที่จะหนีไปได้
ภายในมิติ เสิ่นเสวียนยกนิ้วหัวแม่มือให้กับาามารตะวันตก
“สมแล้วที่เป็ผู้าุโ ท่านแค่ไม่ลงมือเท่านั้น หากคิดจะลงมือต้องมีคนตาย”
เขาคิดว่าอย่างมากบุรุษไว้หนวดคงาเ็หนัก คิดไม่ถึงว่าาามารตะวันตกจะใช้พลังทั้งหมดสังหารอีกฝ่ายได้ทันที เขาชื่นชอบฝีมือเช่นนี้มาก
“ข้าจะไม่เป็ภาระของพวกเ้า หากข้าออกไป พวกเ้าก็จะรอด”
าามารตะวันตกกล่าวออกมาตรงๆ สำหรับเขาแล้วสังหารคนหนึ่งยังไม่เพียงพอ สังหารสองคนนับเป็กำไร เขาคิดว่าคุ้มค่าแล้วที่จะตาย
“ผู้าุโอย่าลืมว่าท่านรับปากข้าไว้แล้ว ข้าจะปล่อยให้ท่านออกไปตายได้อย่างไร”
เสิ่นเสวียนกล่าวพลางยิ้มน้อยๆ และส่งกระแสจิตออกไปภายนอกทันที
“ข้าขอเตือนให้พวกเ้ารีบหนีไปดีกว่า มิเช่นนั้นหากผู้ช่วยของข้ามาถึง พวกเ้าคงไม่ทันได้รู้ว่าความตายสะกดอย่างไร”
เมื่อได้ยินเสียงของเสิ่นเสวียน อีกสามคนที่เหลือต่างมีเหงื่อผุดพรายออกมา เขาสงสัยอยู่แล้วว่าาามารต้องมีผู้ช่วย ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าอีกฝ่ายไม่ได้อยู่เพียงลำพัง แต่เขาไม่มีทางยอมแพ้เด็ดขาด
“เช่นนั้นก็รอให้ผู้ช่วยของเ้ามาก่อน แล้วค่อยดูว่าใครจะตายก่อนกัน”
เขาไม่เชื่อว่าในหุบเขาสุขาวดีจะยังมีใครกล้าเข้ามาช่วยอีกฝ่าย สี่าามารผู้ยิ่งใหญ่ในตอนนี้ คนที่ยังมีชีวิตอยู่เหลือเพียงสองคนเท่านั้น
“ดูเหมือนจะไม่ใกลัวกันเลย” เสิ่นเสวียนยิ้มอย่างเก้อเขิน
“ไม่เป็ไร หากหนีไม่ได้ ข้าจะปกป้องพวกเ้าออกไปเอง”
ระหว่างที่กล่าว าามารตะวันตกนั่งลงทำสมาธิเพื่อฟื้นฟูพลังให้ได้โดยเร็วที่สุด
และในขณะนั้นเอง เริ่นเสี้ยวเทียนได้เข้าไปภายในแอ่งเถียนซืออย่างเงียบเชียบ