ในชนบทไก่เปรียบเหมือนกับสมบัติชิ้นหนึ่งเลยทีเดียว ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ทำไก่ตายก็ต้องชดเชยให้อย่างแน่นอน
เฉินเนี้ยนหรานถอนหายใจ แต่เพราะว่าวันนี้หาเงินมาได้เยอะแล้ว นางเองไม่ค่อยกลัวเท่าไร จึงหันไปปลอบน้องห้าอย่างใจดี
“ไม่เป็ไร อย่างมากพวกเราก็แค่ซื้อไก่ตัวนี้เอาไว้เอง แล้วเอามาทำอาหารอร่อยๆ ทานกัน อย่างไรไปซื้อไก่ที่ตลาดก็ต้องจ่ายเงิน ไก่ที่ถูกเราฆ่าตายนี้ พวกเราก็ถือว่าซื้อไก่มาแล้วกัน”
นางยื่นหน้าเข้าไปดู ไก่ตัวนั้นตาเหลือกตายไปแล้วจริงๆ ไม่พูดไม่ได้เลยว่าฝีมือการปาของน้องห้าช่างเก่งกาจจริงๆ
“กุ๊กๆ…กุ๊กๆ…กุ๊กๆ…” ในตอนนั้นก็มีเสียงสตรีร้องเรียกไก่ดังมาแต่ไกล
ตอนที่เห็นรูปร่างของสตรีนางนั้น เฉินเนี้ยนหรานก็หนักใจ
ไก่ตัวนี้ ทำไมจะต้องเป็ของเพื่อนบ้านน่ารังเกียจคนนั้นด้วย!
จ้าวชุนฮวากำลังหาไก่อย่างร้อนรน
ไก่ออกไข่ตัวนี้เป็ไก่ของนาง ั้แ่ไหนแต่ไรไก่ตัวนี้ออกไข่มาทุกวัน ทำให้นางมีเงินเก็บส่วนตัว
อย่างไรสำหรับคนในหมู่บ้านที่ไม่ได้แยกเรือนกันอยู่อย่างชัดเจน การแอบเลี้ยงไก่เอาไว้หนึ่งตัวก็ถือว่าเป็คนจำนวนน้อยที่มีทำเื่เช่นนี้ ดังนั้นเื่นี้ก็ถือว่าเป็รางวัลของความยากลำบากใน่เวลาหลายปีที่อยู่ในเรือนของสามี กว่าจะแลกสิทธิพิเศษนี้มาได้ อย่างไรนางก็คลอดลูกอ้วนๆ ออกมาสองคนเพื่อสกุลจ้าว ด้วยเหตุนี้แม่สามีตัวร้ายของสกุลจ้าวถึงได้อนุญาตให้นางเลี้ยงไก่ได้
ั้แ่หลังจากจ้าวซานไปทำธุรกิจในเมือง จ้าวชุนฮวาก็ปล่อยไก่ออกมาในบ้านของเขาชั่วคราว
ยังคิดว่าสามารถปล่อยไก่ไว้ที่เรือนร้างหลังนี้ได้นานๆ ใครจะไปคิดว่าเว้นไปไม่นาน ก็มีพวกเฉินเนี้ยนหรานสามพี่น้องน่ารังเกียจย้ายเข้ามาอยู่
ที่ดินปลูกผักในชนบทนั้นไม่สามารถเลี้ยงไก่ได้ แต่ไม่ปล่อยออกมาก็ไม่สามารถออกไข่ได้อีก
เพราะเหตุนี้หลังจากที่เฉินเนี้ยนหรานย้ายมา แผนการปล่อยไก่ออกมาเลี้ยงด้านนอกอย่างสบายใจก็เป็อันต้องพับเก็บกลับไป เพราะว่ามีคนใหม่ย้ายเข้ามาอยู่
เดิมทีจ้าวชุนฮวาก็เป็คนที่จิตใจคับแคบอยู่แล้ว พอเห็นเฉินเนี้ยนหรานที่ย้ายมาใหม่หน้าตาสะสวยใครเห็นก็ชอบ ขนาดบุรุษของตนหลังจากที่พวกนางย้ายมาใหม่วันแรกก็ยังปรายตาไปมองอยู่หลายครั้ง….
เพราะเื่เล็กๆ น้อยๆ แค่นี้ จ้าวชุนฮวาก็ถือว่าเฉินเนี้ยนหรานคือคู่แค้นของตนไปแล้ว
ทุกครั้งที่เห็นพวกนางสามพี่น้อง นางก็รู้สึกสะอิดสะเอียน รู้สึกว่าสามพี่น้องนี้เป็ปีศาจจิ้งจอกที่กลับชาติมาเกิด
ดังนั้นทุกครั้งที่เห็นพวกนางสามคนพี่น้อง จ้าวชุนฮวาจึงไม่มีสีหน้าที่ดีให้
วันนี้ไก่ของนางหายไปอีกแล้ว นางตามหามาตลอดทาง จนมาถึงที่เรือนของเฉินเนี้ยนหราน เห็นสายตาของน้องห้ากับน้องหกที่ไม่เป็ธรรมชาติ จ้าวชุนฮวาก็รู้ว่าเื่นี้มันจะต้องมีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นแล้ว
เดิมทีนางไม่คิดจะทักทายกับปีศาจจิ้งจอกพวกนี้ แต่นางเองก็เข้าใจ แม่ไก่ของนางชอบวิ่งมาที่เรือนหลังนี้มากที่สุด
นางดึงหน้าตึงเดินเข้ามาข้างหน้าหลายก้าว ตัดสินใจว่าจะเดินหาไก่รอบเรือนหลังนี้ คนที่มาหาไก่คนนี้ดึงหน้าใส่ แถมยังบุกเข้ามาในเรือนของคนอื่นโดยที่ไม่มีทักทายกันสักคำ พูดได้เลยว่าเป็คนที่ไร้มารยาทมาก
เฉินเนี้ยนหรานหมดคำพูดกับการกระทำของนาง แต่ตอนนี้ครอบครัวของนางได้ฆ่าไก่ของจ้าวชุนฮวาไป เื่นี้จะช้าหรือเร็วอย่างไรก็ต้องเผชิญหน้า นางจึงกระแอมออกไปเพื่อเตรียมตัวพูดเื่นี้
“อ่ะ! ฮวาฮวาของข้า…” ใครจะไปรู้ว่านางยังไม่ได้เอ่ยปาก จ้าวชุนฮวาคนนั้นก็เห็นไก่ตนเองที่นอนตายบนพื้นก่อนจะร้องกรี๊ดออกมาเสียงแหลม
จากนั้นก็กรีดร้องพุ่งเข้ามาในเรือนราวกับสิ่งที่ตายเป็มารดาของตนเองอย่างไรอย่างนั้น พร้อมทั้งยกกำปั้นพุ่งมาทางเฉินเนี้ยนหราน…
ซึ่งเฉินเนี้ยนหรานเองก็ไม่มีทางยืนบื้อให้นางพุ่งเข้ามาต่อยแน่ นางหลบตัวไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว ทำให้หมัดนั้นต่อยโดนอากาศ
“เ้ามันคนชั่ว นังโสเภณีชั้นต่ำ ข้าจะต่อยปีศาจจิ้งจอกอย่างเ้า กล้ามาฆ่าไก่ของข้า คอยดูสิ ข้าจะฆ่าเ้าเพื่อทวงความยุติธรรม!”
จ้าวชุนฮวาโด่งดังเื่ปากร้าย ตอนนี้แม่ไก่ของตนตายไปแล้ว บวกกับไม่ชอบสตรีคนนี้เป็ทุนเดิม ความเกลียดชังเปลี่ยนมาเป็ถ้อยคำบริภาษรุนแรง
ร่างกายของเฉินเนี้ยนหรานนั้นอ่อนแอ ชาติก่อนก็ไม่เคยเรียนวิชาการต่อสู้ที่ไหนมา ตอนนี้นอกจากหลบแล้ว ก็ยังไม่สามารถต่อกรเอาคืนกลับไปได้ อย่างไรกำปั้นของจ้าวชุนฮวาก็เป็ร่างกายที่ผ่านการทำงานมาจนเคยชิน ไม่ใช่คนที่นางจะรับมือไหว
ตอนนั้นเองที่ทั้งสองคนวิ่งไล่ตามกันไปทั้งเรือน
ข้าสู้เ้าไม่ได้ แต่ว่าข้าก็สามารถหลบหลีกได้
ร่างกายปราดเปรียวของเฉินเนี้ยนหราน วิ่งหยอกล้อจ้าวชุนฮวาไปรอบๆ
เด็กสองคนได้แต่มองอยู่ด้านข้าง ตอนนั้นนอกจากความกังวลใจแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรได้อีก ซึ่งตอนท้ายน้องห้าเห็นว่าเฉินเนี้ยนหรานไม่ได้เป็ฝ่ายเสียเปรียบ ถึงได้คิดขึ้นมาได้แล้วลากน้องหกเข้าไปในห้อง
หากสตรีบ้าคลั่งคนนั้นเห็นว่าไม่ได้การแล้ววิ่งมาหานางกับน้องหก เช่นนั้นพวกนางสองคนไม่มีทางเอาชนะผู้ใหญ่อย่างนางได้
วิ่งไปได้สักพักจ้าวชุนฮวาก็ไม่ได้ตามมาอีกแล้ว ร่างกายของนางแข็งแรง ทว่าการวิ่งไล่จับอยู่หลายรอบก็ทำให้หอบแฮ่กได้เช่นกัน
นางเอามือเท้าสะเอว ถลึงตามองเฉินเนี้ยนหราน “นังคนเลว ชดใช้แม่ไก่มาให้ข้าเลยนะ”
เปิดปากพูดกี่ทีก็พูดแค่คำว่าคนเลว เฉินเนี้ยนหรานที่ได้ยินก็ไม่พอใจ นางยักคิ้วเช็ดเหงื่อแล้วพยักหน้าให้อย่างไม่เร่งร้อน “เ้าค่ะ ข้าฆ่าไก่ของเ้าตายข้าก็ควรจะชดเชย เพียงแต่ข้ามีชื่อมีสกุล ข้าสกุลเฉินนามว่าเนี้ยนหราน รบกวนท่านป้าเรียกข้าว่าแม่หนูหรานหรือเรียกชื่อข้าตรงๆ เถิดเ้าค่ะ”
“เ้าหน้าตาเช่นนี้ แค่เห็นก็รู้แล้วว่าเป็ปีศาจจิ้งจอกแปลงกายมา ถุย นังสารเลว นังปีศาจจิ้งจอก”
จ้าวชุนฮวาเห็นว่าตนเองต่อว่าเฉินเนี้ยนหรานจนนางหน้าเปลี่ยนสี จึงยิ่งด่าต่อไปอย่างสาแก่ใจ
“นังแพศยา…สวะ….เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้า เด็กที่มารดาให้กำเนิดแต่ไม่มีปัญญาสั่งสอนเยี่ยงเ้า สมน้ำหน้าแล้วที่จะต้องอยู่คนเดียวไปทั้งชีวิต”
ไม่เสียแรงที่สตรีวัยกลางคนนางนี้เป็สตรีปากตลาด คำพูดไม่น่าฟังอย่างไรล้วนผรุสวาทออกมาได้ทั้งนั้น
เฉินเนี้ยนหรานโกรธจนควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว นางคว้าโคลนก้อนหนึ่งขึ้นมาปาใส่จ้าวชุนฮวา
“แผละ…”
กลิ่นเหม็นโฉ่โชยออกมา รวมกับกลิ่นเฉพาะของโคลนผสมเข้าด้วยกัน จ้าวชุนฮวาลูบโคลนบนหน้าตนเอง มองสีเหลืองๆ ที่ติดอยู่บนมือของตนเอง แล้วยังมีกลิ่นน่าคลื่นไส้นั่นอีก…
“อ่อก…” เฉินเนี้ยนหรานก้มหน้า มองภาพนี้แล้วแลบลิ้นออกมาอย่างรู้สึกผิด
มารดาเอ๊ย วันนี้นางกับน้องห้าล้วนปาแม่นเกินไปแล้ว
น้องห้าปาหินทำให้แม่ไก่ของสตรีปากตลาดตายไป
นางแค่คว้าโคลนปาใส่สตรีนางนี้โดยไม่ได้ดู ดันคว้าโดนขี้….
น่าแปลกใจจริงๆ กลิ่นนั้น…ช่างเหม็นเน่าเหลือเกิน
เฉินเนี้ยนหรานกลั้นหายใจก่อนจะรีบพุ่งไปล้างมือที่ด้านข้าง
ล้างไปห้าครั้งก็ยังรู้สึกว่ากลิ่นนั้นติดแน่นไม่ยอมหลุด ก็ไม่รู้ว่าหมาเรือนใครมาปล่อยของเสียเอาไว้เหม็นขนาดนี้
หลังจากถูอยู่หลายครั้งก็เงยหน้าขึ้นมามอง ก็เห็นแม่นางจ้าวปากจัดยังคงอาเจียนไม่เลิกอยู่ตรงนั้น
พอเห็นเฉินเนี้ยนหรานกำลังมองตนเองอยู่ สตรีคนนั้นอาเจียนจนเรอออกมา ตอนนั้นถึงได้ชี้นิ้วมาทางนาง “นัง..สารเลว ชดใช้ไก่มาให้ข้า….”
เห็นแก่ที่ตนใช้ขี้หมาโยนใส่สตรีผู้นี้ ถึงแม้เฉินเนี้ยนหรานจะไม่ชอบใจกับคำเรียกของนาง แต่ก็ยังพยักหน้า นางควักอีแปะหนึ่งพวงออกมา แล้วหยิบออกมาสองร้อยอีแปะ
“ชดใช้ให้ท่าน”
จ้าวชุนฮวาไม่รับเงินอีแปะที่นางส่งให้ กลับกันตากลับมองไปที่แปดร้อยอีแปะในมือของนางตาไม่กะพริบ
ไก่หนึ่งตัว พูดกันตามราคาตลาดแล้วก็ประมาณสามร้อยอีแปะ
จากราคาที่เฉินเนี้ยนหรานให้ สตรีคนนี้ก็ไม่ได้ขาดทุนอะไร
“ถุย สองร้อย เ้าคิดว่าจะว่าจะชดใช้ให้แม่ไก่ของข้าได้หรือ? นังคนชั่ว เ้าคิดว่าตนเองเป็ใคร? สองร้อยอีแปะ? ไม่มีทาง!”
จ้าวชุนฮวาโกรธจนไม่สนใจกลิ่นเหม็นบนใบหน้า เท้าเอวยืนด่าอยู่ตรงนั้น
เฉินเนี้ยนหรานมองสตรีผู้นี้ก็รู้ว่านางนั้นหาเื่เก่ง จึงหัวเราะเสียงเย็น ก่อนจะหยิบห้าสิบอีแปะออกมาจากพวง
“สองร้อยห้าสิบอีแปะ ถือว่าข้ายอมให้มากที่สุดแล้ว หากท่านเอาไก่ตัวนี้ไปที่ตลาด ขายอยู่นานก็ขายได้แค่ประมาณสองร้อยอีแปะเท่านั้น ไก่ตัวนี้พวกเราพลั้งมือทำให้มันาเ็ การชดเชยมันก็เป็เื่ที่สมควร เพียงแต่หากมากกว่านี้อีก เช่นนั้นก็คงให้ไม่ได้แล้ว”
บ้าเอ๋ย นางหาเงินมาอย่างยากลำบาก จู่ๆ ก็เอาเงินห้าสิบอีแปะให้อีกฝ่ายไปอย่างไร้เหตุผล มันน่าเ็ปใจเหลือเกิน
น้องหกที่อยู่ในเรือนพอเห็นเงินสองร้อยห้าสิบอีกแปะ ก็ยกนิ้วขึ้นนับทันที
“สิบอีแปะสามารถซื้อแตงโมได้สามลูก แตงโมหนึ่งลูกสามารถขายน้ำหวานเย็นห้าถ้วย สามลูกก็สิบห้าถ้วย สองร้องห้าสิบอีแปะจะสามารถซื้อแตงโมได้กี่ลูกกันหรือพี่ห้า?”
“เอ่อ ประมาณ….สามารถซื้อหนึ่งร้อยแปดสิบลูกกระมัง เ้าจะนับไปเพื่ออะไร?”
“ท่านพี่ สตรีนางนี้ใจร้ายมากเลย แตงโมหนึ่งร้อยแปดสิบลูก พวกเราสามารถขายหวานเย็นได้เยอะเลยนะ เงินก็คือเงิน พวกเราขาดทุนมากจริงๆ เื่อะไรจะต้องเสียตั้งสองร้อยห้าสิบกัน นี่มันหลายตำลึงเลยเชียวนะ…” ความโลภเงินของน้องหกพุ่งขึ้นมา น้องห้าที่ฟังคำพูดอยู่ส่ายหน้าเอือมระอา “น้องหก ฆ่าของคนร้ายไปน่ะ มันก็ต้องชดเชยนั่นแหละ เอาเถิด ท่านพี่ของพวกเราจะต้องมีวิธีแน่”
ด้านนอกเรือน
“ไก่ของข้าตัวนี้ออกไข่วันละฟอง หนึ่งฟองก็เท่ากับหนึ่งอีแปะ ไก่ตัวนี้ออกไข่มาแล้วสองเดือน อายุมันก็ยังน้อย ดังนั้นสามารถออกไก่ต่อได้อีกเป็สิบปี นั่นย่อมเป็ปัญหาแน่นอน หนึ่งวันหนึ่งฟอง หนึ่งเดือนก็สามสิบฟอง หนึ่งปีก็สามร้อยหกสิบฟอง เท่ากับว่าข้าจะต้องสูญเสียไข่ไปกี่ฟองกัน? ข้าจะคำนวณไข่สามร้อยหกสิบฟองให้เ้าแล้วกัน สิบปีก็ต้องเป็ไข่สามพันหกร้อยฟอง เงินนี้พอมาคำนวณแล้วก็จะต้องได้สามพันหกร้อยอีแปะ นังสารเลว จ่ายเงินมาซะ”
“ใครจะไปให้เ้ากัน อยากได้เงินล่ะก็ เ้าก็ไปตายซะ” หลังจากที่จ้าวชุนฮวาคำนวณเงินเสร็จ เฉินเนี้ยนหรานก็โยนขี้ไปใส่สตรีคนนั้นอีก
“การคำนวณของเ้าแบบนี้ เดินไปสุดขอบฟ้าก็หาเหตุผลไม่ได้ ถุย สองร้อยห้าสิบนี่จะเอาหรือไม่เอา ไม่เอาก็จบ หรือไม่ก็ไปหาผู้ใหญ่บ้าน ข้าเองก็จะไปกับเ้าเหมือนกัน อีกอย่างนะไก่ของเ้าไม่ยอมดูแลดีๆ ปล่อยให้มันบินมาบ้านข้า เดิมทีก็เป็ความผิดของเ้า”
พูดไปแล้วก็นึกฉุน เฉินเนี้ยนหรานโยนขี้ใส่สตรีคนนั้นอีก น่าเสียดายที่กองขี้นั้นไม่เหลือแล้ว ตอนนี้เหลือแค่กองโคลนกองหนึ่งเท่านั้น
เฉินเนี้ยนหรานที่ฉุนจนขึ้นสมองก็ไม่สนใจแล้วว่าใครจะมองตนอย่างไรแล้ว นางปาขี้หมาไปที่ตัวของสตรีคนนั้นอย่างไม่คิด
บนใบหน้าของสตรีคนนั้นมีขี้หมาติดอยู่ไม่น้อย แต่นางก็ยังปาไปใส่อีกฝ่ายแบบนี้ ฝ่ายตรงข้ามที่ทำตัววางอำนาจอยู่เมื่อครู่กลับลืมไปเลยว่าตนเองต้องสู้กลับ
พอถูกโยนใส่จนร้อนใจ ก็ยกมือขึ้นปิดหน้าร้องไห้โฮ