Chapter 5
ตลอดสองข้างทางที่เ้าแร็กดอลล์ตัวน้อยเดินไปมา เขารู้สึกว่าเขาถูกมองแปลก ๆ จนกระทั่งไปได้ยินคนในเขตพูดกันว่ามีคนไปแจ้งที่ศูนย์ว่าเขากำลังโดนเพ่งเล็ง
‘ว่าที่เ้านายไปแจ้งจริง ๆ เหรอ?’
‘แล้วที่นี้จะทำยังไงเนี่ย’
ในหัวของเ้าสัตว์หูตั้งตัวน้อยคิดแค่เพียงว่าหลังจากนี้เขาจะต้องไปอยู่ตรงไหน เพราะแถวนี้คนก็คงจะจำเขาได้ เขาจำที่เ้าหน้าที่ศูนย์ดูแลบอกได้ว่าแมวสีขาวในเมืองมีน้อย คนที่เห็นว่าเขาเป็แมวสีขาวใน่นี้ที่รู้เื่ ก็คงจะจับตามองเขาแน่ ๆ เผลอ ๆ ถ้าเจอเ้าหน้าที่ ก็คงไม่รอด เขาไม่อยากโดนส่งกลับบ้านหลังนั้นจริง ๆ
'เห้อ ต้องไปที่อื่นจริง ๆ ใช่ไหม?' แมวน้อยหูตก
แร็กดอลล์สีขาวแสนน่ารักเดินไปเรื่อย ๆ ตามสองข้างทาง พยายามหลบหลีกเส้นทางที่มีผู้คน เขารวบรวมความกล้าเพื่อที่จะเข้าไปในสวนสาธารณะ เพราะวันนี้ทั้งวันเขายังไม่ได้กินอะไรเลย แร็กดอลล์ตัวน้อยเล็งเป้าหมายั้แ่ไกล คือคนที่เรียกแทนตัวเองว่าคุณเพิร์ธ เขาจำได้ว่าเคยเห็นกรีนยืนคุยด้วย บ้านก็อยู่เยื้องจากกรีน แมวในบ้านของคุณเพิร์ธน่ารักมาก ๆ เคยมาเล่นกับเขาอยู่หลายครั้ง
เมื่อเข้าใกล้คุณเพิร์ธมากขึ้น ความเร็วที่ใช้เดินกลับลดลงเรื่อย ๆ ยิ่งมองเห็นความใส่ใจกับรอยยิ้มที่คุณเพิร์ธมอบให้กับแมวของเขา แร็กดอลล์ตัวน้อยก็ยิ่งรู้สึกอิจฉา เขาเองก็อยากได้อะไรแบบนั้นอยู่เสมอเช่นกัน เขาอยากอ้อนใครสักคนให้มาลูบหัว ให้มาเกาพุง ป้อนขนมอร่อย ๆ ที่เขาชอบ นั่งเอ็นดูเขา แต่มันก็ดูเหมือนจะเป็ไปไม่ได้แล้ว ว่าที่เ้านายคนใหม่ที่เขาหมายปองก็คงจะไม่ยอมรับเขาแล้ว แต่เขาเองก็เข้าใจดี ว่ามันเพราะอะไร
คุณเพิร์ธเห็นแร็กดอลล์ตัวน้อยด้วยหางตา ส่งยิ้มให้ในขณะที่เ้าตัวขาวขนปุยกำลังก้มหน้ามองพื้นหญ้า
“เ้าเหมียว มาหาคุณเพิร์ธหน่อยค่ะ” แร็กดอลล์ได้ยินก็เงยหน้าขึ้นมองและหันไปรอบ ๆ เพื่อเพิ่มความมั่นใจว่าคุณเพิร์ธเรียกเขาจริง ๆ
“หนูนั่นแหละค่ะ มาเร็ว คุณเพิร์ธให้ขนม” เขาเดินมาหาคุณเพิร์ธตามเสียงเรียก
“เหมียว~”
“ก่อนจะกินขนมตอบคำถามคุณเพิร์ธก่อนนะคะ”
“เหมียว~”
‘มาเลย! เหมียวพร้อมมาก!’
“ฟังคุณเพิร์ธรู้เื่แปลว่าเป็ครึ่งทางนี่นา”
‘ซวยแล้วเหมียว โดนจับผิดอีกแล้ว’
“คุณเพิร์ธไม่ได้จะว่าอะไร แค่อยากรู้ว่าทำไมถึงไม่ยอมกลับบ้าน ที่บ้านไม่ดีเหรอคะ?”
“เมี๊ยว!”
‘ใช่แล้วคุณเพิร์ธ! ไม่ดีมาก! เราอยู่ไม่ได้เลย!’
“ขี้ฟ้องซะด้วยเรานี่ เอาเป็ว่าเขาดูแลดีหรือไม่ดีคุณเพิร์ธตัดสินไม่ได้นะว่าเป็ยังไง เพราะหนูคือคนที่ถูกดูแล แล้วคุณเพิร์ธก็ไม่รู้ด้วยว่าบ้านหนูคือบ้านหลังไหน”
“ถ้าหนูหิวก็มาหาคุณเพิร์ธที่นี่ทุกวันได้เลยนะคะ แล้วก็ตอนดึก ๆ คุณเพิร์ธจะวางถ้วยอาหารไว้ที่ข้าง ๆ รั้วที่บ้านคุณเพิร์ธ หนูรู้ไหมคะว่าหลังไหน?”
“เมี๊ยว ๆ”
‘หนูรู้ ๆ ๆ ๆ’
แร็กดอลล์ตัวน้อยยกเท้าหน้าลุกขึ้นยืนสองขาช้า ๆ
“โอเค ๆ เก่งมากค่ะ มากินขนมได้แล้ว” เ้าขนปุยสีขาวรีบขึ้นมานั่งข้าง ๆ คุณเพิร์ธบนม้านั่งแล้วช้อนตามอง
“เหมียว ๆ”
‘เราขอบคุณคุณเพิร์ธน้า’
“รู้ความจริง ๆ เลยน้าเด็กคนนี้” คุณเพิร์ธค่อย ๆ บีบขนมออกจากซองให้เ้าเหมียวได้เลีย
“อยากได้คุณกรีนเป็คนเ้าของเหรอคะ? เห็นไปเฝ้าคุณกรีนบ่อยมากเลย”
“เหมียว”
‘เราชอบคุณกรีน’
“คุณกรีนน่ะนะ ชอบแมวเอามาก ๆ แต่โชคชะตาไม่เป็ใจซะเลย ดันผลักให้เขามาอยู่ในกลุ่มคนที่แพ้ขนแมว ไม่รู้ว่าเขาต้องอดทนแค่ไหน ที่ต้องห้ามใจไม่ให้ตัวเองไปลูบหัวเ้าเหมียวแต่ละตัว” แร็กดอลล์ตัวน้อยตั้งใจฟัง
“ในบ้านคุณกรีนมีอาหารแมว ขนม แล้วก็ของเล่นเยอะมาก ๆ เขาคอยซื้อไปฝากแมวของคนรู้จักอยู่ตลอด เ้าเหมียวของคุณเพิร์ธก็ได้รับของจากคุณกรีนบ่อยมากเลยค่ะ เขาดูมีความสุขกับเื่นี้นะ คุณเพิร์ธก็หวังว่าสักวันคุณจะเลี้ยงแมวได้แบบที่หวัง”
‘เป็เราได้ไหมครับคุณกรีน?’
นั่งคุยกันจนถึงเวลาที่คุณเพิร์ธต้องกลับบ้าน แร็กดอลล์ตัวน้อยได้รับรู้เื่ราวของกรีนจากมุมของเพื่อนบ้าน นั่นมันก็ยิ่งทำให้เขาชอบกรีนเข้าไปใหญ่
‘หวังว่าคุณจะเอ็นดูเรานะคุณกรีน’
ร้านเครื่องหอม Your Cart
“กรีน เขาแจ้งเื่เพิ่มเติมมาแล้วนะ พวกที่ปลอมน้ำหอมอ่ะ” เวย์เดินเข้าไปหากรีนหลังจากที่เพิ่งว่าสายจากเ้าหน้าที่ที่โทรมาแจ้งความคืบหน้า
“กูว่าจะถามเลย ว่าไงบ้างวะ?”
“แม่งทำกันเป็ทีมเลย มีโรงงานเถื่อนเอาไว้ผลิตเรียบร้อย ไม่ได้มีแค่น้ำหอมด้วย กะทำตามเราทุกอย่าง”
“ถึงได้อ้างเป็ตัวแทนเราขนาดนั้นไง”
“แต่เขาตามตัวได้เกือบหมดแล้วแหละ”
“เออ ดีแล้ว จะได้จบ ๆ ไปสักที กูี้เีมานั่งคิด”
“แล้วยังไงอ่ะ เื่แมวอะไรนั่นของมึง เจออยู่ป้ะ?”
“4 วันมานี้ที่เปลี่ยนทางเดินก็ไม่เจอแล้วนะ”
“มึงจะเอาไงต่อ? หรือว่าปล่อยไปเลย”
“ถ้าไม่เจอกูก็คงปล่อยไปแล้วว่ะ ให้เ้าหน้าที่จัดการแล้วส่งเขากลับบ้านไปนั่นแหละดีแล้ว”
“โอเค จะได้เลิกคิดทีละหลาย ๆ อย่าง ่นี้มีแต่เื่” กรีนถอนหายใจออกมาแรง ๆ ก่อนจะกลับเข้าไปในห้องทำงาน นั่งคิดเครื่องหอมคอลเลคชั่นใหม่สำหรับสิ้นปีนี้ ที่เขาต้องรีบจัดการให้มันเสร็จเพราะทุกอย่างมีขั้นตอนและใช้เวลานาน ต้องลองสั่งผลิต ถ้าหากยังไม่พอใจก็ต้องแก้ไปเรื่อย ๆ กว่าจะได้ตัวที่ตรงกับความ้าก็กินระยะเวลาไปเป็เดือน ๆ ไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์ แต่ตัวบรรจุภัณฑ์ก็เช่นกัน แต่เื่บรรจุภัณฑ์เขาวางใจให้เกรซจัดการ เพราะเกรซทำมันได้ดีมาก ๆ มาจนถึงตอนนี้ ของในร้าน เกรซจัดการเื่บรรจุภัณฑ์แทบทั้งหมด
“พี่กรีน ๆ ๆ เกรซให้ดูก่อน ว่าโทนสีนี้โอเคไหม?” เกรซยกแล็ปท็อปมาไว้ตรงหน้ากรีน กรีนใช้เวลาดูสักครู่ก่อนจะตอบกลับไป
“พี่ว่าโอเคนะ แต่สีเขียวพี่ขอเข้มกว่านี้อีกนิดนึง ผลิตออกมาจริง ๆ น่าจะสวยกว่า ส่วนรูปแคนดี้ตรงนี้ขยับมาทางขวาหน่อยนึง ถ้าอยู่ตรงนี้เวลาขึ้นรูปมาน่าจะชิดขอบไปหน่อย ตรงอื่นโอเคมากแล้วครับ เก่งมาก”
กรีนแสดงความคิดเห็นออกไปยิ้ม ๆ เกรซเองก็ยิ้มตามออกมา เกรซชอบวิธีการทำงานของกรีนมาก ๆ เขาจะเป็คนประเภทที่ยึดติดกับความสมบูรณ์แบบพอสมควร เพราะฉะนั้นถ้าเขาเห็นตรงไหนพลาดหรือไม่ตรงกับความ้าขึ้นมา เขาก็จะพูดออกมาตรง ๆ ในขณะเดียวกัน น้ำเสียงที่เขาใช้มันจะนุ่มกว่าปกติ ทำให้คนฟังอย่างเกรซไม่กดดันมากเกินไป และมักจะตบท้ายด้วยคำชมเสมอ วิธีนี้อาจจะให้ไม่ได้ผลกับทุกคน แต่สำหรับกรีนที่เห็นเกรซมาั้แ่ทำงานแรก ๆ เขารู้ดีว่าเกรซจริงจังกับการทำงานขนาดไหน เขาเห็นแต่ละขั้นตอนเวลาที่เกรซจะผลิตผลงานออกมาสักชิ้น เกรซทำมันอย่างละเอียดและรอบคอบ เพราะฉะนั้นเขาจึงชมเกรซทุกครั้ง
วันนี้กรีนเปิดร้านแค่ครึ่งวัน เพราะเขาต้องไปเลือกของสำหรับแต่งร้านใหม่ ร้านของกรีนปรับเปลี่ยนการตกแต่งไปตาม่ เขาพยายามดึงดูดลูกค้าด้วยความนิยม ณ ขณะนั้น แต่ก็ยังคงความเป็ร้านของเขาด้วยการเลือกของตกแต่งไปในโทนสีที่อบอุ่นในทุก่
ห้างสรรพสินค้า
วันนี้กรีนต้องขับรถมาเอง ปกติแล้วเวลาซื้อของเวย์จะต้องมาด้วย แต่วันนี้เวย์จะต้องพาแซลมอนไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลสัตว์ตามที่หมอนัด กรีนก็เลยต้องขับมาเองอย่างช่วยไม่ได้ เลือกที่จะเปิดร้านเร็วและออกมาเลย เพราะถ้ารอจนร้านปิดก็คงจะต้องติดอยู่บนถนนอีกนาน กรีนขับรถมาจอดในที่จอดรถชั้นใต้ดิน จากนั้นก็ขึ้นมาที่ชั้นบนของห้าง เข้าไปในโซนของตกแต่งและเดินเลือกอยู่นานกว่าจะหยิบของแต่ละชิ้น
ความนิยมใน่นี้จะไปตกอยู่ที่ดอกไม้ ตอนนี้คนในเมืองชอบที่จะหยิบจับดอกไม้ไปทำกิจกรรมต่าง ๆ มากขึ้นกว่าปกติ เพราะ่นี้ดอกไม้กำลังเริ่มต้นบานได้เต็มที่ ทั้งดอกไม้สด ดอกไม้แห้ง หรือดอกไม้ปลอมเองก็ขายได้ดีมาก ๆ ใน่นี้ และเนื่องจากวันนี้เป็วันเสาร์ คนก็เยอะเป็พิเศษ ในตอนแรกกรีนวางแผนว่าจะไปตลาดดอกไม้ แต่ไม่อยากไปเบียดกับคนเยอะ ๆ หรือไปแย่งกันเลือกซื้อ เลยเปลี่ยนแผนมาซื้อของตกแต่งก่อน อีกอย่างกรีนเป็คนที่เลือกของแต่ละอย่างนานมาก ๆ กว่าเขาจะตัดสินใจซื้อ เขาต้องคิดอย่างถี่ถ้วนก่อนว่าถ้าซื้อไปแล้วจะได้ใช้ตอนไหนบ้าง ใช้มันบ่อยแค่ไหน เทียบกับราคาแล้วคุ้มหรือเปล่า คนรอบข้างบอกอยู่ตลอด ๆ ว่ากรีนเป็คนที่รอบคอบมาก ๆ
เดินเลือกซื้ออยู่ชั่วโมงเศษ ๆ เขาก็ได้กระถางดอกไม้ กระถางต้นไม้ ได้พรมปูพื้นผืนใหม่ตามที่้า ได้ของเล็ก ๆ น้อย ๆ ไว้วางตกแต่ง พอทั้งหมดเรียบร้อยแล้วก็เดินทางกลับบ้านของตัวเอง
“กรีน ทำไมกลับมาเร็ววะ?”
“พี่บลู? มาทำอะไรอะ?” กรีนที่กำลังเก็บของที่ตัวเองซื้อมาที่หลังรถหันไปตามเสียงเรียก แล้วก็พบกับพี่ชายของตัวเองที่กำลังจะไขประตู
“มาเอาของเฉย ๆ แล้วสรุปทำไมกลับมาเร็ว”
“วันนี้กรีนเปิดร้านแค่ครึ่งวัน ไปซื้อของแต่งร้านใหม่มา”
“ขยันตกแต่งใหม่จริง ๆ ทั้งร้านก็มีอยู่ 3 คนเนี่ย”
“555555 ก็พอแล้ว ไม่ยุ่งมากมายอะไร ส่วนใหญ่ก็แพ็คของส่งทั้งนั้น” บลูเดินมาช่วยกรีนยกของเข้าบ้าน
“สงสารน้องเกรซ ทำงานหนักเลย”
“กรีนแบ่งเวลาพักผ่อนให้น้องตลอด รับเงินคนเดียวไปเต็ม ๆ น้องก็บอกว่าคุ้ม”
“ี้เีไปนั่งเริ่มต้นเชื่อใจใครใหม่อะดิ ถึงไม่จ้างใครเพิ่ม”
“รู้ดี”
“ผมพี่ชายคุณครับ” กรีนฟังยิ้ม ๆ
“แล้วทำไมไม่เอาไปไว้ที่ร้านเลยวะ เยอะขนาดนี้”"
“บางส่วนกรีนซื้อมาวางที่บ้านนี่แหละ”
“จะปลูกอะไรไม่ทราบ”
“ก็คาโมมายล์ เปปเปอร์มินต์ แล้วก็ต้นข้าวสาลีอ่อน”
“ขอโทษนะกรีน โนเอล เลือกปลูกอย่างกับที่บ้านมีแมว ต้นไม้ที่แมวชอบทั้งนั้น”
“55555555 มันก็สดชื่นดี”
ที่ไหนกันล่ะ เขาก็ปลูกเพราะแมวชอบนั่นแหละ สิ่งที่กรีนคิดไว้ก็คือเขาอยากจะปลูกมันทั้งในบ้านและรอบ ๆ บ้าน รวมไปถึงริมรั้วด้วย นั่นก็เพราะเขาอยากเห็นบรรดาแมวน้อยทั้งหลายมาคลอเคลียมันให้เขาเห็นบ่อย ๆ ถึงเขาอยากจะเลี้ยงมันมากแค่ไหน แต่ด้วยข้อจำกัดหลาย ๆ อย่างที่ไม่ลงตัวในตอนนี้ ทำให้เขาเลือกอะไรไม่ได้
เพราะฉะนั้น
แค่ได้เห็นพวกมันอยู่รอบ ๆ ตัวก็ดีมากแล้ว
กรีนจัดการเื่ต้นไม้ตามที่เขาวางแผนไว้ แบ่งกระถางส่วนหนึ่งที่ซื้อมาเพื่อเอาไปไว้ที่ร้าน ร่างสูงจัดการผสมดินกับปุ๋ยในอัตราส่วนที่เท่ากัน คลุกมันให้เข้ากัน แล้วเอาดินกับปุ๋ยที่ผสมใส่ในกระถาง ใช้ไม้ทิ่มดินเป็รูลึกลงไปในกระถาง หลังจากนั้นย้ายก้านปักชำที่เขาแวะซื้อมาหย่อนในรูที่เจาะไว้ จากนั้นก็กลบดินให้เรียบร้อย วันนี้อากาศเป็ใจสำหรับการปลูกต้นไม้ของเขามาก แสงแดดตกลงกลางหัว ท้องฟ้าสดใส แต่มีลมพัดตลอด ทำให้วันนี้ทั้งอากาศสดใสแล้วก็ไม่ร้อน
เขาปลูกต้นเหล่านี้ใส่กระถางต้นไม้ขนาดเล็กและขนาดกลางอยู่หลายกระถาง พอเสร็จสิ้นขั้นตอนทุกอย่าง เขาก็นำต้นไม้เ่าั้ไปวางเรียงในบ้าน นอกบ้าน และบริเวณริมรั้วด้านนอก วางชิดรั้วบ้านเขาเพื่อไม่ให้รบกวนการเดินไปมาหรือรบกวนสายตาของลูกบ้านบ้านอื่น เมื่อจัดวางทุกอย่างเรียบร้อยตามที่้า กรีนก็มองไปรอบ ๆ และยิ้มให้กับผลงานของตัวเอง จากนั้นก็เก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าบ้าน ทำความสะอาด และขึ้นไปอาบน้ำให้เรียบร้อย
ตกเย็นวันนั้นกรีนเปิดหน้าต่างมาเพื่อมองดูต้นไม้ที่ตนเองปลูกไว้ แต่คิ้วหนาก็ต้องขมวดเมื่อเห็นแมวน้อยที่เขาเองก็คุ้นเคยดีมาวนเวียนอยู่ตรงต้นไม้ที่เขาปลูกไว้ ขายาวสาวลงบันไดไปที่ด้านล่างทันที จากที่จะไม่คิดเื่นี้แล้วเพราะไม่ได้เห็นเ้าแมวสีขาวนี่มาหลายวัน แต่วันนี้ก็กลับมาเจออีกจนได้
เคลียร์ให้รู้เื่กันไปวันนี้นี่แหละวะ
กรีนเปิดประตูบ้านออกไปเบา ๆ สิ่งที่เห็นก็ไม่ได้ต่างจากตอนที่เขาเปิดหน้าต่างออกมาดู แมวขนปุยสีขาวตัวน้อยยังคงคลอเคลียกับต้นคาโมมายล์ของเขาไม่เลิก ตากลมหลับพริ้ม จมูกก็ถูอยู่กับดอกไม้แสนสวยของเขา
“นี่ คุยด้วยหน่อยสิ” แมวน้อยที่กำลังเคลิ้มกับดอกคาโมมายล์สะดุ้งกับเสียงทักทายของมนุษย์จนแทบจะตัวโยน
‘ใหมดเลยนะว่าที่เ้านาย!’
‘เดี๋ยวสิ ๆ ไม่ได้นะ จะมาจับเราส่งเ้าหน้าที่หรือเปล่า! แมวต้องหนีแล้ว!’
“ไม่ได้จะทำอะไรหรอกหน่า อยากคุยด้วยเฉย ๆ จะได้เลิกคาใจสักที” เมื่อแมวน้อยทำท่าจะหนีกรีนก็พูดดักขึ้นมาเสียก่อน พอเ้าตัวเล็กได้ยินก็ชะงักทันที
“เหมียว~”
“รู้แล้วนะว่าเป็ครึ่งทาง กลายร่างมาคุยกันหน่อยได้ไหม? พลังงานพอหรือเปล่า?”
“เหมียว~”
‘พอมาก ๆ วันนี้เราได้กินข้าวจากคุณเพิร์ธเยอะ ๆ แถมนอนมานานด้วย แต่ ๆ เราไม่มีเสื้อผ้านะ เราจะโป๊ ๆ’
“เดี๋ยวจะไปหยิบเสื้อผ้ามาให้ แล้วก็พอกลายร่างแล้วเก็บหางให้หน่อย ผมแพ้ขนแมว”
‘เรารู้ ๆ ขอบคุณน้าว่าที่เ้านาย’
กรีนเดินไปหยิบเสื้อผ้าของตัวเองลงมา เลือกไซส์ที่ใหญ่พอสมควรเพราะไม่รู้ว่าร่างมนุษย์ของครึ่งทางหน้าบ้านเป็แบบไหน เสื้อผ้าแมวไม่ได้เปลี่ยนไปตามรูปร่างของครึ่งทางแต่อย่างใด ถ้าไม่ใส่เสื้อผ้าตอนเป็แมวก็แปลว่าถ้าเขากลายร่างเป็คนก็จะไม่มีเสื้อผ้าอยู่บนร่างกายเช่นกัน และอีกอย่างคือปัญหาของหาง กรีนสั่งไว้เรียบร้อยว่าให้แมวตัวน้อยเก็บหางให้เรียบร้อย เพราะเวลาครึ่งทางในเมืองนี้กลายร่างเป็มนุษย์ หางพวกเขาจะไวต่อความรู้สึกมากที่สุด เวลาที่กลัว ใ หรือกังวลเขาจะไม่สามารถควบคุมการปรากฏของหางได้ ครึ่งทางบางคนในเมืองจึงเลือกที่ปล่อยให้หางตัวเองโผล่ออกมาตลอดเวลาที่กลายร่างเลย
“ข้าง ๆ บ้านมีห้องเล็ก ๆ อยู่ ผมเอาเสื้อผ้าเข้าไปวางไว้แล้ว เข้าไปใส่เสื้อผ้าในนั้นแล้วค่อยออกมานะ” สัตว์สี่ขาแสนน่ารักฟังจบก็วิ่งเข้าห้องตามที่กรีนบอกทันที
“ฮือ ไม่ได้กลายร่างนานมาก ไม่ชินเลย” หลังจากใส่เสื้อผ้าเสร็จก็บ่นออกมาทันที เพราะั้แ่ที่เขาออกมาจากบ้านบัตเลอร์เขาก็อยู่ในร่างแมวมาตลอด เขาจับเสื้อผ้าที่ดูใหญ่ไปหน่อยสำหรับเขา ขณะเดียวกันก็เดินออกมาจากห้องเล็ก ๆ ที่ริมตัวบ้านของกรีนด้วย
“เสื้อมันไม่ใหญ่ไปหน่อยเหรอว่าที่เ้านาย? มันจะหลุดไหล่เราอยู่แล้วเนี่ย”
“ขอโทษที ไม่คิดว่าจะตัวเล็กขนาดนี้” ร่างสูงสบตากับเ้าแร็กดอลล์สีขาวในร่างมนุษย์ขณะพูด และเอะใจขึ้นมาว่าเมื่อกี้เขาได้ยินอะไรแปลก ๆ หรือเปล่า
“เรียกผมว่าอะไรนะ?”
แมวซวยแล้ว!
“คือ ไม่ใช่นะ ๆ คือว่างี้?”
“ว่า?”
“อย่ากดดันเราซี่” แมวน้อยหน้ามุ่ยทันที
“เธอจองตัวผมเป็เ้านายเหรอ?”
“ก็”
“ถามก็ตอบสิครับ ไม่ต้องอึกอัก ยังไม่ได้จะทำอะไรเลย”
“ไม่ได้จับตัวเราส่งเ้าหน้าที่ใช่ไหม?” แมวน้อยก้มหน้ามองพื้นขณะที่ถาม
“ทำอะไรผิดหรือเปล่าล่ะ?”
“………..”
“ไม่เป็ไร ไม่ได้จะจับส่งเ้าหน้าที่หรอก”
“จริงนะ!”
“จริงครับ แต่ต้องตอบคำถามผมก่อนนะ”
“ได้! เราตอบว่าที่เ้านายทุกอย่างเลย!”
“มานั่งนี่” กรีนที่นำไปนั่งตรงขั้นบันไดเล็ก ๆ หน้าบ้าน ตบที่ว่างข้าง ๆ เพื่อเรียกอีกคนมานั่ง แมวน้อยก็ว่าง่ายลงไปนั่งตามที่ว่าที่เ้านายของเขาบอก
“บอกมาก่อนว่าทำไมไม่กลับบ้าน”
“เขา เอาเราออกมาทิ้งไว้” มือน้อยกำแน่น
“ทำไมเ้าของถึงเอาเธอมาทิ้งล่ะแมวน้อย?”
“เขาบอกว่าเราไม่เก่ง เลยเอาเรามาปล่อย”
กรีนได้ฟังก็นิ่งไปทันที ใครกันที่ใจร้ายขนาดนั้นกัน ใครที่พูดกับครึ่งทางตัวน้อยแบบนี้ มันอาจจะดูเป็คำทั่วไป แต่มันรุนแรงสำหรับความรู้สึกของครึ่งทางมาก เขาเคยคุยกับแฟนของบลู พี่ชายของเขา ว่าการเป็ครึ่งทางมันรู้สึกยังไง แฟนของบลูบอกกับเขาว่า แค่เป็ครึ่งทางก็ต้องแบกรับความรู้สึกมากมายไว้อยู่แล้ว ถึงแม้ว่าทางการจะจัดให้พวกเขาอยู่ในประเภทของแมว แต่พวกเขาก็ถือว่าเขาเป็ทั้งแมวและมนุษย์ และมันก็รู้สึกแย่มากที่ไม่มีแรงพอที่จะทำอะไรเหมือนมนุษย์เลย พวกเขาต้องโตมากับความรู้สึกที่ว่าทำอะไรได้ไม่ดี แม้จะมีสิ่งที่ชอบ มีงานอดิเรก พวกเขาก็ทำมันได้ไม่ดีเพราะข้อจำกัดเื่ของพลังงาน เพราะความรู้สึกนึกคิดของพวกเขาก็เหมือนกันกับมนุษย์ทั่วไป
“เธอดูโตแล้วนะ อายุแบบมนุษย์เท่าไหร่แล้วครับ?”
“แปปนะ เราต้องนับนิ้ว ๆ” แมวน้อยชูมือตัวเองขึ้นมาแล้วนับไล่ไปทีละนิ้ว กรีนเองก็มองด้วยความเอ็นดู เขาไม่เคยคุยกับครึ่งทางใกล้ ๆ แบบนี้เลย พฤติกรรมแมวในร่างมนุษย์นั่นก็ทำให้เขายิ่งเอ็นดูเข้าไปใหญ่
“เรา 22 ครับ แต่ว่า ๆ ยังไม่ถึงวันเกิดเลย แปลว่า 22 ยังไม่เต็ม”
“เป็น้องผมตั้ง 4 เลยนะ”
“ว่าที่เ้านายพี่กรีน” แร็กดอลล์ช้อนตามองอ้อน ๆ
“รู้ชื่อกันด้วย”
“เราขอโทษที่ตามนะ”
“จะบอกไม่เป็ไรก็ไม่ได้หรอก ไม่ทำแบบนี้แล้วนะ โดนสะกดรอยตามมันน่ากลัว มันทำให้คนที่เธอตามระแวง เขาจะใช้ชีวิตแบบไม่มีความสุขนะรู้ไหมครับ?”
“เรารู้แล้วครับ ขอโทษนะว่าที่เ้านาย”
“ครับ ผมรับคำขอโทษ”
“ถามอะไรหน่อยสิเ้าเหมียว”
“ว่ามาได้เลย ๆ”
“ไม่คิดจะกลับบ้านจริง ๆ ใช่ไหม?”
“ไม่กลับ เราไม่มีความสุข เราอึดอัด” เป็อีกครั้งที่คนตัวเล็กกำมือจนแน่น
“แล้วจะอยู่แบบนี้เหรอ?”
“เราไม่รู้” เขาตอบพร้อมชันเข่าขึ้นและวางคางของตัวเองลง
“มันย้ายบ้านได้นี่ครับ ไม่กลับไปย้ายให้มันดี ๆ ล่ะ”
“เขาชอบขู่ มีคนมาหาที่บ้านเยอะ ๆ เราทำอะไรไม่ได้เลย”
“พวกมีอิทธิพลเหรอ?”
“ใช่ ๆ แบบนั้น คือมีแมวอีกตัวที่อยู่ก่อนหน้าเรา เขาก็อยากออกมา แต่พอจะทำอะไรสักอย่างก็โดนทำร้าย แบบว่า แผลใหญ่น่ากลัวมาก ๆ เราทนไม่ได้หรอก”
“ยากเลยสิแบบนี้ เหนื่อยไหมครับ?” ดวงตากลมโตของแมวน้อยพล่ามัวเพราะน้ำสีใสกำลังจะเอ่อล้นออกมา
“เหนื่อย”
“เขาว่ากันว่าได้กินอะไรอร่อย ๆ จะเหนื่อยน้อยลงนะ รอผมตรงนี้ก่อน” หลังจากที่กรีนลุกขึ้นและเดินกลับไปในบ้าน แร็กดอลล์ตัวน้อยก็ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาทันที เหนื่อยไหม เขาไม่คิดว่าจะมีใครถามอะไรแบบนี้กับเขาแล้วด้วยซ้ำ เขาอยากจะะโออกมาดัง ๆ ให้เท่ากับความเหนื่อยของเขาเลยเสียด้วยซ้ำ
เผื่อว่าที่เ้านายไม่ชอบน้ำตา
เดี๋ยวจะไม่เอ็นดูเรา
ร้องไห้ไม่ได้นะเหมียว
ฮึบไว้
พอเห็นกรีนกำลังจะออกมา เขาก็ทำเพียงแค่เช็ดน้ำตาออกไปเงียบ ๆ